[B2ST/Beast] Dream Story รักนี้ให้นาย...เจ้าชายอสูร

8.9

เขียนโดย Kreota

วันที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 เวลา 00.14 น.

  87 ตอน
  86 วิจารณ์
  97.43K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2557 22.21 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

37) [Episode 3 :: Dangerous Lover] # Chapter 12

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

Episode 3 Dangerous Lover

:: Chapter 12 ::

 

            ฉัน จุนฮยองและพี่จุนเจเดินออกมาตามทางเดิน ก็เห็นฝูงชนเกือบร้อยมายืนอยู่หน้าทางเข้างาน พร้อมป้ายขนาดใหญ่อีกนับ 10 ป้าย ที่เขียนในทำนองเดียวกันว่าจะไม่ยอมรับชเวอึนพาเข้าร่วมวง Lusty ฉันเห็นแบบนี้แทบทรุดเลยทีเดียว ถ้าเกิดเป็นฉัน ฉันคงทนไม่ได้ที่ต้องโดนตะโกนไล่ตะโกนด่าแบบนี้ทั้งๆ ที่ฝึกซ้อมอย่างหนักมาตลอดหลายปี

            “นี่มัน...อะไรกัน”  พี่จุนเจพึมพำออกมาเบาๆ พร้อมกับมองไปที่กลุ่มผู้ประท้วงขับไล่ชเวอึนพาอย่างตกตะลึง

            “เราไม่เอาชเวอึนพา!! เอาออกจากวงไปเลย!!!”  เสียงกลุ่มคนที่มาประท้วงยังคงตะโกนอย่างต่อเนื่อง

            “ต้องเป็นฝีมือของเทรนนี่คนนั้นแน่ๆ”  จุนฮยองพูดออกมาบ้าง

            แต่สำหรับฉัน ฉันคิดว่าเป็นฝีมือยัยซอนบีชัวร์ เพราะฉันได้ยินมากับหู U_U;

            “ฉันต้องไปหาวิล่าแล้วล่ะ”  ฉันบอกแล้วรีบเดินเข้าไปในงานอีกครั้ง แต่มันไม่ง่ายเลยที่จะฝ่าฝูงชนจำนวนมากที่กำลังกรูกันออกมาดูเหตุการณ์ด้านนอก แต่ถึงยังไงฉันก็จะไปหาเพื่อนของฉันให้ได้!!

            ผลัก!

            ฉันถูกวิ่งชนจนเซไปชนกับกำแพงข้างทางเดิน บริเวณที่ถูกชนรู้สึกปวดแปล็บขึ้นมาอย่างรวดเร็ว โอ้ย! วิ่งไม่ดูกันเลยรึไง -_-!

            “นี่! ฉันว่ารอให้คนน้อยๆ กว่านี้แล้วค่อยเข้าไปดีกว่านะ กว่าเธอจะไปหาวิลล่าได้ ฉันว่าเธอโดนเหยียบตายก่อนแน่”  จุนอยองเดินฝ่าเข้ามาจับมือฉันไว้แน่น ตอนนี้เขาสวมเพียงแว่นกันแดดเท่านั้น แต่ดูเหมือนจะไม่มีใครสังเกตเห็นเพราะทุกคนกำลังตื่นเต้นกับเหตุการณ์ประท้วงด้านนอกอยู่

            “ฉันรอไม่ไหวหรอก ยัยวิลล่าขี้แยจะตาย ป่านนี้ยัยนั่นต้องร้องไห้ขี้มูกโป่งอยู่แน่”  ฉันบอกแล้วเริ่มแทรกตัวเดินเข้าไป แต่จุนฮยองยังรั้งมือฉันไว้อยู่

            “ปล่อยฉันเถอะ!!”  ฉันตะโกนแข่งกับเสียงดังรอบตัว แต่จุนฮยองก็ไม่ยอมปล่อย

            “ใจเย็นๆ ก่อน ตอนนี้ทางนั้นเขาก็คงกำลังยุ่งเพราะหาทางแก้ไขกันอยู่ เธอเข้าไปยิ่งจะวุ่นวายเขาเปล่าๆ”

            “แล้วนายมาอยู่ที่นี่ทำไม ไปหาทางช่วยพวกเขาสิ”

            “ฉันว่าทางนี้ก็กำลังต้องการความช่วยเหลือเหมือนกัน...”  จุนฮยองมองหน้าฉันนิ่งๆ ไม่รู้ว่าฉันคิดไปเองรึเปล่า แต่ฉันรู้สึกว่าเขาเป็นห่วงฉัน...

            “ฉันไม่ต้องการความช่วยเหลืออะไรทั้งนั้นแหละ” 

            “มั่นใจนะว่าไม่ต้องการ”  จุนฮยองถามเสียงเรียบ ในจังหวะที่พี่จุนเจแหวกฝูงชนเข้ามาถึงตัวเรา 2 คนพอดี

            “ฮยอนอิน วิ่งเข้ามาแบบนี้ พี่ตกใจหมดเลย”

            “เอ่อ...พี่ยังไม่ไปที่รถอีกหรอคะ ฉันว่าจะเข้าไปหาวิลล่าสักพักก็กลับแล้ว” 

            “พี่เป็นห่วงนี่”  พี่จุนเจพูดออกมาแบบไม่เกรงใจใคร

            “ไม่ต้องห่วงหรอกครับ ฮยอนอินอยู่กับผม”  จุนฮยองพูดแทรกขึ้นมา

            “ผมจะต้องพูดอีกสักกี่ครั้งว่ายิ่งฮยอนอินอยู่กับคุณ เขายิ่งไม่ปลอดภัย”  พี่จุนเจพูดน้ำเสียงประชดประชันชัดเจน

            “ผมดูแลแฟนของผมได้ ไม่ต้องห่วง”  จุนฮยองพูดเน้นคำว่า ‘แฟน’ ชัดเจน จนหัวใจฉันเต้นรัวอย่างไม่เข้ากับสถานการณ์ ตอนนี้ฉันควรห่วงวิลล่าสินะ (_ _;)

            จุนฮยองพาฉันเดินฝ่าฝูงชนเข้าไปในด้านในเรื่อยๆ โดยมีพี่จุนเจเดินตามมาติดๆ ระหว่างทางก็มีผู้หญิงคนหนึ่งเดินมาชนจุนฮยองจนทำให้แว่นกันแดดที่เขาใส่อยู่หล่นลงพื้น

            กึก!

            ทุกอยากรอบตัวเหมือนหยุดลงชั่วขณะ ตามมาด้วยแรงปะทะมหาศาลที่ถาโถมเข้ามาจากทุกทิศทุกทาง เพราะคนที่กำลังเบียดกันในทางเดินเพื่อออกไปดูเหตุการณ์ด้านนอกเปลี่ยนเป้าหมายใหม่มารุมผู้ชายที่อยู่ข้างๆ ฉันแทน

            “จุนฮยอง!!!”

            “โอปป้า!! >///<”

            “โจ๊กเกอร์ของฉัน >O<” 

            ความวุ่นวายเพิ่มมากขึ้นเมื่อทุกคนรู้แล้วว่าจุนอยอง เมมเบอร์วงบีสท์มาเดินชมนกชมไม้อยู่ใต้ชายคาเดียวกับพวกหล่อน โอ้ย!! ผลักมาได้ไง ฉันเจ็บนะยัยบ้า!!!

            ฉันหันไปมองยัยอ้วนตุ๊ต๊ะที่ยืนเบียดฉันเพื่อที่จะเข้ามาใกล้ๆ จุนอยอง แต่ยัยนั่นไม่สนใจฉันเลยสักนิด พยายามเอื้อมมือข้ามหัวฉันไปแตะตัวจุนฮยองอีก -_-;

            “ว๊าย! จุนฮยอง”  คุณมินนาวิ่งเข้ามายืนกั้นกลางระหว่างจุนฮยองและแฟนคลับเป็นฝูง โดยมีฉันกับพี่จุนเจขวางช่วยไว้อีกแรง

            “เอ่อของขวัญ พี่ขอยืมผ้าพันคอหน่อยได้ไหม”  คุณมินนาตะโกนถามแข่งกับเสียงแฟนคลับที่พยายามจะรุมทึ้งจุนฮยองให้ได้

            “อ๋อ ได้ค่ะ”  ฉันตอบ แต่ตอนที่จะเอาผ้าพันคอให้คุณมินนานี่เองฉันถึงรู้สึกว่าจุนฮยองยังไม่ได้ปล่อยมือจากฉันตั้งแต่พาฉันเดินมาแล้ว -///-

            ฉันหันไปมองจุนอยองด้วยใจที่เต้นรัวแปลกๆ และส่งสายตาให้เขาประมาณว่า ‘ปล่อยมือฉันได้แล้ว’ เขาเลยค่อยปล่อยมือฉันออกช้าๆ ฝ่ามือที่ทั้งร้อนและชุ่มไปด้วยเหงื่อสามารถบ่งบอกถึงระยะเวลาของการจับกันว่านานขนาดไหน ดีนะเนี่ยที่แฟนคลับไม่มีใครเห็น -///-

            “นี่ค่ะ”  ฉันยื่นผ้าพันคอสีครีมผืนหนาให้กับคุณมินนา คุณมินนารับไปแล้วพันไว้รอบคอจุนฮยองแล้วดึงส่วนเกินขึ้นมาปิดบังใบหน้าครึ่งล่างของเขาเอาไว้

            “ช่วยพี่พาจุนฮยองกลับห้องพักหน่อยได้ไหมคะ T^T”  คุณมินนาพูดพร้อมสีหน้าอ้อนวอน ฉันกับพี่จุนเจก็เลยต้องรับปากคอยเป็นโล่กำบังแฟนคลับให้จุนฮยองจนถึงห้องพักที่เตรียมเอาไว้แล้วหลังเวที

            “เธอเจ็บตรงไหนรึเปล่า”  จุนฮยองถามทันทีที่เราเข้ามาในห้อง

            “ไม่เป็นไรหรอก โดนรุมกระทืบเจ็บกว่านี้เยอะ”

            “นี่! ฉันจริงจังนะ -_-“  เขามองฉันอย่างขัดใจ อ้าวใครจะไปรู้ว่าเขาจะห่วงฉันจริงๆ

            ห๊ะ!...เขาห่วงฉันหรอ -////-!

            “ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ผมขอตัวนะครับ”  พี่จุนเจเดินเข้ามาฉุดต้นแขนฉันออกไปจากห้องโดยที่ฉันยังไม่ได้ตั้งตัว เฮ้ยๆพี่จะรีบไปไหนเนี่ย >_<!

            “พี่จุนเจ!! เดี๋ยวก่อนๆ”  ฉันรั้งมือตัวเองไว้ พี่จุนเจหยุดเดินแล้วหันมามองฉันเงียบๆ

            “ฉันขอไปหาวิลล่าก่อนได้ไหม” 

            “ก็คุณคนนั้นเขาบอกแล้วว่าทีมงานพาวิลล่ากลับค่ายแล้ว ฮยอนอินไปตอนนี้ก็ช่วยอะไรไม่ได้หรอก” พี่จุนเจบอกย้ำในสิ่งที่คุณมินนาบอกอีกครั้ง

            “แต่...”

            “อย่าหาว่าพี่ใจร้ายเลยนะ ตอนนี้พี่อยากให้ไปเตรียมตัวสำหรับงานคืนนี้ก่อน คุณลุงจะเซ็นสัญญากับหุ้นส่วนใหม่ ท่านต้องการให้ฮยอนอินอยู่ด้วย”  พี่จุนเจพูดแล้วพาฉันเดินไปรถ ก่อนจะขับออกไปอย่างเร็ว ผู้ชายที่อยู่รอบตัวฉันจะมีใครที่ขับรถช้าๆ บ้างไหม =_=;

            หลังจากพี่จุนเจมาส่งฉันไว้ที่บ้าน พี่ซังมีก็จัดการแต่งองค์ทรงเครื่องให้ฉันตามหน้าที่อย่างรวดเร็วโดยที่พี่จุนเจคอยเฝ้าอยู่ตลอด สงสัยกลัวฉันจะแอบโดดกำแพงบ้านหนีแน่ๆ ถึงอยากโดดหนีแต่ฉันโดดไม่ไหวหรอก ชุดราตรีเต็มยศขนาดนี้ -_-;

            พอฉันแต่งตัวเสร็จปุ๊บ พี่จุนเจก็พาฉันมาที่งานเลี้ยงของท่านประธานซอยองวอนทันที (เรียกซะเต็มยศ ที่จริงก็พ่อฉันเอง =_=) ซึ่งตอนนี้เจ้าของงานก็เดินพูดคุยกับแขกที่มาร่วมงานอย่างเป็นมิตร น่าเกรงขามและดูดีนี่แหละพ่อของฉัน เขาดูเป็นคนที่เพอร์เฟ็คจนใครๆ ก็พากันคาดหวังในตัวฉันไว้ซะสูงลิบว่าจะต้องเพอร์เฟ็คเหมือนอย่างพ่อ แต่จริงๆ แล้ว...ไม่เลย ฉันไม่มีส่วนที่คล้ายพ่อเลยสักนิด U_U;

            ว่าแต่ตอนนี้วิลล่าเป็นยังไงบ้างนะ ฉันน่าจะโทรไปถามหน่อยดีกว่า แต่ถ้าตอนนี้เขากำลังยุ่งกันอยู่ล่ะ? จะรบกวนไหม? แต่วิลล่าอาจจะเสียใจและเศร้าอยู่ก็ได้ คงกำลังต้องการใครสักคนแน่...

            “ไปไหนครับ”  พี่จุนเจรั้งข้อมือฉันไว้ทันทีที่ฉันขยับตัว

            “ไปเข้าห้องน้ำค่ะ...ไปด้วยกันไหม =_=”  ฉันบอกพร้อมกับประชดไปเต็มที่ แต่พี่จุนเจกลับยิ้มให้

            “โอเค งั้นไปกันเลย ^_^”  พี่จุนเจพูดแล้วจูงมือฉันมุ่งตรงออกไปจากงาน

            อ้าวเฮ้ย! เอาจริงหรอ O_O!

            “พี่จุนเจ! ฉันประชดนะ -*-“  ฉันบอกขณะโดนลากมาตามทางเดินที่มุ่งตรงไปยังห้องน้ำซึ่งอยู่ใกล้ๆ กับห้องจัดเลี้ยง

            “แต่พี่อยากเข้านี่ ไปเฝ้าฮยอนอินตั้งนาน จนลืมเข้าห้องน้ำเลย”  พี่จุนเจตอบ แบบนี้เสี่ยงต่อการเป็นกระเพราะปัสสาวะอักเสบหรือไม่ก็ริดสีดวงทะวานแล้วนะคะพี่ =_=

            “ถึงแล้ว ห้ามเล่นตุกติกเด็ดขาดนะครับ”  พี่จุนเจพาฉันมาส่งถึงทางเข้าห้องน้ำหญิง พร้อมกับสั่งเสียไว้เสร็จสรรพ

            “เจ้าค่ะ!”  ฉันกระแทกเสียงใส่ก่อนจะเดินเข้ามาในห้องน้ำ แล้วเปิดเอาโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋าถือ แต่ก็เห็น miss call จากยูรีซะก่อน ยัยนี่มีอะไรรึเปล่า ทำไมโทรมาตั้ง 7 สาย ไม่มีเงินค่าแท็กซี่รึไง -?-

            ตึ่งดึ้ง!

            เสียง sms ดังขึ้นขณะที่ฉันกำลังโทรหายูรี อ้าว...นี่ก็ข้อความของยูรี -_-? ฉันกดเปิดข้อความก็พบกับข้อความยาวยืดของยูรีที่พิมพ์ผิดพิมพ์ถูกจนบางคำก็แทบจะอ่านไม่ออก

 

ยัยซอนบีดักฉันไว้ระหว่างทางกลับบ้าน มันล้อมฉันไว้แล้ว ฉันอยู่ ซอย 47 ถนนพยองฮวา...ฯ

 

            นี่เป็นแค่ส่วนหนึ่งที่ฉันอ่านออก มือถือในมือแทบจะหล่นลงไปในอ่างล้างหน้าเพราะมือที่สั่นเทา และเย็นจนแข็งเกร็งเมื่อนึกถึงสภาพของเพื่อน เวลาที่ส่งมาตอน 18.48 น. แต่ตอนนี้ 19.34 น. แล้ว ฉันมั่นใจว่าตอนนี้ซอนบีได้ตัวของซอนบีไปเรียบร้อยแล้ว ไม่ได้การล่ะ!!

            “ช้าจัง”  พี่จุนเจทักฉันทันทีที่เดินออกมาจากห้องน้ำ  “ไปกันเถอะ จะถึงเวลาเซ็นสัญญาแล้วนะ”

            “พี่จุนเจคะ...คือ...”  ฉันหายใจเร็วจนรู้สึกว่าตัวเองไม่สามารถพูดประโยคหนึ่งๆ ให้จบลงด้วยลมหายใจเดียวได้

            “ครับ?”  พี่จุนเจเลิกคิ้วถาม

            “เอ่อ...”

            “ว่าไง? มีอะไรรึเปล่า หน้าซีดเชียว”  พี่จุนเจเดินเข้ามาหาฉัน สีหน้าแสดงความเป็นห่วงอย่างชัดเจน ฉันรู้สึกผิดจริงๆ ที่จะต้องโกหกพี่เขาอีกแล้ว...(เป็นนางเอกขึ้นมาทันที =_=)

            “คือ...จะเป็นอะไรไหมถ้าฉันขออะไรพี่อย่าง”

            “อะไรครับ”  พี่จุนเจเริ่มมองฉันอย่างไม่ไว้ใจ นี่! อย่าเพิ่งรู้ทันฉันสิ >.<

            “ฉัน...เป็นประจำเดือนน่ะ U///U”  ฉันกลั้นใจบอกออกไป ถึงแม้ฉันจะไม่ได้เป็นจริงๆ ก็เถอะ แต่มันกระดากปากที่พูดแบบนี้กับคนอื่น โดยเฉพาะกับผู้ชาย

            “เอ๋อ...อยากให้พี่ไปซื้อให้หรอ”  พี่จุนเจร้องอ๋อออกมาอยากคิดได้ ฉันเลยยิ้มแหยๆ ให้เป็นเชิงว่า ‘ใช่ค่ะ’ -_-;

            “โอเค แล้วอยู่คนเดียวได้ไหมเนี่ย นั่งรถไปด้วยกันไหม” 

            “มะ...ไม่ดีกว่าค่ะ เดี๋ยวทำรถพี่เปื้อนเปล่าๆ”  ฉันรีบปฏิเสธ แล้วขอเข้าไปในห้องน้ำอีกครั้ง ฉันยืนฟังเสียงฝีเท้าของพี่จุนเจเดินไปอย่างใจจดใจจ่อ จนกระทั่งเสียงด้านนอกเงียบลง ฉันจึงถือโอกาสหอบกระโปรงวิ่งไปยังจุดมุ่งหมายทันที

            ขอโทษนะพี่จุนเจที่ฉันหลอกพี่ตลอดเลย แต่คราวนี้ฉันไม่ไปไม่ได้จริงๆ ยูรีรอฉันก่อนนะ ฉันจะช่วยแกให้ได้!!

            ฉันกดฟอเวิร์ตข้อความของยูรีไปให้พรรคพวกทุกคนขณะที่นั่งรถแท็กซี่จนนิ้วแทบจะพันกัน เมื่อฉันไปถึงซอย 47 ถนนพยองฮวา ทุกคนก็ยืนรอฉันอยู่หน้าปากซอยเรียบร้อยแล้ว

            “แกไหวไหมเนี่ยขวัญ”  ออสติน ดีกรีเดือนคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหา’ลัยเดียวกัน และเป็นเพื่อนซี้ร่วมก๊วน (ชกต่อย) อีกคน มองฉันตั้งแต่หัวจรดเท้า 

            “มาเต็มเกินไปไหมวะ =_=?”  ออสตินถามซ้ำด้วยท่าทางแปลกๆ ฉันรู้ว่าชุดของฉันมันไม่เข้ากับสถานการณ์ตอนนี้   

            “เอาน่า รีบหาอาวุธเข้า”  ฉันพูดพร้อมกับหอบกระโปรงตัวเองเดินดุ่มๆ เข้าไปในโรงงานเก่าๆ ที่อยู่ท้ายซอย 47 ถนนพยองฮวา  

            เพื่อนทุกคนของฉันไม่ใช่พวกหัวรุนแรงที่เอะอะก็ตี เอะอะก็ฆ่าแกงกันหรอกนะ แต่พวกเขาล้วนมีเหตุผลที่จะสู้ อย่างเช่นออสติน จากเมื่อก่อนเป็นคุณหนูใช้ชีวิตอย่างสุขสบายแต่วันหนึ่งครอบครัวของหมอนี่ต้องล้มละลายเพราะพ่อของซอนบีโกงเงินในบริษัทจนพ่อของออสตินต้องฆ่าตัวตายเพราะทนความเครียดไม่ไหว ส่วนคนอื่นๆ ก็ล้วนแต่มีความหลังฝังใจกับชเวซอนบีและฮันกีอุนกันทั้งนั้น ซึ่งฉันก็มีเหมือนกัน...เหตุผลที่จะต้องสู้!!

            ผัวะ!

            พลั่ก!!

            แอ่ก!!

            ตุบ!

            พวกเราเดินฝ่าเข้าไปกลางวงของยัยซอนบีโดยมีลูกสมุนมาขวางทางไว้เป็นระยะ แต่มันก็ไม่ได้ยากเกินความสามารถของฉันเลย!

            “จ้างเด็กอนุบาลมารึไงซอนบี อ่อนว่ะ!”  ออสตินยืนค้ำไม้หน้าสามของตัวเองอย่างสบายอารมณ์

            แต่...ทำไมฉันหายูรีไม่เจอล่ะ ยูรีอยู่ที่ไหน?

            “เธอซ่อนยูรีไว้ที่ไหน!!”  ฉันแผดเสียงลั่น

            “แหมๆ ใจเย็นๆ สิแม่คุณหนูไฮโซ”  ซอนบีกระแนะกระแหน่พร้อมกับเบ้ริมฝีปากใส่ฉัน

            “ก่อนจะหายัยยูรี ฉันว่าพวกเธอหาทางเอาตัวรอดก่อนดีไหม”  ซอนบีพูด แล้วพยักหน้าบอกใครสักคน สิ้นสุดคำสั่งก็มีคนเกือบ 50 กรูเข้ามาในโรงงานเล็กๆ นี้จนแทบจะไม่มีช่องว่างให้หายใจ พวกมันล้อมเราไว้แล้ว!

            “นี่แก!”  ฉันขบกรามแน่น มองรอยยิ้มที่ร้ายกาจของยัยซอนบีอย่างเกลียดชัง นังงูพิษ!! แอบซ่อนลูกน้องไว้แล้วให้พวกเราเข้ามาติดกับงั้นหรอ!!!

            “เตรียมตัวตามพ่อแกไปได้เลยออสติน!”  ซอนบียิ้มเยาะ ออสตินไม่ได้ตอบอะไรเพียงแค่ยิ้มออกมาเบาๆ

            “ปากดีจริงๆ แบบนี้ต้องจัดให้หนัก”  ออสตินพึมพำกับฉัน พร้อมกับดวงตาวาวโรจน์ราวกับเด็กที่กำลังมองเห็นของเล่นชิ้นโปรด

            นั่นสินะ...งานนี้ หนักแน่!

            สิ้นสุดความคิดนี้ โรงงานร้างเล็กๆ ก็กลายเป็นสมรภูมิรบอย่างรวดเร็ว ฉันและเพื่อนๆ ต่างก็ต่อสู้กับศัตรูที่มาจากทุกทิศทุกทางด้วยความชำนาญ แต่ด้วยความที่ฝ่ายนั้นเขามีจำนวนคนมากกว่าพวกฉันอยู่ 3 เท่า เราเลยเสียท่าได้ง่ายๆ ตอนนี้ออสตินกำลังสู้อยู่กับคนอีก 5 คนที่กำลังล้อมรอบตัวมันอยู่

            “ว่าไงจ้ะคนสวย”  อยู่ๆ ไอ้หื่นหน้าสิวที่โผล่มาจากไหนไม่รู้ เข้ามาจับข้อมือฉันไว้

            “จ๋า ^_^”  ฉันยิ้มหวานให้ก่อนจะกระทุ้งเข้ากลางลำของมันเต็มแรง ไอ้หื่นนั่นลงไปนอนกุมช้างน้อยกรอยใจด้วยสีหน้าที่แสดงออกว่าเจ็บปวดสุดๆ

            “เก่งนักหรอมึง!!”  ไอ้ดำหัวทองคนหนึ่งย่างสามขุมเข้ามากระชากมวยผมสวยๆ ของฉันจนแตกออกไม่เป็นทรง ความรู้สึกเจ็บแปล๊บแล่นเข้ามาในโสตประสาทการรับรู้ทันที

            แย่ล่ะ! เสียท่าซะแล้ว!!

            “เอามันมาหาฉัน!”  เสียงยัยซอนบีสั่งการลอยเข้ามา

            “ว่าไง ในที่สุดเราก็ได้คุยกันตัวต่อตัวสักทีนะ”  ซอนบีกอดอกมองขณะที่ไอ้ดำมันกดให้ฉันนั่งคุกเข่าลงต่อหน้ายัยซอนบี

            “ฮึ! ปกติเราก็ไม่ค่อยได้คุยกันตัวต่อตัวสักเท่าไหร่นี่เน๊าะ...เพราะเธอชอบยืมมือคนอื่นมาเล่นงานฉันอยู่เรื่อย”  ฉันมองซอนบีอย่างไม่ยอมแพ้ คนแบบนี้ถ้าเกิดสู้กับฉันตัวต่อตัวสักตั้ง รับรองว่าฉันชนะใสๆ

            “ปากดีนักนะ!!”  ซอนบีพูดพร้อมกับยกเท้าขึ้นมาเตะที่ท้องฉัน มันเหมือนมีอะไรจุกแน่นอยู่ที่ท้องน้อยจนฉันไม่สามารถที่ร้องออกมาได้เลยทั้งที่มันปวดเอามากๆ

            “ฮึ! ลุกขึ้นมาสิ นอนอยู่ทำไมล่ะ ลุกขึ้นมา!!”  ซอนบีเข้ามากระชากผมฉันให้ลุกขึ้น แต่ฉันยังจุกอยู่ฉันเลยต้องปล่อยให้ยัยนั่นทึ้งผมเล่นให้สบายใจไปก่อน อย่าให้ฉันเอาคืนได้นะ -_+!

            ผัวะ!

            ความรู้สึกฝาดเฝือนที่มุมปากด้านซ้ายทำให้รู้ว่าหมัดที่ยัยซอนบีซัดมานั้นแรงเอาการอยู่เหมือนกัน

            “ครั้งที่แล้วก็มีคนมาช่วยมัน ฉันอดเลยว่ะ คราวนี้ฉันไม่ยอมปล่อยนะเว้ย เอ้อ! แล้วก็อย่าให้ระบมเหมือนคราวที่แล้วล่ะ มันหมดอารมณ์ว่ะ”  ไอ้ดำที่ลากฉันมาพูดกับซอนบี เฮ้ย! ฉันจำเสียงของมันได้ มันเป็นคนเดียวกันกับผู้ชายที่จะอุ้มฉันไปทำมิดีมิร้ายตอนนั้นนี่ +_+!

            “งั้นขออีกสักทีแล้วกัน!!”  ระหว่างที่ซอนบียกเท้าขึ้นเตรียมกระทืบฉันเป็นครั้งสุดท้าย ก็เกิดเสียงอื้ออึงขึ้นแปลก ซอนบีกับไอ้ดำนั่นเลยละสายตาจากฉันไปมองผู้มาใหม่ประมาณ 10 คน พวกเขาสวมสูทสีดำสนิททั้งชุดเหมือนเป็นบอร์ดี้การ์ดของใครสักคน แต่คงไม่ใช่ของฉันหรือของออสตินแน่ -_-?

            “มันเป็นใครวะ!!”  ไอ้ดำขมวดคิ้วมุ่นเข้าหากัน

            “มันเป็นใครก็ช่าง รีบเอามันไป!”  ซอนบีสั่ง ไอ้ดำนั่นเลยอุ้มฉันขึ้นไปพาดไว้บนบ่า ความรู้สึกแบบนี้เหมือนมันเพิ่งจะเกิดขึ้นเมื่อวานนี้เอง แต่วันนี้จะมีใครมาช่วยฉันทันไหมนะ!!

            “ช่วยด้วย...”  ฉันส่งเสียงร้องออกไปเพื่อหวังจะให้ใครสักคน ใครก็ได้ที่อยู่แถวนี้...มาช่วยฉันที

            “วางคุณหนูลงเดี๋ยวนี้!”  ผู้ชายชุดดำคนหนึ่งวิ่งฝ่าคนของซอนบีเข้ามาขวางไอ้ดำที่อุ้มฉันไว้ เมื่อกี๊เขาเรียกฉันว่า ‘คุณหนู’ หรอ?

            “ไม่ให้จะทำไม? เอาซี่ เข้ามาเลย คุณหนูแกจะได้โดนลูกหลงด้วย เข้ามาสิ!!”  ไอ้ดำแผดเสียงลั่นอย่างเป็นต่อ

            พี่ๆ จัดการมันเลยไม่ต้องเป็นห่วงฉัน >.< (ตะโกนได้แค่ในใจเพราะจุก T^T)

            อุก!

            “อึก!”  อยู่ๆ ฉันก็รู้สึกถึงแรงกระแทกที่ทำให้ไอ้ดำที่อุ้มฉันอยู่จุกจนตัวงอ ตัวของฉันค่อยๆ เลื่อนลงมาจากไหล่ของไอ้ดำช้าๆ

            เฮ้ยๆ จะตกแล้ว >_<!!

            ฟึบ!

            ฉันหลับตาปี๋เพื่อรับชะตากรรม (ที่เคยเป็นมาก่อน =_=) แต่คราวนี้แทนที่ร่างกายส่วนใดส่วนหนึ่งของฉันจะกระแทกพื้น แต่มันกลับไม่มีส่วนใดเลยที่แตะโดนพื้น -_-?

            ฉันค่อยๆ ลืมตาขึ้นมองก็เห็นหน้าของจุนฮยองกับพี่จุนเจอยู่ใกล้ๆ เอ๊ะ! ทำไมอยู่ใกล้ฉันขนาดนี้ล่ะ?

            ฉันกระพริบตาถี่ๆ เพื่อรับรู้สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นให้มากกว่านี้ มือที่ช้อนรองรับตัวฉันไว้ มีมือของจุนฮยองและพี่จุนเจทั้ง 2 คน เอ่อ...พวกเขาคิดว่าฉันตัวหนักขนาดต้องช่วยกันรับเชียวหรอ ฉันไม่ได้ตัวอ้วนขนาดนั้นซะหน่อย >.<

            “คุณชายครับ จัดการเรียบร้อยแล้ว”  ระหว่างที่ฉันกำลังตกตะลึงกับความร่วมมือร่วมใจ(?) ของจุนฮยองและพี่จุนเจอยู่นั้น ผู้ชายสวมสูทดำก็เดินเข้ามารายงานพี่จุนเจ

            ว่าไงนะ? ‘จัดการเรียบร้อยแล้ว’ คนเกือบ 50 เนี่ยนะ!

            “แล้วเจอเพื่อนของฮยอนอินไหม” 

            “เจอแล้วครับ อยู่ในห้องจ่ายไฟหลังโกดังนี่เอง” 

            แค่ได้ยินคำพูดประโยคนี้ ฉันก็เข้าใจประโยคที่ว่า ‘เหมือนยกภูเขาออกจากอก’ อย่างถ่องแท้

            “พาส่งโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดและดีที่สุด เดี๋ยวทางนี้ฉันจัดการต่อเอง”  พี่จุนเจบอก ก่อนจะหันมาจ้องตาเขม็งกับจุนฮยองต่อ ชายในสูทดำคนนั้นโค้งลง 90◦ ให้พี่จุนเจ แล้วเดินไปรวมกลุ่มกับคนอื่นๆ

            “เอ่อ...ขอลงได้ไหม...”  ฉันบอกด้วยเสียงที่แหบพร่า ทั้ง 2 คนมองหน้าอย่างช่างใจอีกฝ่ายก่อนจะค่อยๆ ช่วยกันวางฉันลงอย่างเบามือ

            ฉันกวาดตามองไปรอบๆ ก็เห็นพรรคพวกของซอนบีนอนกองกันอยู่บนพื้นอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย แต่ยัยซอนบีก็หนีได้อีกตามเคย

            วูบ!

            “เฮ้ย!”  จุนฮยองรีบเข้ามารวบเอวฉันเข้าไปกอดไว้แน่น เมื่อกี๊ฉันเหมือนจะเป็นลมเลย...

            “เป็นลมหรอ”  พี่จุนเจเข้ามาบีบมือที่เย็นเฉียบของฉันเบาๆ เหงื่อเริ่มผุดออกมาจากผิวหนัง ตัวชาวาบตั้งแต่หัวจรดเท้า...ฉันหลับตาลงเพื่อปรับสายตาต่อความมืดที่เริ่มเข้ามาครอบคลุม

            “ไหวไหม”  จุนฮยองถามด้วยน้ำเสียงที่ฉันไม่เคยได้ยิน มันเต็มไปด้วยความห่วงใยและอบอุ่น จนทำให้ร่างกายที่เย็นเฉียบของฉันมีอุณหภูมิเพิ่มขึ้นมาบ้าง

            “ฉัน...”  ฉันพยายามส่งเสียงและลืมตามองจุนฮยองแต่มันพูดไม่ได้ ลืมตาก็ไม่ไหว ฉันเลยได้แต่เอื้อมมือขึ้นไปกอดรอบคอของจุนฮยองไว้เพราะขาฉันมันเริ่มรับน้ำหนักร่างกายไม่ไหว

            วืด~

            ตัวของฉันลอยสูงขึ้นจากพื้นไปอยู่บนอ้อมกอดของจุนฮยอง จากนั้นฉันรู้สึกว่าเขาพาฉันเดินไปข้างหน้า แต่เขาเดินเร็วมากจนจับทิศทางไม่ถูก เสียงโวยวายและเสียงพูดคุยมากมายมันอื้ออึงอยู่รอบตัวฉัน ยิ่งทำให้เวียนหัวเข้าไปใหญ่ ฉันรู้สึกว่าตอนนี้ฉัน...ไม่ไหวแล้ว...พรึบ!!

 

            

 

 

*****************************

ไว้เจอกันใหม่ตอนหน้าค่ะ ^_^

*****************************

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.2 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา