[B2ST/Beast] Dream Story รักนี้ให้นาย...เจ้าชายอสูร

8.9

เขียนโดย Kreota

วันที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 เวลา 00.14 น.

  87 ตอน
  86 วิจารณ์
  97.46K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2557 22.21 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

83) [Episode 6 :: Lie Lover] # Chapter 15

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

 

Episode 6 Lie Lover

:: Chapter 15 ::

 

            ฉันมองดวงตาคู่นั้นพร้อมกับน้ำตาที่เริ่มรื้อขึ้นมา ถึงมันจะทำให้ภาพตรงหน้าพร่ามัวขนาดไหนแต่ฉันจะไม่ยอมละสายตาไปจากดวงตาคู่นี้เพราะฉันกลัว...กลัวว่ามันจะหายไปอีก

            “เฮ้ยๆ นานไปแล้วแก”  จุนฮยองเดินเข้ามาล็อกคอกีกวังออกไปเป็นเชิงแซวๆ พอล่ามแปลให้แฟนคลับฟังเท่านั้นแหละเรียกเสียงกรี๊ดจากแฟนคลับได้อีกระรอกใหญ่ๆ เลยทีเดียว และเพราะเสียงของแฟนคลับนี่แหละทำให้ฉันหลุดจากภวังค์แล้วรีบกลั้นน้ำตาเอาไว้

            จริงสินะ...ตอนนี้ฉันกำลังเล่นเกมอยู่ จะให้เขามองฉันด้วยสายตาเย็นชาได้ยังไง แฟนๆ คงอดฟินกันแน่ๆ ถ้าเกิดเขาทำแบบนั้น

            “เราได้อันดับ 1 แล้วครับนั่นคือคู่ของกีกวัง อันดับสองคือคู่ของดูจุน และอันดับ 3 คือ...คู่ของจุนฮยอง...ต้องขอบคุณน้องๆ 3 คนที่เหลือด้วยนะครับที่มาร่วมสนุก”  พอพิธีกรจัดแจงส่งแฟนคลับที่ไม่ผ่านเข้ารอบ 3 ลงจากเวที ล่ามก็เข้ามาทำการอธิบายเกมที่ 2 ให้บีสท์ฟังไปพลางๆ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา ฉันแอบได้ยินมาว่าจะให้ยืนสับหว่างกันระหว่างบีสท์กับแฟนคลับ แล้วให้จับฉลากคำสั่งและทำตาม แฟนคลับคนไหนทำไม่ได้ก็จะตกรอบทันที

            “เอาล่ะครับ มาถึงเกมถัดไปกันเลย เราจะให้บีสท์ยืนสับหว่างกันกับแฟนคลับทั้ง 3 คนนะ ส่วน 3 คนที่ตกรอบก็มายืนข้างๆ ผมเลย”  โยซอบ ดงอุนและฮยอนซึงเดินไปยืนอยู่ข้างๆ พิธีกร และปล่อยให้ผู้ชนะอย่างกีกวัง จุนฮยองและดูจุนยืนเล่นเกมอยู่ตรงกลางเวทีต่อ

            “อ้าว มันต้องใช้ 4 คนนี่นา งั้นรบกวนให้โยซอบไปยืนปิดท้ายแถวแล้วกันครับ”  พิธีกรจัดแจงให้โยซอบมายืนปิดท้ายแถว ตอนนี้ก็จะเป็นจุนฮยอง / แฟนคลับ / ดูจุน / แฟนคลับ / กีกวัง / ฉัน / โยซอบ เรียงกันตามลำดับ

            “เอาล่ะครับ ทีมงานแจกคำสั่งเลยครับ”  ทีมงานส่งแก้วน้ำมาให้ฉัน ในนั้นมีสลากใบเล็กๆ ม้วนหลวมๆ ประมาณ 4-5 ใบ ฉันเลือกหยิบมาเปิดอ่าน 1 ใบ ในนั้นเป็นภาษาเกาหลี พอได้อ่านข้อความในนั้นแล้วฉันถึงกับลืมหายใจเลยทีเดียว!

            …กอดคนที่อยู่ด้านขวาของคุณ…

          ค่ะ! นี่คือคำสั่ง...U_U

            “ใครคิดคำสั่งเนี่ย อิอิ”  โยซอบซึ่งยืนอยู่ด้านซ้ายของฉันพูดไปยิ้มไป ระหว่างที่รอให้ล่ามมาอ่าน

            “ที่เราใช้เป็นภาษาเกาหลีเพราะว่าเราจะให้บีสท์ที่ยืนอยู่ข้างๆ ทำใจก่อนน่ะครับ ฮ่าๆๆๆ”  พิธีกรอธิบายขณะที่เอากระดาษไปให้ล่ามช่วยแปลคำถามให้ผู้ร่วมงานฟัง

            “คำสั่งมีอยู่ว่า กอดคนที่อยู่ด้านขวาของคุณ ค่ะ”

            “กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด...”  เสียงกรี๊ดลากยาวอย่างรุนแรงดังขึ้น จนฉันรู้สึกประหม่าขึ้นมามากกว่าเดิม

            “ทำไมน้องไม่เห็นตกใจเลยล่ะ อ่านคำสั่งออกด้วยหรอ”  พิธีกรถามก่อนจะจ่อไมค์มาให้ฉันพูดบ้าง

            “ก็...อ่านภาษาเกาหลีออกนิดหน่อยน่ะค่ะ”  ฉันพูดอย่างถ่อมตัวแล้วยิ้มน้อยๆ ให้กับพิธีกร

            “เอาล่ะ...น้องแฟนคลับคนนี้จะกล้าไหม หรือว่าจะกลับบ้านไปมือเปล่าโดยไม่มี Box set นะ”  พิธีกรพูดเพื่อกระตุ้นต่อมความกระหายกับแฟนคลับซึ่งมันไม่ได้ผลกับฉัน เพราะฉันไม่ใช่แฟนคลับของบีสท์ฉันเลยไม่ได้เดือดร้อนอะไร แต่ถ้าฉันไม่ทำนี่สิมันคงดูแปลกน่าดู

            ถ้าเกิดมีคนมาบอกคุณว่า ‘กอดกีกวังสิ’ มีผู้หญิงที่ไหนไม่เอาบ้างล่ะ หรือว่าคุณจะไม่เอา?

            “เอ้าพวกเรา! ช่วยกันนับ...สาม...”

            เสียงนับถอยหลังมันบีบหัวใจฉันจริงๆ เอายังไงล่ะยัยฝน...เธอจะกอดหรือว่าจะกลับบ้านไปทั้งอย่างนี้...>_<!

            “...สองงงงงง!!”

            หมับ!

            ระหว่างที่ฉันกำลังลังเลอยู่นั้นก็เกิดเรื่องแปลกประหลาดขึ้น ไม่ได้มีอุกกาบาตลง ไม่ได้มี UFO มาปล่อยลำแสง แต่...กีกวังดึงฉันเข้าไปกอดท่ามกลางสายตานักข่าวและแฟนคลับนับพัน!

            “กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!!!”

            “ไม่นะ!!!”

            “กีกวังงงงงงงงงงงงงงงงงง!!!” 

            เสียงร้องเรียกด้วยความขัดใจบวกกับเสียงกรี๊ดแบบสุดฟินของแฟนคลับมันระเบิดขึ้นมาทันทีที่กีกวังกอดฉัน แต่ถึงจะดังขนาดไหนมันก็ไม่ได้ดังไปมากกว่าเสียงหัวใจของฉันที่มันกำลังเต้นอยู่ตอนนี้

            กีกวัง...นายกำลังทำให้ฉันคิดเข้าข้างตัวเองมากกว่าเดิมแล้วนะ

            “ว้าว!! สุดยอดดดด”  เสียงพิธีกรดังขึ้นมาอีกคน

            “กีกวัง...”  ฉันเรียกชื่อกีกวังเบาๆ ก่อนจะกอดตอบเขาบ้าง ความรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัยในคราวเดียวกันแบบนี้มันเคยเกิดขึ้นมาแล้ว...ตอนอยู่ที่เกาหลี เขาเคยช่วยฉันหลบซอลทังด้วยวิธีนี้

            น้ำตาที่ฉันพยายามกลั้นเอาไว้ตลอดเวลาที่ทำกิจกรรมค่อยๆ ไหลออกมา ฉันไม่สามารถเก็บมันไว้ได้อีกแล้ว ความอบอุ่นที่เขามอบให้มันทำให้ความรู้สึกเจ็บปวดของฉันถูกปลดปล่อยออกมาอย่างไม่อายใคร กีกวัง...นายรู้ใช่ไหมว่าฉันกำลังเจ็บปวดอยู่

            “ขอโทษนะ...”  กีกวังกระซิบที่ข้างหูฉันเบาๆ ก่อนที่เขาจะกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้นอีกจนร่างกายของเราแทบจะหลอมเข้าไปด้วยกัน ความรู้สึกอึดอัดที่เกิดจากอ้อมแขนแข็งแกร่งไม่ได้ทำให้ฉันรู้สึกอยากผละออกจากเขาเลย

            “กีกวัง...ฮือ...”  ฉันสะอื้นอยู่ในอ้อมกอดของกีกวังอย่างไม่สนใจใคร จนกระทั่งความรู้สึกชาวาบที่เกิดขึ้นทำให้ต้องชะงักและทิ้งตัวไปกับกีกวัง...นี่ฉันกำลังจะเป็นลมหรอ!

            ความรู้สึกมันเป็นแบบ...สะลึมสะลือ ครึ่งหลับครึ่งตื่นยังไงบอกไม่ถูก ร่างกายชาวาบและเย็นเฉียบไปทั่วทั้งตัว แต่ทว่าเหงื่อกลับไหลออกมาจนเปียกโชก...

            “เฮ้ย! น้องเขาเป็นลม พาออกไปเร็ว!”  เสียงพิธีกรสั่งการดังลอยเข้ามาในหู แต่มันฟังดูเหมือนเป็นเสียงที่ห่างไกลออกไปหลายกิโล...

            ภาพความวุ่นวายต่างๆ เริ่มพร่ามันขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งภาพสุดท้ายที่ฉันเห็นก่อนที่ตาจะปิดลงคือ กีกวังเป็นคนอุ้มฉันลงมาจากเวที!

 

            “คุณหนู!...คุณหนู ฟื้นแล้วหรอครับ”  เสียงของคุณอธิสดังเข้ามาในหู ทำให้สติของฉันเริ่มกลับเข้ามารวมในร่างอีกครั้ง ความรู้สึกเย็นวาบๆ ผ่านตัวและกลิ่นฉุนจากยาหอมที่ลอยมาเตะจมูกทำให้ฉันต้องลืมตาขึ้น

            “ปลายฝน เธอไปทำอีท่าไหนถึงเป็นลมเนี่ย”  คุณมินนาพูดขึ้นทันทีที่ฉันเปิดเปลือกตาขึ้น ก๊อซผืนเล็กๆ ที่ติดไว้บนหน้าผากด้านซ้ายของเธอทำให้ฉันสะดุดตา

            “ฉันไม่ได้เป็นไรมาก ก็เลยขอคุณหมอออกจากโรงพยาบาล”  คุณมินนาบอก คงเห็นว่าฉันกำลังมองแผลของเธออยู่สินะ

            “อาการเป็นยังไงบ้างครับคุณหนู ไปหาหมอไหม”  คุณอธิสถามด้วยสีหน้าที่ดูกังวลมาก

            “ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ฉันไหว”  ฉันบอกก่อนจะดันตัวลุกขึ้นนั่งบนโซฟา ตอนนี้ฉันไม่มั่นใจว่าอยู่ที่ไหน แต่จากที่ดูสภาพห้องฉันเดาว่าคงจะเป็นห้องแต่งตัวด้านหลังเวทีเพราะว่ามีทั้งเครื่องสำอาง และเสื้อผ้ามากมายแขวนอยู่ รวมทั้งเสียงของพิธีกรชายคนเดิมที่ยังดังมาให้ได้ยินทำให้ฉันมั่นใจว่ายังอยู่ในสถานที่จัดงานอยู่

            “แล้วบนเวทีเป็นยังไงบ้างคะ วุ่นวายกันมากไหม”  ฉันรีบถามเหตุการณ์ที่จำได้ล่าสุดทันที จำได้ว่าฉันเป็นลมบนเวทีนี่นา!

            “ไม่มีอะไรหรอกครับ พิธีกรบอกว่าคุณหนูคงตื่นเวทีแถมโดนดารากอดก็เลยยิ่งตื่นเต้นเป็นลมไป”  คุณอธิสบอก

            “อ๋อ นึกว่าจะทำให้งานล่มซะแล้ว”

            “ฉันว่าเธอรีบกลับก่อนดีไหม ถ้าเกิดงานเลิกแล้วจะยิ่งกลับยากนะนักข่าวคงตามหาเธอให้ควักเลย”  คุณมินนาเสนอ

            “นั่นสิครับ กลับกันเถอะ”

            “งั้นก็ได้ค่ะ ฉันไม่อยากให้เรื่องมันวุ่นวายไปมากกว่านี้เหมือนกัน”  ฉันบอกแล้วเดินออกมาจากห้องนั้นโดยมีคุณมินนาและทีมงานอีก 2 คนเดินออกมาส่ง ระหว่างที่เดินออกมาก็ถึงคิวของบีสท์ร้องเพลงโชว์พอดี รู้สึกว่าจะเป็นเพลงเดี่ยวของโยซอบบีสท์คนอื่นน่าจะได้ลงมาพักนะ

            ระหว่างทางที่เดินออกไป ฉันใจเต้นรัวไม่เป็นจังหวะอีกครั้งเมื่อคิดว่าจะได้เจอกีกวังก่อนกลับ แล้วความปรารถนาของฉันก็เป็นจริง บีสท์ที่เหลือกำลังเดินมาทางนี้แต่รู้สึกว่าพวกเขายังไม่เห็นว่าฉันอยู่ตรงนี้เพราะว่าฉันอยู่ตรงมุมที่เป็นทางแยกระหว่างทางออกกับทางขึ้นเวทีพอดี พูดง่ายๆ คือตอนนี้ฉันอยู่ในมุมอับที่พวกเขามองไม่เห็น

            “นี่แกตัดสินใจเรื่องปลายฝนได้แล้วใช่ไหม”  ดูจุนถามขณะที่เดินเข้ามาใกล้กับจุดที่ฉันอยู่เรื่อยๆ

            “ตัดสินใจอะไร”  กีกวังถามเสียงเรียบ

            “อ้าว ก็เรื่องที่แกจะลุยต่อหรือว่าจะถอยไง” 

            “กอดกันกลมกลางสาธารณะชนขนาดนั้น คงไม่ต้องถามแล้วมั้ง”  เสียงจุนฮยองดังเสริมขึ้นมาอีกคน ความรู้สึกร้อนๆ ที่ใบหน้ามันทำให้ฉันต้องก้มหน้ามองพื้นอย่างช่วยไม่ได้ -////-

            “นั่นสิ กล้ามากนะแก”  ฮยอนซึงเสริมขึ้นมาอีกคน

            “พอได้แล้วน่า”  กีกวังสบถอย่างหัวเสีย

            “อะไร อารมณ์เสียกลบเกลื่อนว่างั้น?”  จุนฮยองพูดขึ้น ระหว่างที่พวกเขาเดินมาถึงจุดที่ฉันยืนอยู่พอดี

            “ก็แค่แฟนเซอร์วิสเท่านั้นแหละน่า...”

            “ปลายฝน!”  ดูจุนทักก่อนที่กีกวังจะพูดได้จบประโยค แต่ถึงเสียงเพลงของโยซอบและเสียงของดูจุนจะดังมาก ฉันก็ได้ยินสิ่งที่กีกวังพูดอย่างชัดเจน!

            “จะกลับแล้วหรอ กลับดีๆ นะ”  กีกวังพูดแล้วเดินแยกไปห้องแต่งตัวด้วยท่าทางสบายๆ ใจฉันกระตุกวูบไปอีกทีกับคำพูดของเขา...ฉันนึกว่าเขาจะตกใจมากซะอีกที่ฉันยืนอยู่ตรงนี้และได้ยินสิ่งที่เขาพูด แต่เปล่าเลย...เขาไม่ได้รู้สึกอะไรสักนิด!!

            “อ้าวเฮ้ย!”  ดงอุนร้องออกมาเป็นคนแรก

            “เอ่อ...”  ดูจุนพยายามจะเข้ามาอธิบายอะไรสักอย่าง ฉันเลยยกมือขึ้นห้ามก่อนจะเดินออกมาเลย ฉันพูดอะไรไม่ออกอ่ะ มันตื้อไปหมดจน...พูดไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้เลย

            “คุณหนู...”  เสียงเรียกของคุณอธิสดังมาตามมาเบาๆ แต่ฉันยังไม่อยากหันไปพูดกับเขาตอนนี้ ฉันเลยเดินไปข้างหน้าอย่างเดียวโดยไม่ได้สนใจ

            พลั่ก!

            “อุ้ย! นี่เธอ!! เดินดูตาม้าตาเรือหน่อยสิยะ!”  มีแรงกระแทกที่ไหล่ก่อนที่เสียงแหลมๆ ของผู้หญิงคนหนึ่งจะดังเข้ามาในหู ฉันหันไปก้มหัวลงนิดหน่อยเป็นการขอโทษแล้วเดินต่อมาเรื่อยๆ

            ฉันสับสน...สรุปแล้วแบบไหนเป็นตัวตนของกีกวังกันแน่ เป็นแบบน่ารัก สดใสยิ้มง่ายอย่างที่ฉันเคยรู้จักจริงๆ รึเปล่า หรือว่าเย็นชาและเลือดเย็นแบบนี้...ฉันสับสนไปหมดแล้ว ถ้าเกิดนี่เป็นตัวตนที่แท้จริงของเขา งั้นที่ผ่านมาเขาก็คงโกหกเก่งมากๆ เลยที่ทำให้ฉันเชื่อสนิทใจว่าเขาเป็นคนดีและอบอุ่นขนาดนั้น

            จริงสินะ! ฉันหลอกเขาตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกันนี่ งั้นก็คงไม่แปลกที่เขาจะหลอกฉันกลับบ้าง มันก็จบแบบแฟร์ๆ แล้วนี่นา..

            พลั่ก!

            “นังนี่! เดินยังไงเนี่ย”

            พลั่ก!

            “โอ้ย! เห็นไหมฉันไม่ทันได้ถ่ายรูปช็อตเด็ดเลยยัยเง๊อะเอ้ย!!” 

            แรงกระแทกที่ไหล่ซ้ำแล้วซ้ำเล่าและคำก่นด่าที่ดังมาเป็นระรอก มันไม่ได้ทำให้ฉันสะทกสะท้านเลย มันกลับยิ่งเสริมแรงให้ฉันอยากเดินไปข้างหน้าเรื่อยๆ เพื่อหนีจากความรู้สึกแย่ๆ เหล่านี้

            “คุณหนู!!! มีสติหน่อยสิครับ”  เสียงของคุณอธิสดังอยู่ใกล้ๆ พร้อมกับการเขย่าอย่างแรงจนตัวโยกไปมา ฉันค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมองคุณอธิสที่ยืนอยู่ข้างหน้าด้วยม่านน้ำตาที่เริ่มรื้อขึ้นมาอีกครั้ง

            “คุณอธิส...ยังตามมาอีกหรอคะ”

            “ก็คุณเป็นแบบนี้จะไม่ให้ตามได้ยังไง”

            “ฉัน...เหนื่อยจังเลยค่ะ...”  ฉันพูดได้แค่นั้นก่อนที่น้ำตาจะไหลออกมา 

            “ฉันเหนื่อยแล้ว...”  ฉันพูดพร้อมกับก้อนสะอื้นที่ถูกเก็บเอาไว้

            ตลอดหลายวันที่ฉันคอยตามเขามันไม่มีความหมายเลยใช่ไหม เขาไม่เคยสนใจแล้วก็ไม่เคยรู้สึกอะไรกับฉันเลย...แม้แต่นิดเดียวก็คงไม่! เพราะถ้าเขามีความรู้สึกอยู่บ้างเขาคงไม่ทำกับฉันแบบนี้!

            “ฉันไม่ไหวแล้วค่ะ...อึก! ฉันเหนื่อยมากเลย...ฮือๆๆๆ” 

            “คุณหนู...”  คุณอธิสเรียกฉันเบาๆ ก่อนจะดึงฉันเข้าไปกอดไว้ มันยิ่งทำให้ฉันร้องไห้ออกมามากขึ้นกับการปลอบแบบนี้...ความรู้สึกปลอดภัยที่ได้จากคุณอธิสมันช่างต่างจากความอบอุ่นของกีกวังอย่างสิ้นเชิง...

            กีกวังนายชอบฉันบ้างไหม...หรือว่าฉัน คิดไปเองคนเดียว นายแค่บอกฉันมาแค่คำเดียวว่า ‘ไม่’ แล้วฉันจะไม่ยุ่งกับนายอีกเลย ฉันสัญญา...

            “เอ่อ...ขอโทษนะคะ”  อยู่ๆ เสียงของคุณมินนาก็ดังขึ้นมา ทำให้คุณอธิสรีบผละออกจากฉัน

            “มีอะไรหรอครับ”  คุณอธิสถามขณะที่ฉันกำลังพยายามเช็ดน้ำตาตัวเองด้วยแขนของเสื้อแขนยาวที่พาดคออยู่

            “รู้สึกว่าปลายฝนจะลืมของน่ะค่ะ”

            “หรอคะ!”  ฉันถาม ขณะนั้นก็เพิ่งจะคิดได้ว่าลืมเป้ที่ตัวเองสะพายมาไว้ในห้องแต่งตัว

            “จริงๆ ด้วย”

            “งั้นเดี๋ยวฉันพาเธอไปเอาเอง...รอแป๊บนึงนะคะคุณอธิส” 

            “เดี๋ยวผมไปด้วยครับ”

            “ไม่เป็นไรค่ะ ฉันว่าคุณเตรียมรถรอดีกว่า นี่งานก็จะเลิกแล้วเดี๋ยวจะยิ่งลำบากนะคะ”  คุณมินนาบอกคุณอธิสแล้วจูงมือฉันกลับมาที่เวทีจัดแสดงอีกครั้ง ตอนนี้พิธีกรกำลังให้บีสท์พูดความรู้สึกที่ได้มาประเทศไทยอีกครั้งทีละคน พวกเขาก็ยังคงยิ้มแย้มและเอนเตอร์เทนคนดูต่อไปตามหน้าที่ ส่วนฉัน...ก็ได้แต่ปวดใจที่ได้เห็นรอยยิ้มของกีกวังบนเวที เขากวาดรอยยิ้มไปทั่วให้กับแฟนคลับอย่างน่าอิจฉา

            “ไม่ต้องสนใจหรอก ไปเถอะ”  คุณมินนาพาฉันเดินเข้ามาหลังเวทีและเข้ามาที่ห้องแต่งตัวห้องนั้น

            “นั่นกระเป๋าเธอรึเปล่า”  คุณมินนาถามพร้อมกับชี้ไปที่เป้สะพายหลังสีครีมที่วางอยู่บนโซฟา

            “อ๋อ ใช่ค่ะ ขอบคุณมากนะคะที่เก็บไว้ให้”  ฉันเดินเข้าไปหยิบมันขึ้นมาสะพาย

            แกร็ก!!

            ระหว่างนั้นเสียงล็อกประตูก็ดังขึ้น ทำให้ฉันต้องชะงักไปก่อนจะค่อยๆ หันไปมองที่ประตูว่ามันเกิดอะไรขึ้น

            “คุณมินนา...ล็อกประตูทำไมคะ”

 

 

 

 

 

****************************************

มาอัพให้อ่านยามดึกสงัด ฮึๆๆๆ 

ยังรอคอยรีดเดอร์มาอ่านแล้วก็รอคอยคอมเม้นเช่นเดิม TOT

ตอนแรกที่แต่งตอนของกีกวังไม่คิดว่าจะยาววววววว...ขนาดนี้ นี่ก็ปาไป Ch.15 แล้ว 555+

แต่จะแจ้งข่าวดีให้ทุกคนทราบว่าตอนต่อไปนั่นก็คือตอนที่ 16 จะจบ Ep.6 แล้วนะคะ

แล้วไรท์จะมี Special อีก 2 ตอนเต็มๆ จะเป็นจุดจบของความบู๊ทั้งหมด

รวมถึงความจริงบางอย่างอีกนิดหน่อยที่ไม่ควรพลาด 

ยังไงก็ฝากติดตามอีก 3 ตอนด้วยนะคะ Dream Story จะได้จบบริบูรณ์สักที ^_^

*****************************************

 

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.2 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายฟิคชั่นเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา