[B2ST/Beast] Dream Story รักนี้ให้นาย...เจ้าชายอสูร
8.9
เขียนโดย Kreota
วันที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 เวลา 00.14 น.
87 ตอน
86 วิจารณ์
113.70K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2557 22.21 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
23) [Episode 2 :: Brighter Lover] # Chapter 11
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความEpisode 2 Brighter Lover
:: Chapter 11 ::
“แกก็เอาด้วยสิ!!” อยู่ๆ ยัยกรีนทีก็หันมาส่งยิ้มให้ฉัน ดวงตาวิบวับอย่างมีหวัง
“ห๊ะ!! ว่าไงนะ!!” ฉันตกใจจนถุงข้าวของที่เพิ่งช็อปมาหล่นกองอยู่ที่พื้น
“แกเป็นไรเนี่ย -*-?” กรีนทีมองฉันงงๆ แล้วก้มลงเก็บของช่วยฉันอย่างไม่เข้าใจกับพฤติกรรมแปลกๆ ของฉัน
“ฉะ...ฉันไม่เอาด้วยหรอก ขืนพ่อแม่ฉันรู้นะ พวกท่านเอาฉันตายแน่” ฉันให้เหตุผลที่คิดว่าคงจะฟังดูหนักแน่นพอที่ยัยกรีนทีจะไม่บังคับให้ฉันไปออร์ดิชั่นเป็นเพื่อน
“ย่ะๆ ฉันรู้น่าว่าอาจารย์หมอพงษ์ธรพ่อของแกเฮี๊ยบขนาดไหน ฉันไม่กล้าเสี่ยงหรอก”
“ก็นั่นน่ะสิ...” ฉันแอบลอบถอนหายใจออกมาเบาๆ ทำเอาฉันหัวใจแทบวายเลยนะแก -_-;;
“แต่แกเสียงดีมากเลยนะ เสียดายอ่ะ” กรีนทีพูดพร้อมกับออกเดินต่อ
“แกเคยได้ยินฉันร้องเพลงตอนไหนไม่ทราบ =_=”
“ก็...ตอนวันครบรอบสถาปนาโรงพยาบาลไง วันนั้นฉันไปงานกับม๊า แกขึ้นไปร้องเพลงเปิดงานพอดี ^^;” กรีนทีพูด...ฉันลืมไปว่ายัยนี่เป็นหลานเป็นเหลนของตระกูลผู้ก่อตั้งโรงพยาบาลที่พ่อฉันทำงานอยู่ -_-;
“อ๋อ งั้นหรอ” ฉันพยักหน้าหงึกหงัก แล้วเราก็เดินกลับไปที่รถ ระหว่างทางกลับโรงแรมยัยกรีนทีก็คุยกับฉันเรื่องออร์ดิชั่นตลอดทางจนฉันเริ่มรู้สึกหลอนๆ เข้าแล้ว =_=
[Yang Yo Seob : Talk]
“คิดถึงเฝ้าฝันจัง” อยู่ๆ เภตราก็พูดขึ้นระหว่างที่เรากำลังกินมื้อเย็นกันอยู่ จริงสินะ พรุ่งนี้เป็นวันออร์ดิชั่นของ KB Entertainment แล้วนี่นา ตั้งแต่เกิดเรื่องในวันออร์ดิชั่นคราวก่อน เฝ้าฝันก็จากไป...
“ถ้าพรุ่งนี้เป็นปีก่อน พวกเราคงกำลังตื่นเต้นน่าดูเลยนะคะที่จะได้ออร์ดิชั่น ^^” วิลล่าพูดเสริมพร้อมกับรอยยิ้มที่ดูเศร้าจนผิดสังเกต
ตั้งแต่เรากลับมาจากประเทศไทยครั้งล่าสุด สาวๆ บีสท์เกิร์ลก็ดูไม่ค่อยร่าเริงเหมือนเมื่อก่อนจนคุณมะนาวเป็นห่วงว่าพวกเขาจะเป็นอะไรไปรึเปล่า
“พรุ่งนี้คุณนาบีให้พวกเราไปดูการออร์ดิชั่นด้วยนะ” ดูจุนเดินเข้ามาในห้องพักของบีสท์เกิร์ลหลังจากออกไปรับโทรศัพท์ของคุณมินนา
“พรุ่งนี้คงจะสนุกน่าดูเลยนะครับ ^^” ดงอุนพูดพร้อมรอยยิ้ม แต่ดูเหมือนจะไม่ได้ช่วยสร้างบรรยากาศบนโต๊ะอาหารให้ดีขึ้นเลย
“ฉันว่าพวกเรากลับห้องก่อนแล้วกัน พรุ่งนี้คงต้องออกแต่เช้า” จุนฮยองพูดแล้วเดินกลับไปห้องพักของตัวเองเงียบๆ พวกเราเลยตามออกมาบ้าง เพราะช่วงเวลาแบบนี้ พวกเขาคงอยากจะอยู่กันเฉพาะกลุ่ม
“แกก็คิดถึงเฝ้าฝันเหมือนกันใช่ไหมล่ะ” จุนฮยองยืนรอผมอยู่ตรงทางเดิน แล้วเราก็เดินกลับห้องพร้อมกัน
“ก็...นะ” ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมผมถึงคิดอะไรไม่ออก ตอนนี้มีแต่ภาพความทรงจำระหว่างผมกับเฝ้าฝันตอนที่อยู่ประเทศไทยเท่านั้นที่มันลอยอยู่เต็มหัวผมไปหมด ยิ่งผมยังต้องทำงานกับเพื่อนๆ ของเธอ ผมยิ่งคิดถึงเธอมากขึ้น ทำไมผมถึงเป็นเอามากขนาดนี้นะ!
“เดี๋ยวแกก็จะทำใจได้ เพื่อน” จุนฮยองพูดแล้วตบไหล่ผมเบาๆ ก่อนจะเปิดประตูห้องเข้าไป
ผมก็ได้แต่หวังว่าสักวัน ผมจะทำใจได้นะ แต่ผมปฏิเสธตัวเองไม่ได้จริงๆ ว่าผม...ชอบเฝ้าฝันเข้าแล้ว
“เอ่อ...เดี๋ยวช่วยแวะที่โรงพยาบาลหน่อยนะครับ” ผมบอกคนขับรถหลังจากที่พวกผมอัดรายการเสร็จ
“เฮ้ย! นี่มันดึกมากแล้วนะ เฝ้าฝันหลับไปแล้วมั้ง” ฮยอนซึงพูดขึ้น
“ใช่ครับ ผมว่าอย่าไปกวนเขาเลย” ดงอุนพูดเสริม
“ฉันสัญญากับเขาไว้แล้วว่าจะดูแลเขาจนกว่าฉันจะกลับเกาหลี” ผมพูด เพื่อนของผมเลยไม่ได้ว่าอะไรต่อ หลังจากที่รถตู้แวะมาส่งผมที่โรงพยาบาล ผมก็ให้พวกเขากลับไปก่อน เพราะพรุ่งนี้ไม่มีงาน วันนี้ผมเลยกะจะนอนเฝ้าเขาที่นี่
ผมสวมแว่นกันแดดและใส่หมวกปกปิดใบหน้าตัวเองอย่างเคย แล้วเดินลัดเลาะไปตามทางที่ไม่ค่อยมีคน ผมเดินอ้อมตึกมาเรื่อยๆ จนกระทั่งมาถึงห้องพักของเฝ้าฝัน
ผมค่อยๆ ผลักประตูเข้าไปอย่างเบามือ ภายในห้องเงียบกริบและมืดสลัว มีเพียงแสงไฟที่ลอดเข้ามาในระเบียงทางเดินเท่านั้นที่ให้แสงสว่างพอที่ผมจะสามารถเดินต่อไปโดยไม่ชนกับอะไรได้ ผมค่อยๆ ปิดประตูลงเบาๆ แล้วเดินเข้าไปหาเฝ้าฝันที่นอนหลับตานิ่งอยู่บนเตียง
“หลับสนิทเลยสินะ” ผมพึมพำกับตัวเองเบาๆ แล้วเดินไปเปิดตู้เพื่อหาหมอนกับผ้าห่มออกมา
“อย่านะ...อย่า ฆ่าฉันเลยดีกว่า...อย่าให้ฉันดื่มมันนะ!!!” อยู่ๆ เสียงแหบพร่าของเฝ้าฝันก็ดังขึ้น เธอยกมือขึ้นมากุมคอของตัวเองไว้ แล้วดิ้นไปมาบนเตียงเหมือนกำลังทุกข์ทรมานกับอะไรบางอย่าง ซึ่งผมพอจะรู้ว่าเพราะอะไร...
“ไม่เป็นไร เธอไม่เป็นไรแล้ว...” ผมเข้าไปจับมือเธอไว้พร้อมกับกระซิบบอกเธอเบาๆ
“ไม่...ไม่นะ!!!” เธอกรี๊ดเสียงที่แหบพร่าออกมาก่อนจะสะดุ้งรู้สึกตัวตื่นขึ้นมา
“ฉันฝัน...มันกำลังจะเอายาพิษมาให้ฉันกินอีกแล้ว” เฝ้าฝันบอกผมด้วยน้ำเสียงที่แหบพร่าและสั่นเครือ
“ไม่มีใครทำอะไรเธอแล้ว นอนซะ...ฉันจะอยู่เป็นเพื่อนเอง” ผมค่อยๆ นั่งลงข้างเตียงแล้วกุมมือที่สั่นเทาของเธอไว้แน่น เธอค่อยๆ หลับตาลงอีกครั้งสักพักเธอก็หลับไปอีก คงเพราะฤทธิ์ยาที่เธอขอหมอเมื่อช่วงบ่ายแน่ๆ เธอบอกหมอว่าเธอนอนไม่ค่อยหลับ หลับๆ ตื่นๆ ตลอดทั้งคืน...นี่สินะเหตุผลที่หลับๆ ตื่นๆ
“เหตุการณ์ที่เธอเจอมันเลวร้ายมากจริงๆ ฉันรู้ว่าเสียงสำคัญกับเธอมากขนาดไหน...ตำแหน่งเสียงหลักอย่างเราๆ ก็ต้องลำบากหน่อยนะ” ผมยิ้มให้กับร่างที่หลับใหลของเธอ ก่อนจะห่มผ้าให้กระชับตัวเธอมากขึ้น
“ฝันดีนะ” ผมยิ้มให้เธอก่อนจะก้มลงจูบที่ริมฝีปากของเธอเบาๆ แต่เนิ่นนาน...ผมหวังว่าความอบอุ่นที่ผมกำลังส่งผ่านให้เธอนี้ คงจะทำให้เธอหลับฝันดีตลอดคืนนี้นะ...
ติ๊ด!! ติ๊ด!! ติ๊ด!!
ผมค่อยๆ รู้สึกตัวตื่นขึ้นมาเมื่อเสียงนาฬิกาปลุกที่ตั้งไว้ดังขึ้น ผมฝันถึงเฝ้าฝันมากี่คืนแล้วเนี่ย ผมคงเป็นเอามากจริงๆ
เฝ้าฝัน...เธอจะคิดถึงฉันอย่างที่ฉันคิดถึงเธอบ้างไหม?
[Faofan : Talk]
“ฮัดชิ่ว!!” ฉันจามเป็นครั้งที่ 3 ในรอบวัน เฮ้อ...นี่ฉันกำลังจะป่วยจริงๆ แล้วหรอเนี่ย =_=;
“แกไหวไหมเนี่ย ถ้าไม่ไหวก็ไม่ต้องไปเป็นเพื่อนฉันก็ได้นะ ตึกมันอยู่ข้างหน้านี่เอง” กรีนทีเดินเข้ามานั่งข้างเตียงของฉัน
“ฉันว่า...ฉันไม่ไหวนะ #_#!” ฉันรีบออกตัวทันที เพราะฉันไม่อยากไปเฝ้ายัยกรีนทีออร์ดิชั่นที่ตึก KB Entertainment นั่นเลย =_=!
“ฉันพูดเล่น ^^”
“ง่ะ -[]-!”
“ไม่ต้องมา ‘ง่ะ’ ลุกขึ้นมาเลยแก ทำเป็นนั่งอืดตูดบานอยู่ได้ สายแล้วเนี่ย เดี๋ยวก็ไม่ทัน แต่งตัวไปสวยๆ ด้วย!” ยัยกรีนทีดึงฉันให้ลุกขึ้นจากเตียง ด้วยแรงช้างสารของคุณเธอ ฉันเลยจำใจต้องลุกจากเตียงอย่างไร้สิ้นแรงขัดขืน -_-;;
“ทำไมต้องแต่งตัวสวยด้วยล่ะ แค่ไปเฝ้าเอง =_=?”
“ก็ไม่อยากให้เสียชื่อคนไทยน่ะสิ รีบๆ เข้า แต่งหน้าซะบ้าง หน้าแกโทรมมากเลยนะ” ว่าแล้วคุณเธอก็จับฉันแต่งหน้าเสร็จสรรพ ไหนว่ารีบไงยะ -_-?
“เสร็จแล้ว ไปกันเถอะ ^O^” กรีนทีเดินนำออกมาจากห้อง แล้วก็มาสมทบกับพี่ฟินที่ล็อบบี้ นี่ก็พี่เลี้ยงนักร้องอีกคน -_-?
“มีพี่ฟินไปเป็นเพื่อนแล้ว งั้นฉันขอไปพักได้ป่ะ =_=;” ฉันส่งสายตาละห้อยไปให้พี่ฟินและกรีนที แต่ทั้งสองคนใจแข็งมาก ไม่ยอมปล่อยให้ฉันกลับขึ้นไปนอน พวกเขาให้เหตุผลว่า ฉันพูดเกาหลีได้เลยอยากให้ฉันไปเป็นล่ามเพราะกลัวทำอะไรเอ๋อๆ เข้า
ยัยกรีนทีก็พูดภาษาอังกฤษได้ ทำไมต้องให้ฉันมาด้วยล่ะ ยังไงเขาก็ต้องมีทีมงานที่คอยรอรับชาวต่างชาติอยู่แล้ว U.U
พอเข้ามาในตึก ฉันก็เอาผ้าพันคอขึ้นมาปิดจนมิดเหลือแค่ตาเพราะกลัวคนจำได้ แต่เรื่องมันผ่านมาเกือบปีแล้ว คงไม่มีใครจำฉันได้หรอกมั้ง =_=;
“แกทำไรอ่ะ ในนี้ไม่ได้หนาวเท่าข้างนอกเลยนะ จะเอาขึ้นมาขนาดนั้นทำไม” ยัยกรีนทีพูดแล้วพยายามจะเข้ามาเอาผ้าพันคอฉันออกให้ได้
“ไม่เอา ฉัน...ฉันหนาวนี่ สงสัยไข้จะขึ้น” ฉันยื้นผ้าพันคอกับยัยกรีนทีอยู่นาน กว่ายัยนั่นจะยอมปล่อยฉัน
“งั้น...ฉันกับพี่ฟินรอตรงนี้แล้วกัน” ฉันพูดแล้วนั่งลงบนเก้าอี้ที่ใกล้ที่สุด
“อ้าว ไม่เข้าไปด้วยกันหรอ” กรีนทีทำหน้ามุ่ยทันทีที่รู้สึกว่าตัวเองโดนทิ้ง
“เดินตรงเข้าไปก็เป็นที่ส่งใบสมัคร โต๊ะถัดมาก็เป็นโต๊ะเอาหมายเลขออร์ดิชั่น แล้วก็นั่งรออยู่แถวนั้น เดี๋ยวเขาก็จะเรียกเข้าไปตามหมายเลข ไม่ยากหรอก” ฉันบอกรัวๆ แบบขอไปที แต่พี่ฟินกับกรีนทีกลับมองหน้ากันสลับกับจ้องมาที่ฉัน
“แกรู้ได้ไง -_-?” กรีนทีขมวดคิ้วมองฉัน
“นั่นสิ รู้ละเอียดจัง” พี่ฟินก็ทำหน้าไม่ต่างจากกรีนทีเท่าไหร่
เอาแล้วไง...เหมือนงานจะเข้าฉันแล้วล่ะ -_-;;
“ก็ ประกวด The Moon ประกวด AFF เขาก็ทำกันแบบนี้ไม่ใช่หรอ ฉันเคยเห็นเขาสมัครกันคล้ายๆ อย่างนี้นะ ^^;” ฉันหัวเราะแห้งเพื่อกลบเกลื่อน กรีนทีไม่ได้ว่าอะไรต่อ แต่ขอให้พี่ฟินไปเป็นเพื่อน ฉันเลยมีช่องให้ตัวเองได้หายใจหน่อย เกือบไปแล้วๆ ยัยเฝ้าฝัน >_<!!
“เฮ้อ...” ฉันลอบถอนหายใจกับตัวเอง นี่ฉันมาทำอะไรที่นี่เนี่ย T^T
“ดูจุน นายอยู่ไหนเนี่ย ฉันอยู่หน้าห้องออร์ดิชั่นแล้วนะ” อยู่ๆ เสียงของใครสักคนที่ฟังดูคุ้นมากๆ ก็ลอยมา มันคล้ายๆ กับเสียงของเภตราเลยนะ!! O_O!
ยังไม่ทันที่ฉันจะได้คิดอะไรต่อ เสียงฝีเท้าหนักๆ ของใครบางคนก็เดินเข้ามาใกล้เรื่อยๆ ก่อนที่เจ้าของเสียงจะมาหยุดอยู่ที่ประตูทางเข้าห้องออร์ดิชั่น
เภตราจริงๆ ด้วย -[]-!!
ฉันรีบยกผ้าพันคอขึ้นปิดหน้าตัวเองเพื่อแกล้งทำเป็นหลับแล้วแอบมองเภตราผ่านรูเล็กๆ ของผ้าพันคอ ฉันภาวนาในใจว่าขออย่าให้ยัยนั่นหันมาทางนี้เลย ฉันลุ้นจนลืมหายใจไปเลยแหละ >.<!
“โทษที ฉันลืมจริงๆ อ่ะ ^^” ดูจุนวิ่งออกมาหาเภตราแล้วรับห่ออะไรบางอย่างจากมือของเภตรา
“ดีนะที่วันนี้ฉันมาซ้อมด้วย ไม่งั้นนายได้กลับไปเอาที่หอแน่”
“ขอบคุณคร้าบบบ แฟนฉันนี่น่ารักจริงๆ เลย ^O^” ดูจุนลากเสียงยาวๆ แล้วยกมือขึ้นขยี้ผมของเภตราเบาๆ หวานกันจริงๆ นะยะคู่นี้ อายฉันบ้างสิเพื่อน -///-;
“โอ้ย! ผมฉันเสียทรงหมดแล้วเนี่ย” เภตราร้องแล้วจัดผมตัวเองให้เข้าที่โดยมีดูจุนช่วยจัด ฉันอยากจะยกกล้องขึ้นมาถ่ายเอาไว้จริงๆ ส่งให้นักข่าวคงได้หลายตังค์ ฮึฮึฮึ -_+! (หัวเราะอย่างชั่วร้าย -_-!)
“จะซ้อมเต้นอยู่แล้ว เดี๋ยวผมมันก็เสียทรงเองแหละน่า ^_^”
“ชิ! แล้วนี่เริ่มออร์ดิชั่นยัง” เภตราพูดพร้อมกับมองผ่านดูจุนไปด้านหลังเพื่อมองบรรยากาศงานออร์ดิชั่น
“ยังเลย เกือบแล้วล่ะรอกรรมการอีก 2 คน”
“อ๋อ งั้น...ฉันไปล่ะ” เภตราพูดแล้วเดินแยกไปอีกทาง ดูจุนมองตามเภตราไปสักพักก่อนจะเดินกลับเข้าไปในงานออร์ดิชั่น นี่บีสท์ก็มาดูการออร์ดิชั่นหรอเนี่ย!!
“ฉันอยากคุยกับแกจัง เภตรา...” ฉันดึงผ้าพันคอออกจากหน้า พอดีกับที่พี่ฟินและกรีนทีเดินกลับออกมา
“ฉันได้หมายเลขมาแล้วล่ะ ^^” กรีนทียิ้มอย่างสดใส “เข้าไปนั่งเป็นเพื่อนฉันข้างในหน่อยสิ พี่ฟินจะกลับแล้วอ่ะ T^T”
“ว่าไงนะ!!” ฉันส่งเสียงออกไปอย่างตกใจ ในนั้นมีทีมงานที่ฉันเคยทำงานด้วยตั้งหลายคน พวกเขาจำฉันได้แน่ T.T;
“พี่ต้องกลับไปเตรียมเอกสารขอบคุณโรงพยาบาลที่เราไปดูงานเมื่อวานกับพี่เอื้องน่ะ ขอโทษจริงๆ นะจ้ะเด็กๆ Y.Y” พี่ฟินทำหน้าสลดลงเล็กน้อยอย่างสำนึกผิด
หลังจากพี่ฟินกลับไปแล้ว ยัยกรีนทีก็ใช้อำนาจบังคับขู่เข็ญให้ฉันไปนั่งข้างในเป็นเพื่อน ที่นี่และเก้าอี้ตัวนี้ มันคือตรงที่ฉันเคยนั่งตอนที่รอออร์ดิชั่นคราวก่อน
“ตื่นเต้นจัง รอบต่อไปฉันจะได้เข้าไปแล้วอ่ะ >O<” หลังจากที่ฉันนั่งอำพรางตัวอยู่นาน ในที่สุดก็ถึงหมายเลขของยัยกรีนทีสักที =_=!
“ทำให้ดีที่สุดล่ะ จะได้ไม่เสียใจทีหลัง” ฉันบอกผ่านผ้าพันคอที่พันขึ้นมาครึ่งหน้าของฉัน
“จ้ะ เธอก็เหมือนกันนะ ^O^” กรีนทีพูดพร้อมส่งยิ้มแปลกๆ มาให้ฉัน
“อะไรของเธอ -?-!” ฉันถามงงๆ แต่ไม่ทันที่กรีนทีจะพูดอะไร ทีมงานก็เรียก
“ต่อไปหมายเลข 6754 ค่ะ”
“เขาบอกหมายเลขฉันใช่ไหม” กรีนทีถามเพื่อความแน่ใจเพราะทีมงานพูดภาษาเกาหลีพร้อมกับชูป้ายหมายเลขขึ้นเพื่อให้เข้าใจตรงกัน
“อื้ม ของแกอ่ะ” ฉันบอก กรีนทีรีบวิ่งตามทีมงานเข้าไป ฉันมองตามกรีนทีไปอย่างเศร้าใจ...นานมาแล้วนะที่ฉันเคยรู้สึกแบบนี้ แต่ฉันกลับรู้สึกว่า...มันเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวานนี้เอง
สักพักกรีนทีก็เดินคอตกออกมาหาฉัน ซึ่งก็ทำให้รู้ผลเลยว่าไม่ผ่านแน่ๆ จะว่าไปฉันยังไม่เคยได้ยินกรีนทีร้องเพลงเลยสักครั้ง เคยเห็นแค่ตอนเล่นเปียโนเท่านั้นเอง
“พวกเขาบอกให้ฉันไปเป็นนักเปียโนจะดีกว่า T^T” กรีนทีพูดแล้วทำท่าเหมือนจะร้องไห้
“คนต่อไปหมายเลข 6755 ค่ะ” ทีมงานประกาศหาคนที่เป็นเจ้าของหมายเลขต่อไป
“เฮ้ย!!” อยู่ๆ กรีนทีก็ร้องออกมา แล้วล้วงกระดาษอะไรสักอย่างออกมาจากกระเป๋ากางเกง
“อ่ะ!” กรีนทีแกะสติ๊กเกอร์หมายเลขออร์ดิชั่นมาติดที่ท้องของฉัน แล้วส่งแผ่น CD แผ่นหนึ่งมาให้
“อะไรของแกเนี่ย -?-!!” ฉันมอง CD กับหน้าของกรีนทีสลับกัน
“หมายเลข 6755 อยู่ไหมคะ?” ทีมงานคนนั้นกวาดตามองไปทั่วทั้งบริเวณ และเริ่มเกิดเสียงอื้ออึงไปทั่วทั้งห้องเมื่อยังไม่มีใครแสดงตัว หมายเลขที่กรีนทีติดให้มันคือ 6755 นี่นา O_O!
“เพลงนี้ฉันมั่นใจว่าแกต้องร้องได้เพราะฉันเห็นแกชอบฟังเพลงนี้ซ้ำแล้วซ้ำอีกบ่อยๆ ไปได้แล้ว!!” กรีนทียกมือขึ้นแสดงตัวให้ทีมงานเห็น และผลักตัวฉันให้ลุกเดินไปหน้าห้องออร์ดิชั่น
“แกรู้ไหมว่าทุกคนเขารอแกอยู่!” กรีนทีพูดกับฉันเร็วๆ “ฉันเป็นแฟนคลับของ Beast Girl Band ตัวยงเลยนะ มีหรอที่ฉันจะไม่รู้จักสมาชิกรุ่นบุกเบิกวงอย่างเธอน่ะฝัน”
“กรีน ฉัน!!...” ฉันพยายามจะเดินออกจากหน้าประตูแต่ก็โดนกรีนทีขวางทางไว้
“เข้าไปเถอะ!! ขอร้องล่ะเพื่อน...หลังจากนี้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น จะผ่านหรือว่าไม่ผ่าน อย่างน้อยๆ แกก็ได้ทำตามความฝันของแกจริงๆ แล้ว ต่อไปแกจะได้ไม่ต้องแอบร้องไห้ตอนดึกๆ คนเดียวอีกไง...” กรีนทีพูดทั้งน้ำตา ฉันไม่นึกว่าคุณหนูเอาแต่ใจอย่างกรีนทีจะสังเกตและสนใจคนอื่นขนาดนี้ แม้กระทั่งฉันที่ชอบแอบร้องไห้คนเดียวบ่อยๆ ตอนที่ฉันคิดว่ายัยนี่หลับไปแล้ว...ยัยนี่ยังรู้
“แต่...ฉันไม่คู่ควรกับที่นี่หรอก...”
“ฉันไม่เชื่อ!!” กรีนทีพูดแล้วผลักฉันเข้าไปในห้องพร้อมๆ กับดึงผ้าพันคอของฉันออก ด้วยแรงผลักมหาศาลของยัยเพื่อนรัก ทำเอาฉันเกือบหัวคะมำอยู่หน้าโต๊ะกรรมการเลยทีเดียว -_-;;
“เป็นอะไรไหมคะ?” ทีมงานที่อยู่หน้าห้องออร์ดิชั่นเดินเข้ามาพยุงตัวฉันไว้ทันก่อนที่ฉันจะล้มลง
“ไม่เป็นไรค่ะ ขอบคุณมาก” ฉันโค้งตัวลงเล็กน้อยให้ทีมงานคนนั้นก่อนจะรับไมค์จากมือของเธอมาและส่ง CD แผ่นนั้นให้เขาไป ก่อนจะค่อยๆ หันไปมองกรรมการและผู้ร่วมชมการออร์ดิชั่นที่อยู่ตรงหน้า
“เฮ้ย!!” บีสท์อุทานออกมาพร้อมกันจนเพื่อนศิลปินคนอื่นๆ ที่เข้าชมการออร์ดิชั่นด้วยต้องหันไปมองบีสท์อย่างงงๆ
ภายในห้องเป็นบรรยากาศเดิมๆ ที่ฉันเคยเข้ามา กรรมการก็ยังเป็นทีมเดิม นั่นคือ คุณอันโซ คุณอาจอง คุณเจ๊โบอา (ซึ่งก็ยังคงกรีดอายไลน์เนอร์เฉียบเหมือนเดิม -_-) ถัดมาคือกรรมการอีก 2 ท่านที่ฉันยังไม่รู้จักชื่อจนถึงตอนนี้ และ...พี่นาบี
พี่นาบีมองมาที่ด้วยความแปลกใจเล็กน้อย ก่อนจะเปลี่ยนสีหน้ามาเป็นปกติตามเดิมอย่างรวดเร็ว
“เอาล่ะ แนะนำตัวเลยจ้ะ” คุณนาจองพูดออกมาเป็นคนแรก
“...” ฉันกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบากถึงแม้ว่าฉันจะเคยเข้ามาในห้องนี้แล้วก็ตาม แต่ความตื่นเต้นมันไม่ต่างกันเลย ยิ่งคราวนี้ฉันไม่ได้เตรียมตัวอะไรมาเลย ยิ่งทำให้ฉันรู้สึกแย่กว่าเดิม!
“นี่! เสียเวลามามากแล้วนะกับหมายเลข 6755 น่ะ จะเล่นตัวอะไรนักหนายะ ถ้ายังตื่นเวทีอยู่ก็ออกไปซะ!!” ยัยเจ๊โบอายังคงขี้วีนอย่างเสมอต้นเสมอปลาย
“ขอบคุณค่ะ” ฉันพูดขอบคุณเป็นภาษาเกาหลีแล้วโค้งตัวลงเล็กน้อย ก่อนจะตัดสินใจเดินออกจากห้อง
“อ้าว!!...” เสียงของผู้ชมการออร์ดิชั่น (ศิลปินในค่าย) ร้องออกมาเกือบจะพร้อมๆ กัน แต่ฉันไม่สนหรอกนะ ก็ฉันไม่ได้ตั้งใจจะมาออร์ดิชั่นตั้งแต่แรกแล้วนี่!
“เดี๋ยวก่อน!” อยู่ๆ คุณอันโซก็เรียกฉันไว้
“เดินกลับมาตรงนี้ก่อนสิ” คุณอันโซชี้ให้ฉันกลับไปยืนอยู่ที่กลางห้องตามเดิม “เธอ...เคยมาออร์ดิชั่นแล้วใช่ไหม?”
“เอ่อ...คือ...” ฉันอึกอักเพราะไม่รู้ว่าจะบอกยังไงดี =_=;;
“วงอะไรนะ? วง Beast Girl Band...ใช่ไหม?” ประโยคสุดท้าย คุณนาจองหันไปถามบีสท์ที่นั่งอยุ่ด้านหลัง
“ใช่ครับ” พวกเขาตอบอย่างพร้อมใจกัน =_=;
“ฉันรอฟังเสียงของเธอมานานแล้วล่ะ” กรรมการหนึ่งใน 2 คนที่ฉันไม่รุ้จักชื่อพูดขึ้น ฉันหันไปมองเจ้าของเสียงก็จำได้ทันทีว่าเขาเป็นคนที่ให้โอกาสในการออร์ดิชั่นรอบ 2 หลังจากที่ฉันคุกเข่าขอร้องในการออร์ดิชั่นคราวก่อน [เหตุเกิดเมื่อ Ep. 1-6 นะคะ ^^]
“อ่ะ วันนี้เธอจะร้องเพลงอะไร” กรรมการคนนั้นถามต่อ
“ไม่ทราบค่ะ” ฉันตอบ ก็ฉันไม่รู้จริงๆ นี่ว่ายัยกรีนเอาเพลงอะไรมาให้ฉันร้อง -_-?
“งั้น...” อยู่ๆ พี่นาบีก็พูดขึ้น นี่เป็นประโยคแรกที่ฉันได้ยินพี่นาบีพูดในห้องออร์ดิชั่นเลยนะ! “ลองเต้นก่อนแล้วกัน”
สิ้นเสียงของพี่นาบี เพลงจังหวะ Hip-hop ก็ดังขึ้น แต่ฉันไม่อยากเต้น! ถ้าเกิดฉันเต้นไปแล้วจะเกิดอะไรขึ้นล่ะ! มันจะช่วยอะไรได้! ในเมื่อถึงฉันจะผ่านการออ์ดิชั่นแต่ยังไงๆ ฉันก็ต้องกลับไปอยู่ดี เพราะพ่อกับแม่ของฉันคงจะไม่ยอมแน่!! แล้วฉันทำมันไปทำไม!!...ทำไปเพื่ออะไร!
“ทำไมไม่เต้นล่ะยะ!! นี่มันเหมือนดูถูกกันชัดๆ” คุณเจ๊โบอาวีนขึ้นมาอีกรอบ
“ฉันไม่ได้ดูถูกค่ะ แต่ฉัน...ไม่ได้ตั้งใจจะมาออร์ดิชั่น พอดีเกิดความผิดพลาดนิดหน่อยฉันเลยต้องเข้ามา ขอโทษด้วยนะคะ” ฉันโค้งตัวลงมากที่สุดเท่าที่ฉันจะโค้งได้ ก่อนจะเตรียมตัวเดินอกจากห้องอีกครั้ง
“ในเมื่อเธอเข้ามาแล้ว จะมาพูดแค่นี้น่ะหรอ...” คุณโบอาพูดขึ้น เป็นน้ำเสียงที่ฉันไม่เคยได้ยินมาก่อน
“ครั้งที่แล้ว พลังของเธอมีเหลือเฟือจนสามารถคุกเข่าต่อหน้าฉันเพื่อขอออร์ดิชั่นได้!...แล้วคราวนี้พลังของเธอมันหายไปไหนหมด!!” คุณโบอาทิ้งช่วงไว้สักพัก ก่อนจะพูดต่อ...
“ถ้าเธอคิดว่าความฝันของเธอมันเป็นเรื่องไร้สาระ เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้! ทำไปก็ไร้ประโยชน์! แล้วเธอจะเข้ามาที่นี่ทำไม...หรือหากเธอไม่มีทางเลือกจริงๆ จนต้องเข้ามาในนี้ นั่นแสดงว่าเธอได้รับโอกาสแล้ว...แต่ทำไมเธอถึงได้โยนมันทิ้งแบบไร้เยื่อใยขนาดนี้!!” คุณโบอาพูดจนฉันสะอึก เขาพูด...เหมือนเขารู้ว่าฉันกำลังคิดอะไรและรู้สึกยังไงอยู่...
“ฉัน...” ฉันพูดอะไรไม่ออก ฉันได้แต่นิ่งและกำไมค์โครโฟนในมือจนเริ่มรู้สึกเจ็บเพราะโดนเล็บของตัวเองจิกเข้าที่เนื้อ
“ถ้าเธอคิดจะอยู่อย่างคนขี้แพ้แบบนี้ต่อไปก็เชิญนะ!! แต่ถ้าเธออยากจะพิสูจน์ว่านอกจากเต้น Copy เขาไปวันๆ แล้ว เธอยังสามารถทำอย่างอื่นได้และทำได้ดีด้วยล่ะก็...ฉันขอให้เธอทำวันนี้ให้ดีที่สุด!”
ฉันกับคุณโบอามองหน้ากันนิ่งทั้งห้องเงียบกริบ ไม่มีใครพูดอะไรหรือขยับร่างกายของตัวเอง ฉันก้มลงมองไมค์ในมือที่มีจุดสีเขียวระเรื่อออกมา บ่งบอกว่ามันพร้อมที่จะทำหน้าที่ของมันแล้ว...
“เพลงใน CD เธอพร้อมแล้ว...แล้วเธอล่ะ พร้อมไหม?” คุณอันโซพูดขึ้นมาในที่สุด
“ฝัน!!” อยู่ๆ เภตราก็พรวดเข้ามาในห้องออร์ดิชั่นพร้อมกับ ณัช วิลล่า ดอกหลิว หยา และชเวอึนพา
**************************************
อีก 2 Chapter Ep. นี้ก็จะจบแล้ว
ยังไงก็ฝากติดตามด้วยนะคะ ^O^
**************************************
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.2 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ