[B2ST/Beast] Dream Story รักนี้ให้นาย...เจ้าชายอสูร
เขียนโดย Kreota
วันที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 เวลา 00.14 น.
แก้ไขเมื่อ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2557 22.21 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
40) [Episode 3 ::Dangerous Lover] #Chapter 15<THE END>
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
Episode 3 Dangerous Lover
:: Chapter 15 ::
THE END
[Kong Kwan: Talk]
ฟุบ!
ฉันทรุดลงบนพื้นโรงยิมด้วยความเหนื่อยล้า ร่างกายปวดร้าวเหมือนว่ามันกำลังแตกออกเป็นเสี่ยงๆ ฉันไม่รู้เลยว่ามันนานมากขนาดไหนแล้วที่ฉันทนให้ซอนบีและพวกรุมกระทืบฝ่ายเดียวแบบนี้ แต่ที่ฉันรู้คือมันทรมานและเจ็บปวดทุกครั้งที่ร่างกายฉันถูกทำร้าย ทำไมมันถึงไม่สิ้นสุดสักที...เจ็บปวดเหลือเกิน
“ฉันอนุญาตให้เธอร้องไห้นะ ฮึๆๆ” ซอนบีหัวเราะในลำคอพร้อมกับนั่งลงส่งยิ้มให้ฉัน
“ฮึ! ฉันบอกแล้วไง เชิญเธอตีฉันตามสบายเลย แล้วหลังจากนี้ อย่าให้ได้เจอกันอีก ฉันเบื่อหน้าเธอเต็มทีแล้ว” ฉันพูดพร้อมกับหายใจหอบ ทุกครั้งที่ฉันเอ่ยปากพูดมันเหมือนใจฉันจะขาดให้ได้เลย
“แต่ฉันยังไม่เบื่อนี่ ฉันอยากจองล้างจองผลาญเธอแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ...ทำไม? อยากจบงั้นหรอ?” ซอนบีเข้ามาบีบคางฉันแรงๆ และพูดต่อ
“มันไม่ง่ายขนาดนั้นหรอกนะ!!”
“ของขวัญ!” อยู่ๆ เสียงวิลล่าก็ดังขึ้น ไม่จริงใช่ไหม! นั่นวิลล่าจริงๆ หรอ! ไม่นะ ยัยนั่นต้องไม่อยู่ที่นี่สิ o_o
“วิลล่า...” เสียงของฉันขาดห้วงไปด้วยความตกใจ วิลล่าเดินเข้ามาในโรงยิมพร้อมลูกน้องของซอนบีอีก 3 คนที่เดินรั้งท้ายไว้ มาคนเดียวแบบนั้นได้ยังไงวิลล่า!
“ดูสิแม่นางเอก เพื่อนหน้าโง่ของเธอมาจริงๆ ซะด้วย” ซอนบีกระชากผมฉันให้เงยหน้ามองวิลล่าชัดๆ
“นังซอนบี!!” วิลล่าถลึงตาที่แดงก่ำใส่ซอนบีพร้อมกับจะพุ่งเข้ามา แต่โดนลูกน้องของซอนบีจับตัวไว้ก่อน
“พี่ๆ เธอไปไหนแล้วล่ะวิลล่า” ซอนบีปล่อยผมฉันให้เป็นอิสระ ก่อนจะเดินไปหาลิวว่าแทน
อย่าทำอะไรเพื่อนฉันนะ!!
“หมายถึงพวกเราหรอซอนบี” พี่ณัชเดินเข้ามาพร้อมกับพี่อีก 4 คน “ไม่เจอกันนานเลยนะซอนบี”
“เธอแก้แค้นของขวัญพอแล้วก็ปล่อยเขาไปซะ มาแก้แค้นพวกเราต่อดีกว่า” พี่หยาพูด
“เรื่องนั้นไม่ต้องรีบร้อนก็ได้ ฉันจะเอาคืนให้ครบทุกคนเลย!...แต่พวกเธอนี่ก็กล้าดีนะ ไม่กลัวโดนตัดสิทธิ์เดบิวต์รึไง รู้ไหม ถ้าทางค่ายรู้เรื่องนี้เข้าอนาคตของพวกเธอดับแน่” ซอนบีกอดอกมองพี่ๆ อย่างไม่เกรงกลัว ขณะที่ลูกสมุนเริ่มกระชับวงล้อมเข้ามาเรื่อยๆ นี่ฉันเพิ่งรู้ว่าลูกสมุนของซอนบีจะมีมากขนาดนี้!
“ถ้าเธอหมายถึงวีดีโอที่ให้คนของเธอแอบถ่ายเอาไว้ล่ะก็ ไม่มีแล้วล่ะ” ฮันกีอุนและลูกสมุนของเขาเดินเข้ามาในวงพร้อมกับกล้องวีดีโอ 2 ตัวถูกโยนไปตรงหน้าซอนบี ซอนบีหน้าถอดสีไปเลยเมื่อเห็นว่ากีอุนอยู่ที่นี่ด้วย
“นาย!”
“ปล่อยฮยอนอินซะ!” กีอุนสั่งด้วยเสียงอันดัง แต่ซอนบีกลับแสยะยิ้มออกมา
“ฮึ! ชอบมันจริงๆ สินะ งั้นมาดูกัน ว่าฮันกีอุนผู้ยิ่งใหญ่จะช่วยคนที่บอกว่าชอบได้มากขนาดไหน!” พูดจบ ยัยซอนบีก็เข้ามากระทืบที่ท้องของฉันอย่างแรง
“โอ้ย!!”
“ชอบมันมากใช่ไหม!! เข้ามาช่วยมันสิ!!”
“โอ้ย!!” ฉันร้องออกมาทุกครั้งที่ท้องน้อยของฉันถูกกระทืบลงมาแรงๆ ในขณะที่กีอุนพยายามฝ่าลูกสมุนมากมายของซอนบีเข้ามาช่วยฉัน
เหตุการณ์เริ่มจะเลวร้ายมากขึ้นเมื่อเกิดการตะลุมบอลกัน จากตรงนี้ฉันไม่รู้เลยว่าใครเป็นใคร แต่ที่รู้คือฉันถูกยัยซอนบีหิ้วคอเสื้อมาอีกมุมหนึ่งของโรงยิม
“ใครอีกล่ะ!!” ซอนบีสบถดังๆ เมื่อมีผู้ชายใส่โม่งสีดำ 6 คนพังประตูโรงยิมเข้ามา พวกเขาเหมือนจะมาช่วยฉันเหมือนพี่ๆ คนอื่นและฮันกีอุน
ฉันนั่งหอบพะงาบๆ อยู่มุมโรงยิม ขณะที่ซอนบีและพวกอีกประมาณ 10 คนกำลังป้องกันไม่ให้ใครมาชิงตัวฉันไปได้ แต่ขณะที่คนของกีอุนกำลังเข้ามาสู้กับคนของซอนบี ก็เกิดช่องว่างทำให้ซอนบีเสียท่าโดนผู้ชายใส่โม่งคนหนึ่งกระชากออกห่างจากฉันแล้วจับโยนออกไปนอกวง
“ไม่เป็นไรนะ” ผู้ชายคนนั้นเข้ามาจับเนื้อตัวฉันอย่างห่วงใย...ท่าทางแบบนี้ น้ำเสียงแบบนี้ สายตาแบบนี้...มันทำให้ฉันจำได้ทันทีว่าเขาคือใคร
“จุนฮยอง...”
เหมือนมีก้อนอะไรบางอย่างขึ้นมาจุกอยู่ที่คอของฉันอย่างรวดเร็ว น้ำตาที่ไม่ยอมไหลแม้กระทั่งโดนกระทืบปางตายเริ่มรื้อออกมาอย่างควบคุมไม่อยู่
นี่ฉันไม่ได้ฝันไปใช่ไหม?...เขามาช่วยฉันจริงๆ ใช่ไหม?
“ยัยเบ๊อะ! ร้องไห้ทำไมเนี่ย ทีตอนมันกระทืบทำไมไม่ร้องล่ะ” จุนฮยองปาดน้ำตาออกจากแก้มของฉันเบาๆ ดวงตาที่โผล่ออกมาด้านนอกโม่งสีดำนั้น มองฉันด้วยความเป็นห่วงจนฉันรู้สึกได้
“ทำไมไม่สู้มัน...” จุนฮยองถามด้วยน้ำเสียงเบาหวิวและสั่นนิดๆ
ทำไมเวลาแบบนี้เขาดูอบอุ่นจัง...
“ฉันสัญญากับนายไว้ไง”
“โง่เอ้ย!...ฉันบอกว่า...เฮ้ย!!” อยู่ๆ จุนฮยองก็ถูกลากออกจากฉัน ในจังหวะเดียวกับที่ซอนบีลากเก้าอี้ไม้ตรงมาหาฉันอย่างรวดเร็ว ไม่นะ! มันเร็วเกินไป...ฉันหลบไม่ทัน >_<!!
“ตายซะเถอะ!!” ซอนบีแผดเสียงลั่นพร้อมกับเงื้อเก้าอี้ขึ้นสูง ฉันหลับตาลงพร้อมรับชะตากรรมเพราะถึงจะพยายามตะเกียกตะกายหนีขนาดไหน ก็คงไม่พ้นอยู่ดี
พลั่ก!!
“อึก!”
เหมือนทุกอย่างรอบๆ ตัวฉันหยุดเคลื่อนไหวไปชั่วขณะ ทุกอย่างเงียบกริบลงเหมือนไม่มีใครอยู่รอบตัว ความรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัยโอบรัดรอบตัวฉัน กลิ่นน้ำหอมอ่อนๆ ลอยเข้ามาเตะจมูก ลมหายใจอุ่นๆ หอบกรดใบหน้าฉันตามจังหวะการหายใจ ทำให้ฉันรู้ว่ามีใครบางคนมากอดฉันไว้เพื่อป้องกันอันตรายจากการโจมตีครั้งนี้
“พี่...” ฉันส่งเสียงออกมาเบาๆ เมื่อเงยหน้าขึ้นไปมองจุนฮยองที่กอดฉันไว้แน่น เขาค่อยๆ ขยับตัวออกห่างจากฉัน สายตาที่มองมามีแววของความเป็นห่วงเปี่ยมล้นอยู่ในนั้น
“ฉันชอบเวลาเธอเรียกฉันว่า ‘พี่’ จัง” จุนฮยองยิ้มบางๆ ให้ฉัน ก่อนจะขมวดคิ้วนิดหน่อย
“นาย...เจ็บตรงไหนรึเปล่า?”
“เปล่า...ฉันไม่ได้เป็นอะไรเลย...แปลกแฮะ?” จุนฮยองขมวดคิ้วจนเป็นปมมากขึ้น ก่อนจะผละออกจากฉันแล้วหันไปมองด้านหลังที่ยัยซอนบียืนตาค้างอยู่
“กีอุน...นาย...” ซอนบีพึมพำในลำคอพร้อมกับมองกีอุนที่นอนอยู่ด้านหลังของจุนฮยอง
“เฮ้ย!!” จุนฮยองร้องแล้วรีบเข้าไปช่วยกีอุนที่นอนสลบจมกองเลือดอยู่ใกล้ๆ ซอนบี
“นายมาช่วยมันไว้ทำไมกีอุน!!” ซอนบีแผดเสียงลั่น พร้อมกับตำรวจที่วิ่งเข้ามารวบตัวเอาไว้โดยที่ยัยนั่นยังไม่ทันตั้งตัว
หลังจากนั้นความวุ่นวายก็เริ่มลดลงเรื่อยๆ จนกระทั่งสงบลง ตำรวจพาผู้ตั้งหาทุกคนกลับไปหมดแล้ว ฉัน กีอุน และผู้บาดเจ็บคนอื่นๆ ถูกส่งตัวไปที่โรงพยาบาลใกล้ๆ
“เธอควรจะไปพักได้แล้วนะ มานั่งเฝ้ามันแบบนี้ เดี๋ยวมันก็ได้ใจหรอก -*-” จุนฮยองกอดอกอย่างไม่พอใจที่ฉันขอให้เขาพามาเฝ้ากีอุนที่พักอยู่ห้องข้างๆ กัน
“ขี้บ่นจริงๆ ไม่อยากอยู่เป็นเพื่อนก็กลับหอไปเลยไป” ฉันบอกอย่างเซ็งๆ
“เฮ้ย! ได้ไงล่ะ เธอเป็นแฟนฉันนะ!”
“มันก็แค่แฟนหลอกๆ ไม่ใช่หรอยะ?”
ทันทีที่ฉันพูดจบประโยค ฉันก็รู้สึกว่าไม่ควรพูดออกไปเลย เพราะหลังจากที่พูดจบจุนฮยองก็เงียบไป ฉันไม่กล้าจะพูดอะไรต่อหรือแม้แต่จะหันไปมองเขาเลย U.U;
กีอุนขยับตัวนิดหน่อยก่อนจะค่อยๆ ลืมตาขึ้นมา โล่งอกขึ้นหน่อยที่กีอุนตื่นตอนที่กำลังอึดอัดพอดี จะได้ไม่ต้องทนกับความเงียบต่อไปแบบนี้
“ที่นี่ที่ไหนเนี่ย?” กีอุนเอ่ยถามด้วยเสียงที่แหบพร่า
ฉันงงตั้งแต่ดูในละครทีวีแล้ว ทำไมคนที่นอนโรงพยาบาลทุกคน พอตื่นขึ้นมาทำไมต้องถามว่า ‘ที่นี่ที่ไหน?’ ทุกคนเลยนะ -?-
“โรงพยาบาล” ฉันตอบสั้นๆ กีอุนมองไปทั่วห้องก่อนจะมาหยุดสายตาที่ฉัน
“ฮยอนอิน เธอไม่เป็นไรใช่ไหม” กีอุนมองฉันด้วยสายตาห่วงใย
“ฉันสบายดี ไม่เป็นไรมากแค่รอยฟกช้ำนิดหน่อย”
“ฉันขอโทษเธอด้วยนะที่ฉันเป็นต้นเหตุทำให้เธอต้องมาเจ็บตัว”
“แต่นายก็ช่วยฉันไว้นะ ฉันควรจะขอบใจนายมากกว่า” ฉันตอบ ฉันไม่เคยนึกเลยว่าเรา 2 คนจะมีโอกาสได้พูดดีๆ กันแบบนี้
“สิ่งที่ฉันทำมันไม่มีค่าพอสำหรับคำขอบคุณจากเธอหรอก ฉันทำกับซูอึนไว้ร้ายแรงเกินไป...ต่อไป ฉันจะยอมชดใช้ทุกอย่าง ตามที่เธอต้องการ”
“นายรู้ตัวว่าทำผิดก็ดีแล้ว กลับตัวกลับใจซะ” ฉันยิ้มให้กีอุน กีอุนคลี่ยิ้มเพลียๆ มาให้ฉัน แต่ขณะเดียวกันนั้นรถเข็นที่ฉันนั่งอยู่ก็ถูกเลื่อนไปด้านหลังจนฉันเกือบจะหัวคะมำไปฟาดเข้ากับเหล็กกั้นเตียงข้างหน้า -_-
“ฉันว่าแฟนฉันอยากพักผ่อนแล้วล่ะ หายเร็วๆ นะ แฟนฉันจะได้ไม่ต้องมานั่งเฝ้า” จุนฮยองเน้นคำว่า ‘แฟน’ ทุกคำในประโยคให้ชัดเจน ก่อนจะพาฉันออกไปจากห้องของกีอุน เขาทำตัวเหมือนหึงฉันอีกแล้วล่ะ -///-
พอฉันเข้ามาในห้องก็เจอคุณอินโจและพ่อรออยู่ก่อนแล้ว ยังไม่ทันทีจะคุยอะไรให้มากความ พ่อก็พาฉันมาที่ห้องพัก VIP ห้องหนึ่งที่อยู่ถัดขึ้นมาจากห้องพักของฉัน 2 ชั้น
“นี่มันห้องของซูอึนนี่คะ มาที่นี่ทำไมหรอ?” ฉันถามพ่อที่ยืนอยู่ข้างๆ ทั้งพ่อและคุณอินโจไม่พูดอะไร แต่เปิดประตูแล้วเดินเข้าไปในนั้นเลย ฉันกับจุนฮยองมองหน้ากันงงๆ สักพัก ก่อนจะตามเข้าไปด้านใน
ติ๊ด! พรืด...ติ๊ดๆ...พรืด พรืด...
เครื่องมือทางการแพทย์ต่อสายระโยงรยางค์ออกมาจากร่างเล็กๆ ของเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง...เด็กผู้หญิงที่ฉันจำได้ไม่เคยลืม ช่วงหลังๆ ฉันไม่ค่อยได้มาเยี่ยมเธอเลย
“ซู...อึน...” ฉันส่งเสียงออกไปด้วยความยากลำบาก เพราะเหมือนมีก้อนอะไรบางอย่างขึ้นมาจุกที่คอ ฉันหันไปมองพ่อด้วยความสับสน เขาพาฉันมาที่นี่ทำไม?
“อ้าวท่านประธาน ซูอึนเพิ่งหลับไปเมื่อกี๊เองน่ะค่ะ” คุณยายของซูอึนเดินเข้ามาหาพ่ออย่างนอบน้อมแต่ดูสนิทสนมอย่างกับเจอกันบ่อยๆ อย่างนั้นแหละ
“หรอ...ไม่เป็นไร พอดีฉันมาเยี่ยมลูกสาว เลยแวะมาดูอาการหน่อย” พ่อตอบกลับไป ทำให้ฉันยิ่งงงเข้าไปใหญ่ พ่อตอบเหมือนกับว่าพ่อแวะมาที่นี่บ่อยมากอย่างนั้นแหละ ทั้งที่ผ่านมาฉันไม่เคยเห็นพ่อจะมาเยี่ยมซูอึนเลยสักครั้ง จนฉันแอบคิดไปว่าพ่อคงรู้สึกผิดที่ช่วยเขาไม่ได้เลยไม่กล้ามาซะอีก
“นี่...อะไรกันคะ ขวัญงงไปหมดแล้ว” ฉันถาม พ่อกับคุณยายของซูอึนหันมามองฉัน ก่อนที่คุณยายจะเป็นคนตอบคำถาม
“งงอะไรล่ะจ้ะขวัญ?” คุณยายถาม
“เรื่องอะไรล่ะ” ประโยคนี้ พ่อเป็นคนถามเอง ฉันละสายตาจากคุณยายมามองพ่อแทน
“ทุกเรื่องค่ะ”
พ่อนิ่งมองหน้าฉันสักพัก ก่อนจะมาเข็นรถเข็นแทนจุนฮยอง และพาฉันไปอยู่ข้างๆ เตียงของซูอึน
“พ่อรับเป็นเจ้าของไข้ซูอึนตั้งแต่ฮยอนอินขอร้องให้ช่วยแล้วล่ะ พ่ออยากพยายามช่วยลูกให้ได้มากที่สุด แต่ที่พ่อใช้วิธีนี้เพราะเรื่องแบบนี้มันต้องรอเวลาและหลักฐาน และตอนนี้เวลาก็ได้พิสูจน์แล้วว่ามันสามารถทำให้คนชั่วถูกลงโทษได้จริงๆ...”
“พ่อหมายความว่ายังไงคะ?”
“ซูอึนฟื้นได้ 3 วันแล้วและสามารถให้ปากคำกับตำรวจได้ ตอนนี้เหลือแค่หมายจับฮันกีอุนเท่านั้นเอง”
“พ่อ...” ฉันส่งเสียงออกไป มันรู้สึกแปลกๆ ที่จะจับฮันกีอุนที่กลับตัวกลับใจแล้วเข้าคุกแบบนี้ แต่พอหันไปเห็นซูอึนที่มีทั้งท่อออกซิเจน สายให้อาหารทางจมูก และอุปกรณ์ทางการแพทย์อื่นๆ ติดเต็มร่างกายไปหมด ความรู้สึกสงสารกีอุนก็หายไปเป็นปลิดทิ้ง
“แต่พ่อไม่อยากให้ลูกตั้งความหวังไว้สูงนะ เพราะรัฐมนตรีฮันก็กว้างขวางพอตัว”
“พ่อคะ...คือ...ตอนนี้หนูไม่ได้หวังให้ใครต้องมารับผิดชอบเรื่องนี้หรอกค่ะ หนูคิดว่าที่ผ่านมา...หนูเอาคืนให้ซูอึนมากพอแล้ว”
เหมือนมีมีดมาผ่าแสกกลางหน้าผากทันทีที่พูดจบ เพราะทั้งพ่อ คุณอินโจ และจุนฮยองต่างมองหน้ากันอย่างทึ่งๆ ความคิดแบบนี้คงไม่คิดว่าฉันจะคิดได้และพูดออกมาสินะ...=_=
“พ่อดีใจนะ ที่ลูกคิดได้แบบนี้ ^_^” พ่อยิ้มให้ฉันเบาๆ ก่อนจะชำเลืองไปมองจุนฮยองที่ยืนอยู่มุมหนึ่งของห้อง
“สงสัยเพราะแฟนคนนี้ล่ะมั้ง ที่ทำให้ของขวัญของพ่อเปลี่ยนไปขนาดนี้” พ่อยิ้มแซวๆ มาให้ฉัน หน้าเริ่มร้อนขึ้นเรื่อยๆ ลามไปขึ้นหูแล้ว >////<
“พ่อ!”
“เอาล่ะ พ่อต้องกลับแล้ว...อย่าอยู่กวนซูอึนนานล่ะ เพิ่งจะฟื้น หมออยากให้พักมากๆ” พ่อบอกแล้วเดินออกไปจากห้องโดยมีคุณอินโจเดินตามออกไป ส่วนฉันกับจุนฮยองหลังจากที่ร่ำลาคุณยายเสร็จก็กลับมาที่ห้องพักของตัวเอง
“เมื่อกี๊พ่อเธอ เรียกว่า ‘ของขวัญ’ ด้วยนี่” จุนฮยองพูดขึ้นเหมือนเพิ่งจะคิดได้
“พ่อจะเรียกเวลาเผลอน่ะ ^_^”
“กินขนมหน่อยไหม เมื่อเช้าก่อนไปหากีอุน ฉันเห็นเธอกินนิดเดียวเอง” จุนฮยองยกกล่องเค้กโรลที่วิลล่าซื้อมาเยี่ยมเมื่อเช้ามาวางไว้บนตักของฉัน ฉันรับมันมาแล้วเริ่มลงมือกินทันที ฉันเพิ่งรู้สึกว่าตัวเองหิวก็ตอนที่เห็นของกินนี่แหละ
“แหมๆ ดูแลฉันดีขนาดนี้ ถ้าเกิดฉันชอบนายขึ้นมาจริงๆ นายจะทำไง” ฉันถามทีเล่นทีจริง แต่จุนฮยองกลับเงียบและมองหน้าฉันด้วยสายตาแปลกๆ
“ถ้าอยากชอบ...ก็ชอบสิ”
“ห๊ะ!” ฉันส่งเสียงร้องออกไปด้วยความตกใจ เมื่อกี๊เขาอนุญาตให้ฉันชอบได้งั้นหรอ O_O//
“ฉันรู้น่าว่าเธอได้ยิน -_-//”
ก็ฉันอยากได้ยินให้มั่นใจนี่ว่าเขาพูดอย่างนั้นจริงๆ ขืนฉันพูดเองเออเองเสียฟอร์มแย่ U_U; แต่จุนฮยองก็ไม่ตอบอะไร เขายังคงมองฉันอยู่ ฉันเลยก้มหน้าก้มตากินเค้กโรลต่อไป
มองแบบนี้คนมันก็เขินเป็นเหมือนกันนะ >////<
“กินเลอะจริงๆ คิดว่าตัวเองเป็นนางเอกเอ็มวีรึไง” จุนฮยองขมวดคิ้วมองมาที่ริมฝีปากฉัน
“ชิ!” ฉันส่งเสียงอย่างหมั่นไส้พลางยกมือขึ้นมาเช็ดส่วนที่เลอะออก แต่จุนฮยองก็เอื้อมมือมาจับข้อมือฉันไว้เบาๆ และดึงตัวฉันเข้าไปกอดไว้แน่น เขากอดฉันไว้แน่นมากจนฉันรู้สึกอึดอัดและหายใจไม่ค่อยออก
“ถ้าเธอมีเรื่องกับใครอีก ฉันไม่ยกโทษให้แน่” จุนฮยองพูดพร้อมกับลูบผมฉันเล่นเบาๆ แอร๊ยยย ทำไมเขาทำตัวอบอุ่นไม่เข้ากับคำพูดเลยนะ >////<
“แต่เมื่อวานฉันไม่ได้ตีใครเลยนะ” ฉันแก้ตัวเพราะฉันมั่นใจมากว่าเมื่อวานฉันไม่ได้ตีใครเลยจริงๆ สาบาน -_-\I/
“ฉันหมายถึงคนที่ตีเธอต่างหาก ใครกล้าแตะต้องเธอ ฉันไม่ยกโทษให้มันแน่!”
“อ๋อ นายจะใส่โม่งนั่นไปตีพวกอริให้ฉันใช่ไหมล่ะ ฮ่าๆๆ ^O^//” ฉันหัวเราะออกมาเบาๆ เพราะฉันไม่มีพื้นที่ในการหัวเราะมากนักเพราะกอดแน่นเกิน -////-
“ฉันก็อายเหมือนกันนะที่ต้องใส่อะไรแบบนั้น” จุนฮยองหัวเราะในลำคอ
“นี่! ปล่อยฉันได้แล้ว มันอึดอัด” ฉันบอกและพยายามผลักจุนฮยองออก แต่เขาก็ไม่ยอมปล่อย
“เดี๋ยว ยังไม่เสร็จ”
“อะไร?” ฉันขมวดคิ้ว ขณะที่เริ่มรู้สึกเหมือนมีสิ่งแปลกปลอมอยู่ที่ใบหู
“นี่! ทำอะไรเนี่ย ปล่อยเดี๋ยวนี้นะ!!” ฉันดิ้นพล่านๆ ขณะที่เขาผละออกไปพอดี
“ของขวัญวันเกิด” จุนอยองพูดพร้อมกับยื่นกระจกมาให้ฉัน
“กระจกเนี่ยนะ ของขวัญ =_=?”
“เปล่า อยู่ที่หูเธอต่างหาก” จุนฮยองพยักพเยิดมาที่หูข้างที่ฉันรู้สึกแปลกๆ เมื่อกี๊
ฉันมองหน้าเขาอย่างช่างใจ ก่อนจะยอมยกกระจกขึ้นมาส่องดู ก็พบกับต่างหูห่วงวงกลมเล็กๆ สีเงินสะดุดที่หูข้างขวา
“สวยจัง” ฉันพูด พร้อมกับเงยหน้าไปมองจุนฮยองที่เหมือนว่าเขากำลังคอยฟังอยู่ แต่ฉันกลับเห็นต่างหูแบบเดียวกันอยู่ที่หูข้างซ้ายของจุนฮยอง
“แบ่งกันคนละอันแล้วกัน ต่างหูเนี่ยของรักของฉันเลยนะ เก็บไว้ดีๆ ล่ะ”
“โอเค” ฉันรับคำ แล้วยกกระจกขึ้นมาส่องอีก ทำไมเวลาที่เห็นจุนฮยองใส่ก่อนหน้านี้ไม่รู้สึกว่ามันสวยขนาดนี้เลยนะ
“ชอบไหม?”
“ชอบสิ”
“ถ้าชอบก็คบกันนานๆ นะ”
“เอ๋...เมื่อกี๊?” ฉันเงยหน้าขึ้นมองจุนฮยอง เพราะดูเหมือนฉันกับเขากำลังคุยคนละเรื่องเดียวกันอยู่ -_-?
เมื่อกี๊ฉันคิดว่าเขาถามฉันว่า ‘ชอบต่างหูไหม?’ ซะอีกนะ….O///O!
“นี่นายแกล้งฉันหรอ >////<”
“ฉันไม่ได้แกล้งสักหน่อย เธอพูดออกมาเองว่าชอบ”
“เมื่อกี๊ฉันบอกว่าชอบต่างหูต่างหากนะ =///=”
“ชอบต่างหู ก็เหมือนว่าชอบฉันด้วย ฉันเพิ่งบอกไปหยกๆ ว่านี่เป็นของรักของฉัน ^^” จุนฮยองยิ้มอย่างมีชัย
“มีที่ไหนล่ะ อย่ามาพูดมั่วๆ นะ”
“แล้วถ้าฉันบอกว่า ฉันชอบเธอ จะคิดว่าพูดมั่วๆ อยู่รึเปล่า?”
“...” เงิบเลยงานนี้ U///U
ฉันไม่รู้จะตอบเขาว่าไง มันรวดเร็วเกินไป ฉันตั้งตัวไม่ทันจริงๆ จุนฮยองชอบฉันจริงๆ หรอเนี่ย ถึงแม้ว่าที่ผ่านมาเขาก็แสดงอาการออกมาให้สงสัยตลอด แต่เวลาเขาพูดตรงๆ แบบนี้มันเขินยังไงบอกไม่ถูก >///<
“แล้วเธอล่ะ...ว่าไง” จุนฮยองเอียงคอถามฉัน สายตาของเขาเหมือนกำลังอ้อนวอนให้ฉันตอบตกลงอยู่ แอร๊ยยย >///< ฉันทำตัวไม่ถูก
“...มัน...ไม่น่าเป็นไปได้ นายเนี่ยนะ...ชอบฉัน” ฉันชี้นิ้วเข้าหาตัวเองเพื่อยืนยันตัวบุคคล -///-
“ฉันก็ไม่อยากจะเชื่อตัวเองเหมือนกันว่าจะชอบเธอ =_=”
“อ้าว!”
“ก็เท่าที่ฉันจำได้ เจอเธอทีไรก็มีเรื่องเดือดร้อนทุกที...แต่ฉันกลับชอบที่จะหาทางแก้ปัญหาให้เธอนะ...ฉันอยากเป็นคนแรกที่เธอนึกถึงเวลามีปัญหา”
“แล้วถ้าเกิดฉันมีปัญหาขึ้นมาอีก นายสัญญาได้ไหมว่านายจะไม่ทิ้งฉัน”
“ได้สิ...คุณแฟน ^_^”
“น่ารักจัง...คุณแฟน ขอบคุณนะ ^O^”
ที่ผ่านมาฉันคิดเสมอว่าชีวิตนี้มีแต่คนที่ทอดทิ้งฉัน ไม่มีใครที่จะเข้าใจฉันเท่ากับตัวเองอีกแล้ว เลยทำอะไรตามใจ ไม่สนใจใคร ไม่แคร์ใคร จนกระทั่งได้มาเจอกับผู้ชายคนนี้ เขายอมช่วยฉันทั้งๆ ที่เราไม่เคยรู้จักกัน และคอยอยู่เคียงข้างเสมอเวลาที่ฉันต้องการใครสักคน ถึงแม้เขามักจะแสดงสีหน้าไม่เต็มใจและปากร้ายขี้บ่นขนาดไหน แต่ฉันรู้ว่าเขาเป็นอีกคนหนึ่งที่จะคอยช่วยและอยู่เคียงข้างเสมอ...ขอบคุณที่อยู่ข้างๆ กันนะ
ฉันรักนาย...เจ้าชายอสูรของฉัน
THE END
*****************************************
Ep. 3 จบแล้วค่า
ขอโทษที่หายไปนานนนนนนนนนนนนนนน นะคะ T^T
เอา Ep. 4 มาฝากเพื่อเป็นการไถ่โทษแล้วจ้า ^O^
*****************************************
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ