[B2ST/Beast] Dream Story รักนี้ให้นาย...เจ้าชายอสูร
เขียนโดย Kreota
วันที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 เวลา 00.14 น.
แก้ไขเมื่อ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2557 22.21 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
82) [Episode 6 :: Lie Lover] # Chapter 14
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
Episode 6 Lie Lover
:: Chapter 14 ::
ในที่สุดเขาก็ค่อยๆ ถอนริมฝีปากออก กีกวังมองลึกเข้ามาในตาของฉันด้วยแววตาที่ลึกซึ้ง แต่แล้วเขาก็รีบผละออกจากฉันทันที
“ฉัน...ขอโทษ” กีกวังบอกโดยไม่ได้หันมามองฉัน
ฉันค่อยๆ ดันตัวลุกขึ้นนั่งบ้าง แต่ฉันไม่รู้จะพูดอะไรเลยได้แต่เงียบ ไม่กล้าแม้กระทั่งเงยหน้าขึ้นไปมองทีวีที่เปิดอยู่เบื้องหน้า เมื่อกี๊เกิดอะไรขึ้นนะ...ฉันยอมให้เขาทำแบบนั้นได้ยังไง ฉันโกรธเขาอยู่แล้วเขาก็ไม่ได้อยากจะยุ่งกับฉัน แต่ทำไมเราสองคนถึงปล่อยตัวปล่อยใจไปได้ขนาดนั้น...
“...ฉันถามว่าใคร!!!”
อยู่ๆ เสียงคุณมินนาร้องลั่นอยู่ด้านนอกของตัวบ้าน เสียงสั่นเครือจนคนฟังอยากฉันรู้ได้ทันทีว่าต้องเกิดเรื่องไม่ดีขึ้น
ตุบ! พลัก!!
หลักจากเสียงต่อสู้ดังอยู่พักหนึ่งเสียงก็เงียบไป ฉันกับกีกวังรีบวิ่งไปดูเหตุการณ์ทางหน้าต่างห้องทันที แต่สิ่งที่พบคือความมืดและ...
คุณมินนานอนแน่นิ่งอยู่กับพื้น O_O!
“เฮ้ย!!” ฉันกับกีกวังร้องออกมาเกือบจะพร้อมกัน แล้วตอนนั้นเองที่ฉันคิดได้ว่าต้องออกจากห้องนี้โดยเร็วเพื่อลงไปดูว่ามีใครเป็นอะไรอีกรึเปล่า!
“เปิดประตู! เปิดสิ!” ฉันวิ่งไปทุบประตูแรงๆ 2-3 ครั้ง ประตูก็เปิดพรวดออกทันที
“ฉันเปิดให้ตั้งแต่แรกแล้วนะ แต่พวกเธอไม่เปิดออกมาเอง” จุนฮยองขมวดคิ้วมองฉันกับกีกวัง อ้าว...
“ใช่ครับ พวกเราไขกุญแจออกก่อนที่เราจะเดินไปด้วยซ้ำ ไม่ลองเปิดออกมาเองนี่นา”
“เฮ้อ...เกิดอะไรขึ้น ทำไมคุณมินนาสลบไปแบบนั้นล่ะ” กีกวังถอนหายใจออกมายาวๆ ใส่เพื่อนตัวเอง
“ห๊ะ! พี่เจอคุณมินนาแล้วหรอ พวกเราได้ยินแค่เสียงแต่ยังหาตัวไม่เจอเลย”
“อยู่สวนหย่อมข้างๆ บ้านนี่แหละ รีบลงไปเถอะ” ฉันบอกแล้วเดินนำลงมาด้านนอกบ้าน
พวกเราค่อยๆ ย่องอย่างระมัดระวังที่สุดเผื่อว่าคนร้ายอาจจะซุ่มอยู่แถวๆ นี้ จนกระทั่งมาถึงสวนหย่อมข้างบ้าน พวกเราหลบอยู่หลังพุ่มไม้ใกล้ๆ กับจุดที่คุณมินนาสลบอยู่
“เฮ้ย! คุณมินนา” โยซอบร้องออกมาเบาๆ
“ระวังตัวด้วยนะทุกคน” ดูจุนบอก ก่อนที่พวกเขาจะค่อยๆ ย่องออกจากที่ซ่อน
หมับ!
ระหว่างที่ฉันกำลังจะตามพวกเขาออกไป กีกวังก็จับข้อมือฉันเอาไว้แน่น
“เดี๋ยว เธออยู่ที่นี่ดีกว่า”
“แต่...”
“ขอร้อง ฉันไม่อยากให้ใครต้องมาเดือดร้อนและบาดเจ็บเพราะพวกฉันอีก...ฉันไม่อยากให้เธอโดนเหมือนที่แฟนเพื่อนร่วมวงของฉันเคยโดน” กีกวังบอก ถึงแม้ว่าฉันจะไม่เข้าใจสิ่งที่เขาพูดนัก แต่เพราะสายตาที่จริงจังของเขา มันทำให้ฉันต้องยอมแพ้
ฉันมองแผ่นหลังของกีกวังห่างออกไปเรื่อยๆ จนกระทั่งพวกเขาเข้าถึงตัวคุณมินนาได้อย่างปลอดภัย แล้วตอนนั้นเองที่คนของพ่อมาถึงที่เกิดเหตุพอดี ที่จริงบ้านฉันจะมีเวรยามคอยเฝ้าไว้ทุกด้านของบ้านอย่างแน่นหนา แต่เพราะวันนี้มีแขกกลัวว่าพวกเขาจะอึดอัดก็เลยไม่ให้มีใครเฝ้า เกิดเรื่องจนได้สิน่า
เราทั้งหมดพาคุณมินนาส่งโรงพยาบาลทันที ที่นั่นเราเจอกับคุณมะนาวโดยบังเอิญ คุณมะนาวก็เลยอาสาเฝ้าไข้คุณมินนาให้ คุณมะนาวอยู่ที่นี่ได้ยังไงกันนะในเมื่อ Lusty ก็ไม่ได้มาด้วยซะหน่อย?
วันรุ่งขึ้น ฉันมาเยี่ยมคุณมินนาที่โรงพยาบาลแต่คุณมินนาหลับไปแล้วก็เลยได้คุยกับคุณมะนาวแทน ก่อนที่ฉันจะกลับก็ได้มีโอกาสเจอกับดูจุน โยซอบและกีกวังที่มาเยี่ยมคุณมินนาเหมือนกัน แต่ที่ทำให้ฉันอารมณ์เสียก็คือกีกวัง เขาไม่ยอมพูดกับฉันเลย ไม่ยอมมองหน้าฉันด้วยซ้ำไป เขาพูดคุยหัวเราะกับคนอื่นหมดยกเว้นกับฉัน เขาทำเหมือนว่าฉันไม่ได้นั่งอยู่ตรงนี้เลย!
เอาจูบแรกฉันไปแล้วคิดจะชิ่งหรอกีกวัง -_+!
“งั้น...ฉันขอตัวกลับก่อนแล้วกันนะคะ คนขับรถมาถึงแล้ว” ฉันบอกก่อนจะเดินออกมาจากห้อง โดยมีโยซอบเดินออกมาส่ง
“เธอเป็นอะไรรึเปล่า สีหน้าไม่ค่อยดีเลย” โยซอบถามเมื่อเราออกมานอกห้องแล้ว
“เปล่าหรอก ไม่มีอะไร”
“เพราะกีกวังใช่ป่ะ”
“เฮ้อ...” ฉันถอนหายใจออกมาแทนคำตอบ รู้อยู่แล้วก็ยังจะมาถามฉันอีกนะนาย =_=
“อย่าไปถือสามันเลย มันรู้สึกแย่มากเลยนะกับเรื่องที่เกิดขึ้น” โยซอบพูด
นั่นไงล่ะ! เขากำลังพยายามจะมาแก้ตัวให้เพื่อนเขาใช่ไหมเนี่ย
“ฉันไม่รู้หรอกว่าเขาจะรู้สึกแย่ขนาดไหน แต่ตอนนี้ฉันพนันได้เลยว่าฉันรู้สึกแย่ยิ่งเขากีกวังเป็นไหนๆ”
“โธ่ ฉันอยากให้เธอเข้าใจกีกวังมันหน่อยนะ...แค่กีกวังมันต้องอยู่ห่างๆ เธอแล้วก็ต้องทำสัญญากับคุณอธิสมันก็กดดันมากพอแล้ว...อุ้ย!...” โยซอบตาโตขึ้นมาทันทีที่พูดจบประโยค เหมือนเขาเพิ่งคิดได้ว่าพูดเรื่องที่ไม่ควรพูดออกมา
“ทำสัญญากับคุณอธิส...สัญญาอะไร?”
“เอ่อ...ฉันว่าเธอลืมเรื่องที่ฉันพูดไปดีดว่านะ เอาเป็นว่า...ฉันแอบหวังให้เธอมาเป็นสะใภ้บีสท์อีกคนหนึ่งนะ ^_^” โยซอบอมยิ้มนิดๆ เมื่อพูดถึงตรงนี้ “มันรอเนื้อคู่มานานที่สุดในวงแล้ว ฉันไม่อยากให้มันพลาดโอกาสนี้ไปเพราะฉะนั้นเธออย่าเพิ่งยอมแพ้ ตื้อเท่านั้นที่จะครองโลก ดูคู่ฉันกับเฝ้าฝันเป็นตัวอย่าง...กลับบ้านดีๆ นะ ฉันส่งได้แค่นี้ ^_^” โยซอบยิ้มจนเห็นฟันก่อนจะเดินกลับเข้าไปในห้องของคุณมินนา
สะ...สะใภ้บีสท์ งั้นหรอ? พูดอะไรเพ้อเจ้อน่าโยซอบ -////-;
ด้วยความดันทุรัง (หรือเรียกง่ายๆ ว่าหน้าด้านหน้าทน) ของฉัน U_U ไม่ว่าบีสท์จะไปทำอะไร ที่ไหน ยังไง จะมีฉันคอยติดตามไปด้วยทุกที่ จนฉันกลายเป็น Beauty กิตติมศักดิ์อีกคนหนึ่งที่มีการ์ดคอยเดินตามทุกฝีก้าว แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้นฉันก็ยังยืนยันว่าจะตามบีสท์อยู่แบบนี้จนกว่าจะง้างปากกีกวังให้พูดกับฉันได้
ไม่ใช่เพราะว่าฉันอยากเป็น สะใภ้บีสท์ หรอกนะ แต่ฉันคงตายตาไม่หลับแน่ถ้าเกิดกีกวังยังเป็นแบบนี้อยู่ เรื่องนี้มันกวนใจฉันตลอดจนฉันทำอะไรไม่ได้เลยทั้งวัน ฉันเลยต้องหาทางออกโดยมาคอยตามบีสท์ต้อยๆ เหมือนเป็นติ่งเกาหลีแบบนี้อย่างไม่มีทางเลือก
“คุณอธิสคะ ฉันว่าคุณกับลูกน้องไปรอที่รถดีกว่าไหม”
“ไม่ดีหรอกครับ คุณหนูจะไม่ปลอดภัย”
“ไม่ปลอดภัยยังไงคะ คนออกจะเยอะแยะ”
“ยิ่งคนเยอะนั่นแหละครับ ยิ่งอันตราย”
“แต่คนอื่นเขามองฉันแปลกๆ ยังไงไม่รู้ที่มีพวกคุณคอยเดินตาม” ฉันบอกพร้อมกับมองไปรอบๆ ที่แถลงข่าว ตอนนี้มีแฟนคลับมานั่งรองานแถลงข่าวอยู่เต็มทุกพื้นที่ที่จะแทรกตัวอยู่ได้บริเวณห้างดังใจกลางกรุง พวกเขามองฉันอย่างประหลาดใจที่มีคนคอยเฝ้า บางส่วนมองมาแบบ...ยังไงล่ะเกลียดๆ ยังไงชอบกล
“ถ้าคุณหนูอึดอัด เดี๋ยวพวกเราจะคอยคุ้มกันห่างๆ แล้วกันครับ”
พูดจบคุณอธิสและลูกน้องอีก 2 คนก็โค้งให้ฉันก่อนแยกย้ายไปยืนตามจุดต่างๆ โดยมีฉันเป็นจุดศูนย์กลาง แต่ถึงเขาจะบอกฉันว่า คุ้มกันอยู่ห่างๆ แต่ฉันว่ามันก็ใกล้อยู่ดีแหละ -_-
หลังจากนั้นไม่นาน งานแถลงข่าวก็เริ่มขึ้นโดยพิธีกรชายชื่อดัง 1 คนและล่ามอีก 1 คน งานเริ่มต้นไปด้วยดี จนกระทั่งถึงช่วงที่แฟนๆ รอคอย จะมีการจับรายชื่อของแฟนคลับขึ้นมา 6 คนเพื่อขึ้นไปเล่นเกมร่วมกับบีสท์ แต่เขาส่งชื่อกันตอนไหนล่ะทำไมฉันไม่รู้เรื่อง -_-
“คุณรู้ไหมว่าเขาส่งรายชื่อกันตอนไหน” ฉันกระซิบถามคุณอธิสที่มายืนอยู่ใกล้ๆ กับฉันตอนที่งานแถลงข่าวเริ่ม
“ช่วงก่อนงานแถลงข่าวจะเริ่มนิดหน่อยน่ะครับ”
“แล้วทำไมไม่บอกฉันล่ะคะ”
“ตอนนั้นคุณหนูให้พวกเราออกไปห่างๆ ไงครับ”
กรรม ความผิดฉันใช่ไหม? =_=
“...สำหรับชื่อสุดท้าย...โห! ลายมือ...ฮ่าๆๆ ชื่อคุณ...ปณิดาครับ”
“หือ?” ฉันส่งเสียงออกมาด้วยความสงสัย บ้าน่านั่นมันชื่อฉันนะแต่ฉันไม่ได้ส่งสักหน่อย คงคนละ ปณิดา แล้วล่ะ Y.Y
“คุณปณิดาครับ อยู่ไหมเอ่ย...นับหนึ่งถึงห้านะครับ ถ้ายังไม่แสดงตัวจะตัดสิทธิ์ให้คนอื่นเลยนะ นับหนึ่ง..”
“ชื่อคุณหนูนี่ครับ”
“ใช่ แต่ไม่เห็นมีนามสกุลเลย ใช่ฉันรึเปล่าก็ไม่รู้”
“...สองงงงง!!” เสียงพิธีกรและเหล่าแฟนคลับช่วยกันประสานเสียงนับดังสะนั่น พวกเขาคงกำลังลุ้นให้เจ้าของชื่อไม่อยู่อย่างใจจดใจจ่อเลยสินะนับดังกันเชียว -_-
“เอาเถอะครับ บางทีพวกเขาอาจจะไม่รู้จักนามสกุลคุณหนูก็ได้”
“ว่าไงนะ?”
“ไม่มีอะไรหรอก แสดงตัวไปก่อนเกิดอะไรขึ้นแล้วค่อยว่ากัน”
“...สามมมมม!!”
“อยู่ตรงนี้ครับ!!” คุณอธิสยกมือขึ้นพร้อมกับเปร่งเสียงออกไปสุดเสียง อ้าวเฮ้ย! ตื่นเต้นกว่าฉันอีกนะ =_=
“อ้าว! ขึ้นมาเลยครับ” พิธีกรบอกพร้อมๆ กับเสียงโห่ร้องด้วยความเสียดายของแฟนคลับที่ดังกระหึ่มขึ้นทันทีที่เจ้าของชื่อมีตัวตน
คุณอธิสพาฉันเดินฝ่าฝูงชนมากมายไปด้านข้างเพื่อขึ้นไปบนเวทีที่กำลังจัดกิจกรรม บีสท์ทุกคนต่างส่งยิ้มให้ฉันอย่างเป็นมิตร แต่กีกวังเขาเพียงแค่ยิ้มน้อยๆ ออกมาเท่านั้น
ฉันรู้ว่าเขาแบบนั้นทำไม...เพราะว่าปกติเขามันยิ้มง่ายกระจายเสน่ห์เป็นว่าเล่น ถ้าเกิดหน้าบึ้งให้ฉันคนเดียวคนอื่นคงสงสัยเอาน่ะสิ -*-!
“เอาล่ะในเมื่อได้สมาชิกครบแล้ว เรามาจับฉลากกันดีกว่าว่าใครจะได้คู่ใคร...”
ทีมงานทำการเดินแจกลูกปิงปองให้พวกเราคนละลูก ฉันได้หมายเลข 6 ล่ะ =_=
“เริ่มจากน้องคนนี้เลย ได้หมายเลขอะไรครับ” พิธีกรเข้ามาถามฉันเป็นคนแรกเพราะว่าฉันยืนอยู่ใกล้พิธีกรมากที่สุด
“เลขหกค่ะ” ฉันชูหมายเลขในปิงปองขึ้นเป็นหลักฐาน ตอนนี้อารมณ์เหมือนกำลังเป็นคนจับสลากกินแบ่งรัฐบาลยังไงยังงั้น
ต่อไปจะทำการหยิบลูกบอลหมายเลขหลักที่ 1 เลขที่ออกกก...อ๊อด! อ๊อด! =_=
“ว่าไงครับบีสท์ ใครคือหมายเลขหก” พิธีกรมองไปยังฝั่งของบีสท์ กีกวังตาโตขึ้นนิดหน่อยก่อนจะแสดงตัวออกมาว่าเขาคือหมายเลข 6
เห๊อะ! มันบังเอิญเกินไปหน่อยมั้ง -_-;
เพราะตัวเลขตรงกันฉันกับกีกวังเลยได้ยืนอยู่คู่กัน ระหว่างที่พิธีกรกำลังหาคู่ให้สมาชิกบีสท์คนอื่นๆ กีกวังก็ถามขึ้นมาเบาๆ
“เธอทำแบบนี้ได้ยังไง”
“ทำอะไร”
“ใช้อำนาจขนาดไหนถึงล็อกหมายเลขได้ตรงกันแบบนี้ เหลือเชื่อจริงๆ”
“ฉันไม่ได้ทำอะไรเลยนะ!” นี่เขากำลังคิดว่าที่ฉันได้ขึ้นมาเล่นเกมเพราะว่าฉันล็อกตำแหน่งไว้งั้นหรอ ถึงฉันจะอยากคุยกับเขาขนาดไหน แต่ฉันก็ไม่มีทางเล่นสกปรกแบบนี้หรอกนะ!
“หรอ” กีกวังพูดด้วยน้ำเสียงไม่เชื่อ ฉันเลยหันควับไปค้อนเขาทีหนึ่ง เขานิสัยเสียแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย!
“แล้วที่เธอตามฉันไปทุกที่เนี่ยเพื่ออะไร”
“ฉันแค่...อยากได้เพื่อนที่น่ารักของฉันคืน” ฉันบอกไปตรงๆ และพยายามสบตากับกีกวัง แต่เขาไม่ยอมมองฉันเลย เขามองดินฟ้าอากาศโดยไม่สนใจฉันเลยสักนิด!
“ถ้าเธอต้องการแค่นั้นก็พอเถอะ เพราะฉันไม่ต้องการจะเป็นเพื่อนกับเธอ...” ประโยคนี้กีกวังก้มลงมามองฉันตรงๆ สายตาของเขาว่างเปล่าและเย็นชาอย่างที่ฉันไม่คิดว่านั่นจะเป็นสายตาของลีกีกวัง!
“มะ...ไม่จริงใช่ไหม! ที่นายพูดออกมาแบบนี้ เพราะสัญญาบ้าๆ ที่ให้ไว้กับคุณอธิสใช่ไหม!” ฉันเอื้อมมือไปจับต้นแขนของกีกวังเบาๆ เพราะเหมือนว่าฉันกำลังทรงตัวให้ยืนต่อไปไม่ได้
“น้องครับ! ห้ามจับนะ!!” ทีมงานเดินเข้ามาปัดมือฉันออกจากแขนของกีกวังแรงๆ แล้วเขาก็ยืนเฝ้าอยู่อย่างนั้น ฉันเลยจำเป็นต้องหันกลับออกไปหน้าเวที ฉันพยายามกลืนก้อนน้ำตาที่มันกำลังไหลลงไปด้วยความยากลำบาก ฉันไม่ชอบความรู้สึกแบบนี้เลย มันเจ็บปวดเกินไป...ฉันทนไม่ไหว
ฉันเป็นอะไรไป มันเหมือนว่าขาดอากาศหายใจไปชั่วขณะจนรู้สึกตื้อๆ ที่หว่างคิ้ว
“น้องคนนี้เหมือนจะตื่นเต้นมาก พร้อมเล่นเกมไหมครับเนี่ย” พิธีกรถามพร้อมกับยื่นไมค์จ่อมาที่ปากของฉัน
“วะ...ไหวค่ะ” ฉันพูดออกไปงั้นแหละ...ทั้งที่จริงแล้วแค่ยืนอยู่กับที่ยังไม่รู้ว่าจะล้มลงเมื่อไหร่
“งั้นเราเอาคู่กีกวังไว้สุดท้ายแล้วกันให้น้องคนนี้เขาทำใจก่อน เรามาเริ่มที่คู่ของฮยอนซึงดีกว่าดูเหมือนน้องคนนี้เขาจะพร้อมมาก” พิธีกรเดินกลับไปยังหัวแถวอีกครั้งซึ่งเป็นคู่ของฮยอนซึงกับแฟนคลับอีกคน พวกเขาถูกเชิญไปยืนอยู่กลางเวทีเพื่อเล่นเกม พวกเราที่ยังไม่ได้เล่นเลยต้องถอยมาข้างหลังนิดหน่อยเพื่อหลีกทางให้
“...งั้นผมจะทบทวนวิธีเล่นอีกครั้งนะครับ ผมจะให้แต่ละคู่เล่นจ้องตากัน คู่ไหนจ้องตากันได้นานที่สุดเป็น 3 อันดับแรกจะได้ผ่านเข้าไปเล่นเกมต่อไป โอเคนะครับ” พิธีกรเว้นช่วงให้ล่ามแปลให้บีสท์ฟังสักพัก
“ใครชนะจะได้ชุด Box set ที่มีมินิอัลบั้มใหม่ล่าสุดของบีสท์และหนังสือรวมรูปภาพแบบ limited edition พร้อมลายเซ็นไปเลยทันที พยายามเข้านะบิวตี้ชาวไทย ^O^” พิธีกรอธิบายของรางวัล ขณะที่กำลังเตรียมความพร้อมสำหรับเล่นเกม เสียงแฟนคลับด้านล่างกรี๊ดกร๊าดกันใหญ่กับของรางวัลที่ตัวเองเพิ่งจะพลาดไป
การเล่นเกมเป็นไปอย่างสนุกสนาน ส่วนมากจะเป็นแฟนคลับมากกว่าที่เป็นฝ่ายหลบสายตา เพราะว่าฉันเข้าใจดี มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะมองตากับคนที่ชอบโดยไม่รู้สึกอะไรเลย...กีกวังจะเป็นแบบนี้บ้างไหมนะ หรือว่าฉัน...จะรู้สึกไปเองคนเดียวว่าเขาเป็นคนสำคัญ
ฉันยืนรออยู่สักพักก็มาถึงคิวของฉันกับกีกวัง เราถูกเชิญออกมายืนอยู่กลางเวทีเหมือนคู่อื่นๆ คราวนี้โยซอบอาสาเป็นคนถือกระดาษที่ใช้คั่นตรงกึ่งกลางด้วยตัวเองทำให้เกิดเสียงกรี๊ดกร๊าดจากแฟนคลับกันยกใหญ่ ฉันกับกีกวังถูกจับหันหน้าเข้ากันโดยมีดงอุนช่วยจัดท่า เขาจับมือฉันไปวางไว้บนไหล่ของกีกวังทั้ง 2 ข้างตรงนี้ยิ่งเรียกเสียงกรี๊ดของแฟนคลับได้มากขึ้นอีกทวีคูณ
โยซอบเอากระดาษมากั่นระหว่างฉันกับกีกวังหลังจากที่ดงอุนจัดท่าเสร็จ ฉันมองกระดาษแผ่นเล็กๆ ที่ใช้คั่นแค่ส่วนใบหน้าอย่างใจระทึก...ฉันไม่รู้ว่าเปิดกระดาษออกไปแล้วจะเป็นยังไง ถ้าเกิดเป็นสายตาที่เย็นชาและไร้เยื่อใยอย่างเมื่อกี๊อีกล่ะฉันจะทำยัง ฉันทนเห็นสายตาแบบนั้นไม่ไหวอีกแล้วนะ!
“ถ้าจะช่วยเหลือกันขนาดนี้แล้วช่วยให้สุดดีกว่านะครับ ดูจุนครับช่วยนับให้หน่อยสิครับ นับเป็นภาษาไทยนะ พูดว่า นับนะ หนึ่ง สอง สาม โอเคไหมครับ” พิธีกรก็เอากับเขาด้วย ระหว่างที่รอให้ล่ามแปลให้ดูจุนฟังฉันจะดึงเอามือออกจากไหล่ของกีกวังแต่ดงอุนก็ยังจับไปวางไว้เหมือนเดิม นี่พวกนายพยายามจะทำอะไรกัน สงสารใจฉันบ้างเถอะ TOT
“นับนะ...หนึ่ง...สอง...ซั่ม!”
ฝึบ!
โยซอบเปิดกระดาษขึ้นทันทีที่ดูจุนนับถึง 3 สิ่งที่ฉันเห็น คือ กีกวัง...เขายืนอยู่ตรงนี้และเขากำลังมองฉันด้วยแววตาที่สัมผัสได้ถึงความอบอุ่นและความห่วงใย ความรู้สึกแบบนี้สินะที่ฉันโหยหา...ดวงตาคู่นี้สินะคือ กีกวัง คนที่ฉันรู้จักที่เกาหลี...
เขากลับมาแล้วใช่ไหม...กีกวังที่ฉันเคยรู้จักกลับมาแล้วใช่ไหม!
***********************************
อัพแล้วนะจ้ะ มาอ่านกันเร๊ววววว ^O^
ฝากติดตามต่อด้วยนะคะ อีกไม่กี่ตอนก็จะแล้วนะ
อยู่เป็นกำลังใจไรท์จนจบโปรเจ็กต์ด้วยนะคะรีดเดอร์
***********************************
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ