[B2ST/Beast] Dream Story รักนี้ให้นาย...เจ้าชายอสูร

8.9

เขียนโดย Kreota

วันที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 เวลา 00.14 น.

  87 ตอน
  86 วิจารณ์
  113.70K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2557 22.21 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

39) [Episode 3 :: Dangerous Lover] # Chapter 14

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
 
Episode 3 Dangerous Lover
:: Chapter 14 ::
 
            “หือ? พูดแบบนี้เหมือนหึงเลยนะคุณแฟน”  ฉันหลิ่วตามองจุนฮยอง แต่เขากลับหันมามองหน้าฉันนิ่งๆ เอ่อ...ไม่ใช่เรื่องตลกแล้วล่ะ -_-;
            “ก็ตอนนี้เธอยังได้ชื่อว่าเป็นแฟนฉันอยู่ไม่ใช่หรอ”  จุนฮยองพูดแล้วหันมองนอกรถและเงียบไป
            นี่ฉันผิดหรอเนี่ย? แต่เราไม่ได้เป็นแฟนกันจริงๆ ซะหน่อย ถ้าเพราะแสดงให้สมบทบาทก็น่าจะไปแสดงให้คนอื่นเห็นมากกว่า แต่นี่เราอยู่กัน 2 คน จะแสดงออกทำไมเยอะแยะ นอกจากว่าเขาจะหึงฉันขึ้นมาจริงๆ น่ะนะ -///-;
            ระหว่างที่เงียบกันไปนาน จุนฮยองก็หันหน้ากลับมาแล้วสตาร์ทเครื่อง อ้าว...จะกลับแล้วหรอ เอ้อ! แล้วอึนพาล่ะ o_o?
            “นายจะกลับแล้วหรอ ไม่รอรับอึนพากลับด้วยกันเลยล่ะ”  ฉันบอกแต่จุนฮยองกลับหันมามองหน้าฉันแปลกๆ
            “อึนพา? ชเวอึนพาน่ะหรอ...รอรับที่ไหน?”  เขาขมวดคิ้วมองฉันจนเป็นปม
            “ฉันเห็นบนตึกเมื่อกี๊ แต่เรียกไว้ไม่ทัน”
            “จำคนผิดแล้วมั้ง อึนพาอยู่ที่หอ จะมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง”
            “ฉันไม่ได้สมองเลอะเลือนขนาดนั้นนะ =_=”
            “ก็เธอพูดยังกะการ์ตูนไปได้ อึนพายังเรียนไม่จบ ม.ปลายเลยนะ จะมาที่นี่ทำไม จะมาหาพี่น้องก็คงไม่ใช่เพราะเป็นลูกคนเดียว”
            “ก็ฉันเห็นจริงๆ นี่ U_U”
            “เฮ้อ...ตาฝาดไปเองแหละ เมื่อกี๊กีกวังโทรมาฝากซื้อของยังได้ยินเสียงอึนพาอยู่เลย”
            “อ้าวหรอ”
            “เบ๊อะใหญ่แล้วยัยแฟน ไปเถอะยังต้องซื้อของอีกเยอะนะ”
            “ก็ได้”  ฉันรับคำ จุนฮยองเลยเข้าเกียร์แล้วออกรถ แต่ยังไม่ทันที่จะออกจากมหา’ลัย จุนฮยองก็ต้องขับรถวนกลับมาที่คณะเพราะฉันลืมโน๊ตบุ๊คไว้ที่ห้องบรรยาย ฉันโดนบ่นจนหูชาแน่ะที่ลืมของเอาไว้ ขี้บ่นเกินไปแล้วนะนาย T^T
            ทันทีที่รถจอดที่หน้าตึกฉันก็รีบวิ่งเข้าไปในตึกทันที ที่วิ่งไม่ใช่กลัวโน๊ตบุ๊คหายหรอกนะ วิ่งหนีเสียงบ่นต่างหาก =_=
            กึก!
            “อุ้ย! โทษที...”  ฉันหยุดฝีเท้าลงที่หน้าห้อง เพราะมีใครบางคนเดินสวนออกมาจนเกือบจะชนกัน แต่ยัยคนนั้นไม่ตอบฉันอ่ะ -_-
            “ซอนบี...”  ฉันเรียกชื่อซอนบีเบาๆ เมื่อเงยขึ้นไปเห็นหน้ายัยคนที่จะชนฉันเต็มๆ สมองมันรู้สึกว่างเปล่าไปหมดเพราะความช็อก ไม่ใช่ช็อกเพราะกลัวจะมีเรื่องหรอกนะ แต่ฉันช็อกเพราะฉันเพิ่งจะคิดอะไรบางอย่างขึ้นได้...ฉันรู้แล้วว่าอึนพาหน้าเหมือนใคร!!
            “นี่ๆ ไหนว่าจะมาเอาโน๊ตบุ๊คไง”  เสียงของจุนฮยองดังเข้ามาในความคิด ซอนบีเลยเดินเลี่ยงไปอีกทางโดยทิ้งสายตาอาฆาตแค้นมาให้ก่อนไป
            “คนเมื่อกี๊เขาเรียนที่นี่รึเปล่า”  จุนฮยองมองตามซอนบีไปด้วยท่าทางแปลกๆ ถ้าฉันดูไม่ผิดเมื่อกี๊ที่ซอนบีกับจุนฮยองเจอกันเหมือนจะตกใจนิดหน่อยนะ
            “ใช่ ไม่รู้ว่าทำไมถึงได้มาเรียนปี 1 พร้อมกับฉันนะ อายุมากกว่าตั้ง 3 ปี” 
            “ชื่ออะไร”  จุนฮยองยังไม่ละสายตาจากทางเดินที่ยัยซอนบีเพิ่งเดินหายไป นี่! อย่าบอกนะว่าชอบยัยซอนบีขึ้นมา -*-!
            “ซอนบี...ชื่อ ชเวซอนบี ยัยคนนี้แหละที่ให้คนมาจัดการฉันวันนั้น”  ฉันรายงานเสร็จสรรพเพื่อกันท่ายัยซอนบีสุดชีวิต
            “คนเดียวกัน...”  จุนฮยองพึมพำในลำคอ
            “เมื่อกี๊นายพูดอะไรนะ...ฉันฟังไม่ถนัด”  ฉันเอียงหูพยายามจะฟังสิ่งที่เขาพูด
            “ฉันไม่ได้พูดกับเธอหรอกน่า โน๊ตบุ๊คเธออยู่ไหน ชักช้าจริงๆ”  จุนฮยองจิ๊จ้ะในลำคอแล้วเดินเข้าไปในห้องฟังบรรยาย
            “อยู่หลังสุด”  ฉันเดินตามเข้ามาบ้าง  “นายว่าคนที่ไม่ได้เป็นญาติพี่น้องและไม่เคยรู้จักกันเลย จะหน้าตาเหมือนกันได้ไหม?”
            “ถามอะไรแปลกๆ คนไม่ใช่ญาติพี่น้องหน้าจะเหมือนกันได้ไง”  จุนฮยองพูดไปม้วนสายอแดปเตอร์โน๊ตบุ๊คไป
            “แล้วทำไม... ซอนบีกับอึนพาหน้าเหมือนกันเลยล่ะ” 
            “ก็เขาเป็นญาติกัน เป็นลูกพี่ลูกน้องอะไรประมาณนี้แหละ ฉันก็ไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไหร่”  จุนฮยองพูดพลางเดินมาหาฉันที่ประตูทางออกพร้อมโน๊ตบุ๊คในมือ
            “ญาติกันหรอ?...ฉันไม่เคยรู้มาก่อนเลย”
            “แล้วรู้รึยังล่ะทีนี้”
            “ถ้าซอนบีกับอึนพาเป็นญาติกัน สองคนนั้นต้องรวมหัวกันทำลายลัสตี้แน่!”
            “คิดมากน่า ถ้าเธอคิดว่าจะเอาเหตุผลที่เขาเป็นญาติกันมาอ้างล่ะก็ผิดแล้วล่ะ สองคนนั้นไม่ถูกกันจะตายจะร่วมมือกันได้ยังไง อีกอย่างอึนพาไม่มีเหตุผลที่จะทำลายลัสตี้อยู่แล้ว เพราะเขาก็อยู่ในวงนั้นเหมือนกัน”
            “ถ้าอึนพาไม่ร่วมมือด้วย ทำไมวันที่เดบิวท์ลัสตี้ยัยซอนบีถึงพูดกับฉันแบบนั้นล่ะ”
            “แบบไหน!!”  อยู่ๆ จุนฮยองก็ทำท่าสนอกสนใจขึ้นมาแปลกๆ
            “ก็ประมาณว่า ถึงวันนั้นตัวเองไม่ทำ ยังไงคนอื่นก็ต้องทำลายงานอยู่ดี”
            “ไม่แปลกหรอกที่เขาจะแค้น...”
            “นี่! นายพูดคนเดียวอีกแล้วนะ -*-“
            “รู้ว่าฉันพูดคนเดียวเธอก็อย่าฟังสิ”
            “กวนละ!”
            “เฮ้อ...”  จุนฮยองถอนหายใจก่อนจะยอมพูด “เมื่อกี๊ฉันพูดว่า ไม่แปลกหรอกที่ซอนบีจะแค้นและอยากทำลายงานเดบิวท์ เพราะเทรนนี่ที่ทำร้ายเพื่อนเธอก็คือชเวซอนบีคนนี้แหละ”
            “วะ ว่าไงนะ O_O!”  ฉันร้องพร้อมกับที่หัวใจเต้นรัวตุบๆ ไม่เป็นจังหวะ เหมือนโลกมันหยุดหมุนไปชั่วขณะเมื่อภาพหลายๆ ภาพในหัวเริ่มเข้ามาประติดประต่อกันเป็นเรื่องราว
            “ฉันรู้นะว่าเธอได้ยิน ขี้เกียจพูดซ้ำ =_=”  จุนฮยองมองหน้าฉันกวนๆ
            จะบ้ารึไง มากวนอะไรตอนนี้ล่ะ >.<!
            “มันเป็นคำอุทานย่ะ! ไม่ใช่ประโยคคำถาม”
            “เฮ้อ...ฉันเห็นซอนบีเมื่อกี๊ฉันก็ตกใจเหมือนกันแหละ ไม่นึกว่าโลกจะกลมขนาดนี้”
            “ฉันว่ามันกลมจนน่าเกลียดเลยล่ะ...แบบนี้ยัยซอนบีก็ยิ่งแค้นพวกวิลล่ามากขึ้นน่ะสิ ทั้งเรื่องตั้งแต่เป็นเด็กฝึกหัดรวมทั้งเรื่องของฉันอีก”
            “อย่าเพิ่งคิดมากเลย วันเกิดแบบนี้เธอควรจะทำตัวให้มีความสุขสิ หน้าเหี่ยวหมดแล้วน่ะเธอ”  จุนฮยองใช้นิ้วชี้มาจิ้มหน้าผากฉันจึ้กๆ
            ตะริ๊ง!
            ฉันก้มลงไปค้นโทรศัพท์ในกระเป๋าถือเพื่อหามือถือที่ดังเมื่อกี๊ แต่พอฉันเจอโทรศัพท์จุนฮยองกลับแย่งมันไปจากมือฉันหน้าตาเฉย
            “เอามา -*-”  ฉันแบมือของมือถือคืน แต่เขากลับถือวิสาสะเปิดอ่านข้อความของฉันหน้าตาเฉย ก่อนจะลบมันทิ้งทันทีที่อ่านจบ
            “ไปเถอะ”  จุนฮยองเอามือถือยัดใส่กระเป๋ากางเกงตัวเองแล้วเดินนำหน้าฉันออกไปจากตึก
            “ใครส่งข้อความมา เพื่อนฉันรึเปล่า?”  ฉันรีบเดินไปข้างๆ จุนฮยอง แต่เขากลับไม่ตอบอะไรฉันเลย ทำแบบนี้ยิ่งมั่นใจว่าเพื่อนฉันคนใดคนหนึ่งต้องกำลังเดือดร้อนแน่ๆ
            “จุนฮยอง!!”  ฉันใช้แรงทั้งหมดที่มีกระชากข้อมือจุนฮยองให้หยุดเดินแล้วหันมาหาฉัน จนโน๊ตบุ๊คที่เขาถืออยู่หล่นลงพื้นเสียงดังลั่น แต่ฉันไม่สนใจหรอก แค่โน๊ตบุ๊คฉันซื้อใหม่กี่เครื่องก็ได้ แต่เพื่อนของฉัน...ไม่ว่าคนนั้นจะเป็นใครในแก๊ง ถ้าเกิดพวกเขาเป็นอะไรขึ้นมา ฉันหาใหม่ไม่ได้เหมือนสิ่งของพวกนี้แน่!!
            ตะริ๊ง!
            เสียงข้อความดังขึ้นอีกครั้ง คราวนี้ฉันรีบแย่งมันมาเปิดดูก่อนที่จุนฮยองจะเปิด ข้อความที่ส่งมาครั้งนี้เป็นคลิปเสียง...
            [นี่! ปล่อยฉันนะ โอ๊ย!! เจ็บ! ปล่อยได้ฉันแล้ว…]
          เสียงของวิลล่าดังขึ้นมา ทำให้ฉันกับจุนฮยองมองหน้ากันนิ่ง...วิลล่าอยู่กับพวกมัน!!
            “ไม่จริงหรอก วิลล่าอยู่ที่หอ ไม่มีทางที่จะไปอยู่กับซอนบีแน่ๆ ฉันว่า...”
            “ฉันต้องไป...”  ฉันพูดขัดก่อนที่จุนฮยองจะพูดจบประโยค
            “แต่ฉันว่าน่าจะโทรหาพวกที่อยู่หอก่อนนะ จะได้มั่นใจว่าวิลล่าอยู่กับพวกนั้นจริงๆ”
            “ไม่มีเวลาแล้ว...ยิ่งยัยซอนบีเป็นเด็กฝึกหัดคนนั้น มันไม่มีทางปล่อยวิลล่ามาง่ายๆ แน่!”
            “อย่าเพิ่งใจร้อนสิ มีสติหน่อย ถ้าเกิดวิลล่าอยู่กับซอนบีจริงไม่มีใครยอมแน่ เพราะฉะนั้นฉันว่าลองโทรเช็คให้แน่ใจก่อนดีไหม”
            “ข้อความที่นายลบเมื่อกี๊ มันส่งมาว่ายังไง!”  ฉันถามโดยไม่สนใจคำพูดของจุนฮยอง แต่เขาก็ไม่ยอมบอก
            “ว่าไง!”  ฉันเขย่าตัวจุนฮยองแรงๆ
            “มันบอกให้เธอ...ไป ‘ที่ที่มีความหมายสำหรับเรา’…คนเดียว”  จุนฮยองพูดด้วยเสียงที่บ่งบอกชัดเจนว่าหนักใจไม่น้อย แต่ทันทีที่ฉันฟังโค้ดสถานที่ฉันก็จำได้ทันทีว่าที่นั่นคือที่ไหน...
            “อ้าวเฮ้ย!!”  เสียงจุนฮยองดังไล่หลังตามมาขณะที่ฉันรีบวิ่งออกมาจากตึก
            เสียงมือถือที่ฉันถืออยู่ดังขึ้นมาเป็นสายที่ 5 หลังจากที่ฉันโบกแท็กซี่หน้ามหาวิทยาลัยมาได้
            “ฮัลโหล”  ฉันกดรับสายจุนฮยองในที่สุด
            [เธอจะไปที่ไหนกันแน่ บอกฉันมาสิ ฉันจะไปช่วย]
            “ไม่ต้องหรอก ฉันจะทำให้จบๆ กันวันนี้แหละ...พี่จุนฮยองคะ ฉันสัญญาว่าจะไม่ทำผิดสัญญาของเราแน่...” 
            เพราะน้ำเสียงและสรรพนามการเรียกที่เปลี่ยนไปของฉัน ทำให้จุนฮยองเงียบไป ฉันเลยถือโอกาสกดตัดสาย ฉันไม่รู้ว่าวิธีของฉันจะได้ผลไหมแต่หวังว่าเรื่องมันจะจบสักที จะไม่ใครต้องเจ็บและต้องอยู่อย่างหวาดระแวงอีกแล้ว
            เรื่องทั้งหมด...ฉันจะจบมันวันนี้แหละ!!
           
            แท็กซี่มาฉันมาส่งถึงจุดหมายในเวลาไม่นาน ที่นี่คือโรงเรียนมัธยมเก่าของฉันเอง ‘ที่ที่มีความหมาย’ สำหรับฉันกับซอนบีคือที่นี่...เพราะซอนบีเจอฮันกีอุนครั้งแรกที่นี่ในวันงานโรงเรียน ด้วยความที่ยัยนั่นอายุมากกว่าเลยพยายามจะแย่งกีอุนมาจากซูอึนซึ่งตอนนั้นพวกเขากำลังคบกันอยู่ แต่ด้วยซูอึนไม่ค่อยสู้คน ฉันเลยเป็นคนลุยแทน ชนวนความแค้นระหว่างฉันกับซอนบีจึงเริ่มต้นจากตรงนี้ และยิ่งทวีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น เมื่อกีอุนเริ่มหันมาสนใจฉัน...
            ฉันเดินเข้าไปในโรงยิมที่ปกติจะปิดไฟมืดสนิทในเวลาเย็นๆ แบบนี้ แต่ตอนนี้ด้านในเปิดไฟสว่างทำให้ฉันมั่นใจว่ายัยซอนบีต้องอยู่ในนี้แน่
            แอ๊ด...
            ฉันผลักประตูเข้าไปดานในช้าๆ แต่ก็ไม่พบใครเลย ไม่มีเสียงพูดคุยของบรรดาลูกสมุนของซอนบีอย่างที่คิดเอาไว้ แต่กลับเจอสิ่งหนึ่งที่ฉันไม่คิดว่าจะอยู่ที่นี่
            “อึนพา...”
            ฉันรีบวิ่งเข้าไปด้านในทันทีเพราะแทนที่จะเห็นวิลล่าโดนจับมัดเอาไว้ แต่กลับเห็นอึนพานอนสลบอยู่บนพื้นโรงยิมคนเดียว
            “อึนพาๆ...ฟื้นสิ!”  ฉันเข้าไปเขย่าตัวอึนพาแรงๆ เพื่อเรียกสติ แต่ฉันกลับโดนผู้ชาย 2 คนเข้ามาจับตัวเอาไว้จากด้านหลังโดยที่ยังไม่ทันตั้งตัว!
            “เฮ้ย! พวกแกเป็นใคร ปล่อยฉันนะ!!”  ฉันร้องพลางดิ้นไปมาเพื่อให้หลุดจากการเกาะกุม
            “พี่มาหาวิลล่าหรอคะ”  อยู่ๆ อึนพาที่นอนสลบอยู่บนพื้นกลับลุกขึ้นมาปัดฝุ่นออกจากเนื้อตัวเหมือนเมื่อกี๊คนที่นอนอยู่เป็นอีกคนอย่างนั้นแหละ
            “อึนพา...เธอ”  ฉันถามพร้อมกับพยายามหายใจเข้าออกเพื่อรับเอาออกซิเจนเข้าปอดให้เต็มที่ เพราะสมองรู้สึกมึนและเหมือนกำลังจะเป็นลม คงไม่ใช่อย่างที่ฉันคิดหรอกใช่ไหม?
            “เฮ้อ...หาเก้าอี้มาให้พี่เขานั่งหน่อยสิ จะช็อกตายอยู่แล้ว!”  อึนพาตะเบ็งเสียงสั่ง ผู้ชายคนหนึ่งที่จับฉันไว้ แยกไปลากเก้าอี้ไม้ตัวหนึ่งมาให้ฉันนั่ง พร้อมกับมัดฉันไว้กับเก้าอี้อย่างแน่นหนาก่อนที่อึนพาจะให้ผู้ชาย 2 คนนั้นออกไป
            “รู้สึกดีขึ้นไหมคะพี่ของขวัญ...”  อึนพายิ้มให้ฉันอย่างร้ายกาจ ฉันไม่นึกเลยว่าเด็กผู้หญิงที่ฉันคอยปลอบและพูดให้กำลังใจในโรงรถวันนั้นจะเป็นคนเดียวกับเจ้าของรอยยิ้มร้ายกาจนี้
            “นี่ใช่ไหมที่ทำให้พี่ตามมา”  อึนพายื่นมือถือมาตรงหน้าฉันพร้อมกับเปิดคลิปเสียงให้ฉันฟัง
            [นี่! ปล่อยฉันนะ โอ๊ย!! เจ็บ! ปล่อยได้ฉันแล้ว…อิๆๆ ฮ่าๆๆ โอ้ยๆ จั๊กจี้ พอได้แล้วน่าอึนพา กรี๊ดๆ ฮ่าๆๆ...นี่แน่ะแกล้งฉันดีนัก นี่แน่ะๆ...]
            ฉันถึงกับชาวาบไปทั้งตัวหลังจากที่ฟังคลิปเสียงจบ ที่ฉันฟัง...มันเป็นแค่ส่วนหนึ่งของคลิปเสียงเท่านั้นเอง! ฉันถูกหลอก!!
            “หลงกลง่ายเกินคาดนะ โง่ๆ แบบนี้ทำไมยัยซอนบีถึงจัดการไม่ได้สักทีก็ไม่รู้” 
            “เธอ!...ทำไม?...”  ฉันถามออกไปได้แค่นั้น เพราะเหมือนมีก้อนอะไรบางอย่างขึ้นมาจุกอยู่ที่คอ มันเป็นความรู้สึกที่ฉันก็ไม่รู้จะอธิบายมันออกมายังไง ฉันสับสนไปหมดแล้ว
            “ทำไมต้องทำแบบนี้...ใช่ไหม?”  อึนพาเริ่มเปลี่ยนลักษณะการพูดของตัวเองในแบบที่ฉันไม่เคยได้ยินมาก่อน แสดงว่าที่ผ่านมาพวกเราโดนเด็กคนนี้หลอกมาตลอดเลยงั้นหรอ?
            “พวกเขาดีกับเธอทุกอย่าง แล้วทำไม...”  ฉันถามขณะพยายามปลดล็อคมือถือของตัวเองแล้วพยายามโทรออกไปหาวิลล่า ในเวลาแบบนี้ฉันคิดถึงโทรศัพท์ที่มีปุ่มกดจริงๆ เพราะถ้าสามารถคลำหาปุ่มกดโทรออกได้คงจะง่ายกว่าเอามือถูหน้าจออย่างไร้จุดหมายแบบนี้
            “ดีกับฉัน...แต่พาฉันไปยืนในที่ที่ฉันอยากจะยืนไม่ได้ จะเอาไว้ทำไมล่ะ! ตอนไปตีสนิทแรกๆ ก็นึกว่าจะราบรื่น แต่ดันมาเจอกับอีพวกแอนตี้บ้าบอนั่นเข้า แผนฉันเลยพังหมด!! พวกนั้นก็ชอบสรรค์หาจริงๆ รู้ดีนักเรื่องไม่ดี เรื่องคาวๆ ของคนอื่นเนี่ย!”  อึนพาขบกรามกรอดๆ ขณะพูดถึงกลุ่มคนแอนตี้
            “ถ้าเกิดคนเราคิดดีทำดีตั้งแต่แรก ยังไงก็ไม่มีใครทำอะไรได้หรอก”  ฉันพูดขณะพยายามกลืนก้อนที่จุกอยู่ในคออย่างยากลำบาก ตอนนี้ฉันต้องสู้เข้าไว้ ฉันจะไม่ยอมแพ้ยัยเด็กนี่เด็ดขาด!
            “ใช่! ฉันมัน ‘คาว’ นี่ สืบนิดสืบหน่อยก็เจอเรื่องไม่ดีของฉันผุดขึ้นมาแล้ว มีแต่เพื่อนของเธอนั่นแหละที่ ‘โง่’ ให้ฉันหลอกอยู่ได้ตั้งนาน”  ยัยอึนพาหัวเราะในลำคอ
            “พวกเขาไม่ได้โง่...แค่เห็นใจและไว้ใจงูเห่าอย่างเธอมากเกินไปเท่านั้นเอง!!”
            “ปากเก่งจริงๆ นะ”  ซอนบีเดินเข้ามาในโรงยิมพร้อมสมุนอีก 5 คน ฉันเลยรีบเอามือถือที่สามารถโทรออกได้แล้วยัดเข้ากระเป๋ากางเกงด้านหลัง หวังว่าพวกเขาคงรับสายฉันและได้ยินสิ่งที่พวกเขาควรได้ยินนะ!
            “นี่พวกเธอ...ร่วมมือกันจริงๆ หรอ”  ฉันถามในสิ่งที่ฉันคิดไว้อยู่แล้ว ถึงแม้ว่ามันจะเป็นความต้องการอันน้อยนิดของฉัน แต่ฉันก็ยังอยากให้ซอนบีหรือไม่ก็อึนพา ตอบฉันมาว่า ‘ไม่ใช่’
            “ใช่ มันคุ้มนะที่จะร่วมมือกับยัยเด็กนี่กำจัดเธอและเกิร์ลแบรน ยิงปืนนัดเดียวได้นอกสองตัวเลย...รู้ไหมอีกไม่นานเพื่อนหน้าโง่ของเธอก็จะมาที่นี่เพื่อให้ฉันชำระแค้นได้พร้อมกันๆ”
            “เธอมันเลว!!”  ฉันแผดเสียงด่าซอนบีและเผื่อแผ่ไปด่าอึนพาที่ยืนกอดอกอยู่ข้างๆ กันด้วย
            “ด่าไปเถอะ ก่อนที่เธอจะไม่มีโอกาสได้ด่าฉันอีก...ตลอดชีวิต”  ประโยคสุดท้าย ซอนบีเข้ามากระชากผมฉันและเน้นชัดๆ ว่า ‘ตลอดชีวิต’
            “เมื่อไหร่พวกนั้นจะมาสักทีนะ”  อึนพาบ่นอย่างหัวเสีย ซอนบีจึงผละออกจากฉันไป
            “เมื่อไหร่ก็เมื่อนั้นแหละ ฉันเชื่อว่าพวกโง่นั่นมันต้องไม่พาใครมาช่วยอย่างที่ฉันบอกไว้แน่”
            “มั่นใจจริงๆ นะ!”  อึนพามองซอนบีอย่างประเมินค่า แล้วทั้ง 2 คนก็สะบัดหน้าเชิ่ดหนีไปคนละทางอย่างเบื่อหน่าย สายตาของซอนบีและอึนพาที่มองกันดูก็รู้ว่าไม่ถูกกันจริงๆ อย่างที่จุนฮยองบอก แล้วทำไมถึงมาร่วมมือกันได้...เพียงแค่คำว่า ‘แค้น’ คำเดียวน่ะหรอ?
            “พวกเธอทำแบบนี้ทำไม?”
            “จะตายอยู่แล้วยังจะอยากรู้อะไรอีกห๊ะ!”  อึนพาตะคอกด่าฉันดังๆ แต่ซอนบีหันไปจิกอึนพาก่อนจะเดินเข้ามาหาฉันอีกครั้ง
            “ฉันจะบอกให้เอาบุญก่อนตายแล้วกันนะ...ข้อแรกเพราะฮันกีอุนชอบเธอ ข้อที่สองพวกเกิร์ลแบรนมันเป็นเพื่อนเธอ ข้อที่สามเพื่อนเธอมันทำฉันหมดอนาคต!!...โลกกลมจริงๆ ว่าไหม? ฉันถูกไล่ออกจากค่าย KB และต้องกลับมาเรียนต่อดันเจอกับเธอที่เป็นเพื่อนพวกนั้นอีก มันเป็นโชคดีของฉันจริงๆ”  ซอนบีตอบคำถามได้ตรงกับคำตอบที่อยู่ในใจฉันเป๊ะ แต่ที่ฉันไม่เข้าใจ...อึนพามาร่วมมือกับซอนบีทำไม
            “แล้วเธอล่ะอึนพา เธอก็เป็นไปกับเขาด้วยหรอ แล้วที่ผ่านมาคืออะไร เธอผ่านเรื่องร้ายๆ มากับพวกนั้นตั้งมากมายไม่ใช่หรอ!”  ฉันถามคำถามที่ฉันคิดว่าวิลล่าคงอยากจะรู้ หวังว่าปลายสายที่ฟังอยู่คงจะกำลังรอคำตอบของอึนพาอย่างใจจดใจจ่อ
            “เพราะผ่านอะไรมามากนี่แหละฉันถึงต้องการการตอบแทนที่คุ้มค่า! แต่พวกมันให้ฉันไม่ได้ แถมแฟนคลับเก่าๆ ของพวกมันก็มองฉันอย่างกับไส้เดือน กิ้งกือจะให้ฉันทนได้ยังไง...พวกมันบอกแต่ให้ฉันอดทนๆ ก็พูดได้สิ ไม่ได้เจอกับตัวเองนี่!...ฉันทนมามากเกินพอแล้ว!”
            อึนพากำหมัดแน่นจนมือสั่นเทา ขบกรามกรอดๆ จนฉันสัมผัสได้ถึงอารมณ์โกรธที่กำลังพุ่งพล่าน
            “ตอนนั้นฉันก็อุตส่าห์ถ่ายรูปแกกับจุนฮยองไปให้นักข่าว กะจะปล่อยข่าวตามไปทีหลังว่า เธอเป็นเพื่อนกับเกิร์ลแบรนและรู้จักกับจุนฮยองโดยมีเกิร์ลแบนเป็นแม่สื่อให้ แบบนี้คงมีคนเกลียดพวกมันกันทั้งประเทศ แต่มันติดอยู่ที่พ่อของแกมันรวยคับฟ้าจนฉันทำอะไรไม่ได้เลย!!”  อึนพาเข้ามาพลักตัวฉันแรงๆ จนหลังของฉันกระแทกกับพนักเก้าอี้เต็มๆ
            “ฝีมือเธอเองหรอ...ลอบกัดกันนี่!!!”  ฉันตะคอกเสียงกลับ ถ้าตอนนี้ฉันลุกขึ้นได้ฉันจะกระโดดถีบขาคู่ไม่ยั้งเลยคอยดู นังเด็กเหลือขอ!!!
            “ฮึ! ยังไม่หมดแค่นั้นหรอกนะ ยังมีเรื่องล่มงานเดบิวท์นั่นอีก มันเป็นโชคดีของฉันที่ดันมีคนแอนตี้เยอะ ฉันเลยดันทุรังขอเดบิวท์มาเรื่อยๆ และปล่อยข่าวคาวๆ ของตัวเองออกไปเพื่อเพิ่มความเกลียดในตัวฉันให้มากขึ้น พวกมันจะได้มาคัดค้านในงาน...แล้วพวกมันก็มาตามที่ฉันคาดไว้จริงๆ ฉันแทบไม่ต้องออกแรงด้วยซ้ำ แฟนคลับก็โง่ ศิลปินก็โง่ โง่พอๆ กันเลยว่าไหม ฮึๆๆๆ”  อึนพาหัวเราะในลำคอเหมือนนางร้ายในซี่รี่ย์ที่ฉันเคยดู
            “พอแล้วยัยอึนพา พูดมากเกินไปแล้ว มันตายไปยังไงมันก็เอาไปด้วยไม่ได้ ให้มันรู้พอคร่าวๆ ก็พอ ไม่ต้องละเอียด”  ซอนบีพูดกัดอึนพาแทนการจิกกัดทางสายตา
            “ตามที่ฉันได้ยินมา พวกเธอเป็นญาติที่ไม่กินเส้นกันไม่ใช่หรอ มาทำงานด้วยกันแบบนี้คงลำบากน่าดูเลยนะ”  ฉันมองลูกพี่ลูกน้อง 2 คนอย่างเย้ยหยัน ซอนบีถอนหายใจออกมาแรงๆ เหมือนกำลังพยายามระงับสติอารมณ์อยู่
            “เรามีเป้าหมายเดียวกันคือเกิร์ลแบรน ส่วนเธอ...เป็นผลพลอยของฉันเท่านั้นเอง คราวนี้ฉันจะได้กำจัดศัตรูทั้งหมดให้สิ้นซากไปสักที”  ซอนบีเดินเข้ามาบีบคางฉันแรงๆ
            “ฉันอยากเห็นหน้าฮันกีอุนกับประธานซอจริงๆ เวลาที่เห็นสภาพศพที่น่าสมเพชของเธอ!!”  ซอนบีสะบัดหน้าฉันไปด้านข้างแรงๆ และด้วยแรงผลักนี้เองทำให้เก้าอี้ที่ฉันนั่งอยู่ล้มลง มือถือที่ฉันใส่ไว้ในกระเป๋า เคลื่อนออกมาจากกระเป๋ากางเกงอย่างรวดเร็ว หน้าจอแสดงผลบ่งบอกว่าตอนนี้กำลังโทรเชื่อมต่อกับใครอยู่
            “เฮ้ย! มันใช้โทรศัพท์”  ลูกสมุนของซอนบีที่มายกตัวฉันขึ้นนั่งร้องขึ้น แล้วกดตัดสายทิ้งทันที ก่อนที่จะส่งมือถือไปให้ซอนบีดู
            “นังฮยอนอิน!!!”  ซอนบีพุ่งตัวเข้ามาหาฉันด้วยความโกรธจัด ก่อนจะทั้งตบ ทั้งหยิก ทั้งทึ้งจนเก้าอี้ที่ฉันนั่งอยู่ล้มลงไปนอนกับพื้นอีกครั้ง
            “เก่งนักใช่ไหม? แก้มัดมันแล้วจับมันลุกขึ้นมา!!”  สิ้นสุดเสียงสั่งการของซอนบี ลูกสมุน 2 คนก็เข้ามาแก้เชือกแล้วจับฉันให้ยืนประจัญหน้ากับซอนบี!
           
            [Yong Jun Hyung : Talk]
            [...ฉันอยากเห็นหน้าฮันกีอุนกับประธานซอจริงๆ เวลาที่เห็นสภาพศพของเธอ!!...เฮ้ย! มันใช้โทรศัพท์ กึก...ตู๊ด! ตู๊ด!...]
            สายถูกตัดไป พร้อมกับความเงียบที่เริ่มก่อตัวขึ้นมา
            ตุบ!
            มือถือในมือของวิลล่าหล่นลงกับพื้น พร้อมๆ กับน้ำตาใสๆ เริ่มไหลลงมาอาบแก้มวิลล่าอย่างรวดเร็วก่อนที่ร่างบางของเธอจะทรุดลงนั่งกับพื้น ขนาดผู้ชายอย่างผมยังช็อกกับสิ่งที่เกิดขึ้นเลย ที่ไม่น่าเชื่อไปมากกว่านั้น ชเวอึนพาก็เอากับเขาด้วยนี่สิ!!
            “พวกมันอยุ่ที่ไหน วิลล่า!!”  ณัชเดินเข้าไปกอดวิลล่าไว้แน่น เธอขบกรามกรอดด้วยความโกรธ
            จะว่าไปผมก็แทบจะไม่มีสมาธิเลยหลังจากที่สายโดนตัดไป เพราะผมไม่สามารถมั่นใจได้อีกต่อไปแล้วว่าของขวัญจะปลอดภัย ผมแอบภาวนาในใจว่า ขออย่าให้เธอรักษาสัญญาที่ให้ไว้กับผมเลย ผมอยากให้เธอลุยจนถึงที่สุด อย่างน้อยๆ ก็จนกว่าที่ผมจะไปช่วยเธอ
            ...เธอต้องไม่เป็นอะไรนะของขวัญ
            “ใจเย็นๆ พวกเธออยู่ในช่วงเตรียมเดบิวท์นะ จะมีเรื่องได้ไง”  ฮยอนซึงเตือนสาวๆ แต่ดูเหมือนพวกเธอพร้อมลุยกันทุกคนแล้ว แม้กระทั่งเฝ้าฝันที่ดูเหมือนจะไม่ค่อยชอบเรื่องแบบนี้สักเท่าไหร่...ผมเข้าใจนะ ความรู้สึกของการถูกหักหลังเนี่ย! ยิ่งเป็นคนที่เราไว้ใจด้วยแล้วยิ่งเพิ่มความโกรธรุนแรงขึ้นเป็นทวีคูณ!
            “วิลไม่สนแล้ว!!”  วิลล่าโพลงออกมาดังๆ แล้วดันตัวลุกขึ้น ถึงผมจะห่วงของขวัญ แต่ผมก็ไม่อยากให้เพื่อนของเธอไปเสี่ยงด้วย ผมจะพูดยังไงให้พวกเธอเข้าใจดีนะ
            “ฉันว่า...เราต้องมีแผน”  ผมเสนอและดูเหมือนทุกคนจะนิ่งฟังผม แต่ขณะนั้นเองก็มีข้อความเข้ามาในโทรศัพท์วิลล่า      
            คราวนี้เป็นวีดิโอคลิปที่ถูกส่งมาจากมือถือของอึนพาโดยตรง
            [สู้สิ! ทำอะไรอยู่ล่ะ ลุกขึ้นมา!!!]  ซอนบีกระชากผมของขวัญให้ลุกขึ้น แล้วตบเข้าที่ใบหน้าของเธออย่างแรง เธอล้มลงไปนอนกองกับพื้นแล้วนิ่งไป ดูเหมือนตอนนี้เรี่ยวแรงของเธอก็จะไม่เหลือแล้วแต่เธอกลับไม่พยายามขัดขืนต่อสู่เลยสักนิด...ผมจะทำยังไงดี ตอนนี้หัวใจผมแทบจะสลายแล้วที่เห็นผู้หญิงที่ผมรักต้องโดนทำร้ายอย่างทารุณแบบนั้น
            [เป็นอะไรขึ้นมาล่ะ อยากเป็นนางเอกหรอ?...ได้ ฉันจัดให้!!]  ซอนบีเข้าไปเตะและกระทืบของขวัญจนเธอกระอักเลือดสดๆ ออกมา ผมหันหน้าหนีจากจอมือถือของวิลล่าแทบจะทันที ผมทนดูต่อไปไม่ได้แล้วตอนนี้พวกมันอยู่ที่ไหน ผมจะตามไปฆ่ามัน! เป็นผู้หญิงก็ช่างผมไม่สนแล้ว!! ทำไมเธอไม่สู้เขาล่ะของขวัญ...ทำไม!!
            “วิลล่า พาฉันไปที่นี่เดี๋ยวนี้!!”  ผมบอกวิลล่า วิลล่าพยักหน้าทั้งที่ยังสะอื้นอยู่ หลังจากนั้นเราทั้งหมดก็ออกเดินไปทางที่นั่นทันที แต่เมื่อเราขับรถออกมาถึงหน้าคอนโด ก็ถูกรถเฟอร์รารี่สีดำสนิทขับมาปาดหน้าเหมือนจงใจ ก่อนที่เจ้าของรถจะก้าวออกมา
            ฮันกีอุน!...
 
 
 
****************************************
Chapter 14 แล้วค่ะ >.<
Ch. หน้าก็จะจบแล้ว 
อย่าลืมติดตามกันนะคะ
****************************************
 
 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.2 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายฟิคชั่นเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา