[B2ST/Beast] Dream Story รักนี้ให้นาย...เจ้าชายอสูร

8.9

เขียนโดย Kreota

วันที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 เวลา 00.14 น.

  87 ตอน
  86 วิจารณ์
  110.96K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2557 22.21 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

4) [Episode 1 :: Leader Lover] # Chapter 4

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

Episode 1 Leader Lover

:: Chapter 4 ::

 

            ฉันรีบเปิดเปลือกตาขึ้น ก็เห็นหน้าของดูจุนลอยไปมาอยู่ตรงหน้าฉัน ขอย้ำว่ามันอยู่ตรงหน้าฉัน!! ฉันกระพริบตาถี่ๆ ขณะที่หน้าของดูจุนเลื่อนเข้ามาใกล้เรื่อยๆ

            “เฮ้ย!! นายทำบ้าอะไรเนี่ย”  ฉันรีบผลักหน้าดูจุนออกแล้วรีบหันหน้าหนีทันที >///< แต่ฉันก็ยังคงพูดภาษาไทยอยู่ดี ว่าแต่คนอื่นนะฉัน =_=//

            “อะไร เขินหรอ?”  ดูจุนเลื่อนหน้าเข้ามากระซิบที่ข้างหู ฉันเลยหันกลับไปกะว่าจะค้อนเขาสักทีแต่กลับหันไปชนกับจมูกของดูจุนที่อยู่ใกล้ๆ พอดี อ๊ากส์ >_<// นี่ฉันเพิ่งโดนหอมแก้มหรอเนี่ย!

            “ไอ้...ไอ้โรคจิต!!”  ฉันถูๆ แก้มตัวเองขณะที่ดูจุนหัวเราะร่วน

            “นั่นไงๆ พูดเกาหลีแล้ว! ^^”  ดูจุนชี้มาที่ฉันพร้อมกับยิ้มกว้าง อุ้ย! พูดออกไปซะแล้ว -_-;;

            “รู้งี้น่าจะหอมแก้มตั้งแต่แรกนะ จะได้คุยกันรู้เรื่อง ^^”  ดูจุนยังคงยิ้มกว้างมาให้ฉัน ส่วนฉันก็ยังคงตั้งอกตั้งใจถูแก้มตัวเอง (แก้เขิน) ต่อไป -///-

            “ก็ฉันโดนสั่งห้ามไม่ให้พูด”  ฉันบอกแล้วหันไปพิงกับระเบียงดาดฟ้าแทนการคุยกับเขาตรงๆ

            “ใครอ่ะ สั่งอะไรแปลกๆ”  ดูจุนเดินมาพิงระเบียงอยู่ข้างๆ ฉัน ดูเขาทำตัวสบายๆ เหมือนเมื่อกี๊ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย สงสัยจะหอมแก้มผู้หญิงบ่อยล่ะสิ ใช่สินะ! ก็เพลย์บอยประจำวงซะอย่าง แค่หอมแก้มคงเป็นเรื่องปกติธรรมดาไปแล้ว -///-!!

            “คิดอะไรอยู่น่ะ”  ดูจุนเอียงคอถาม  “อย่าบอกนะว่ายังโกรธที่...”  ดูจุนชี้ที่แก้มตัวเองแทนคำพูดแล้วเม้มปากทำตาโตๆ ใส่ฉัน คิดว่าน่ารักนักรึไงยะ >///<!

            “ฉันจะไปซ้อมแล้ว!”  ฉันพูดแล้วเดินรีบเดินลงมาจากดาดฟ้าทันที ทำไมใจเต้นแรงแบบนี้เนี่ย...ไม่นะๆ ห้ามหวั่นไหวเด็ดขาดนะยะยัยเภ!! >_<!

            “ช้าจังนะเภ”  พี่มะนาวเข้ามาตีต้นแขนฉันเบาๆ

            “แฮ่ๆ โทษทีค่ะพี่มะนาว ^^;”  ฉันยิ้มแหยๆ ให้พี่มะนาว

            “แล้วเภเจอกับดูจุนรึเปล่า เขาบอกว่าเขาจะไปตามเภให้”

            “อ๋อ...มะ ไม่เจอนี่คะ -///-“  ฉันพูดแล้วรีบเปลี่ยนเรื่อง  “แล้วตกลงคอนเซ็ปงานเป็นยังไงหรอคะพี่มะนาว?”

            “ก็เพราะพี่จะบอกคอนเซ็ปนี่แหละ คนอื่นเขาถึงได้ตามหาเธอกันทั่ว”  พี่มะนาวส่งสายตาตำหนิมาที่ฉัน

            “อ้าว! กลับมาแล้วหรอเนี่ย”  ดูจุนเดินเข้ามาในห้อง แล้วทำเป็นตกใจที่เห็นฉันกลับมาแล้ว เล่นละครเก่งจริงๆ นะนาย -///-

            “มากันครบแล้ว เราก็มาคุยเรื่องคอนเซ็ปงานกันเลยแล้วกันนะ”  พี่มะนาวเริ่มเข้าเรื่องด้วยภาษาเกาหลี

            “การแสดงจะแบ่งเป็นสามชุด ชุดแรกจะเป็นการเต้นคู่เบาๆ หกคู่ ใครคู่ใครพี่คงไม่ต้องบอกเพราะยึดตามตำแหน่งที่โคฟเวอร์ โอเคไหม?”  คำถามสุดท้ายดูเหมือนพี่มะนาวจะหันมาถามฉันอย่างเจาะจง =_=;;

            “ค่ะ/ครับ”  พวกเรารับคำ แต่เสียงของดูจุนดังกว่าคนอื่นๆ จนเพื่อน Beast ของเขาต้องร้องแซว =///=!

            “ชุดที่สอง จะเป็นการเต้นแบทเทิลกันระหว่างบีสท์กับบีสท์เกิร์ล หวังว่าเภตราคงไหวนะ?”  อันนี้พี่มะนาวก็หันมาถามฉันอีกแล้ว ดูเหมือนฉันจะกลายเป็นตัวปัญหาของทีมไปซะแล้วล่ะ =_=;;

            “ไหวค่ะ =_=”  ฉันตอบ

            “ส่วนชุดสุดท้าย จะเป็นการร้องเพลประสานกันของบีสท์กับบีสท์เกิร์ล”

            “เพลงอะไรหรอครับ”  ดูจุนถาม

            “เพลง The Fact กับ Fiction ค่ะ”  พอรู้ชื่อเพลงก็พากันร้องอ๋อทันที

            “เอาล่ะ วันนี้จะซ้อมเต้นคู่กับร้องประสานเสียงแล้วกันนะ”  พี่มะนาวสรุปและเริ่มซ้อมทันทีเพราะครั้งนี้เป็นโปรเจ็กต์เร่งด่วน เราเลยต้องทำเวลาสักหน่อย หลังจากซ้อมไปสักพักห้องซ้อมทั้งห้องก็คุยแต่ภาษาเกาหลีกัน บางครั้งฉันกับเพื่อนก็ยังเผลอคุยภาษาเกาหลีกันเฉยเลยเพราะคนที่มาสอนเต้นก็คนเกาหลี สต๊าฟคังยูที่พี่นาบีส่งมาดูแลการซ้อมก็พูดเกาหลีเลยแยกประสานไม่ค่อยออก เรื่องโหมด 2 ภาษาเนี่ย คงต้องปรึกษาพี่มะนาวอีกเยอะเลยล่ะ =_=

            “ฉัน...ขอโทษนะ ที่พูดกับแกแบบนั้น”  เฝ้าฝันเดินมานั่งลงข้างๆ ฉันขณะที่ให้หยุดพัก ตอนนี้เฝ้าฝันปรับมาเป็นโหมดภาษาไทยแล้ว

            “ไม่เป็นไรหรอก ดีซะอีกฉันจะได้ระวังตัวเองไม่ให้หลงผิดมากไปกว่าเดิม”  ฉันพูดพร้อมกับยกน้ำขึ้นดื่มอย่างสบายๆ เพื่อไม่ให้ยัยฝันคิดมาก

            “แล้วตอนนี้เป็นไงบ้างล่ะ”

            “ก็...กำลังหาทางกลับอยู่ ^^”  ฉันตอบไปอย่างไม่อ้อมค้อม เฝ้าฝันยิ้มมุมปากนิดหน่อยแล้วยกน้ำตัวเองขึ้นดื่มบ้าง

            “ว่าแต่แกเถอะ ทำไมช่วงนี้อ่านหนังสือบ่อยจัง โทรมหมดแล้วเนี่ย”  ฉันพูดพร้อมกับเอื้อมมือไปจับหน้าเฝ้าฝันหมุนไปมา

            “ฉันใกล้จะได้ฝึกงานแล้ว เลยต้องเตรียมตัวนิดหน่อย”

            “แต่ฉันว่าไม่นิดแล้วมั้ง”

            เฝ้าฝันหัวเราะในลำคอ แล้วหยิบหนังสือขึ้นมาอ่าน เฮ้อ...พูดยังไม่ทันขาดคำ อ่านอีกละ -_-;

          

            “เอาล่ะ วันนี้พอแค่นี้ ขอบคุณทุกคนที่ช่วยกันฝึกฝนอย่างหนักในสองวันที่ผ่านมา”  อาจารย์ชาวเกาหลีที่มาสอนเต้นพูดทิ้งท้ายการฝึกซ้อมวันสุดท้าย

            “ค่ะ/ครับ”  พวกเรารับคำอย่างแข็งขัน

            มันเป็น 2 วันที่สุดแสนจะทรหดของพวกเราจริงๆ ซ้อมโคฟเวอร์เพื่อโปรโมทโรงเรียนคังยูครั้งแรกในชีวิตยังไม่หนักขนาดนี้เลยอ่ะ แต่ฉันก็พอใจมากที่ผลลัพท์ของวันนี้มันออกมาดีมากจนไม่คิดว่าจะใช้เวลาซ้อมแค่ 2 วัน ถึงแม้ท่าเต้นตอนเข้าคู่ของฉันมันจะล่อแหลมมากก็เถอะนะ =_=;

            ชึบ!

            อยู่ๆ ฉันก็รู้สึกเย็นที่แก้ม ฉันเลยหันไปมองก็เห็นดูจุนเอาขวดน้ำแตะที่แก้มฉันอยู่

            “อ่ะ”  ดูจุนยื่นขวดน้ำให้ฉัน

            “ขอบคุณ”  ฉันรับมาแล้วเปิดดื่มทันที เพราะตอนนี้เหงื่อท่วมตัวฉันหมดแล้ว

            “วันนี้เธอทำได้ดีมากเลยนะ”  ดูจุนนั่งลงข้างๆ ฉัน การซ้อม 2 วันมานี้ ทำให้ฉันกับดูจุนคุยกันมากขึ้นแล้วก็สนิทกันมากขึ้น จนฉันคิดว่ามันอาจจะมากเกินไปรึเปล่า? แล้วแบบนี้ฉันจะหาทางกลับเจอไหมล่ะเนี่ย =_=

            “นายก็เหมือนกัน ทำได้ดีมาก”  ฉันตอบๆ ไปงั้นแหละ ที่จริงก็ไม่ได้ดีเท่าไหร่หรอก (อคติ -_-*)

            “พรุ่งนี้เราจะซ้อมอีกไหมคะพี่มะนาว”  ดอกหลิวถามขณะที่เปิดโน้ตบุ๊คเพื่อทำรายงานต่อ วันนี้ดูจะมีแต่คนยุ่งๆ นะ ทั้งดอกหลิวที่ต้องปั่นรายงานที่ดองไว้มานานนม แล้วก็เฝ้าฝันเจ้าเก่าเจ้าเดิมเจ้าประจำของความยุ่งก็กลับไปทันทีที่ซ้อมเสร็จ แต่ถึงจะยุ่งยังไงพวกเราก็ทุ่มเทให้กับงานนี้อย่างเต็มที่ เพราะมันเป็นงานใหญ่และงานสำคัญสำหรับพวกเรา

            “ผอ. บอกว่าไม่ต้องซ้อมแล้ว เพราะว่าอัดรายการตอนเช้า”

            “อ๋อ ค่ะ”  ดอกหลิวรับคำแล้วพิมพ์อะไรยุกยิกๆ อย่างรีบร้อน คงจะดองไว้หลายงานน่ะสิท่า =_=

            “พรุ่งนี้พี่นา...ผอ.จะไปดูไหมคะ”  ฉันถามพี่มะนาว แต่ก็ต้องชะงักตรงคำว่า ‘พี่นาบี’ เพราะพี่มะนาวส่งสายตาประหลาดๆ มาให้ฉัน มันคงจะฟังดูแปลกๆ ที่ฉันเรียกพี่นาบีว่า ‘ผอ.’ เมมเบอร์คนอื่นๆ ของฉันเลยหันมามองด้วยความสงสัย

            “ผอ. บอกว่า ถ้าว่างจะแวะไป”  พี่มะนาวพูดแล้วเดินไปปรึกษากับทีมงานคนอื่นต่อ

            เราช่วยกันเก็บของแล้วเดินออกมาพร้อมๆ กับทีมงานคนอื่นๆ พอเดินมาถึงที่จอดรถของคังยูก็เกิดเรื่อง!

            “เฮ้ย!”  ฮยอนซึงอุทานออกมาคนแรก

            “รถบีสท์! O_o!!”  วิลล่าร้องเป็นคนต่อมา

            สภาพรถของบีสท์ที่เรากำลังเห็นในตอนนี้คือ ยางแบนแนบสนิทกับพื้นถนนทั้งสี่เส้น แค่นั้นไม่พอยังมีรอยข่วนแล้วก็สีทาบ้านเปรอะเต็มรถไปหมดจนแทบจะหาสีเดิมของรถไม่เจอ ฝีมือใครกันนะ! -*-?

            “ใครทำวะ!!”  จุนฮยองสบถอย่างหัวเสีย

            “น่ากลัวจัง”  ดอกหลิวบุ้ยหน้ากับภาพที่เห็น

            “แบบนี้บีสท์คงไม่ค่อยปลอดภัยแล้วล่ะ”  พี่มะนาวออกความเห็น  “เอารถของคังยูไปใช้ก่อนก็ได้นะคะ ตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว คงจะหารถยากหน่อย”

            “ก็ดีนะ”  ทีมงานที่มากับบีสท์พูดแล้วแยกไปเอารถส่วนหนึ่ง และอีกส่วนที่เหลือยืนคุ้มกันบีสท์ที่นี่

            จากที่ดู คนที่จะทำได้ขนาดนี้ต้องแค้นบีสท์เอามากๆ แต่ไม่มีใครสักเกตเห็นเลยหรอว่ามีคนมาทำอะไรแบบนี้ ที่จอดรถของคังยูก็เป็นลานโล่งๆ ถ้าทำอะไรแบบนี้น่าจะมีใครเห็นบ้างนะ

            หลังจากเหตุการณ์อันน่าระทึกขวัญได้ผ่านไปทุกอย่างก็กลับมาเป็นปกติ การอัดรายการก็ผ่านไปได้ด้วยดี โดยเฉพาะช่วงท้ายของการร้องประสานเสียงเป็นอะไรที่น่าประทับใจและน่าขนลุกมากๆ ทั้งทีมงานและแฟนคลับต่างปรบมือและกรี๊ดชื่นชมดังก้องทั่วทั้งห้องส่ง มันเป็นความรู้สึกที่บรรยายไม่ถูกเลยจริงๆ มันตื้นตันจนแทบจะร้องไห้ แต่ฉันร้องไม่ได้เพราะฉันเป็นลีดเดอร์ และที่สำคัญมีคนร้องไห้แทนฉันแล้ว...

            “เราทำได้ลีดเดอร์...เราทำได้!”  วิลล่าเดินมาบีบมือฉันด้วยมือเล็กๆ ที่สั่นเทาของตัวเอง พร้อมกับน้ำตาที่ไหลลงมาอาบแก้มหลังจากอัดรายการจบ

            “ใช่ๆ เราทำได้แล้วนะ”  ฉันพูดพร้อมกับลูบศีรษะน้องเล็กอย่างเอ็นดู ทำให้วิลล่ายิ่งสะอื้นหนัก

            “เลิกร้องไห้ได้แล้วน่า เครื่องสำอางเลอะหมดแล้ว”  ณัชยื่นทิชชู่ให้วิลล่าพร้อมรอยยิ้มที่นานๆ ครั้งจะได้เห็นจากใบหน้าหล่อๆ นั่น

            “ก็คนมันดีใจไงคะพี่ณัช T^T”  วิลล่ารับทิชชู่ไปซับหน้าอย่างระวัง ขนาดร้องไห้ยังห่วงสวยอีกแฮะ -_-

            แปะ! แปะ! แปะ!...

            เสียงปรบมือดังเข้ามาในห้องแต่งตัวที่พวกเราอยู่ บีสท์และทีมงานที่ร่วมมือกันทำงานต่างปรบมือให้กับพวกเรา 6 คน ทำให้วิลล่าที่เหมือนจะหยุดร้องไห้แล้วปล่อยโฮออกมาอย่างไม่อายใคร จนพี่มะนาวต้องเข้ามากอดเอาไว้

            “ทำได้ดีมากเด็กๆ ^_^”  พี่มะนาวพูดกับพวกฉัน พลางตบบ่าวิลล่าเบาๆ

            “ขอบคุณค่ะ...ขอบคุณมากค่ะ”  ฉันกล่าวคำขอบคุณเป็นภาษาเกาหลีพร้อมกับโค้งตัวลงทั่วทุกทิศทุกทางเพราะทีมงานส่วนมากเป็นคนเกาหลี พวกเขาก็ยังคงปรบมือให้พวกเราอยู่อย่างนั้นจนฉันก็แทบจะปล่อยโฮตามยัยวิลล่าอีกคน และยิ่งดูจุนยกนิ้วโป้งให้ ฉันยิ่งรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก

            “พรุ่งนี้หลังสี่โมงเย็นพวกเธอว่างรึเปล่า ผอ. มีข่าวดีจะบอกน่ะ”  พี่มะนาวถามด้วยแววตาที่บ่งบอกอย่างชัดเจนว่าข่าวที่พี่นาบีจะบอกวันพรุ่งนี้เป็นข่าวดีมากๆ

            “เอ่อ...น่าจะว่างนะคะ แต่เฝ้าฝันนี่ไม่แน่”  ฉันตอบแทนเพื่อนคนอื่นๆ

            “ข่าวดีอะไรหรอคะ”  หยาถามด้วยความตื่นเต้น

            “ผอ. จะเป็นคนบอกเรื่องนี้ด้วยตัวเองจ้ะ ^^”

            “โหย...”  หยาร้องอย่างเสียดาย ในใจคงภาวนาว่าอยากให้ถึงวันพรุ่งนี้เร็วๆ ซึ่งฉันก็ด้วย ^^

          

            “ขอโทษที่ให้รอค่ะ!”  เฝ้าฝันวิ่งกระหืดกระหอบมาเกาะขอบประตูห้องทำงานพี่นาบี

            “ไม่นานหรอกจ้ะ ^^”  พี่นาบียิ้มอย่างอารมณ์ดี แล้วพยักพเยิดให้เฝ้าฝันนั่งเก้าอี้ตัวที่อยู่ใกล้ๆ ฉัน

            “งั้นเข้าเรื่องเลยแล้วกันนะ...เมื่อวานพี่พาคุณนาจองไปดูการแสดงของพวกเธอ เขาพอใจมาก และกำหนดวันที่จะให้พวกเธอไปโชว์เคสเป็นกรณีพิเศษอาทิตย์หน้าที่เกาหลี พวกเธอจะตกลงไหม”

            “กรี๊ดดด...จริงๆ หรอคะพี่นาบี >O<//”  วิลล่ากรี๊ดคับห้อง คนอื่นๆ ก็หัวเราะชอบใจ ดูมีความสุขยิ่งกว่าการสอบเอ็นท์ติดกันซะอีก มันเหมือนกับการวิ่งมาราธอนมานานแล้วเจอเส้นชัยอะไรยังงั้น แต่มีคนๆ เดียวที่เพียงแค่ยิ้มน้อยๆ กับตัวเองเท่านั้น

            “ฝัน...แกเป็นไรรึเปล่า”  ณัชที่ดูเหมือนจะเป็นอีกคนที่สังเกตเห็นเอ่ยถามเฝ้าฝัน

            “เปล่าหรอก ฉันแค่ช็อคนิดหน่อยน่ะ ฉันไม่นึกว่าพวกเรา...จะมีวันนี้ได้”  เฝ้าฝันยิ้มออกมาแต่แค่แป๊บเดียวเท่านั้น

            “ฉันว่าเราไปฉลองความสำเร็จกันดีกว่า ^O^”  หยาร้องขึ้น และทุกคนก็ตอบรับอย่างพร้อมใจกัน ยกเว้น

            “วันนี้ฉันขอตัวแล้วกัน พรุ่งนี้มีสอบอ่ะ”  เฝ้าฝันพูด แล้วหันไปโค้งตัวลงนิดหน่อยให้กับพี่นาบี  “ขอโทษด้วยนะพี่นาบี”

            “ไม่เป็นไรจ้ะ”  พี่นาบียิ้มให้

            พวกเราไปเลี้ยงฉลองกันที่ผับๆ เดิมซึ่งเป็นผับประจำของพวกเรา และเป็นที่ที่ได้เจอกับบีสท์...การที่ได้เจอกับพวกเขามันเป็นความรู้สึกที่วิเศษมากๆ สำหรับฉัน พอนึกไปแล้วก็รู้สึกเหมือนว่าเป็นแค่ความฝันที่พอตื่นขึ้นมามันก็หายไป ถูกอย่างที่เฝ้าฝันบอกฉัน...เราเป็นใครแล้วเขาเป็นใคร ยังไงเขาก็ต้องกลับไปแล้วใช้ชีวิตของเขา ฉันก็เหมือนกัน ฉันก็ยังต้องอยู่ที่นี่และใช้ชีวิตของตัวเอง...

            “วันนี้ดูไม่สนุกเลยนะคะลีดเดอร์ เอ...หรือว่าเศร้าเพราะดูจุนกลับแล้วเอ่ย? อิอิ ^^”  วิลล่าเอียงคอมองฉันพร้อมยิ้มแซวๆ

            “เมาแล้วเพ้อรึไง =_=//”

            “ไม่ได้เมาสักหน่อย เพิ่งดื่มไปนิดเดียวเอง”

            “แล้วทำไมวันนี้ไม่ไปวาดลวดลายอีกล่ะ ดูสิ วันนี้ฟลอร์เงียบเหงาเลย”

            “ไม่ล่ะค่ะ รู้สึกยังไงไม่รู้เวลามองไปที่ฟลอร์นั่น”  วิลล่าพูดด้วยแววตาเศร้าๆ แต่เพียงแว๊บเดียวเท่านั้นก็กลับมาเป็นปกติ  “สงสัยคิดถึงหนุ่มๆ บีสท์แน่เลย ^O^”

            “หึ! เธอนี่นะ”  ฉันพูดแล้วขยี้ผมหยักลอนของวิลล่าเล่นด้วยความเอ็นดู

            “ลีดเดอร์! ผมเสียทรงหมดแล้วเนี่ย T^T”

            ฉันยิ้มกับอาการดิ้นพล่านๆ ของวิลล่า แต่ทำไมแทนที่ใจฉันจะสนุกแต่มันกลับรู้สึกเหมือนบางอย่างมันหายไป...

            “ตอนนี้คงถึงแล้วมั้ง...”  อยู่ๆ เสียงของเฝ้าฝันก็เลยเข้ามาในหู ไหนบอกว่าจะไม่มาไง -_-?

            “พี่ฝัน มาเมื่อไหร่เนี่ย”  วิลล่าถาม ฉันเลยหันไปมองบ้าง ก็เห็นเฝ้าฝันนั่งอยู่ในมุมมืดของโต๊ะที่เรานั่งกันอยู่

            “มาตั้งนานแล้ว แต่เห็นลีดเดอร์ของเธอเหม่อบ่อยๆ เลยไม่อยากทัก”  เฝ้าฝันตอบวิลล่าแต่มองฉันแล้วยกแก้วของตัวเองขึ้นจิบ

            “ไหนบอกว่ามีสอบไง มาดื่มแบบนี้พรุ่งนี้จะไหวหรอ”  ณัชถามบ้าง

            “ก็แค่จิบนิดจิบหน่อย ไม่เป็นไรหรอกน่า”  เฝ้าฝันพูดแล้วยกแก้วที่จิบอยู่เมื่อกี๊ขึ้นดื่มรวดเดียวหมด

            แบบนี้ไม่นิดหน่อยอย่างที่แกพูดแล้วมั้งฝัน =_=

            แล้วในที่สุดพวกเราก็ได้หิ้วปีกเฝ้าฝันกลับมาหอพัก ดีนะเนี่ยที่พวกเราพักอยู่หอที่พี่นาบีให้มาอยู่ ถ้ายัยฝันเข้าไปอยู่หอในของคณะ ได้งานเข้าทั้งหัวหงอกหัวดำแน่ แต่พี่นาบียังหัวไม่หงอกหรอกนะ เห็นมันคล้องจองดีเลยเอามาใส่ -_-;;

            “ทำไมฝันมันดื่มหนักขนาดนี้วะ”  ณัชพูดแล้วตามด้วยถอนหายใจยาวๆ หลังจากที่ทิ้งเฝ้าฝันลงบนเตียง

            “ไม่รู้สิ”  ฉันมองเฝ้าฝันพร้อมกับหายใจเข้าให้เต็มปอด เห็นตัวเล็กๆ แต่หนักใช่เล่นเลยยัยคนนี้ =_=;;

            “เหมือนมีเรื่องกลุ้มใจนะคะ”  วิลล่าออกความเห็นขณะดึงผ้ามาห่มให้

            “คงจะกลุ่มเรื่องสอบล่ะมั้ง”  หยาพูด

            “เอาล่ะ เข้านอนได้แล้วเด็กๆ”  พี่มะนาวเข้ามาบอก

            “ค่าๆ...ว่าแต่ เราจะต้องเดินทางวันไหนหรอคะ”  วิลล่าถาม

            “วันศุกร์หน้าจ้ะ”

            “โหย เร็วจัง”  หยาร้องเบาๆ

            “นี่ช้าแล้วนะ ที่จริงพี่นาบีอยากให้ไปกันตั้งแต่วันจันทร์นี้เลยด้วยซ้ำ แต่พอดีเฝ้าฝันติดธุระเลยเลื่อนไปน่ะ”

            “ถึงจะเลื่อนให้ไกลกว่าเดิม แต่มันก็ยังเร็วไปนะคะเภว่า”  ฉันถามบ้าง ก็มันเร็วเกินไปจริงๆ นี่ ยังไม่ทันได้เตรียมตัวอะไรเลย แล้วไหนจะเรื่องโชว์เคสอีก เรายังไม่ได้ซ้อมอะไรกันเลย

            “ก็มีเวลาล่ำลาเพื่อนชาวไทยตั้งอาทิตย์หนึ่งเต็มๆ เลยนี่นา ไม่เห็นจะเร็วเลย”

            “ล่ำลา...หรอคะ”  ดอกหลิวขมวดคิ้วถาม

            “ใช่ เพราะว่าไปคราวนี้คงนานหน่อย”

            “อ้าว! ไม่เห็นบอกพวกเราเลย”  ณัชแย้งขึ้น ใช่ๆ ไม่เห็นจะบอกรายละเอียดพวกเราเลย -_-!

            “งั้นก็ถือว่าบอกแล้วนะ ^^...แต่ไม่ต้องห่วงหรอกจ้ะ ทั้งพาสปอร์ต ค่าตั๋วเครื่องบิน ที่พัก พร้อมหมดแล้ว อ้อ! แล้วก็ พี่นาบีได้โทรไปบอกคุณพ่อกับคุณแม่ที่รักของพวกเธอให้แล้วด้วยว่าจะไปเกาหลี”

            “โห พร้อมมากอ่ะ”  หยาพูดด้วยน้ำเสียงที่เริ่มกลัวๆ เหมือนกำลังจะโดนจับไปขายข้ามประเทศเลยแฮะ =_=;;

            “เห็นไหมล่ะจ้ะ จะเดินทางพรุ่งนี้ยังทันเลยนะ ^^”

            “แล้วพ่อกับแม่เฝ้าฝันล่ะคะ เขายอมหรอ?”  ฉันถามเมื่อคิดได้ ทำให้พี่มะนาวที่ยิ้มอยู่ดีๆ ถึงกับหุบยิ้มทันที

            พ่อกับแม่ฉันเนี่ยไม่เท่าไหร่เพราะว่าพวกท่านเข้าใจการล่าฝันของฉันดี แต่พ่อแม่ของเฝ้าฝันนี่สิ ดูท่านจะคัดค้านตั้งแต่เข้ามาฟอร์มวงกับพวกเราแล้ว พ่อแม่คนไหนบ้างล่ะที่จะให้ลูกที่เรียนแพทย์มาทำอะไรแบบนี้ เป็นกิจกรรมในมหา’ลัยก็ว่าไปอย่าง แต่นี่ต้องมาขลุกอยู่แต่กับการร้องรำทำเพลงที่ไม่มีคะแนนหรือจิตพิสัยให้ แถมเรียนมาจนจะฝึกงานอยู่แล้วใครเขาจะไปยอมล่ะ =_=;

            “เรื่องนั้น...ปล่อยให้พี่ๆ จัดการเถอะ นอนได้แล้วนะเด็กๆ”  พี่มะนาวพูดทิ้งไว้แค่นั้นแล้วเดินไปทันที พวกเราเลยได้แต่มองหน้ากันแล้วหันไปมองเฝ้าฝันอย่างเห็นใจ...นี่สินะ เรื่องกลุ้มใจของแก เฝ้าฝัน...

          

            และแล้ววันศุกร์ที่แสนตื่นเต้นก็มาถึง พวกเราตื่นตั้งแต่ไก่โห่เพื่อเตรียมตัวและออกเดินทางไปที่สนามบิน การเดินทางไปเกาหลีใช้เวลาประมาณ 5 ชั่วโมงค่ะ พี่มะนาวบอกว่าไม่อยากไปถึงค่ำมาก เลยต้องรีบกันนิดนึง นอกจากพวกเรา 6 คนแล้ววันนี้พี่มะนาวกับพี่มิวกี้ก็ไปกับเราด้วย ส่วนพี่นาบีพี่มะนาวบอกว่าเดินทางล่วงหน้าไปแล้วตั้งแต่วันพุธ สรุปแล้วใครตื่นเต้นกว่ากันเนี่ย =_=

            พอพวกเราเดินทางมาถึงเกาหลี เราก็ถูกพามาที่พักใกล้ๆ กับค่ายเพลงที่คุณอาจองกับคุณอันโซทำงานอยู่ ซึ่งวันนี้เราต้องเข้าไปพบคุณอันโซด้วยเหตุผลเร่งด่วนอะไรสักอย่างเลยแวะเอาของเข้าไปเก็บแล้วรีบไปต่อเลย

            เราถูกพามาที่ห้องประชุมหนึ่งของค่าย ซึ่งในนั้นมีคุณอันโซ คุณนาจอง และคนอื่นๆ ที่ฉันไม่รู้จักอีก 3 คน

            “มากันแล้วหรอ ^^”  คุณนาจองกล่าวทักทายพวกเราอย่างเป็นกันเอง  “นั่งก่อนซิจ้ะ”

            พี่มะนาวเดินเข้าไปนั่งใกล้ๆ คุณนาจอง พวกเราเลยนั่งเรียงต่อมาอีกที แต่เพราะโต๊ะประชุมเป็นโต๊ะกลม เลยสามารถเห็นหน้ากันได้ทุกคน ผู้หญิงเปรี้ยวๆ ผมบ๊อบคนหนึ่งที่นั่งตรงข้ามกับฉันพอดีกำลังมองจิกพวกเราทีละคน ฉันต้องโดนปาดคอด้วยอายไลเนอร์นั่นแน่ๆ เลย กรีดได้เฉียบมาก T^T

            “นี่น่ะหรอเด็กของนาบี”  ผู้หญิงกรีดตาเฉียบคนนั้นพูดหลังจากละสายตาจากวิลล่าที่นั่งเป็นคนสุดท้ายของกลุ่ม

            “ใช่ เธอก็ได้ดูแล้วนี่ การแสดงร่วมกับบีสท์ที่ยอดเยี่ยม ใช้เวลาซ้อมแค่สองวันเท่านั้นเองนะ”  คุณนาจองพูดด้วยรอยยิ้มยินดี แต่ดูเหมือนคุณนายตาเฉียบ (ฉันตั้งให้เฉพาะกิจน่ะ -_-;) คนนั้นจะไม่สนใจจะฟังมันเท่าไหร่เลย

            “ที่น่าดูก็เพราะมีบีสท์อยู่ด้วยต่างหากล่ะ”  คุณนายตาเฉียบพูดขณะเปิดดูแฟ้มประวัติของพวกเรา และทำเป็นเปิดหน้ากระดาษแรงๆ จนวิลล่าสะดุ้งทุกครั้งที่ชีเปลี่ยนหน้า

            “เฮ้อ...แล้วเธอจะเอายังไงล่ะ”  ผู้หญิงอีกคนที่ฉันไม่รู้จักถามคุณนายตาเฉียบ ดูเหมือนเขาจะเริ่มหงุดหงิดขึ้นมาแล้ว

            “ร้องเพลงซิ”  คุณนายตาเฉียบปิดแฟ้มลงแล้วกอดอกพิงพนักเก้าอี้มองพวกเราอย่างท้าทาย

            “เอ่อ...แต่! พวกเราไม่ได้เตรียมตัวมาเลยนะคะ”  พี่มะนาวร้องด้วยความตกใจ แต่ก็ยังคงสุภาพอยู่

            “ก็เพราะฉันรู้ว่าไม่ได้เตรียมตัวมานี่แหละฉันถึงอยากให้ร้อง ฉันก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าถ้าไม่เตรียมตัวมาเลย พวกนี้จะจัดการกับปัญหาเฉพาะหน้ายังไง ถ้าทำแค่นี้ไม่ได้ก็อย่าหวังว่าจะได้ขึ้นโชว์เคสพร้อมคนอื่นๆ เลย”  ยัยคุณนายตาเฉียบยิ้มมุมปากมาให้พวกเราอย่างร้ายกาจ เง่อ T^T ทำไมงานเข้าตั้งแต่วันแรกเลยฟะเนี่ย!!

            “ไหวไหม ถ้าไม่ไหวเดี๋ยวพี่...”  พี่มะนาวหันมาถามพวกฉันเป็นภาษาไทย แต่ณัชก็พูดขึ้นแทรกขณะที่พี่มะนาวยังถามไม่จบประโยค

            “ไหวค่ะ!”

            “ลีดเดอร์ บอกเขาไปว่าเราจะทำ!”  วิลล่าพูดด้วยแววตาแน่วแน่จนฉันตกใจ ฉันคิดว่าในนาทีนี้ คงไม่มีเมมเบอร์ของฉันคนไหนตอบปฏิเสธแน่!

            “เราจะร้องค่ะ”  ฉันตอบคุณนายตาเฉียบไปด้วยภาษาเกาหลี

            “หึ! ดีมาก”  คุณนายตาเฉียบยังคงยิ้มอย่างร้ายกาจ พวกเราเลยลุกขึ้น แล้วไปยืนเรียงหน้ากระดานเตรียมพร้อมจะร้อง

            “เอ๊ะๆ เดี๋ยวก่อนนะ ฉันบอกพวกเธอแล้วหรอว่าให้ร้องตรงนี้”

            เอาแล้วไง เหมือนงานหนักจะเข้า -_-!!

 

 

 

************************************

อัพค่าาาาา ^O^

************************************

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.2 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา