[B2ST/Beast] Dream Story รักนี้ให้นาย...เจ้าชายอสูร

8.9

เขียนโดย Kreota

วันที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 เวลา 00.14 น.

  87 ตอน
  86 วิจารณ์
  113.65K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2557 22.21 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

76) [Episode 6 :: Lie Lover] # Chapter 8

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

Episode 6 Lie Lover

:: Chapter 8 ::

 

            พวกเรากินข้าวกลางวันพร้อมกับเสียงซี๊ดซ๊าดตลอดเวลา ถึงพวกเขาจะบอกว่าไม่อร่อยหรือว่ามันเผ็ดเกินไปยังไงกับข้าวที่ฉันทำก็หมดเกลี้ยงไม่เหลือซาก ที่กินเยอะที่สุดก็คนที่ตินั่นแหละ ชิ!

            คุณอธิสมารับฉันเวลา 16.00 น. เป๊ะไม่ขาดไม่เกิน ตรงเวลาเกินไปนะบางที =_=; ฉันรีบเก็บๆ ของแล้วลงมาหาคุณอธิสทันทีเพราะว่าคุณอธิสบอกว่าพ่อส่งของมาให้ฉัน >O<! แต่ลงมายังไม่ทันจะได้ขึ้นไปนั่งรถ BM คันงามของคุณอธิส ฉันก็นึกขึ้นได้ว่าฉันลืมกล้องที่ชาร์ตไว้บนห้องของ Lusty คุณอธิสก็เลยขึ้นมาเป็นเพื่อน จริงๆ แล้วอยากมาเจอณัชน่ะซี่...ฉันรู้ทันหรอกน่า +_+

            แต่...ประตูห้องกลับเปิดแง้มเอาไว้ สงสัยคนที่เข้ามาใหม่ไม่งับมันไว้ดีๆ แน่ ดีล่ะ! โผล่เข้าไปให้พวกเขาตกใจเล่นดีกว่า ^O^

            “...เราทำแบบนี้จะได้ผลไหม”  เสียงของเภตราถามอย่างกังวล ทำให้ฉันชะงักมือที่กำลังจะผลักประตูไว้...พวกเขากลับมากันครบแล้วหรอ?

            “ต้องได้ผลสิ อย่างน้อยๆ คนที่จ้องเล่นงานเราอยู่มันต้องพยายามสืบว่าปลายฝนเข้ามาอยู่ในกลุ่มของเราได้ยังไง แล้วข่าวที่ออกมาจะอินไซน์ขนาดไหน เราจะได้ตีวงให้แคบเข้าได้ไงว่าตกลงมันเป็นคนวงในอย่างที่เราคิดกันอยู่รึเปล่า”  ดูจุนตอบ

            “แล้ว...ถ้ามันไม่มีอะไรเกิดขึ้นล่ะ”  เสียงกีกวังถามต่อ

            “ถ้าไม่มีอะไรเกิดขึ้นก็ดีไป...ถือซะว่าเราปลอดภัยไว้ก่อนแหละน่า”  ฮยอนซึงตอบ

            “เมื่อไหร่พวกเราจะใช้ชีวิตอยู่ได้เหมือนมนุษย์โลกคนอื่นๆ ก็ไม่รู้นะคะ มีแต่เรื่องตลอดเลยอ่ะ”  เสียงวิลล่าบ่น  “ตั้งแต่วง Troy ตามรังควาน ยังมาเจอเด็กฝึกหัดตามล้างแค้น แล้วไหนจะยัยแฟนคลับโรคจิตนั่นอีก เมื่อไม่นานมานี้ก็เจอมาเฟียไล่ยิงกันเล่นต่อหน้าต่อตา แล้วตอนนี้มันอะไรกันอีกล่ะคะ วิลขี้เกียจกังวล ขี้เกียจกลัวแล้วนะคะ”

            “เอาน่าๆ เดี๋ยวเรื่องทุกอย่างก็จบ...”

            ฉันถอยกลับออกมาจากห้องเงียบๆ โดยทิ้งให้พวกเขาพูดคุยกันอย่างส่วนตัว แต่ก่อนที่จะเดินออกมาฉันก็ไม่ลืมที่จับปิดประตูให้พวกเขาด้วย เพราะดูเหมือนพวกเขาจะไม่รู้ตัวเลยว่าปิดประตูไม่สนิท ถ้าเกิดมีคนคิดร้ายกับพวกเขาจริงแผนการของพวกเขาก็จะไม่เป็นความลับอีกต่อไปแน่

            มิน่าล่ะ...พวกเขาถึงรับฉันเป็นเพื่อนง่ายๆ ที่แท้พวกเขามีวัตถุประสงค์แอบแฝงอยู่นี่เอง ฉันก็นึกอยู่แล้วเชียวว่าทั้งที่ฉันหลอกพวกเขาไว้ซะมากมาย แถมทำให้พวกเขาอยู่ไม่สุขมีข่าวฉาวเพิ่มขึ้นมาอีก แต่พวกเขาก็ยังยอมให้ฉันเข้านอกออกในหอพักของพวกเขาได้ตามสบาย มันไม่ใช่เพราะว่าพวกเขารู้จักกับคุณอธิส ไม่ใช่เพราะว่าฉันเป็นคนไทยด้วยกัน และไม่ใช่ว่าพวกเขาจะอยากเป็นเพื่อนกับฉันอย่างที่ฉันคิดมาตลอดเลย...พวกเขาแค่ใช้ฉันเป็นเครื่องมือเท่านั้นเอง!

            “คุณหนูครับ...ของที่ท่านโชส่งมาให้วางอยู่เบาะข้างๆ คุณหนูนะครับ”  คุณอธิสบอกหลังจากที่ขับรถออกมาจากลานจอดรถของหอพักแล้ว

            “อ๋อ...ค่ะ”  ฉันตอบรับ แล้วหันไปแกะของขวัญที่พ่อส่งมาให้...มันคือพาสปอร์ตและตั๋วเครื่องบินกลับประเทศไทยในอีก 5 วันข้างหน้า

            “ท่านโชบอกว่าท่านคงมารับคุณหนูไม่ได้ แต่จะเป็นคุณหญิงมารับแทนนะครับ อีก 5 วันทันทีที่เคลียร์เรื่องทางนั้นเสร็จ คุณหญิงจะมาหาคุณหนู”

            “อ๋อ...ค่ะ” 

            ใจฉันเต้นแรงขึ้นมาวูบหนึ่งเท่านั้นแล้วกลับมาเต้นช้าลงตามเดิม ไม่ใช่ฉันไม่ดีใจที่แม่จะมารับหรอก จริงๆ แล้วฉันดีใจ...ดีใจมากเลยล่ะ แต่...มันมีเรื่องอื่นกำลังกวนใจฉันอยู่

            “เอ่อ...คุณหนู ผมขอพูดอะไรอย่างหนึ่งได้ไหม”  อยู่ๆ คุณอธิสที่เงียบไปสักพักหนึ่งก็พูดขึ้น

            “ได้ค่ะ”

            “ถึงผมจะรู้จักพวกเขาได้ไม่นาน แต่ผมรู้ว่าพวกเขาเป็นคนดีและพวกเขามีเหตุผลทุกอย่างที่ทำ” 

            “หรอคะ”  ฉันรับคำแล้วมองออกไปนอกหน้าต่าง เขาก็ยืนอยู่กับฉันด้วยตอนที่แอบฟังพวกเขาคุยกัน เขาคงรู้ว่าตอนนี้ฉันรู้สึกยังไง...

            มีเหตุผลงั้นหรอ?

            “งั้น...คุณช่วยฉันหาเหตุผลที่ว่านั่นให้ฉันหน่อยได้ไหม?”

            “ยินดีครับ”  คุณอธิสยิ้มน้อยๆ ผ่านกระจกมองหลัง ก่อนที่ฉันจะกลับเมืองไทย ฉันต้องรู้ให้ได้ว่าเรื่องนี้มันเป็นยังไงกันแน่

           

            “...เรื่องทั้งหมดก็เป็นแบบนี้แหละครับ”  คุณอธิสเล่าข้อมูลทุกอย่างที่เขาหามาได้เกี่ยวกับบีสท์และลัสตี้ให้ฉันฟัง หลังจากที่เขาใช้เวลาเพียงแค่วันเดียวก็สามารถหาข้อมูลมาให้ฉันได้อย่างละเอียดและเชิงลึกพอสมควรจนฉันอดทึ่งในความสามารถของเขาไม่ได้ มิน่า...คุณพ่อถึงไว้ใจให้เขามาดูแลฉัน

            “แล้วคุณแน่ใจหรอคะ ว่าวง Troy นั่นน่ะเลิกแล้วจริงๆ”

            “ใช่ครับ แหล่งข่าวของเราบอกมาอย่างนั้น แต่เรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นไม่นานมานี้มีหลายอย่างที่อธิบายไม่ได้เกิดขึ้นกับพวกเขามากมายเลย”

            “ยังไงหรอคะ?”

            “ก็อย่างเช่น มีข่าวฉาวๆ ร้อนๆ ออกมาบ่อยๆ และข่าวมีเนื้อหาส่วนตัวเกินกว่าที่คนนอกจะรู้ แล้วเรื่องตอนที่พวกเขาไปคอนเสิร์ต Pattaya Inter-Music fes. นั่นด้วย...”

            “ที่คุณเล่าว่ามีคนค้นห้องลัสตี้น่ะหรอคะ”

            “ใช่ครับ ผมไม่เชื่อว่าห้องพังขนาดนั้นเพราะเป็นฝีมือของลูกน้องโอกังจาอย่างเดียว” 

            ฉันฟังคุณอธิสเล่าพร้อมกับเปิดดูรูปถ่ายห้องพักของลัสตี้ตอนที่โดนค้นห้องไปด้วย สภาพห้องยับเยินจนจินตนาการถึงสภาพเดิมไม่ออก ข้าวของกระจุยกระจายและพังหมด หมอน โซฟา ผ้าห่มถูกกรีดจนพรุน นุ่นสีขาวฟุ้งอยู่ทั่วห้องจนมองไม่เห็นพื้นสีน้ำตาลขัดเงาสุดหรูของโรงแรม 5 ดาวเลยทีเดียว

            “ผมคิดว่า ถ้าคนนอกคงทำแบบนี้ไม่ได้แน่”

            “นี่คุณ...กำลังสงสัยคนในหรอคะ”

            “ใช่ครับ แล้วก็ใกล้ตัวพวกเขามากด้วย”

            “ถ้าอย่างนั้น พวกเขาก็ตกอยู่ในอันตรายน่ะสิ o_o”

            “ผมก็คิดว่างั้น แต่ผมยังหาตัวผู้ต้องสงสัยไม่ได้เลยครับ”

            “แล้วสมาชิกวง Troy ที่เคยคิดร้ายกับบีสท์ล่ะคะ มีใครที่เขายังติดต่อและใกล้ชิดกันอยู่ไหม”

            “มีอยู่คนหนึ่งครับ...รู้สึกว่าจะชื่อซอแดอุนครับ”

            “เขาคนนี้ไม่มีพิษมีภัยใช่ไหมคะ”  ฉันถามออกไปอย่างไม่มั่นใจและภาวนาในใจว่าขอให้เป็นอย่างนั้นจริงๆ เถอะ

            “ครับ เพราะว่าเรื่องครั้งนั้น ซอแดอุนก็ช่วยเหลือพวกเขาตลอด”

            “แล้วคุณสงสัยใครบ้างไหมคะ เอาเท่าที่คิดออกก็ได้...มีบ้างไหม?”

            “ไม่มีเลยครับ...ตอนนี้ยังไม่มีจริงๆ แต่ผมจะสืบให้ได้เร็วที่สุดครับ”

            “เฮ้อ...วงการมายานี่น่ากลัวจริงๆ”

            “เท่าที่ผมเข้ามาทำงานเกี่ยวกับศิลปินดาราพวกนี้ ผมก็เริ่มชินแล้วแต่ผมบอกได้เลยว่าน่ากลัวพอๆ กับวงการมาเฟียเลย”

            “ห๋า! ขนาดนั้นเลยหรอคะ O_o” 

            ฉันเหวอไปเลยเมื่อฟังคุณอธิสพูดแบบนั้น แต่มันก็คงเป็นเหมือนที่เขาพูดนั่นแหละ มันแค่ต่างกันตรงที่มาเฟียเขาชักปืนออกมายิงกันตรงๆ แต่นี่...เล่นสงครามเย็นกันอย่างเดียวเลย -_-;

            “งั้น...ฉันมีบางอย่างอยากให้คุณช่วยได้ไหมคะ”

            “ยินดีครับ”

            “เอ่อ...ฉันยังไม่ได้บอกเลยว่าฉันจะให้ช่วยอะไร =_=”

            “ไม่ว่าคุณหนูจะให้ผมทำอะไร ผมก็ยินดีครับ”

            “คือ...ฉันจะขออยู่ช่วยพวกเขาก่อนกลับเมืองไทยน่ะค่ะ เพราะถ้าเรื่องยังไม่จบฉันกลับไปคงคาใจตลอดชีวิตแน่...อย่างน้อยๆ พวกเขาก็เคยช่วยฉันเอาไว้ตั้งหลายเรื่อง”

            “นี่คุณหนูไม่ได้โกรธพวกเขาแล้วหรอครับ”

            “วันนั้นฉันแค่ช็อกน่ะค่ะ...แต่จะบอกว่าโกรธด้วยก็ได้ เพราะฉันคิดว่าพวกเขาแค่เห็นฉันเป็นเครื่องมือเท่านั้น แต่พอมาคิดๆ ดูแล้ว พวกเขาก็ดูแลฉันและให้ความอบอุ่นเหมือนฉันเป็นเพื่อนอีกคนหนึ่งของพวกเขา ถ้าพวกเขาแค่แสร้งทำเขาคงไม่คบฉันเป็นเพื่อนนานขนาดนี้หรอกค่ะ มีแต่ปัญหาแบบนี้น่ะ ^^”

            “ผมดีใจนะครับที่คุณหนูคิดแบบนั้น”

            “แหม...กลัวฉันโกรธณัช...เอ่อ...กลัวฉันโกรธเพื่อนคุณขนาดนั้นหรอคะ อิอิ ^_^”  ฉันยิ้มพร้อมกับแซวคุณอธิสไปเล็กๆ คุณอธิสก็ยิ้มตอบกลับมาอย่างเขินๆ นิดหน่อย ก่อนจะขอตัวออกไปทำงานต่อ

            วันนี้ฉันขี้เกียจออกไปไหนเลยกะว่าจะลงไปว่ายน้ำของโรงแรมเล่นสักหน่อย แต่ระหว่างทางที่ฉันเดินมาที่สระน้ำ ก็เจอกองถ่ายรายการอะไรสักอย่างเต็มอยู่ริมสระ วันนี้คงไม่ได้ว่ายแล้วล่ะน้ำเนี่ย =_=;

            ฉันเดินเลี่ยงมาอีกทางเพราะว่ามีแฟนคลับเต็มจนเดินไปเฉียดแถวนั้นไม่ได้เลย บ้าดารากันจริงๆ เด็กสมัยนี้ แต่จะว่าไป...ใครมากันนะ? แฟนคลับถึงได้เยอะขนาดนี้ ชักคันไม้คันมืออยากจะเอากล้องลงมาถ่ายรูปแล้วล่ะ +o+

            เอ้อ! ลืมไปว่ากล้องอยู่ที่หอของลัสตี้นี่นา U_U;

            “...อะไรนะ!!”

            ระหว่างที่ฉันกำลังเดินกลับห้อง ก็มีเสียงผู้ชายคนหนึ่งดังออกมาจากหลืบหนึ่งที่เป็นมุมอับ เมียกำลังเบ่งคลอดรึไงพ่อคุณร้องซะตกอกตกใจหมด วู้!=_=!

            “แค่ยัยคุณหนูซอนั่นก็กลัวจนไม่กล้าทำอะไรบุ่มบ่ามแล้ว นี่ยังมียัยคุณหนูมาเฟียอีกหรอ อะไรนักหนา! พวกมันคบแต่พวกมีอิทธิพลรึยังไง!...งั้นเธอจับตาพวกมันไปก่อนแล้วกัน...อืม...” 

            กึก!

            ฉันหยุดฝีเท้าที่กำลังจะเดินผ่านมาทันทีเพราะชื่อที่ฉันได้ยินเมื่อกี๊มันคุ้นๆ ‘คุณหนูซอ’ ที่หมอนั่นพูดถึงใช่ของขวัญรึเปล่า? แล้วคุณหนูมาเฟียนั่นใคร o_o?...รู้สึกร้อนตัวแปลกๆ แล้วเรา U_U;

            ฉันเดินกลับไปชะโงกมองเข้าไปในหลืบนั้นเพราะหวังว่าจะมองเห็นเจ้าของหลืบ เอ้ย! เจ้าของเสียงบ้าง แต่ฉันช้าไปนิดหน่อยเท่านั้นเองเพราะเขาคุยเสร็จไปแล้ว และตอนนี้หน้าของฉันไปชนเข้ากับหน้าอกของเขาอย่างจัง!

            “โอ้ย!!” 

            จมูกฉัน TOT

            “ขอโทษครับ”  เขาบอกอย่างขอไปที แล้วรีบเดินก้มหน้าก้มตาจากไปอย่างรวดเร็ว อ้าวเฮ้ย! เอาหน้ามาดูก่อนเด้!

            “เดี๋ยว!”  ฉันตะโกนตามไป แต่เขาเดินหน้าอย่างเดียวเลยแฮะ...แบบนี้ต้องตาม +_+!

            ฉันเดินตามเขาไปติดๆ แต่ก็คลาดกันเพราะจำนวนแฟนคลับที่มาซะท่วมท้นล้นโลก ฉันเดินไปเดินมาอยู่แถวนี้สักพักเผื่อว่าจะเจอเขาอีก แต่ก็ไม่เจอฉันเลยล้มเลิกความตั้งใจแล้วหันไปสนใจดาราที่มาในวันนี้แทน

            ได้ยินแฟนคลับคุยกันว่าวันนี้เขามีสัมภาษณ์ศิลปินเดี่ยวที่กำลังจะ Comeback ต้นเดือนหน้าด้วย ที่มันน่าสนใจและมีแฟนคลับมากขนาดนี้เพราะว่าศิลปินคนนี้เคยเดบิวต์ในวง boy band มาก่อน ก็เลยมีแฟนคลับเก่าหนาแน่นอยู่แล้ว

            ที่จริงก็ไม่ได้อยากดูมากมายหรอกนะ แต่ฉันก็พยายามมุดๆ เข้าไปในดงแฟนคลับแล้วไปโผล่อยู่หน้าสุดได้สำเร็จ (ขนาดไม่อยากดู -_-?) ตอนนี้พิธีกรชายหญิงคู่หนึ่งกำลังดำเนินรายการอยู่ พิธีกรหญิงคือวิลล่านั่นเอง ส่วนพิธีกรชายคือคิมยองกวาง รู้สึกว่า 2 คนนี้เคยเป็นคู่จิ้นกันมาก่อนด้วยนะ แต่ข่าวก็ดับไปตอนที่วิลล่าประกาศคบกับดงอุน

            เอ๊ะ! เสื้อตัวนั้น!!O_O! ตัวที่คิมยองกวางใส่อยู่เหมือนกับเสื้อผู้ชายที่คุยโทรศัพท์ในหลืบเลย! มันเป็นเสื้อยืดคอกลมสีดำที่มีโลโก้แปลกตาสกรีนอยู่ด้านหน้า แต่พอมองไปที่วิลล่ายัยนั่นก็ใส่เสื้อยืดเหมือนกันเด๊ะแต่ไซส์เล็กกว่า

            มโนไปเองอีกแล้วสินะ U_U;

            แต่นอกจากคิมยองกวางแล้ว ในกองถ่ายนี่ก็ไม่มีใครใส่แล้วนะ...? อย่าบอกนะว่าคนที่พูดถึงฉันกับของขวัญด้วยน้ำเสียงโกรธๆ คนนั้นคือคิมยองกวาง O_O!

            ฉันกลับขึ้นมาบนห้องก็เห็นมือถือที่ชาร์ตไว้มีสายไม่ได้รับ 14 สาย ยัยซังมิกระหน่ำโทรมาขนาดนี้ เกิดเรื่องอะไรขึ้นแน่ๆ เลย =_=

            ฉันโทรกลับไปก็ได้ความว่า...

            [แกรีบเปิดดูข่าวตัวเองเดี๋ยวนี้เลยนะ เขาด่ายัยสาวนิรนามทั่วบ้านทั่วเมืองแล้ว]

            “ว่าไงนะ...ข่าวสาวนิรนาม...ฉันเนี่ยนะ?”

            [ใช่ ภาพแกกับกีกวังเดินซื้อของในซุปเปอร์ว่อนเน็ตเลย รีบๆ เข้าไปดู]

            “แกส่งลิ้งค์ข่าวมาเลย จะได้เร็ว”

            [อื้มๆ]

            พอฉันวางสายลิ้งค์ข่าวก็ถูกส่งเข้า in box ในเฟสบุ๊คของฉันอย่างรวดเร็ว ฉันก็กดเข้าไปอ่านอย่างรวดเร็วเช่นกัน พาดหัวข่าวตัวเท่าฝาเชอร่าติดผนังโชว์หราขึ้นมาก่อนเพื่อน

 

          ‘สาวนิรนามได้รับการอภัย...?’

 

            พอเลื่อนลงมาก็มีภาพแอบถ่ายของฉันกับกีกวังตอนที่ไปเดินซื้อของในซุปเปอร์ แล้วที่เด็ดกว่านั้นคือ มีภาพตอนที่กีกวังกอดฉันด้วย >_</// แต่ภาพนี้เห็นไม่ค่อยชัดเท่าไหร่เพราะว่าเป็นภาพจากมุมไกลๆ ยิ่งอ่านเนื้อหาข่าวก็ถึงกับเงิบหงายหลังตกเก้าอี้ไปเลยจ้า!!

           

          ...ข่าววงในรายงานว่า ‘สาวนิรนามนางนี้ ตื้อบีสท์จนกระทั่งพวกเขายอมให้อภัยในความผิดพลาดครั้งแล้วครั้งเล่าที่เธอก่อเอาไว้ แถมยังอ้อนวอนขอให้บีสท์รับเธอเป็นแม่บ้านทำความสะอาดห้องอีกแต่บีสท์ปฏิเสธเธอจึงกลับไปอาละวาดที่หอพัก (ภาพตอนที่ชนกีกวัง) บีสท์จึงต้องรับเธอไว้อย่างไม่มีทางเลือก ตอนนี้บีสท์จนปัญญาที่จะดูแลเธอแล้ว ต่อไปเรื่องคงถึงทางค่าย KB ว่าจะทำอย่างไรกับสาวนิรนามคนนี้’ แหล่งข่าวกล่าว...

 

            ง่ะ -[ ]-!!! นี่น่ะเร๊อะ!!! ข่าววงในบ้านอาบอจีมันน่ะสิ!!! ฉันตื้อพวกเขาตรงไหน พวกเขาเสนอให้ฉันไปอยู่ด้วยซะด้วยซ้ำ แล้วอาละวาดอะไรนั่นน่ะฉันไปทำตอนไหนกัน! บอกฉันหน่อยสิไอ้แหล่งข่าวคนนั้นน่ะ!!

            ฮึ่ม...-*-!! อ่านจบแล้วอัตราการเต้นของหัวใจเพื่อขึ้นเท่าตัวจนหัวใจแทบวาย ให้ตายสิ! อย่าให้เจอนะแม่จะเบิ๊ดกะโหลกให้!

            “ให้ผมจัดการให้ไหมครับ”  อยู่ๆ เสียงของคุณอธิสก็ดังจากด้านหลัง ทำเอาฉันตกใจเกือบจะหงายลงจากเก้าอี้อีกรอบซะแล้ว -_-;

            “คุณอธิส! เข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่คะ”

            “เข้ามาสักพักแล้วครับ ผมเคาะประตูตั้งนานแต่คุณหนูไม่ตอบ ผมกลัวว่าจะเกิดอันตรายกับคุณหนูเลยถือวิสาสะเข้ามาดู ต้องขอโทษด้วยนะครับ”

            “เฮ้อ...ไม่เป็นไรค่ะ ว่าแต่ที่คุณถามฉันว่าให้จัดการ...จัดการอะไรหรอคะ”

            “เรื่องข่าวไงครับ ภาพคุณหนูว่อนเน็ตไปหมดเลย พรุ่งนี้ต้องขึ้นหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์ทุกฉบับแน่ๆ”

            “คุณจะปิดข่าวให้ฉันหรอคะ”  ที่ฉันถามไม่ใช่คิดว่าเขาทำไม่ได้หรอกนะ แต่ฉันคิดว่าคงไม่เป็นไรหรอกมั้ง

            “ใช่ครับ”

            “ฉันว่าไม่เป็นไรหรอกมั้งคะ”

            “แต่พวกของอุนเซมันกำลังจับตาดูคุณหนูอยู่ ถ้าพวกมันเห็นภาพนี้ล่ะก็ มันรู้ได้ทันทีว่ามีใครอยู่ใกล้ชิดคุณหนูบ้าง”

            “เออ...จริงสินะ”  ฉันลืมไปเลยว่ายังมีมาเฟียอีกแก๊งตามล่าอยู่...ส่วนแก๊งทวงหนี้ที่ตามฉันไปขัดดอกให้ลุงกีบป้าคุณอธิสก็จัดการใช้หนี้ไปหมดแล้ว ก็เหลือแต่แก๊งของไอ้อุนเซนี่แหละที่คอยตามล้างตามล่ากันอยู่เนี่ย -_-!

            “งั้น...ทำตามที่คุณคิดว่ามันปลอดภัยแล้วกันค่ะ”

            “ครับ”  คุณอธิสโค้งให้ฉันนิดหน่อย ก่อนจะเดินออกไป

            เวลาผ่านไปเพียง 1 วันภาพข่าวและเนื้อหาข่าวต่างๆ ก็หายวับไปเหมือนไม่เคยมีข่าวแบบนี้เกิดขึ้นมาบนโลก จะมีก็แต่นักข่าวบันเทิงที่พูดเฉียดๆ ข่าวนี้เท่านั้น ฝรมือของคุณอธิสเนี่ยสุดบอดจริงๆ เลยอ่ะ ^_^ แต่ถึงจะปิดข่าวต่างๆ ได้แต่ฉันก็ต้องงดการไปหอบีสท์ชั่วคราวเพราะคุณมะนาว ผู้จัดการของลัสตี้และคุณมินนา ผู้จัดการของบีสท์มาขอร้องฉันถึงคอนโด แบบนี้ฉันคงไม่ด้านพอที่จะไปที่นั่นหรอกนะ U_U;

            แต่กล้องฉันล่ะ...มันยังอยู่ที่นั่นอยู่เลย ฉันก็คิดถึงมันเหมือนกันนะ T^T

           

            ฉันรอประมาณ 2-3 วันฉันก็อดคิดถึงกล้องไม่ได้ก็เลยขอร้องให้คุณอธิสแอบพาไปที่ห้องของลัสตี้แป็บหนึ่ง พอฉันขึ้นมาถึงห้องก็ต้องพบกับความวุ่นวายในห้องของบีสท์แทน

            ตึง!...โครม!...

            “โธ่เอ้ย! นั่นแผ่นเดโม่เพลงใหม่ในอัลบั้มเราเลยนะ”  เสียงจุนฮยองดังลอยมาพร้อมกับเสียงของเคลื่อนย้ายข้าวของครั้งใหญ่

            “หาดีๆ ก่อนเถอะน่า”  เสียงกีกวังลอดมาอีกคน

            “เสื้อคู่ของผมก็หายไปด้วยอ่ะพี่”  เสียงดงอุนโวยวายขึ้นมาอีกคน ฉันหันไปมองคุณอธิสที่ยืนอยู่ข้างๆ อย่างงงๆ ก่อนจะเดินไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น

            ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!

            “โอ้ย! ใครมาตอนนี้วะ!!”  เสียงของจุนฮยองดังใกล้เข้ามาก่อนที่บานประตูจะพรวดออกอย่างรวดเร็ว ถ้าเกิดประตูยี่ห้อไม่ดีหน่อยคงหลุดติดมือขาไปแล้วล่ะฉันว่า =_=;

            “เอ่อ...พวกนายมีปัญหาอะไรกันรึเปล่า โวยวายลั่นเชียว”

            “ไม่มี!!”  พูดจบ จุนฮยองก็เข้าไปพังขอในห้องต่อ

            ดู๊! ดูมันตอบ -*-!

            “เอ่อ...แผ่นเดโม่ที่จุนฮยองมันแต่งไว้หายอ่ะ มันเลยอารมณ์เสียนิดหน่อย เธอมีอะไรรึเปล่า”  กีกวังเดินมาบอกฉันแทน

            “อ๋อ...ฉันมาเอากล้องน่ะ”

            “อยู่ในห้องนั้นหรอ”  กีกวังชี้ไปที่ห้องลัสตี้  “วันนี้ไม่มีใครอยู่เลยนะ เธอคงต้องมาวันอื่นแล้วล่ะ”

            “หรอ...งั้นไม่กวนแล้วนะ”

            “อื้มเดี๋ยวสิ”  กีกวังเรียกฉันไว้ก่อนที่ฉันจะเดินออกมา

            “เธอได้เอา...กุญแจสำรองห้องฉันไปให้ใครดู หรือว่า...ฝากใครไว้บ้างไหม” 

            “ไม่นี่ ก็อยู่กับฉันตลอด...ทำไมหรอ? จะเอาคืน?”

            “เปล่าหรอก ถามดูเฉยๆ น่ะ ^^”

            “อ๋อ...อืม แล้วเจอกัน”  ฉันบอกแล้วเดินออกมา

            ทำไมเขาถามฉันแบบนั้นล่ะ หรือว่าของที่หายนั่นเขาคิดว่าฉันมีส่วนเกี่ยวข้อง!

 

 

 

*******************************

มีใครรอไรท์อยู่ไหมเนี่ย? ^^

....ต้องขอโทษด้วยนะคะที่หายไปนานเลย

พอดีคุณยายของไรท์เสียกระทันหันน่ะค่ะ ไรท์เลยไม่มีเวลามาอัพให้อ่าน ต้องโทษด้วยนะคะ

หลังจากวันนั้น ไรท์รู้สึกตันขึ้นมากระทันหัน แต่งอะไรไม่ได้เลย

ถ้าอ่านแล้วติดขัด ไม่รื่นไหล หรือคำผิดเยอะก็ต้องขอโทษด้วยนะคะ

ไรท์จะพยายามตั้งสติให้ได้เร็วที่สุดค่ะ

:: แด่เธอที่รัก...R.I.P.

********************************

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.2 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา