[B2ST/Beast] Dream Story รักนี้ให้นาย...เจ้าชายอสูร

8.9

เขียนโดย Kreota

วันที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 เวลา 00.14 น.

  87 ตอน
  86 วิจารณ์
  97.51K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2557 22.21 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

3) [Episode 1 :: Leader Lover] # Chapter 3

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

Episode 1 Leader Lover

:: Chapter 3 ::

 

            ฉันถลึงตาใส่ดูจุนระหว่างที่โดนพลังช้างสารจากแฟนคลับกระแทกเข้าที่หลังเป็นระยะๆ หนอยแน่ะ!! ฉันอุตส่าห์ช่วยคุ้มกันให้รอดพ้นจากการถูกรุมจิกกิน ตอบแทนฉันด้วยการมองหน้าอกฉันเนี่ยนะ ไอ้หื่นกาม >///<!!

            “ทำไมเธอใส่เสื้อคอกว้างจัง ^^”  ดูจุนกระซิบเป็นภาษาเกาหลีตอนที่ฉันถูกผลักเข้าไปใกล้ๆ พร้อมกับรอยยิ้มโรคจิตที่ฉันไม่คิดอยากจะเห็น เห็นไหมล่ะพ่อแม่พี่น้องชาวแม้ว มองหน้าอกฉันจริงๆ ด้วย คิดเองเออเองซะที่ไหน! ทีซื้อหวยทำไมไม่ถูกบ้างนะ >_<//

            “โรคจิตเอ้ย!!”  ฉันสบถกับตัวเองอย่างหัวเสีย จะเอามีมาปิดก็ไม่ได้เพราะข้างนึงก็จับกับณัช ส่วนอีกข้างก็จับกับวิลล่า -_-!

            “หึหึ...”  ดูจุนหัวเราะโรคจิตแบบร้ายกาจสุดๆ ดงอุนที่ยืนอยู่ใกล้ๆ ที่คงจะสังเกตเห็นอาการผิดปกติของดูจุนก็หันมามองตามอย่างสนใจ เขามองฉันแล้วทำตาโตด้วยอ่า TOT! อ๊ากส์ ไอ้พวกเน้!!! >///<

            “ย่า!!”  ดูจุนอุทานออกมาแบบที่เกาหลีเขาพูดกันท่ามกลางเสียงของบรรดาแฟนๆ ที่ตั้งอกตั้งใจกรี๊ดกระแทกหูฉัน =_=!

            “ขอโทษคร้าบ ^^;”  ดงอุนยิ้มแหยๆ ให้ดูจุน หลังจากละสายตาจาก (หน้าอก) ฉันไปแล้ว -///-!!

            “หันไปเลย!”  ดูจุนออกคำสั่ง ดงอุนก็ทำตามโดยดี

            “เฮ้อ...”  ดูจุนถอนหายใจยาวๆ จะถอนหายจงหายใจทำไมล่ะยะ! เพราะนายไม่ใช่หรอที่ทำให้มักเน่จอมหื่นกามของนายมองหน้าอกฉันน่ะ!! -*-

            ดูจุนไม่คุยอะไรกับฉันอีก แต่เขาถอดเสื้อแขนยาวสีดำที่ใส่อยู่มาพาดที่หลังให้ แล้วเอาแขนทั้งสองข้างมามัดไว้ข้างหน้าบริเวณหน้าอกของฉัน พอแฟนคลับเห็นแบบนั้นก็กรี๊ดกันยกใหญ่ แต่ยังดีที่แฟนคลับวันนี้มารยาทดี ไม่งั้นคงมีการแย่งชิงเสื้อดูจุนกันเกิดขึ้นแน่ๆ =_=;;

            “Thank you.”  ฉันพูดขณะก้มมองเสื้อแขนยาวที่มัดอยู่ที่คอ ///-///;

            “ไม่เป็นไร”  ดูจุนยังคงพูดภาษาเกาหลีกับฉัน แต่คราวนี้เป็นครั้งแรกที่เขาคุยกับฉันโดยไม่มองหน้า ฉันเลยเดินต่อไปโดยไม่พูดอะไร

            เมื่อเราเดินมาถึง ประตูรถตู้ก็เปิดออก บีสท์รีบวิ่งขึ้นไปบนรถทันที พร้อมๆ กับแฟนคลับที่เริ่มกรูเข้ามาเบียดพวกฉันแรงขึ้น

            “เอ้อเดี๋ยว! ฉันร้องขึ้นก่อนที่ประตูรถจะปิด ทำให้ดูจุนชะงักมือที่กำลังจะปิดประตู

            “นี่ล่ะ”  ฉันชี้แขนเสื้อที่มัดอยู่รอบคอ

            “แล้วค่อยคืนเย็นนี้แล้วกัน”  ดูจุนพูด (ภาษาเกาหลี) ก็ปิดประตูทันที ถ้าเกิดฉันฟังภาษาเกาหลีไม่รู้เรื่องจริงๆ ฉันคงคิดว่านายให้ฉันเลยนะเนี่ย แต่เสื้อนี่ยี่ห้อแพงเหมือนกันนะ -///-

            “ไปเหอะ”  ณัชเสนอระหว่างที่แฟนคลับกำลังวิ่งตามรถไป

            “อื้ม”  ฉันรับคำแล้วเดินเข้าตึก

            “แหมๆ เมื่อกี๊เห็นนะ ลีดเดอร์กับดูจุนแอบหวานกันด้วย >///<”  ยัยวิลล่าเดินมากระแซะไหล่แซวๆ

            “หวานอะไรของเธอ -///-“

            “ทำไมลีดเดอร์ต้องหน้าแดงด้วยล่ะ”

            “อากาศมันร้อน”  ฉันพูดแล้วรีบเลี้ยวเข้าห้องน้ำ

            “เฮ้อ...”  ฉันพ่นลมหายใจออกยาวๆ เมื่อปิดประตูห้องน้ำ ฉันเผลอหยิบแขนเสื้อขึ้นมาดู กลิ่นน้ำหอมของดูจุนยังติดอยู่เลย...ทำไมฉันต้องใจเต้นแปลกๆ แบบนี้ด้วยเนี่ย อย่าบอกนะว่าหวั่นไหวกับนายดูจุนนั่นน่ะ เป็นไปไม่ได้หรอกน่า คงจะแค่เผลใผลไปชั่วขณะนั่นแหละ เดี๋ยวเขาก็กลับเกาหลีแล้ว -///-!

            “ทำใจได้แล้วก็กลับมาเถอะ”  เฝ้าฝันที่ยืนกอดอกพิงอ่างล้างหน้าพูดขึ้นทันทีที่ฉันเปิดประตูออกไป

            “แกหมายความว่าไงน่ะฝัน”  ฉันถามแล้วเดินไปล้างมือ ที่จริงฉันไม่ได้ทำธุระอะไรหรอก แต่ล้างมือเพราะฉันไม่กล้ามองหน้าเฝ้าฝันตรงๆ ต่างหาก...แล้วทำไมฉันต้องหลบหน้าเฝ้าฝันด้วยล่ะ =_=

            “ฉันบอกให้แก...กลับมา”  เฝ้าฝันหันหน้ามาพูดกับฉันผ่านกระจกบานใหญ่ของห้องน้ำ

            “ไม่ว่าตอนนี้แกล่องลอยไปถึงไหนฉันอยากให้แกกลับมา ถึงแม้ว่ามันจะเป็นแค่ความหวั่นไหวหรืออะไรก็ตาม ฉันอยากให้แกหยุดตอนนี้...ก่อนที่มันจะสายเกินไป”  เฝ้าฝันพูดโดยไม่เปิดโอกาสให้ฉันได้พูด แต่ไม่รู้ทำไม คำพูดของเฝ้าฝันทุกคำมันทำให้ฉันพูดไม่ออก คำพูดที่ฉันจะเถียงออกไปแต่ละคำ มันจุกค้างอยู่ที่คอ...

            “พวกเขาเป็นใคร แล้วเราเป็นใคร...ฉันอยากให้แกคิด”

            “แต่มันแค่ไม่กี่วันเองนะที่ได้เจอกับพวกนั้น ตอนนี้ฉันคงเป็นเหมือนแฟนคลับข้างนอกนั่นแหละ ที่วันนึงไปเจอกับศิลปินดังๆ แล้ว...”

            “แต่ฉันคิดว่ามันไม่เหมือนกับแฟนคลับพวกนั้น!!”   เฝ้าฝันพูดแทรกทั้งที่ฉันยังพูดไม่จบประโยค  “ตอนนี้เธอคิดไปไกลมากกว่านั้นแล้ว รู้ตัวรึเปล่า...กลับมาเถอะ”

            เฝ้าฝํนพูดจบก็เดินออกไป ทิ้งฉันไว้กับความสับสนวุ่นวายใจ...จากความรู้สึกอุ่นและร้อนวูบวาบในใจเมื่อก่อนหน้านี้ มันกลายเป็นสิ่งที่ทำให้ฉันรู้สึกเหมือนโดนกรีดแทง ยิ่งคิดมันก็ยิ่งกรีดลึกลงไป จนฉันคิดว่า ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป...คงทนพิษบาดแผลไม่ไหวแน่

 

            [Yoon Du Jun : Talk]

            “นี่ไงๆ แฝดเราขึ้นแสดงแล้ว”  โยซอบเอียงหูฟังเสียงดนตรีที่คุ้นหูแต่ถูกปรับคีย์ให้สูงกว่าที่ดังมาจากเวทีโปรโมทซิงเกิลใหม่ของเรา

            “เสียงดีเหมือนกันนะเนี่ย”  ดงอุนออกความเห็นเมื่อมีเสียงของผู้หญิงคนหนึ่งร้องขึ้น

            “ออกไปดูหน่อยไหม”  ผมเสนอก่อนจะเดินออกจากห้องพัก ผมก็อยากจะเจอมานานแล้ว วงที่เขาพูดถึงว่าเป็นฝาแฝดของบีสท์ วงที่เขาบอกว่าแสดงสดได้ดีเยี่ยม...‘Beast Girl Band’

            “ไปไหนกันเนี่ย?”  คุณมินนา ทีมงานที่ดูแลพวกเราถามทันทีที่เห็นพวกเราเปิดประตูออกมา

            “จะออกไปดูฝาแฝดครับ ^^”  โยซอบตอบ

            “อยากลองขึ้นแจมดูสักครั้งจริงๆ จะเก่งอย่างที่เขาพูดกันรึเปล่า”  จุนฮยองพึมพำ

            “งั้นลองไหมล่ะ”  คุณมินนายิ้มแบบเจ้าเล่ห์ๆ พี่คนนี้มักจะยิ้มแบบนี้เสมอเวลาที่กำลังจะพาพวกเราทำอะไรแผลงๆ แต่คราวนี้มันน่าสนุกดีนะผมว่า

            “ได้หรอครับ?”  ดงอุนถามอย่างตื่นเต้น

            “ได้สิ ถ้าพวกนายต้องการ”

            “เย้!”  ดงอุนกับโยซอบกระโดดโลดเต้นยังกะเด็ก -_-;

            พอแอบไปกระซิบบอกทีมงานและพี่เลี้ยงที่มากับวงคู่แฝดของ Beast ทุกคนก็ถึงกับตกใจกันไปตามๆ กัน โดยเฉพาะพี่เลี้ยงที่มากับวง Beast Girl ที่ดูเหมือนจะไม่นึกไม่ฝันถึงเหตุการณ์นี้มาก่อนเลย

            “เอ่อ...จะดีหรอคะมินนา”  พี่เลี้ยงคนนั้นพูดด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูหวั่นๆ แต่เขาพูดเกาหลีคล่องดีนะ

            “ลองดูเถอะนะมะนาว...น้าาา...”  คุณมินนาอ้อนวอน คนอะไรชื่อเรียกย๊ากยาก =_=

            “เฮ้อ...อื้มๆ ถ้างานโปรโมทซิงเกิลล่มก็อย่ามาโทษพวกเราแล้วกัน”  คุณมะนาวพูดออกมาในที่สุด

            “ขอบคุณมากครับ”  ผมพูดพร้อมกับโค้งตัวลงนิดหน่อย ก่อนจะหยิบไมล์ขึ้นมาคนละอันแล้ววิ่งขึ้นไปบนเวที สาวๆ ทั้ง 6 คนกำลังเต้นท่าของพวกผม แบบว่าเป๊ะมากอ่ะ ยังกะมาซ้อมอยู่กับพวกผมเลย พวกผมแยกไปยืนตามตำแหน่งของตัวเองแล้วเต้นไปพร้อมๆ กับสาวๆ แต่มีบางท่าที่ผมเต้นนอกเหนือจากที่มีในเพลง เพราะว่าผู้หญิงที่เต้นตรงตำแหน่งของผมเนี่ยน่ารักใช้ได้ เลยอยากสัมผัสนิดนึง ฮุฮุฮุ ^.,^

            พอจบเพลง ก็มีการแนะนำตัวทีละคน ถึงพวกเขาจะแนะนำตัวเป็นภาษาไทย แต่ผมก็พอจับใจความได้ว่าคนที่เต้นตำแหน่งของผมชื่อ...ชื่ออะไรนะ ‘เภตรา’ ประมาณนี้ ชื่อคนนี้ยิ่งเรียกยากแฮะ ทำไมคนไทยตั้งชื่อเรียกยากจัง -_-!

            ผมยอมรับนะว่าพวกสาวๆ เขาเก่งจริงๆ พวกผมที่เป็นผู้ชายร้องสดเต้นสดแค่เพลงเดียวก็เริ่มเหนื่อยแล้ว แต่พวกเขาเป็นผู้หญิงยังสามารถทำได้ผมถือว่ายอดเยี่ยมมาก (สาวๆ น่ารักกันทุกคนเลยด้วย ^O^ : ลีดเดอร์จอมเพลย์บอยรู้สึกครึกครื้นในหัวใจเมื่อได้อยู่ใกล้สาวๆ =_=;;)

            พอพวกเราเลิกงาน คุณมินนาก็ชวนไปเปิดหูเปิดตายามดึกที่ผับใกล้ๆ กับโรงแรมที่พวกเราพัก เพราะคุณมินนาบอกว่าที่นั่นมีคนอยู่เยอะคงไม่มีใครสนใจ พวกเราเลยตกลงไปกันและพยายามหลบมุมฟังเพลงแล้วก็เต้นกันเฉพาะในกลุ่ม แต่อยู่ๆ ก็มีใครคนหนึ่งเต้นอยู่กลางฟลอร์จนคนอื่นๆ ต้องถอยให้ หน้าตาน่ารักแบบนี้มันคุ้นๆ นะ เคยเห็นที่ไหนน๊า?

            “นั่นใช่เมมเบอร์วงคู่แฝดเรารึเปล่า”  ดงอุนทักขึ้นมาคนแรก ทำให้ผมเริ่มนึกถึงหน้าของสมาชิกวง Beast Girl Band คนหนึ่งขึ้นมาได้

            “ใช่คนที่เต้นตำแหน่งแกรึเปล่าดงอุน”  กีกวังถาม

            “เอ้อใช่! หึ! เจอตัวเป็นๆ แล้ว”  ดงอุนยิ้มมุมปากอย่างนึกสนุก สาวน้อยคนนี้คงจะมีอะไรสักอย่างที่ทำดงอุนสนใจขนาดนี้ แต่แทนที่ผมจะสนใจสาวน้อยที่วาดลวดลายอยู่บนฟลอร์ ผมกลับมองหาลีดเดอร์ของวงคู่แฝดแทน

            ผู้หญิงคนนี้ก็เหมือนกัน ไม่รู้ว่ามีอะไรถึงทำให้ผมรู้สึกแปลกๆ แบบนี้ เป็นคนแรกที่มองผมด้วยสายตาแบบนั้น เป็นคนแรกที่ผมต้องเป็นคนยิ้มให้เธอก่อน (อันนี้น่าเจ็บใจมาก -_-*) และก็เป็นคนแรกที่ทำให้ผมอยากเจอเธอมากขนาดนี้...

            “อ้าวดงอุน! ไปไหนน่ะ!!”  คุณมินนาร้องเรียกแต่ไม่ทัน เพราะดงอุนเดินจ้ำๆ ไปถึงกลางฟลอร์เรียบร้อยแล้ว ถึงจะใส่หมวกปิดหน้ายังไง ถ้าไปอยู่ในที่ที่เป็นเป้าสายตาแบบนั้นต้องมีคนจำได้แน่

            “ไปตามดงอุนกลับมาเถอะ”  จุนฮยองเสนอ

            “นั่นสิ”  คุณมินนาสนับสนุน แต่ยังไม่ทันที่ใครจะได้ไปตาม ก็เกิดเรื่องซะก่อน -_-;;

            “เฮ้ย! มากไปแล้วนะ! ถอยออกจากวิลล่าเดี๋ยวนี้!”  เสียงผู้ชายคนหนึ่งดังขึ้น ผมฟังไม่รู้เรื่องหรอกว่าเขาพูดอะไรเพราะเขาพูดภาษาไทย แต่ผมเห็นเขาผลักดงอุนออกจากสาวน้อย Beast Girl Band จนหมวกที่ใส่อยู่หล่นลงกับพื้น เอาแล้วไง อีเว้นท์เข้า -_-!!

            เกิดเสียงกรี๊ดขึ้นมาตามคาด คนที่ยืนมองเหตุการณ์เมื่อกี๊อยู่ก็เลยวิ่งเข้าไปเพราะจำได้ทันทีว่าเป็นซนดงอุน นักร้องเกาหลีวง BEAST พวกผมกีรีบวิ่งไปที่ฟลอร์เหมือนกัน แต่ช้ากว่าผู้หญิงกลุ่มหนึ่งที่วิ่งเข้าไปล้อมตัวดงอุนไว้เพื่อบังเฟรมกล้องให้

            “พวกคุณมาได้ยังไง”  คุณมะนาวรีบรั้งพวกผมไว้ก่อนที่จะวิ่งไปถึงกลางฟลอร์

            “คุณมินนาพามาครับ”  ผมตอบ ตอนนี้ดงอุนถูกพาออกมาจากฟลอร์แล้ว

            “ตามฉันมาทางนี้ค่ะ”  คุณมะนาวพาเราวิ่งหลบฝูงชนที่กำลังสนใจดงอุนอยู่มาทางด้านหลังของผับ

            “วิลล่า พาพวกเขาไปทางหนีไฟก่อน ทางนั้นจะใกล้โรงรถกว่า”  คุณมะนาวตะโกนเสียงแข่งกับแฟนคลับเมื่อวิ่งมาเจอกันกับดงอุนและสาวน้อย Beast Girl ที่มุมๆ หนึ่งของผับ

            “ค่ะ”  สาวน้อย Beast Girl รับคำ เอ้ย! เมื่อกี๊คุณมะนาวพูดภาษาเกาหลีนี่นา ทีแรกผมคิดว่าพูดเพราะอยากให้พวกผมเข้าใจด้วยจะได้วิ่งไปที่เดียวกัน แต่สาวน้อยคนนั้นกลับรับคำเหมือนมันเป็นเรื่องปกติ ฟังเกาหลีออกแล้วทำไมตอนนั้นต้องใช้ล่ามล่ะ ผมงงนะเนี่ย =_=?

            “ไปเร็วดูจุน!!”  จุนฮยองร้องบอก ผมเลยเก็บความสงสัยเอาไว้ก่อน แล้ววิ่งตามคนอื่นไป

            “เฮ้ยๆ เดี๋ยวๆ แล้วฮยอนซึงไปไหน”  โยซอบร้องขึ้นแล้วมองไปรอบๆ เออใช่! ฮอยนซึงบอกว่าจะมาเข้าห้องน้ำนี่นา ซวยล่ะ!!

            “ทำไงล่ะครับ”  ดงอุนร้องถามผม

            “วิ่งไปทางหนีไฟก่อน แล้วค่อยว่ากันทีหลัง”  ผมบอก เพราะถ้าตามหากันตอนนี้อาจจะไม่ใช่แค่ฮยอนซึงคนเดียวที่จะหายไป 

            เราทุกคนวิ่งตรงไปที่ทางหนีไฟ แต่พอไปถึงที่นั่นก็ดันไปเจอกับกลุ่มคนอีกกลุ่มที่ใหญ่พอๆ กับที่วิ่งตามพวกเรามา เกิดอะไรขึ้นกันแน่เนี่ย -_-!!

            “อ้าว!! ล็อคอ่ะ”  วิลล่า (เพิ่งจะจำได้น่ะครับ =_=) สบถหลังจากที่หมุนลูกบิดดู ถึงผมจะฟังไม่รู้เรื่อง แต่ผมก็พอจะเดาออกว่ามันคงล็อคอยู่

            “ประตูล็อคค่ะ”  คุณมะนาวแปลให้ฟัง นั่นไงล่ะผิดซะที่ไหน -_-;

            “แล้วคุณมินนาไปไหนครับ”  ผมถามคุณมะนาวเพราะเห็นวิ่งแยกออกไปตอนที่ชุลมันกัน

            “ออกไปเตรียมรถรอน่ะค่ะ”  คุณมะนาวบอก

            “ฮัลโหลลีดเดอร์!...แล้วมันจะเปิดได้ยังไงล่ะมันล็อคอยู่เนี่ย!!...ฮัลโหลๆ”  วิลล่ารับโทรศัพท์อย่างหัวเสีย เพราะตอนนี้พวกเขายืนขวางแฟนคลับให้พวกผมอยู่ เฮ้อ...ผมไม่ได้อยากให้สาวน้อยแบบบางมาทำอะไรแบบนี้ให้ผมเลย รู้สึกแย่นะเนี่ย =_=;

            “ลีดเดอร์บอกว่าถ้าประตูหนีไฟเปิด ให้รีบเข้าไปเลย”  วิลล่าบอก อันนี้ผมก็ฟังไม่รู้เรื่องเหมือนกัน แค่ได้ยินคำว่า ‘ลีดเดอร์’ ใจผมก็เต้นตุ้มๆ ต่อมๆ แปลกๆ แล้ว

            เรายืนกลุ้มหลบมุมกล้องอยู่หน้าประตูหนีไฟได้สักพัก เสียงปลดล็อคประตูก็ดังขึ้น

            แกร็ก!

            “พร้อมนะคะ”  คุณมะนาวบอกเป็นภาษาเกาหลีเพื่อให้พวกผมเตรียมพร้อม และทันทีที่ประตูแง้มเปิด พวกเราก็รีบกรูกันเข้าไปข้างใน กว่าจะปิดประตูไว้ตามเดิมได้ก็เหนื่อยเอาการเพราะคนข้างนอกพยายามจะดันเข้ามาให้ได้ หนีบนิ้วใครบ้างรึเปล่านะ -_-;;

            “ทำไมลีดเดอร์อยู่ในนี้ล่ะ อ้าว! ฮยอนซึง!!”  วิลล่าทักเภตราที่ยืนหอบอยู่หน้าประตู ซึ่งฮยอนซึงที่พวกเรากำลังตามหาก็อยู่กับเธอด้วย

            “แล้วทำไมพวกเขา?...”  เภตราถามพร้อมกับพยักพเยิดมาที่พวกผม

            “ก็อย่างที่เห็น พวกเขาหนีออกมาเที่ยวกัน แต่ดันมีคนจำได้เลยเกิดเรื่อง”  คุณมะนาวอธิบายสั้นๆ เภตราก็พยักหน้ารับรู้

            “ต้องขอโทษด้วยนะครับที่ทำให้วุ่นวายกัน”  ผมกล่าวคำขอโทษกับคุณมะนาวที่ยืนอยู่ใกล้ๆ เพราะเป็นคนเดียวที่สื่อสารกับพวกผมได้

            “ไม่เป็นไรค่ะ”  คุณมะนาวตอบพร้อมกับรอยยิ้มที่คนไทยชอบยิ้มกัน มันดูอบอุ่นดีนะ ^^

            หลังจากที่คุณมะนาวคุยโทรศัพท์กับใครสักคนเสร็จ ก็มาแบ่งพวกเราเป็น 3 กลุ่ม โดยที่ผม ดงอุน เภตราแล้วก็วิลล่าอยู่กลุ่มเดียวกัน

            แบ่งได้ถูกใจผมจริงๆ ครับคุณมะนาว ^_^ แต่เภตราน่ะสิ ร้องขึ้นทันทีที่ได้อยู่กลุ่มเดียวกับผม เป็นอะไรกับผมมากไหมเนี่ย คนอื่นเขาพากันปลื้มผมทั้งนั้นมีแต่เธอนี่แหละพิลึกคน -_-;

            แผนเราก็คือจะแยกกันวิ่งไปขึ้นรถของแต่ละกลุ่มหลังจากที่รถตู้ของพวกเราขับออกไป ดูเหมือนมันจะเป็นแผนที่ง่ายมากและดูเหมือนจะสำเร็จได้ด้วยดี ถ้าไม่ติดที่ว่า...

            “ยัยคนนั้นน่ะ จะพาดูจุนกับดงอุนของเราไปไหน หยุดนะ!!”  เสียงแหลมๆ เล็กๆ ของแฟนคลับที่ไม่หลงกลดังตามมา และ

            พลั่ก!!!

            ส้นสูงประมาณคืบหนึ่งได้ลอยมากระแทกเข้ากับแขนข้างขวาของเภตราอย่างแรง ทำไมต้องทำกันขนาดนี้ด้วยเนี่ย -*-!

            เธอชะงักฝีเท้าลงแป๊บนึง ผมเลยเข้าไปโอบเธอไว้แล้วพาเธอวิ่งต่อ ถ้าจะมีใครขว้างอะไรมาอีก ก็ขอให้มันโดนผมเถอะ!

            “ไม่เป็นไรนะ”  ผมถาม แต่เธอก็ไม่ตอบอะไรผม เธอเพียงแค่กดรีโมทปลดล็อครถแล้วชี้ไปที่รถคันหนึ่งให้ผมเข้าไปเท่านั้นเอง คุยกับผมหน่อยก็ได้นะ ฟังเกาหลีออกอยู่ไม่ใช่หรอ ทีเมื่อกี๊ที่คุณมะนาวแยกกลุ่มเป็นภาษาเกาหลียังฟังกันเข้าใจอยู่เลย =_=?

            เภตราขับรถได้บู๊มาก หลบหลีกตามตรอกซอกซอยอย่างชำนาญ นี่ถ้ามีคนบอกผมว่าเธอเป็นนักแข่งรถผมก็เชื่อนะเนี่ย -_-

            “พวกเธอฟังภาษาเกาหลีออกใช่ไหม?”  ผมถามออกหลังจากที่เก็บความสงสัยเอาไว้ไม่อยู่ ผมแอบสังเกตเห็นดงอุนก็กำลังตั้งใจฟังคำตอบของเธออยู่เหมือนกัน เภตราชะงักไปแป๊บนึง ก่อนจะพูด

            “I don’t understand. ...What did you say?”

            “งั้นหรอ...ไม่เข้าใจจริงๆ สินะ...แบบนี้น่าจะเปิดสอนตัวต่อตัวแล้วล่ะมั้ง หึหึ”  ผมพูดแล้วเอื้อมไปกุมมือเภตราที่จับเกียร์รถอยู่เพื่อลองใจ มือเธอนุ่มดีอ่ะ ^-^

            เอี๊ยด!!!

            เธอเหยียบเบรกจนมิดแล้วหันมาค้อนผม ผมนึกดีใจอยู่ข้างในเพราะผมคิดว่าเธอต้องด่าผมเป็นภาษาเกาหลีแน่ๆ ที่ทำอะไรรุ่มร่ามกับเธอแบบนี้ ปกติผู้หญิงไทยไม่ชอบให้คนแปลกหน้าจับมือถือแขนแบบนี้อยู่แล้วนี่ (ถ้าด่าเป็นภาษาไทย ถึงด่าเจ็บขนาดไหนผมก็ไม่รู้เรื่องถูกป่ะ? ^^)

            “นั่นไงล่ะ ไหนว่าฟังไม่รู้เรื่องไง”  ผมพูดแล้วหรี่ตามองเธอ แต่แล้วก็ต้องรู้สึกว่าตัวเองโง่มากที่รีบพูดเพราะการพูดดักคอเธอแบบนี้ มันทำให้เธอรู้ตัว

            “ถึงแล้ว!!!”  เธอกระแทกเสียงใส่ผมเป็นภาษาไทยตามเดิม แล้วเดินลงจากรถเข้าไปในโรงเรียนแห่งหนึ่ง โดยมีคุณมะนาวเดินออกมารับด้วยสีหน้าห่วงๆ ยิ่งรู้ว่าเภตราได้รับบาดเจ็บยิ่งห่วงมากกว่าเดิมอีก

            ตอนที่คุณมะนาวพาเภตราไปโรงพยาบาลผมนึกอยากจะไปด้วย แต่ถ้าผมไปมันคงจะยิ่งยุ่งแน่ๆ ผมเลยอยู่เฉยๆ รอรถมารับตามที่คุณมะนาวบอก พอกลับมาถึงที่พัก คุณมินนาก็บอกว่ามีรายการทีวีไทยเชิญไปร่วมรายการ แล้วก็เชิญ Beast Girl Band ไปร่วมด้วย มันทำให้ผมรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาอีกครั้งในรอบวัน และเย็นวันนี้แหละที่เราจะได้ซ้อมโชว์ด้วยกัน คิดไปแล้วก็รู้สึกสนุกขึ้นมาเลยแฮะ ^^

          

            [Petra : Talk]

            “ข่าวดีค่ะลีดเดอร์ ^^”  วิลล่ารีบวิ่งมาเกาะแขนฉันเมื่อเดินเข้ามาในห้องซ้อมห้องประจำ

            “อะไร? -_-”

            “ให้ทายค่ะลีดเดอร์ ^O^”

            “พี่นาบีให้เราพูดเกาหลีแล้ว”  ณัชเดินเข้ามาบอกเพราะวิลล่ามัวแต่ลีลา ขอบใจมากณัช ฉันกำลังไม่มีอารมณ์ =_=

            “โห! พี่ณัช ทำงี้ได้ไงอ่ะ ไม่สนุกเลย”  วิลล่าทำหน้างอเดินกลับไปนั่งกินขนมอีกมุมหนึ่ง

            “แกเป็นไรรึเปล่าเนี่ย ปวดแขนรึเปล่า -_-”

            “เปล่าๆ แขนหายปวดแล้ว แค่รู้สึกไม่ค่อยสบายอ่ะ”  ฉันตอบพลางเดินไปนั่งอยู่หน้ากระจกบานใหญ่ของห้องซ้อม ตั้งแต่เข้ามาเนี่ย ยังไม่เห็นเฝ้าฝันเลยนะ

            “ยัยฝันไปไหนอ่ะ”  ฉันหันไปถามณัชที่นั่งกดโทรศัพท์เล่นอยู่

            “ไปหาที่อ่านหนังสือมั้ง เห็นยกหนังสือเล่มเบ้อเร่อเดินออกไป”

            “หรอ”  ฉันพยักหน้ารับแล้วถอนหายใจออกยาวๆ เมื่อนึกถึงเรื่องที่เฝ้าฝันพูด

            “แล้วแกล่ะ ไม่อ่านบ้างหรอ ยามีตั้งหลายชนิด จำได้หมดแล้วรึไง”  ฉันถามว่าที่เภสัชกรหญิงสุดห้าวที่ยังคงกดโทรศัพท์เล่นอย่างไม่สนใจจะเงยขึ้นมาคุยกับฉันดีๆ

            “อ่านรอบเดียวก็จำได้แล้ว”  ณัชตอบแบบสบายๆ จ้ะ! แม่คนอัจฉริยะ =_=;

            พูดไปแล้วฉันก็มาขลุกอยู่แต่กับเพื่อนที่โรงเรียนคุงยูนี่จนแทบจะไม่มีเพื่อนที่คณะแล้ว ที่ไปเรียนทัน ส่งงานครบก็ด้วยลำแข้งล้วนๆ เลยนะเนี่ย -_-;; พอดีฉันเรียนคณะอักษรศาสตร์ที่มหาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งค่ะ ดูเหมือนฉันจะเรียนหนักมากแต่ทำไมฉันถึงมาทำอะไรบ้าบออยู่ตรงนี้ก็ไม่รู้นะ เพิ่งจะสงสัยในตัวเอง -_-?

            “เมื่อไหร่จะมาเนี่ย รอนานแล้วนะ”  ดอกหลิวบ่นแล้วเอนตัวลงนอนบนพื้น

            “บีสท์จะมาซ้อมที่นี่หรอ”  ฉันหันไปถามณัช นี่ฉันอยู่ในห้องน้ำเป็นชาติเลยหรือยังไงฉันถึงพลาดอะไรไปเยอะขนาดนี้ =_=

            “อื้ม”  ณัชยังคงตั้งใจเล่นโทรศัพท์ต่อไป สนใจฉันบ้างก็ได้นะณัช -_-!

            “สวัสดีคร้าบบบ”  โยซอบส่งเสียงอย่างสดใสขณะเดินเข้ามาในห้องซ้อม

            “สวัสดีค่ะ ^O^”  วิลล่าลุกขึ้นทักทายเป็นภาษาไทย พร้อมกับยกมือไหว้อย่างไทย ไหนว่าพี่นาบีให้พูดภาษาเกาหลีแล้วไง =_=?

            “ซา...หวาด...ดีคลับ”  บีสท์ยกมือไหว้ตอบพร้อมกับรับไหว้อย่างเก้ๆ กังๆ

            “น่ารักจังเลย >O<//”  วิลล่าดี๊ด๊าใหญ่

            “ทำไมไม่พูดเกาหลีกับเขาดีๆ ให้เขาพูดภาษาไทยมันฟังดูตลกๆ ยังไงไม่รู้”  ฉันถามวิลล่าที่เดินมายืนกับฉัน

            “ไม่รู้สิคะ พอถูกอนุญาตแล้วมันไม่อยากพูดยังไงไม่รู้ อิอิ ^^”

            “แบบนี้แหละคนเรา ยิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งยุ พอไม่ห้ามก็ไม่ทำเอาดื้อๆ”  ณัชกอดอกมองวิลล่า

            “แล้วพี่มะนาวล่ะ”  ณัชเดินไปพูดกับบีสท์เป็นภาษาไทยแล้วทำท่าทางประมาณว่า ‘คนที่ไปรับพวกคุณน่ะ ไปไหนแล้ว?’ ฉันล่ะงงเมมเบอร์ของฉันจริงๆ แม้กระทั่งณัชก็เป็นไปกับวิลล่าหรอเนี่ย -_-;;

            “อ๋อ เดี๋ยวมาครับ”  ดงอุนพยักหน้าเหมือนเข้าใจแล้วชี้ออกไปข้างนอก

            “อ๋อ”  ณัชพยักหน้าแล้วเดินกลับมานั่งลงกดโทรศัพท์ตามเดิม

            “เอ่อ...”  ดูจุนเดินเข้ามาหาฉัน แล้วทำเหมือนจะพูดอะไรสักอย่าง แต่ฉันมองหน้าเขาไม่ได้อ่ะ มันกลายเป็นว่ามีภาพเฝ้าฝันซ้อนทับเข้ามาบนหน้าของเขา มันทำให้ฉันรู้สึกแปลกๆ

            “ฉันไปห้องน้ำก่อนนะ”  ฉันหันไปบอกณัชแล้วรีบเดินออกมาทันที

            “อ้าว! เพิ่งมาไม่ใช่หรอ ท้องเสียรึไง?”  ณัชตะโกนตามมา แต่ฉันก็ไม่สนใจ ทำไมฉันต้องทำตัวงี่เง่าแบบนี้เนี่ย ฉันเดินออกมาทั้งๆ ที่กำลังจะซ้อมแบบนี้ได้ยังไงกัน

            “เภ ไปไหนอ่ะ จะซ้อมแล้วนะ”  พี่มะนาวทักขณะที่กำลังจะเดินเข้าห้องซ้อม

            “เภไปห้องน้ำแป๊บเดียวค่ะ”  ฉันบอกแล้วเดินต่อไปจนถึงดาดฟ้าของตึกเรียน นี่ฉันเดินขึ้นมาถึงดาดฟ้าตั้งแต่เมื่อไหร่ล่ะเนี่ย -_-;;

            ฉันถอนหายใจยาวๆ หลับตารับลมเย็นๆ ยามค่ำ ปล่อยใจให้ล่องลอยไปกับลมสักพัก...แต่ยิ่งปล่อยให้ล่องลอยไปกับลมนานเท่าไหร่ เสียงของเฝ้าฝันก็ดังขึ้นมากเท่านั้น

            “ทำอะไรอยู่น่ะ”  เสียงของดูจุนดังเข้ามาในโสตประสาทการได้ยิน แต่มันใกล้มากๆ จนฉันรู้สึกถึงลมหายใจอุ่นๆ รดใบหน้า...

            อะไรนะ ลมหายใจรดหน้า! O_O!!

 

 

*********************************

ฝากติดตามตอนต่อไปด้วยนะคะรีดเดอร์ ^_^

*********************************

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.2 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา