[B2ST/Beast] Dream Story รักนี้ให้นาย...เจ้าชายอสูร

8.9

เขียนโดย Kreota

วันที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 เวลา 00.14 น.

  87 ตอน
  86 วิจารณ์
  97.51K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2557 22.21 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

75) [Episode 6 :: Lie Lover] # Chapter 7

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

Episode 6 Lie Lover

:: Chapter 7 ::

 

            อ้อมแขนแข็งแกร่งของเขาส่งผ่านความอบอุ่นและความปลอดภัยมาให้ทันทีที่สัมผัส ฉันมัวแต่อึ้งกับวิธีการพรางตัวของเขาจนลืมคิดไปเลยว่าซอลทังมันเดินเข้ามาใกล้แล้ว วิธีนี้หวังว่าคงจะช่วยได้นะ >////<

            เสียงฝีเท้าของซอลทังดังใกล้เข้ามาเรื่อยๆ จนกระทั่งมาหยุดอยู่ใกล้ๆ ฉันกับกีกวัง หัวใจของฉันเต้นรัวมากยิ่งขึ้น (ก่อนหน้านี้ก็เต้นรัวอยู่แล้วนะ -///-) กีกวังเหมือนจะรู้ตัวว่าซอลทังหยุดอยู่ข้างหลัง เขาเลยกระชับอ้อมแขนเข้ามามากขึ้นอีก

            “เฮ้อ...วัยรุ่น”  มันถอนหายใจใส่ฉันกับกีกวังก่อนจะเดินไปแผนกอื่น

            “ยัยคุณหนูนั่นอยู่ไหนนะ…ข่าวมั่วรึเปล่าเนี่ย”  สิ้นเสียงบ่นและเสียงฝีเท้าของซอลทัง กีกวังก็ปล่อยฉันเป็นอิสระ

            “เอ่อ...โทษที ฉันคิดวิธีอื่นไม่ออก” 

            “ไม่เป็นไร”  ฉันบอกแต่ไม่ได้เงยหน้าไปมองกีกวังหรอกนะว่าเขาทำหน้ายังไง เพราะฉันเองก็ทำหน้าไม่ถูกเหมือนกัน >/////<

            “งั้น...เรารีบออกจากที่นี่ก่อนดีกว่า”

            “อื้ม -////-”  ฉันรับคำ แล้วกีกวังก็จับมือฉันวิ่งออกมาจากซุปเปอร์นั้นทันที ของเขิงก็ไม่ต้องซื้อกันล่ะค่ะงานนี้ โกยเถอะโยมมม >_<~

            “เฮ้ย! หยุดนะ!!!” 

            เราวิ่งออกมาจนถึงประตูก็เจอกับลูกน้องของซอลทัง 2 คนยืนขวางอยู่ ถ้าวิ่งฝ่าออกไปต้องเจอพวกของซอลทังรออยู่อีกแน่!

            “ทางหนีไฟ”  ฉันชี้ไปที่ป้ายทางหนีไฟแล้วเปลี่ยนเป็นฝ่ายลากกีกวังออกมาแทน >.< เราวิ่งออกมาจากซุปเปอร์ได้อย่างหวุดหวิดโดยใช้ประตูหลังของร้าน แต่ฉันคิดผิด...ซอลทังมารออยู่ที่นี่แล้ว!

            “จนมุมแล้วคุณหนู”  ซอลทังพูดพร้อมกับย่างสามขุมเข้ามาหาฉันพร้อมลูกน้องอีก 3 คน >.<! ส่วนประตูหนีไฟที่เราเพิ่งออกมาก็มีลูกน้องซอลทัง 2 คนขวางเอาไว้

            “ทางนี้!”  กีกวังบอกพร้อมกับกระตุกมือฉันให้วิ่งไปกับเขา นั่นเขาจะไปไหนมันไม่มีถนนที่จะไปได้แล้วนะ ตรงนี้ก็มีแค่ป่าดงดิบมืดๆ เท่านั้นเอง!

            กีกวังพาฉันวิ่งฝ่ากิ่งไม้และดงหญ้าที่ขึ้นสูงจากหัวไปประมาณ 1 ฟุตอย่างทุลักทุเล แถมพื้นก็ยังมีแต่โคลนเต็มไปหมดทำให้การหนียากลำบากเข้าไปอีก แล้วจู่ๆ เขาก็จับฉันให้นั่งลงหลังพงหญ้าแล้วใช้แขนโอบรอบตัวฉันไว้

            “อะ-ไร”  ฉันถามออกไปโดยไม่มีเสียง กีกวังไม่ตอบแต่เขาใช้นิ้วชี้ขึ้นมาทำท่าจุ๊ๆ ที่ปากแทน

            “เฮ้ย! เจอไหม!”  เสียงซอลทังดังก้องไปทั่ว ด้วยความมืดของช่วงเวลาโพล้เพล้และเสียงเท้าที่ย่ำโคลนทำให้เกิดความสับสนได้ไม่น้อยว่าใครเป็นใคร

            “ไม่เจอครับ!”

            “ทางนั้นล่ะ”

            “ไม่มีครับ” 

            “พวกมันต้องอยู่แถวนี้แหละ หาให้ทั่ว!!”  ซอลทังสั่งก่อนที่เสียงย่ำโคลนอย่างบ้าคลั่งจะเริ่มขึ้นอีกครั้ง

            ฉันไม่รู้ว่ากีกวังกำลังคิดจะทำอะไรเพราะว่ามันมืดมากฉันเลยไม่สามารถอ่านจากสีหน้าท่าทางของเขาได้ แต่ที่รู้คือตอนนี้เขายังอยู่ใกล้ๆ ฉันเพราะลมหายใจหอบเร็วของเขามันกำลังปะทะหน้าของฉันอยู่

            นี่ฉันพาเขามาลำบากด้วยหรอเนี่ย! ฉันขอโทษนะกีกวัง...(_ _;)

            ว๊าบ!!

            “ทางนี้ครับ!”

            ใจฉันกระตุกวูบไปทีหนึ่ง เมื่ออยู่ๆ ก็มีลำแสงใหญ่ๆ จากไฟฉายส่องมาที่ฉันกับกีกวัง พร้อมกับเสียงเรียกของใครคนหนึ่ง

            “เฮ้ย!! มันอยู่นั่น”  เสียงของซอลทังดังมาจากอีกฟากแต่ก็ใกล้มากแล้ว ฉันเลยไม่มีเวลาคิดอะไรมากกว่านี้อีกแล้ว ไปกับคนที่มาเรียกนี่แหละวะ! >_<!

            ฉันกับกีกวังเดินตามคนที่ถือไฟฉายออกมาจากพงหญ้ารกทึบนั้นอย่างปลอดภัย โดยมีเสียงการต่อสู้ฉากหนึ่งดังขึ้นภายในพงหญ้าก่อนที่ทุกอย่างจะสงบลงอย่างรวดเร็ว

            “คุณหนูปลายฝนใช่ไหมครับ”  ผู้ชายที่นำทางฉันออกมาเอ่ยถาม

            “ชะ...ใช่ คุณเป็นใครคะ”  ฉันตอบแล้วแอบเหลือบมองกีกวังนิดหน่อย เขากำลังมองผู้มาใหม่คนนี้อย่างไม่ค่อยไว้ใจ ฉันก็ด้วย...ไม่รู้ว่ามาดีหรือร้าย แต่ถึงอย่างนั้นก็ยอมมากับเขาแล้วล่ะ =_=;

            “ผมอธิสครับ ท่านโชอึนซูให้ผมมาดูแลคุณหนูระหว่างที่ท่านติดภารกิจที่ประเทศไทย”  ผู้ชายคนนั้นแนะนำตัวอย่างเป็นทางการพร้อมกับโค้งให้ฉัน 90 องศา

            “เอ่อ...สวัสดีค่ะ คุณมาช่วยฉันได้ทันเวลาพอดีเลย”  ฉันยิ้มให้เขาหลังจากที่เขาเงยหน้าขึ้นมาแล้ว ใบหน้าเรียวๆ คมๆ แบบนี้ไม่เห็นเหมือนคนเกาหลีเลยแฮะ ออกแนวหล่อแบบพระเอกหนังไทยมากกว่านะ

            “เฮ้ย!”  อยู่ๆ กีกวังก็ร้องขึ้นมา

            “คุณคือ...คุณอธิส ที่...เป็นสปอร์นเซอร์ให้ Lusty อยู่ช่วงหนึ่งใช่ไหมครับ”  กีกวังถามเหมือนพวกเขารู้จักกันมาก่อนหน้านี้แล้ว

            “อ๋อ ใช่ครับ ตอนแรกที่รู้ว่าคุณหนูปลายฝนอยู่กับพวกคุณผมตกใจมากเลย แต่ดีใจนะที่ได้พบกันอีกครั้ง”

            “แล้วคุณทำไมถึงได้มาคุ้มกันปลายฝนแบบนี้ล่ะครับ”

            “ท่านโชอึนซูเป็นผู้มีพระคุณของผม ท่านคอยช่วยผมไว้หลายครั้งผมเลยอยากจะตอบแทนท่านบ้าง” 

            “คุณอธิสครับ...”  จู่ๆ ลูกน้องที่มาพร้อมคุณอธิสก็เข้ามากระซิบบอกอะไรบางอย่าง ก่อนจะเดินกลับไปยืนที่เดิม

            “ผมว่าเราออกจากที่นี่ก่อนดีกว่า พวกของอุนเซกำลังมา” 

            “ค่ะ”  ฉันรับคำอย่างงงๆ พวกเขาไม่คิดจะเล่าให้ฉันฟังเลยรึไงว่ารู้จักกันเมื่อไหร่ เรื่องราวมันเป็นยังไง มัวแต่คุยเรื่องที่รู้กันอยู่ 2 คนอยู่ได้ =_=

            ฉันกลับมาที่รถของกีกวังและกลับหอโดยมีรถของคุณอธิสตามหลังมาติดๆ ทีแรกกีกวังอยากจะให้ฉันไปพักอยู่ที่คอนโดที่พ่อจัดไว้ให้ แต่ฉันเป็นห่วงเขาเลยอ้างว่าลืมของ 2-3 อย่างอยู่ที่หอ เขาเลยยอมให้ฉันกลับมาที่หอด้วย

            คุณอธิสพาฉันขึ้นมาที่หอบีสท์อย่างคุ้นเคยเหมือนเคยมา -_-? และทันทีที่เขาเปิดประตูเข้าไปในห้อง ทุกคนก็ทักทายเขาเหมือนเป็นเพื่อนเก่าเพื่อนแก่ที่ไม่ได้เจอกันมาเป็น 10 ปี จากที่ฟังๆ เขาคุยกันและจับใจความได้ คุณอธิสเคยจีบณัชแหละ กรี๊ดๆ >////< เขาเลยมีสัมพันธ์แน่นแฟ้นกว่าสปอร์นเซอร์ปกติธรรมดาถึง 5 ระดับ (คืออะไร -_-?) แต่ท้ายที่สุดฮยอนซึงก็ชนะใจณัชได้ คุณอธิสก็เลยอกหักดังเป๊าะ เฮ้อ...เรื่องนี้แอบเศร้าอยู่นะ Y.Y

            หลังจากดูแน่ใจแล้วว่าอุนเซไม่ได้ตามมาที่หอและทุกคนปลอดภัยดี คุณอธิสก็พาฉันมาที่บ้านใหม่นั่นคือคอนโดระดับ 5 ดาวที่พ่อจองไว้ให้

            “ขอบคุณมากนะคะ”  ฉันบอกคุณอธิสเมื่อเขาเดินมาส่งถึงประตูห้อง

            “ถ้ามีอะไรเรียกผมได้ตลอดเวลานะครับ ผมจะมาถึงภายใน 3 นาที”  คุณอธิสบอกพร้อมกับยื่นนามบัตรมาให้ฉัน

            “เอ๊ะ! คุณเป็นคนไทยหรอคะเนี่ย”

            “ใช่ครับ มาทำธุรกิจที่เกาหลีแล้วรุ่งก็เลยลงหลักปักฐานที่นี่น่ะ”

            “อ๋อหรอคะ...”  ฉันพยักหน้ารับแล้วเก็บนามบัตรไว้ในกระเป๋า “แล้วคุณพ่อบอกไหมว่าจะมารับฉันเมื่อไหร่”

            “ท่านไม่ได้แจ้งไว้ครับ แต่ท่านบอกว่าถ้าเกิดคุณหนูอยากจะกลับบ้านก่อนท่านมารับก็กลับได้เลย แต่ต้องบอกล่วงหน้าสัก 2-3 วัน เพราะท่านจะส่งคนมาคุ้มกันเพิ่ม”

            “ตอนนี้ที่ไทยยุ่งมากเลยหรอคะ หรือว่า...มีอะไรรึเปล่า ทำไมต้องส่งคนมาคุ้มกันเพิ่มด้วย”

            “มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับผลประโยชน์ทางธุรกิจน่ะครับ ตอนนี้ท่านโชกำลังจะลงทุนทำธุรกิจใหม่ คนที่จ้องจะเล่นงานเลยมีเพิ่มขึ้น เราเลยต้องระวังในทุกๆ ทางเพื่อที่จะไม่เปิดช่องว่างให้คู่แข่ง...ผมเล่าให้ฟังได้เท่านี้ รายละเอียดคุณหนูคงต้องไปถามท่านโชเองนะครับ”

            “เฮ้อ...ขอบคุณค่ะ คุณเล่าให้ฟังแค่นี้ก็มากเกินพอแล้ว เพราะถึงฉันถามพ่อก็คงไม่บอกฉันมากไปกว่านี้หรอก”

            “งั้น...พักผ่อนเถอะครับ”

            “ค่ะ ขอบคุณอีกครั้งนะคะ ^^”

           

 

            วันรุ่งขึ้นฉันตื่นขึ้นมาก็เจอกล้องและเลนส์ครบชุดวางไว้ที่โต๊ะห้องกินข้าว ให้ทายว่าของใคร...ติ๊กต็อก! ติ๊กต็อก!...ก็ของฉันไง >O<! ไม่รู้ว่าคุณอธิสเอามาให้ไง แต่เก่งเวอร์อ่ะ!...บางทีเก่งเกินก็ไม่ดีนะเพราะขนาดเรื่องกล้องกับเจ๊ยอซูเขายังรู้ แสดงว่าเรื่องทั้งหมดเกี่ยวกับฉันเขาก็สืบมาหมดแล้วงั้นสิ O_O?

            คุณอธิสพาฉันแวะมาเอาของใช้ที่บ้านของขวัญตั้งแต่เช้าก่อนจะมาปล่อยฉันไว้ที่หอพักของบีสท์เพราะว่าเขามีธุระต้องไปทำให้พ่อนิดหน่อย ความรู้สึกเหมือนเขามาเป็นผู้ปกครองมากกว่าบอร์ดี้การ์ดนะฉันว่า =_=;       

            แชะ!

            “ยิ้มหน่อยสาวๆ ^O^”  ฉันเดินเข้าไปในห้องของลัสตี้พร้อมกดชัตเตอร์ไปหนึ่ง 1 ช็อต มันติดภาพของเฝ้าฝันกำลังขยี้ผมโยซอบพอดีเลย แบบว่าน่ารักฟรุ้งฟริ้งมากๆ อ่ะ >////< (ขอใช้ศัพท์วัยรุ่นนิดเพื่อความอินเทรน ฮ่าๆๆ)

            “อ้าว แอบถ่ายนี่ >.<”  โยซอบลนลานมาดูภาพอย่างไว  “ห้ามเอารูปฉันไปขายเลยนะ”

            “ไม่มีทางหรอกน่า ตอนนี้ฉันมีเงินใช้เหลือเฟือ ไม่จำเป็นต้องเอาไปขายแล้ว” 

            “จ้ะ แม่คนรวย ชิ!”  เสียงของหยาดังออกมาจากห้องครัวอย่างหมั่นไส้  “ว่าแต่เธอเถอะ ยังไปยุ่งกับยัยเจ๊ยอซูนั่นอีกรึเปล่า”

            “เปล่าไม่ได้ยุ่งนานแล้ว กล้องเนี่ยคุณอธิสก็เอามาคืนให้”

            “เจ๋งอ่ะ อยากมีบอร์ดี้การ์ดแบบนี้บ้างจัง >_<”  หยาทำท่าดี๊ด๊าขณะขนน้ำและขนมมาวางไว้หน้าทีวี

            “นี่อยู่กันแค่นี้หรอ”  ฉันถามพร้อมกับมองไปทั่วห้อง วันนี้ห้องเงียบผิดปกตินะ

            “ใช่ คนอื่นไปถ่ายรายการกับถ่ายละครหมด แต่บีสท์อยู่ครบนะแค่ยังไม่ตื่น”  เฝ้าฝันบอก

            “แบบนี้ห้องฉันก็รกน่ะสิ ไม่มีแม่บ้านมาทำความสะอาดแบบนี้”  โยซอบยังคงบ่น นี่นายเห็นคุณค่าของฉันเฉพาะเวลาปัดกวาดเช็ดถูรึไง =_=

            “แล้ววันนี้มีอะไรรึเปล่า มาแต่เช้าเชียว”  เฝ้าฝันถามตัดบท คนนี้ก็วิชาการมาเชียวอยู่กับโยซอบได้ไงเนี่ยถามจริง?

            “ฉันไม่มีเพื่อนน่ะ คุณอธิสต้องไปทำธุระให้พ่อเขาเลยมาส่งฉันไว้ที่นี่ เขาบอกว่าที่นี่น่าจะปลอดภัยกว่า”

            “อ๋อ ดีแล้วล่ะ อยู่ด้วยกันเยอะๆ จะได้อบอุ่น ^^”  หยาบอก  “ฉันว่ามาเล่นกล้องเธอกันดีกว่า อยากถ่ายรูปอัพโปรไฟล์ใหม่”

            “เอาสิ ^O^”

            “นี่เธอ!!”  ระหว่างที่เรากำลังเซ็ทฉากถ่ายรูป ก็มีผู้หญิง 2 คนเดินเข้ามาในห้องพัก เอ่อ...พวกเขาคือใคร =_=?

            “คนที่เป็นข่าวไม่ใช่หรอน่ะ” 

            “ใช่ค่ะพี่มะนาว”  เฝ้าฝันบอก

            “แล้วทำไมถึง?...”  คนที่ชื่อมะนาวกำลังจะถามต่อ หยาเลยรีบตอบออกไปก่อน

            “ที่จริงเขาเป็นเพื่อนของพวกเราเองน่ะค่ะพี่” 

            “แต่พี่ว่าไม่น่าจะให้เข้ามาในห้องแบบนี้นะ ช่วงนี้ยิ่งเป็นข่าวบ่อยๆ อยู่”  พี่อีกคนหนึ่ง (ที่ไม่ใช่พี่มะนาว) พูดเหมือนโกรธๆ

            นี่ฉันนำพาความซวยมาให้พวกเขาอีกแล้วใช่ไหมเนี่ย U_U

            “พี่มิวกี้คะ เขาแค่แวะมาหาเฉยๆ ค่ะ ไม่ได้มาค้างสักหน่อย”  เฝ้าฝันอธิบายช่วยอีกคน

            “แล้ว เธอเป็นใครล่ะ”  พี่มะนาวหันมาสนใจฉันบ้างแล้ว

            “อ๋อ ชื่อปลายฝนค่ะ”

            “คนไทย?”

            “ค่ะ”

            “เพื่อนมาจากไทยนี่เอง ตามสบายนะ”  พี่มะนาวยิ้มมาให้ฉันอย่างเป็นมิตร แต่พี่ที่ชื่อมิวกี้นี่สิ ยังหน้าหงิกใส่ฉันอยู่เลย

            “ตามสบายได้ไงล่ะมะนาว เธอก็เห็นว่าเพราะเด็กคนนี้แหละ บีสท์ถึงมีข่าวดังคึกโครมขนาดนั้น >.<”

            “เอาน่า เพื่อนเขามาเยี่ยมกันเฉยๆ นี่ จะห้ามทำไม...พี่ไปนะ แค่แวะมาเอาของให้วิลล่าเฉยๆ น่ะ”  ประโยคสุดท้ายพี่มะนาวหันไปบอกหยากับเฝ้าฝัน ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องและกลับออกมาพร้อมกระเป๋าใบเล็กๆ ในมือ

            เฝ้าฝันบอกว่าพี่มะนาวเป็นผู้จัดการของ Lusty ส่วนพี่มิวกี้เป็นครูสอนคลาสแอ็คติ้งที่สนิทกัน พี่เขาเลยมาเป็นผู้ช่วยผู้จัดการวงอีกที แต่ดูพี่เขาไม่ค่อยชอบฉันเลยอ่ะ Y_Y แต่ช่างเถอะ ไม่ชอบก็อย่าชอบในเมื่ออีกหน่อยฉันก็จะกลับเมืองไทยอยู่แล้ว ^_^

            หลังจากที่ถ่ายรูปกันจนแบตกล้องหมด เราก็พักด้วยการทำอาหารกลางวันกินกัน วันนี้เฝ้าฝันกับหยาขอเมนูอาหารไทยฉันก็ยินดีทำให้ ไม่อยากจะคุยว่าฉันทำอาหารเก่งนะ อร่อยมากด้วย ไม่ได้โม้~ ^O^

            เราช่วยกันทำอาหาร 2-3 อย่างเสร็จก็ได้เวลามื้อกลางวัน โดยมีเพื่อนร่วมโต๊ะคือบีสท์ทั้งวง เฝ้าฝัน หยาและฉัน พวกเขากำลังมองแกงเขียวหวานไก่ ต้มยำกุ้ง และกะเพราหมูสับของฉันอย่างประหลาดใจ พวกเขากำลังทึ่งที่มันน่ากินหรือว่ากำลังลังเลว่าจะกินได้หรือไม่ได้กันแน่เนี่ย -_-;

            “ลองชิมดูสิ อร่อยนะฉันชิมแล้ว ^^”  หยาบอก บีสท์มองหน้ากันไปมาก่อนจะลงมือตักไปคนละช้อนก่อนจะค่อยๆ เอาเข้าปากเหมือนภาพสโลโมชั่น...

            “อ๊าาาา เผ็ดๆๆๆๆๆ”  พวกเขาร้องออกมาเป็นเสียงเดียวกันแบบนี้แหละ =_=

            “น้ำๆๆๆๆ ขอน้ำหน่อย!!!”  ตามมาด้วยประโยคนี้ Y.Y

            “เอ่อ...ฉันลืมไปว่าเขากินเผ็ดมากๆ ไม่ได้”  หยาแอบกระซิบบอกเหมือนกำลังพยายามปลอบใจฉันอยู่ ไม่ทันแล้วหยา...ใจเสียไม่เหลือซากแล้ว T^T

            “ไม่อร่อยหรอ”  ฉันถามออกไปหลังจากที่สถานการณ์เริ่มสงบ

            “อร่อย แค่เผ็ดไปหน่อยน่ะ ^^;”  ดูจุนบอกพร้อมกับปาดเหงื่อที่ผุดออกมาจากหน้าผากออก

            “นี่เธอจะฆ่าฉันใช่ไหมเนี่ย”  << จุนฮยอง -_-;

            “เฮ้อ...ไม่ไหวๆ”  << ฮยอนซึง -_-;;;

            ฉันรู้ว่า First impression ระหว่างเรามันไม่ค่อยดี แต่อย่าทับถมกันขนาดนี้ได้ไหมเล่า T^T

            “ก็พอกินได้นะ จัดจ้านดี”  ดงอุนบอกพร้อมกับจิบแกงเขียวหวาน 1 จิบ ขนาดแกงเขียวหวานยังเผ็ดงั้นหรอ -_-;

            “นั่นสิ อร่อยจะตาย”  กีกวังบอกพร้อมกับตักไก่จากถ้วยแกงเขียวหวานไปวางไว้ในจานทั้งที่มีเหงื่อเม็ดเท่าเล็บขบช้างผุดออกมาจากขมับอย่างต่อเนื่องก็เถอะ

            เฮ้อ...นายอย่าพยายามขนาดนั้นเลยกีกวัง ฉันรู้ว่าอาหารมันไม่ถูกปากนายเลย T^T

 

 

 

 

 

***************************************

Chapter 7 มาเสริฟแล้วค่า ^O^

อยากมีโมเม้นแบบว่า ไปทำกับข้าวให้กินแบบนี้บ้างจังอิอิ 

แต่ติดอยู่นิดเดียว ไรท์ทำกับข้าวไม่เป็น ฮ่าๆๆๆ

ยังไงก็ฝากติดตามต่อด้วยนะคะ

รับรองได้บู๊กระจาย (ไม่ได้สปอยเลยนะเนี่ย ฮ่าๆๆๆ)

ไว้เจอกันใหม่ตอนหน้าค่ะ ^O^

****************************************

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.2 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายฟิคชั่นเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา