[B2ST/Beast] Dream Story รักนี้ให้นาย...เจ้าชายอสูร

8.9

เขียนโดย Kreota

วันที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 เวลา 00.14 น.

  87 ตอน
  86 วิจารณ์
  113.76K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2557 22.21 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

36) [Episode 3 :: Dangerous Lover] # Chapter 11

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

Episode 3 Dangerous Lover

:: Chapter 11 ::

 

            “เป็น...”  อึนพาพูดได้แค่นั้น ก็มีเสียงๆ หนึ่งพูดแทรกขึ้นมา

            “เป็นคนที่เห็นธาตุแท้ของเธอไง!”  ผู้หญิงคนหนึ่งในกลุ่มนั้นพูดขึ้นเมื่อเดินเข้ามาใกล้ ตอนนี้มีแค่รถเข็นเท่านั้นที่กั้นกลางระหว่างเรา -_-;

            “พวกเธอเป็นใคร!”  ฉันหันไปถามเสียงห้วน เลือดเริ่มสูบฉีดทั่วร่างกายเพื่ออุ่นเครื่องพร้อมสู้ทุกสถานการณ์ พวกเขาเป็นผู้หญิงทั้งกลุ่มฉันคงสู้ไหวแหละ -_-;

            “ยัยเด็กนั่นยังไม่ได้บอกเธอหรอกหรอ?”  ผู้หญิงคนเดิมพูด รู้สึกว่าจะอายุมากกว่าฉันสักประมาณ 2-3 ปีนะ

            “บอกอะไร?”  ฉันหรี่ตามองเพื่อประเมินสถานการณ์ว่าฉันควรเชื่อคำพูดของยัยนี่ดีไหม

            “ก็บอกว่าเด็กนั่นเป็นคนหน้าด้านขนาดไหนไง! เห็นเขากำลังจะดังเลยเข้าไปเกาะเขาหน้าตาเฉย สมใจแล้วใช่ไหมล่ะ จะเดบิวต์แล้วนี่!!”  ยัยนั่นอ้าปากตะโกนลั่นจนเห็นเหล็กจัดฟันสีเขียวตะไคร่น้ำอยู่ที่ฟัน ฉันยืนอยู่ใกล้แค่นี้เอง ไม่ต้องตะโกนฉันก็ได้ยินน่า -_-

            อึนพาร้องไห้ออกมาหนักมากขึ้น ตัวที่สั่นอยู่แล้วยิ่งสั่นเข้าไปใหญ่ ฉันเลยดันอึนพาไปหลบอยู่ด้านหลัง เผื่อมีเหตุการณ์บานปลายจะได้ไม่โดนลูกหลง

            “เธอไม่รู้อะไรอย่ามาพูดดีกว่า อึนพาเป็นคนดีมาก...”

            “เธอนั่นแหละไม่รู้อย่าพูด!!”  ยัยตะไคร่น้ำตะคอกแทรกขึ้นมาก่อนที่ฉันจะพูดจบ  “ฉันไม่รู้นะว่าเธอเป็นใคร อาจจะเป็นทีมงานหรือพี่เลี้ยงของของบีสท์เกิร์ล แต่ฉันจะบอกให้ระวังเด็กนี่ไว้หน่อย”

            “ฉันว่าฉันควรระวังพวกเธอมากกว่านะ =_=”  ฉันตอบหน้าตาย

            “ฮึๆ...เอ้าๆ ไว้ใจกันเข้าไป เธอไม่คิดอะไรเลยหรอที่เห็นเว็บบอร์ด ‘แอนตี้ชเวอึนพา’ เต็มไปหมดแบบนั้น หรือ อย่าบอกนะว่าไม่เคยเห็นเว็บแบบนั้นเลย”  ยัยนั่นหรี่ตามองฉัน เอ่อ...ฉันก็เคยเห็นมาบ้างนะ มันเยอะมากจริงๆ =_=;

            “ตอบไม่ได้ล่ะสิ! ไปคิดดูดีๆ นะ ว่าจะให้เด็กนี่ร่วมวงกับบีสท์เกิร์ลแบนไหม ฉันว่าจะพลอยให้บีสท์เกิร์ลซวยซะเปล่าๆ”  ยัยตะไคร่น้ำยิ้มเยาะ

            “พวกเธอเป็นคนแอนตี้อึนพาหรอ?”  ฉันถาม พยายามทำตัวให้เป็นน้ำแข็งขั้วโลกให้มากที่สุด เพราะฉันยังไม่อยากตีใครเพราะเรื่องแบบนี้ เพื่อนฉันกำลังจะได้เดบิวต์ ถ้าเกิดเรื่องเสียหายคงไม่ดีต่อภาพลักษณ์ที่จะออกมาแน่

            “ไม่ใช่แค่พวกฉันหรอก แต่ยังมีอีกเพียบ”

            “แล้วที่มาวันนี้ต้องการอะไร”  ฉันถามเข้าประเด็น

            “เอ่อ...ฉันว่าเรากลับกันดีกว่าค่ะ”  อึนพากระซิบบอกฉันเสียงสั่น

            “เดี๋ยวสิ!”  ฉันกระซิบตอบอึนพาแล้วหันไปหายัยตะไคร่น้ำอีกครั้ง

            “ว่าไง?” 

            “ฉันแค่มาเตือนความจำของยัยอึนพาสักหน่อย ว่าที่ฉันบอกเอาไว้ ฉันทำจริง!!”  ยัยตะไคร่น้ำพูดไว้แค่นั้น แล้วเดินจากไปอย่างสงบ

            เฮ้อ...ดีนะเนี่ยที่ไม่มีเรื่องอะไร -_-!

            ฟึบ!

            อึนพาทรุดนั่งลงบนพื้น สีหน้าไร้เรี่ยวแรงอย่างเห็นได้ชัด เฮ้ๆ อย่ามาเป็นลมที่นี่นะ ฉันปฐมพยาบาลไม่เป็น T^T

            “ไหวไหม?”  ฉันนั่งลงข้างหน้าอึนพา อึนพาพยักหน้าอย่างเหนื่อยๆ แล้วเงยหน้าขึ้นมองฉันด้วยแววตาเศร้าๆ

            “พี่คะ ฉันทำผิดมากหรอที่เคยช่วยเพื่อนๆ ของพี่ไว้”  อึนพาพูดแล้วร้องไห้ออกมา 

            “ฉันไม่ได้หวังให้พี่ๆ เขาเอาฉันเข้าร่วมวงด้วยหรอกนะคะ แต่ที่ฉันช่วยเพราะฉันไม่อยากเห็นใครโดนรังแกเหมือนอย่างที่ฉันโดน!”  อึนพาพูดออกมาด้วยความเหลืออด ฉันรู้ว่าความรู้สึกที่ทำดีแต่ไม่มีใครเห็นค่ามันเป็นยังไง

            “เอาล่ะๆ อย่าคิดมากเลย อย่างน้อยๆ ก็ยังมีคนที่รักเธอนะ” 

            “ฉันก็คิดแบบนั้นฉันถึงอยู่มาได้ถึงตอนนี้ พวกแอนตี้ฉันเขาแอนตี้มานานแล้ว แต่พอรู้ว่าฉันจะได้อยู่วงของบีสท์เกิร์ลแบน เขาก็ยิ่งแอนตี้หนักขึ้น ถึงขั้นขู่ว่าจะพังงานเดบิวต์ของเราเลยนะคะ! ฉันไม่อยากทำให้พี่ๆ เขาเดือดร้อนเพราะฉัน...”

            “แล้ว พวกพี่ๆ ร่วมวงคนอื่นรู้เรื่องนี้รึเปล่า”

            “รู้ค่ะ แต่พี่เขาบอกว่ายังไง เราก็ต้องเดินไปด้วยกัน...”

            “งั้นเธอก็ไม่ต้องห่วงอะไรแล้วนะ ในเมื่อยังมีคนที่เขารักเธอและไว้ใจเธอขนาดนี้ ถึงกับยอมเอาอนาคตตัวเองมาลองเสี่ยงเพื่อเธอ ฉันว่ามันน่าจะมีพลังมากกว่ากลุ่มคนที่แอนตี้เธอซะอีกนะ”  ฉันตบไหล่ของอึนพาเบาๆ อึนพาเงยหน้าขึ้นมายิ้มให้ฉันทั้งน้ำตา แล้วเราก็ช่วยกันเก็บของที่ตกเกลื่อนพื้นจนเสร็จก่อนจะมุ่งหน้ากลับหอในช่วงเย็นๆ พอดี

            ทำไมยิ่งมองหน้าใกล้ๆ ฉันยิ่งรู้สึกคุ้นหน้าอึนพาจังเลย ฉันว่าฉันต้องเคยเจอที่ไหนแน่ๆ แต่ไม่ใช่ที่หอของวิลล่า?...ที่ไหนนะ -?-

            พอกลับมาถึงหอพัก ฉันก็ขนของขึ้นมาที่ห้องช่วยอึนพาก็บังเอิญเจอกับดงอุนและกีกวังที่เดินผ่านมาพอดี พวกเขาเลยช่วยฉันยกของเข้ามาที่ห้อง พวกเขาช่วยได้เยอะจริงๆ ฉันนึกว่าฉันจะได้แบกน้ำ 3 แพ็คจากลิฟต์มาที่ห้องนี้คนเดียวซะแล้ว จากระยะทางมันก็ไกลอยู่นะ -_-;

            ขนของเสร็จฉันก็รีบขอตัวกลับก่อนทั้งที่วิลล่าให้ฉันอยู่รอ แต่ฉันไม่อยากเจอจุนฮยองนี่ ฉันยังไม่พร้อมที่จะเจอเขา ฉันไม่รู้ว่าพอเจอกันแล้วจะทำตัวยังไงดี -///-

 

            ฉันไม่ไปยุ่งและสุงสิงกับคนหอนั้นอีก จนกระทั่งถึงวันที่วิลล่าจะเดบิวต์ ฉันเลยต้องไปร่วมงานอย่างเลี่ยงไม่ได้ หวังว่าคนเยอะขนาดนั้นคงไม่เจอกันหรอกนะ -_-//

            วงของวิลล่าเปลี่ยนชื่อวงใหม่จาก Beast Girl Band เป็น Lusty (ลัส-ตี้) แปลได้ 2 อย่างในคำเดียวกันคือ ความมีชีวิตชีวาและมีพลัง ซึ่งวันนี้สาวๆ Lusty ทั้ง 7 คนก็คงพร้อมแล้วสำหรับการเดบิวต์ในวันนี้

            ฉันกับยูรีเดินเข้ามาในงานพร้อมช่อดอกไม้ช่อใหญ่คนละช่อ บรรยากาศรอบตัวเห็นแล้วก็ปลื้มแทนวิลล่า เพราะวันนี้มีแฟนๆ มารอดูการแสดงของพวกเขาเต็มพื้นที่ไปหมด จนฉันและยูรีต้องหลบมายืนอยู่ที่มุมหนึ่งที่อยู่ใกล้ๆ ประตูแทน มีทั้งป้ายไฟและแท่งไฟหลากหลายสีอยู่ในมือ บางกลุ่มเป็นแฟนคลับที่มาจากเมืองไทยพวกเขาใส่เสื้อสกรีนเป็นคำว่า ‘Lusty Band TH.’ ด้านหลังเสื้อกันทั้งกลุ่มเลย

            “แบบนี้เราจะเอาดอกไม้ไปให้วิลล่ายังไงล่ะ”  ยูรีกวาดตามองไปที่กลุ่มแฟนคลับกลุ่มแล้วกลุ่มเล่าอย่างกังวล คนเยอะขนาดนี้คงถึงตัว Lusty ยากแน่ๆ ถึงแม้จะเป็นเพื่อนสนิทก็เถอะ U_U

            “งั้น เดี๋ยวฉันจะลองโทรหาวิลล่าดูแล้วกัน”  ฉันบอก แล้วเดินเลี่ยงออกมาจากงานเพื่อหาที่โทรศัพท์ ฉันเดินแทรกตัวออกมาจากงานแล้วมายืนหลบมุมโทรหาวิลล่าที่ทางเดินใกล้ๆ กับทางออก ซึ่งตรงนี้มีคนน้อยที่สุดแล้ว

            “ปล่อยฉันนะ!!”  เสียงผู้หญิงคนหนึ่งลอยมาตามทางเดินขณะที่ฉันกำลังไล่นิ้วมือไปบนหน้าจอมือถือเพื่อหาเบอร์ของวิลล่า ฉันเหลือบไปมองต้นเสียงนิดหน่อยเจอฮันกีอุนกำลังลากผู้หญิงคนหนึ่งเดินมาทางนี้ ทำร้ายผู้หญิงได้เสมอต้นเสมอปลายจริงๆ นายคนนี้ -_-*

            “มาได้ไงวะ!”  ฉันสบถกับตัวเองแล้วรีบยกช่อดอกไม้ขึ้นปิดหน้า ดีนะที่วันนี้เลือกช่อใหญ่มา มันเลยพอที่จะปิดบังหน้าตาฉันได้บ้าง

            “ขอโทษ”  กีอุนบอกฉันห้วนๆ เมื่อเดินมาเบียดฉันบริเวณทางเดิน ฉันเลยรีบปรี่ตัวเข้าไปสิงสถิตที่ผนังและทำตัวให้ลีบเล็กที่สุด

            “เธอมาที่นี่ทำไม?”  กีอุนถามผู้หญิงคนนั้นเสียงดังลั่นจนกลบเสียงดนตรีด้านในงานจนมิด เฮ้อ...ฉันว่าฉันรีบหนีดีกว่า ถ้าเกิดนายกีอุนนั่นจับฉันได้ งานเดบิวต์ล่มแน่ (เพราะจะกลายเป็นสนามสงครามแทน) =_=!

            “แล้วทำไมฉันจะมาไม่ได้ อย่าลืมสิว่าฉันเป็นใคร”  ผู้หญิงคนนั้นพูด ทำให้ฉันชะงักฝีเท้าของตัวเองทันที นั่นมันเสียงยัยซอนบีนี่ O_O!

            “เธอก็แค่ ‘เคยเป็น’...ไม่ใช่หรอ”

            ยิ่งฉันได้ยินเสียงซอนบี ฉันก็ยิ่งยืนชิดแนบสนิทกับฝาผนังเข้าไปอีกและทำทีเป็นคุยโทรศัพท์อยู่ตรงนั้นโดยมีช่อดอกไม้ช่อโตเป็นโล่กำบังเพียงอย่างเดียว เสี่ยงไปไหมเนี่ย แต่มันก็คงต้องเสี่ยงน่ะนะ =_=;;

            “ก็แค่อยากมาดูหน้าพวกที่ทำให้ฉันโดนเฉดหัวส่งเท่านั้นเอง ทำไม? กลัวฉันมาล่มงานเดบิวต์นี่รึไง”

            “แล้วมันใช่ไหมล่ะ”

            “ถ้าฉันคิดจะทำจริงๆ แล้วมันเกี่ยวอะไรกับนายด้วย อย่าบอกนะว่านายก็เป็นแฟนคลับพวกนี้เหมือนกัน...”

            “...”  เสียงกีอุนเงียบไป ฉันเลยค่อยๆ ลดช่อดอกไม้ลงพอที่จะมองผ่านไปได้ เห็นกีอุนมองไปทางอื่นอย่างหงุดหงิด ขณะที่ซอนบีเหยียดยิ้มออกมาเบาๆ รอยยิ้มแบบนี้มันน่ารังเกียจจริงๆ ให้ตาย -*-!

            “อ๋อ...จริงสินะ! เพื่อนยัยฮยอนอินอยู่วงนี้นี่”  ซอนบีพูดเหมือนเพิ่งคิดได้ แต่ดูจากสายตาแล้ว ยัยนี่คิดได้ตั้งแต่ตั้งคำถามแล้วล่ะฉันว่า -_-

            “เธอกลับไปได้แล้ว”  กีอุนเริ่มพูดหลังจากเงียบให้ยัยซอนบีพ่นพิษใส่อยู่นาน ฉันว่าฉันเอาช่อดอกไม้ขึ้นดีกว่า ถ้าเกิดฉันเห็นหน้ายัยนี่นานๆ ฉันต้องเข้าไปกระทืบยัยนั่นแน่ๆ ฉันไม่เคยลืมเรื่องที่มันจะให้เพื่อนมารุมโทรมฉันได้เลยสักนาทีเดียว -*-!

            “แล้วนายล่ะ นอกจากตามมาลากฉันออกจากงานแล้ว มาที่นี่ทำไมไม่ทราบ จะมาตื้อยัยฮยอนอินอีกรึไง!”

            “ซอนบี!!”  กีอุนขึ้นเสียงดังลั่นจนฉันเผลอสะดุ้งตัวนิดหน่อยกับพลังเสียงที่ดังก้องอยู่ระหว่างทางเดิน

            “โอเคๆ ฉันกลับก็ได้ เพราะถึงไม่มีฉันงานวันนี้ก็ล่มอยู่ดี” 

            เฮือก!

            ทันทีที่ฉันได้ยินซอนบีพูด ใจฉันก็หายวาบเหมือนกับว่ากำลังถูกโยนลงเหว ยัยซอนบีหมายความว่า ยังไงงานวันนี้ก็ต้องล่มงั้นหรอ!

            “เธอจะทำอะไร! ห๊ะ!!”  กีอุนแผดเสียงลั่น ฉันลดช่อดอกไม้ลงอีกครั้งเพื่อมองดูสถานการณ์ กีอุนกำลังบีบแขนของซอนบีไว้แน่น ดวงตาที่มองซอนบีแทบจะถลนออกมาด้วยความโกรธ แต่ยัยซอนบีกลับยังยิ้มร่าได้อย่างไม่สะทกสะท้าน

            “ทำไมต้องโกรธขนาดนี้ด้วยล่ะกีอุน ไหนบอกว่าที่ตื้ออยู่เนี่ยแค่อยากแกล้งยัยฮยอนอินจอมอวดดีนั่นไม่ใช่หรอ เป็นเดือดเป็นร้อนแทนขนาดนี้ นายชอบยัยนั่นเข้าแล้วรึไง!” 

            “นั่นมันไม่ใช่เรื่องของเธอ...”  กีอุนพูดแล้วสะบัดมือออกจากแขนของซอนบีแรงๆ แล้วเบือนหน้าหนีไปอีกทาง ฉันจึงรีบยกช่อดอกไม้ขึ้นอีกครั้ง เกือบไปแล้วๆ หมอนั่นหันมาทางนี้ด้วย >_<!

            เอ่อ...แต่น่าขนลุกชอบกลนะ พอได้ยินว่าหมอนี่ชอบฉัน ไล่ตีกันอยู่ทุกวัน จะมาชอบฉันได้ไง =_=;

            “โอเค! ไม่ใช่ก็ไม่ใช่...แต่ฉันอยากบอกนายไว้อย่างนะ ยัยฮยอนอินน่ะถ้าได้เกลียดหรือแค้นใครแล้วไม่มีวันยอมให้อภัยหรือปล่อยไปง่ายๆ แน่ ถึงนายจะชอบยัยนั่นมากขนาดไหน ก็สำนึกไว้ด้วยว่านายทำอะไรกับยัยนั่นไว้บ้าง”

            กีอุนไม่พูดอะไรต่อ แต่เขาเดินไปตามทางเดินที่ออกจากงาน ซอนบียืนมองตามแผ่นหลังนั้นไปสักพัก ก่อนจะแยกไปอีกทาง

            ฮึ! เธอเข้าใจถูกแล้วล่ะยัยซอนบี ฉันมันชนิดที่ว่าบุญคุณต้องทดแทน แค้นต้องชำระ แต่ 10 ปีมันช้าไปสำหรับการชำระแค้น ฉันขอชำระแค้นของฉันวันนี้เลยแล้วกัน!!

            ฉันเดินจ้ำๆ ตามซอนบีไป จนกระทั่งชนกับใครคนหนึ่งตรงมุมโถงทางเดินที่มีทางแยกย่อย 3 ทาง โอ้ย! ฉันมัวแต่มองยัยซอนบีจนลืมมองทางเลยหรอเนี่ย -_-#

            “ขอโทษค่ะ”  ฉันพูดแล้วโค้งตัวลงนิดหน่อยก่อนจะเดินต่อ แต่ก็ถูกคนที่ฉันเดินชนจับข้อมือเอาไว้

            “เดี๋ยวสิ เธอจะไปไหน”  เสียงของจุนฮยองดังขึ้นใกล้ๆ ฉันเลยหันไปมองต้นเสียง ก็เห็นว่าจุนฮยองคือคนที่ฉันเดินชน โอ้ย! มาเจอหมอนี่ทำไมไม่รู้ ยัยนั่นหายไปแล้ว >_<!!

            “นายมาทำอะไรแถวนี้! นายเตรียมให้สัมภาษณ์ช่วงทอล์คโชว์ไม่ใช่หรอ”  ฉันถามพลางเหลือบมองยัยซอนบีตลอดเวลา อย่าให้เจอตัวนะแม่จะยำให้เละเลยคอยดู -_+!

            “พอดี ฉันเห็นคนรู้จักน่ะ” 

            จุนฮยองก็มีท่าทีไม่ต่างจากฉัน เขาพูดไปพร้อมกับกวาดตามองไปทั่วทั้งทางเดินอย่างกระวนกระวาย

            “ใครหรอ? ให้ฉันไปเรียกให้ไหม แถวนี้คนเยอะขืนนายออกมาเดินท่อมๆ แบบนี้ ไม่รอดชีวิตไปขึ้นเวทีแน่”

            “ช่างเถอะ ฉันแค่เดินมาดูให้แน่ใจว่าเขาไม่ได้มาป่วนงาน”

            “ป่วนงาน?”  ฉันขมวดคิ้วมองจุนฮยองด้วยความแปลกใจ ไม่ใช่แปลกใจในตัวเขานะ แต่แปลกใจว่าทำไมถึงมีแต่คนจ้องจะทำลายงานนี้ด้วย!

            “มีเทรนนี่คนหนึ่งโดนไล่ออกจากค่ายเพราะก่อเรื่องกับพวกวิลล่า ฉันคิดว่าวิลล่าน่าจะเล่าเรื่องนี้ให้เธอฟังบ้างนะ” 

            ฉันคิดอยู่สักพัก จนกระทั่งคิดออกว่าช่วงแรกๆ ที่พวกวิลล่ามาเป็นศิลปินฝึกหัดที่เกาหลีมี ‘เทรนนี่’ หรือเรียกอีกอย่างว่า ‘ศิลปินฝึกหัด’ กลุ่มหนึ่งไม่ค่อยพอใจที่พวกวิลล่ามีพัฒนาการและมีสิทธิ์มากกว่าเทรนนี่คนอื่นๆ เลยก่อเรื่องจนกระทั่งตัวเองถูกไล่ออกจากค่าย และถูกแบนจากค่ายเพลงทุกค่ายจนไม่มีโอกาสได้ผุดได้เกิดในสายวงการบันเทิงอีกเลย (บทลงโทษอย่างโหดอ่ะ -_-) ตอนนั้นวิลล่าบอกว่าชื่ออะไรนะ...ฉันจำไม่ได้แล้วอ่ะ เรื่องมันผ่านมานานมากจนฉันลืมไปเลยว่าเคยมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น

            “อ๋อ จำได้แล้ว...แล้วไง?”

            “ฉันเห็นเทรนนี่คนนี้ในงาน ฉันสงสัยว่าทำไมถึงมาเจอกันในวันอย่างนี้ คงไม่ได้มาแสดงความยินดีแน่”  จุนอยองมีสีหน้ากังวล พร้อมกับกวาดตามองไปรอบๆ อย่างต่อเนื่อง

            “ว่าแต่ยัยนั่นไปไหนแล้วล่ะ ฉันจะได้ช่วยระวังให้ ฉันก็อยากเห็นหน้าจริงๆ ไอ้คนที่มันแกล้งเพื่อนฉันเนี่ย -_+”

            “เธอเตรียมแต่จะมีเรื่องตลอดเวลาเลยนะ =_=”

            “อ้าว ใครทำร้ายเรา เราก็ต้องตอบโต้ซะบ้าง โดนกระทำฝ่ายเดียวมันไม่ยุติธรรมเลยนะ”  ฉันกอดอกแสดงความภาคภูมิใจในความคิดนี้ของตัวเอง แต่จุนฮยองเพียงแค่ถอนหายใจแล้วส่ายหน้าไปมา

            “ไม่ต้องมาทำหน้าแบบนั้นเลยนะ -_-“

            “แล้วจะให้ทำหน้ายังไงล่ะ”  จุนฮยองมองหน้าฉันนิ่งๆ เพื่อรอคำตอบ แต่ไม่รู้ทำไมภาพที่เขาจูบฉันมันกลับเด้งขึ้นมาในหัวฉันซะดื้อๆ มันใช่เวลาไหมเนี่ย -///-

            “ว่าแต่ ยังเห็นยัยนั่นอยู่ไหม ฉันจะได้จับตาดูไว้”  ฉันพูดแล้วทำทีเป็นกวาดตาไปมองรอบๆ เพื่อหลบตาของเขา หวังว่าเขาคงไม่รู้หรอกนะว่าฉันกำลังคิดอะไรอยู่ น่าอายชะมัด U///U;

            “ไม่รู้สิ เมื่อกี๊เห็นยืนคุยอยู่กับลูกนักการเมืองที่ตามจีบเธอ แต่พอเดินมาทางนี้ก็หายไปเลย”  จุนฮยองพูดแล้วมองไปตามทางแยกต่างๆ เพื่อดูให้แน่ใจว่าไม่มีคนที่กำลังตามหา

            ถึงรูปประโยคที่เขาพูดมันจะรู้สึกตงิดๆ ในใจ แต่ฉันกลับสะดุดที่คำๆ หนึ่งมากกว่า...

            “ใครจีบฉัน -_-?”

            “เอ้า! ก็ฮันกีอุนไง เห็นตามติดเธอไปทุกที่เลยนี่ สงสัยจะชอบเธอมากซะด้วยนะ”  จุนฮยองพูดเสียงฟังดูเข้มขึ้นและประชดประชันนิดหน่อย =_=

            “ตามมาไล่กระทืบมากกว่ามั้ง...เฮ้อ ยิ่งคุยยิ่งไร้สาระ ฉันไปล่ะ”  ฉันพูดแล้วออกเดินไปตามทางที่ยัยซอนบีเพิ่งผ่านไปคงไปได้ไม่ไกลเท่าไหร่หรอกมั้งตามไปตอนนี้คงทัน แต่จุนฮยองกลับดึงมือฉันไว้อีกครั้ง คราวนี้ดึงแล้วไม่ยอมปล่อยแฮะ -///-;

            “อะไรอีกล่ะ”

            “ไปไหน”

            “ไปตามคน”

            “ใคร?”

            “เรื่องของฉัน”

            “เธอคงไม่ไปไล่ตีใครในงานเดบิวต์เพื่อนตัวเองหรอกใช่ไหม =_=;”

            ดู๊ดูคำถามสิ เห็นฉันเป็นคนยังไงเนี่ย -*-

            “จะบ้าหรอ ใครจะทำอย่างนั้นกันยะ!” 

            แต่เมื่อกี๊ฉันก็เกือบจะทำไปแล้วจริงๆ แหละ ถ้าตามยัยซอนบีทันคงจะมีต่อยกันสักยกแน่ โทษทีนะวิลล่า ฉันเกือบเป็นคนทำงานแกพังซะแล้ว Y_Y

            “แต่หน้าเธอทำฟ้อง”  จุนฮยองพูดพร้อมกับยกนิ้วชี้ขึ้นมาจิ้มที่หน้าผากฉันจึ้งๆๆ เอาเข้าไป สนุกมากมะ? เล่นหัวฉันเนี่ย =_=;

            “ปล่อยมือฉันได้แล้ว”  ฉันพยักพเยิดลงไปที่มือของจุนฮยองที่ยังไม่ยอมปล่อยมือฉันสักที จับไว้ตั้งแต่เมื่อกี๊แล้วนะ ชักจะเอาใหญ่แล้ว -////-!

            “อ้าว เธอเป็นแฟนฉันไม่ใช่หรอ”  จุนฮยองก้มหน้าลงมาให้อยู่ในระดับเดียวกันแล้วยิ้มยียวนกวนประสาทใส่ฉัน อ๊ากส์ หล่อเกินไปแล้ว! >////<

            เฮ้ย!! ไม่ใช่!! ลามปามเกินไปแล้วต่างหาก (_ _;)

            “ฮยอนอินครับ”  อยู่ๆ พี่จุนเจที่มาตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ เข้ามาดึงตัวฉันให้ถอยห่างจากหน้าหล่อๆ ของจุนฮยอง

            “อ้าว! พี่จุนเจมางานนี้ได้ไงคะ”  ฉันหันไปถามพี่จุนเจที่ตอนนี้เอาแต่จ้องจุนฮยองอย่างดุเดือด หวังว่าพวกเขา 2 คนคงไม่สปาร์กกันขึ้นมาหรอกนะ -_-;;

            “พี่มาดูว่างานทางนี้เสร็จรึยัง เพราะว่าคุณลุงอยากให้พี่มารับฮยอนอินไปร่วมงานกาล่าดินเนอร์ที่บริษัทคืนนี้”  พี่จุนเจพูดไปมองจุนฮยองไป เอ่อ...พี่คะ พี่คุยกับฉันอยู่ไม่ใช่หรอ? รู้สึกเหมือนไร้ตัวตนยังไงไม่รู้ -_-?

            “ก็ยังไม่ถึงเวลางานกาล่าอะไรนั่นสักหน่อยนี่ครับ จะรีบมารับทำไม”  จุนฮยองพูดและมองพี่จุนเจไม่วางตาเช่นกัน พวกนายจะมองกันให้สิวเสี้ยนกระจุยเลยหรือยังไง =_= (ตกลงฉันยังเป็นนางเอกอยู่ใช่ไหมคะ ไม่ได้เปลี่ยนเป็นพี่จุนเจหรือจุนฮยองนะ? : เริ่มสับสน)

            “มันไม่ใช่งานเล็กๆ นี่ครับ ต้องให้เวลาน้องเขาเตรียมตัวบ้าง”  พี่จุนเจตอบกลับไปเสียงเข้ม  “แล้วก็กรุณาปล่อยมือฮยอนอินด้วย เพราะถ้ามีใครแอบถ่ายภาพนี้เข้าฮยอนอินจะเดือดร้อนอีก” 

            พี่จุนเจพูดแล้วดึงฉันไปข้างตัว แต่จุนฮยองที่จับมือฉันไว้อยู่แล้วก็ออกแรงดึงกลับอย่างไม่ยอมแพ้ ทำให้ฉันยังอยู่ในตำแหน่งกลางระหว่างผู้ชาย 2 คนนี้

            “แต่ฮยอนอินเป็นแฟนผม เพราะฉะนั้น คุณช่วยกรุณาออกไปห่างๆ ด้วย”  จุนฮยองพูดแล้วดึงฉันไปไว้ข้างตัว แต่คราวนี้พี่จุนเจไม่ได้ดึงฉันไว้ เขายอมปล่อยให้ฉันมายืนอยู่ข้างๆ จุนฮยองอย่างง่ายดาย

            “พี่จะรอที่รถนะครับ พี่จะรอจนกว่างานจะเลิก”  พี่จุนเจพูดแล้วเดินออกไป จุนฮยองยิ้มอย่างมีชัยทิ้งท้าย เฮ้อ...นี่พวกเขาเล่นอะไรกันอยู่เนี่ย =_=;

            “ไม่เอาชเวอึนพา!!! ไม่เอาชเวอึนพา!!! ไม่เอาชเวอึนพา!!!...”  เสียงตะโกนอย่างเป็นจังหวะดังมาจากประตูด้านหน้าของที่จัดงาน

            เฮ้ย!! เกิดอะไรขึ้น O_O!!

            ‘โอเคๆ ฉันกลับก็ได้ เพราะถึงไม่มีฉันงานวันนี้ก็ล่มอยู่ดี’

          อยู่ๆ เสียงของซอนบีก็ดังขึ้นมาในหัวฉันอย่างอัตโนมัติ มันเกิดขึ้นจริงๆ หรอเนี่ย!!

 

 

 

 

************************************

อัพแล้วค่าาาาาา >O<

ต้องขอโทษด้วยนะคะที่หายไปนาน

พอดีเพิ่งสอบรวบยอดเสร็จ เลยเอา Chapter 11,12 มาฝาก

ไปอ่านต่อตอนต่อไปเลยจ้า ^^

***********************************

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.2 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา