[B2ST/Beast] Dream Story รักนี้ให้นาย...เจ้าชายอสูร

8.9

เขียนโดย Kreota

วันที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 เวลา 00.14 น.

  87 ตอน
  86 วิจารณ์
  110.92K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2557 22.21 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

21) [Episode 2 :: Brighter Lover] # Chapter 9

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

Episode 2 Brighter Lover

:: Chapter 9 ::

 

                เมื่อฉันกับพี่มะนาวเดินมาถึง ห้องแต่งตัวก็ไม่มีใครอยู่ในนี้แล้ว เฮ้อ...โล่งอกที่ไม่มีใครอยู่ ไม่งั้นฉันคงใจแป้วยิ่งกว่าเดิมที่ต้องมาได้ยินคำตัดพ้อต่อว่าของเพื่อนๆ ที่ไม่ยอมตามไปเกาหลีด้วย =_=;

                “อ้าว! ไปไหนกันแล้วเนี่ย”  พี่มะนาวเท้าสะเอวอย่างไม่พอใจนิดหน่อย

                “อ้าวพี่มะนาว หาตั้งนาน จะเริ่มถ่ายกันแล้วนะคะ”  ทีมงานคนหนึ่งโผล่เข้ามาในห้องแค่ส่วนศีรษะก่อนจะเดินเข้ามาหาพี่มะนาวทั้งตัว

                “หรอ อืมๆ เดี๋ยวตามไป”  พี่มะนาวพูดจบ ทีมงานคนนั้นจึงเดินออกไปพร้อมกับเอกสาร 1 ปึกที่พี่มะนาวเพิ่งจะยื่นให้

                “เห็นไหมคะ พี่มะนาวยุ่งจะตาย ยังจะมาสนใจฝันอีก ไปทำงานเถอะค่ะ แค่กางเกงเลอะเอง ฝันจัดการได้ ^^”

                “ไม่เอาๆ มานี่มา เอากางเกงตัวนี้ไปใส่เลย พี่เพิ่งซื้อมา มันเป็นแบบฟรีไซน์ ใส่ได้ทุกคน”  พี่มะนาวยื่นถุงกระดาษถุงหนึ่งมาให้ฉัน

                “โห...ยี่ห้อดังซะด้วย คงแพงน่าดู”  ฉันยกถุงในมือขึ้นดูก็ต้องรีบส่งคืนพี่มะนาวทันที “ฝันรับไว้ไม่ได้หรอกค่ะของแพงขนาดนี้ อีกอย่างพี่ก็เพิ่งซื้อมาด้วย” 

                “รับไว้เถอะจ้ะ วันเกิดปีนี้พี่ก็ยังไม่ได้ให้ของขวัญอะไรเป็นชิ้นเป็นอันนี่ ^_^”  พี่มะนาวผลักมือที่ยื่นถุงคืนกลับมาหาฉัน

                “แต่...”

                “ฝันกำลังทำให้พี่เสียเวลานะเนี่ย รับไว้เถอะ พี่ไปละ”  พี่มะนาวพูดรัวๆ แล้วรีบเดินออกไปทันที ทิ้งฉันไว้กับของราคาแพงหูฉีกในมือ

                “ขอบคุณมากนะคะ”  ฉันพูดกับถุง ยังกับว่ามันจะส่งไปถึงพี่มะนาวได้งั้นแหละ

                หลังจากที่ฉันลงมือเปลี่ยนกางเกงเสร็จ ฉันก็เดินออกมาจากห้องแต่งตัว แต่ก็ต้องมาชนเข้ากับทีมงานคนหนึ่งที่กำลังรีบร้อนเดินเข้ามาในห้องแต่งตัวพอดี

                “อุ้ย! ขอโทษค่ะ”  ผู้หญิงคนนั้นผงกศีรษะขึ้นลง ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามองฉัน แล้ว...

                O_O!! <<< ทำหน้าแบบนี้

                “เอ่อ...”  ฉันส่งเสียงออกไป เพราะทีมงานคนนั้นทำท่าเหมือนจะนิ่งอยู่แบบนั้นนานเกินไปแล้ว -_-?

                “ขอโทษนะคะที่ฉันชนคุณ เป็นไรไหม?”  ฉันถามออกไปด้วยความเป็นห่วง เพราะจากที่ชนกันเมื่อกี๊ก็คงไม่กระทบกระเทือนถึงสมองหรอกมั้ง -_-^

                “มะ...ไม่เป็นไรค่ะพี่เฝ้าฝัน ^_^”  ทีมงานคนนั้นยิ้มกว้างให้กับฉัน พร้อมทั้งเรียกชื่อฉันซะเต็มยศ รู้
จักฉันได้ไงเนี่ย -_-??

                “ขอโทษนะคะ รู้จักฉันด้วยหรอ”  ฉันชี้นิ้วเข้าหาตัวด้วยความงง เด็กคนนี้จะรู้จักฉันได้ยังไงกัน =_=

                “พี่จำหนูไม่ได้หรอ O_O?”  น้องคนนั้นมองหน้าฉันพร้อมกับทำตาโตเลิกคิ้วสูงด้วยความงง ใช่แล้วล่ะเด็กน้อย...ถึงฉันจะเรียนหมอ แต่ความจำเรื่องหน้าคนของฉันมันแย่มากเลยล่ะ

                “ขอโทษที จำไม่ได้จริงๆ”  ฉันยิ้มแหยๆ ให้น้องคนนั้นอย่างรู้สึกผิด

                “ไม่เป็นไรค่ะ ถ้าพี่จำได้แหละแปลก ^^”  น้องคนนั้นยิ้มให้ฉัน ก่อนจะพูดต่อ  “พี่จำเด็กที่เอาตุ๊กตาไปให้พี่โยซอบที่โรงพยาบาลได้ไหมคะ ตอนนั้นเลยเวลาเยี่ยมแล้ว หนูเลยฝากพี่ไปให้แทน ตุ๊กตาตัวใหญ่เท่านี้อ่ะค่ะ ^O^”  น้องคนนั้นไม่พูดเปล่า แต่ทำท่าประกอบโดยการใช้มือวาดอากาศเพื่อให้เห็นถึงขนาดของตุ๊กตาที่น้องเขาเอามา

                “อ๋อ...น้องคนนั้นนั่นเอง บ้านอยู่ต่างจังหวัดไม่ใช่หรอ? ทำไมมาอยู่นี่ล่ะ”  เท่าที่จำได้ ตอนนั้นน้องเขาบอกว่าบ้านอยู่ต่างจังหวัดต้องรีบไปขึ้นรถเที่ยวสุดท้ายไม่ใช่หรอ

                “พอดีหนูขอที่บ้านมาทำงานพิเศษที่นี่น่ะค่ะ แต่ถ้าจะพูดตรงๆ ก็มาตามบีสท์นี่แหละ ^^;”

                “แฟนคลับตัวจริงเลยนะ”  ฉันยิ้มให้น้องคนนั้นอย่างเอ็นดู

                “แล้วนี่ รีบเข้ามาเอาของหรอ”

                “เอ้อ! ลืมไปเลย ต้องรีบแล้ว!!”  น้องคนนั้นสบถกับตัวเองแล้วรีบเดินเข้าไปในห้องแต่งตัว ค้นของในกล่องอยู่สักพักก่อนจะรีบวิ่งออกไปที่กองถ่ายที่อยู่ในตัวร้าน

                ฉันมองตามน้องคนนั้นจนเดินลับตาไป ก่อนจะเดินกลับไปที่โต๊ะซึ่งที่นั่นมีแค่กรีนทีเท่านั้นที่ยังนั่งอยู่ พี่ฟินต้องไปเกาะอยู่ข้างๆ กองถ่ายชัวร์ =_=

                “โน่นแน่ะ”  กรีนทีชี้ไปที่กองถ่ายโดยที่ฉันไม่ต้องเอ่ยปากถามให้เมื่อย ฉันมองตามนิ้วยัยกรีนไปก็เห็นพิธีกรกำลังให้บีสท์เกิร์ลแนะนำตัว ดูท่าทางพิธีกรชายกำลังสนุกสนานกับการแทะโลมวิลล่าด้วยคำพูดคำจาที่ออกจะทึ่งปนตลกหน่อยๆ แต่มีหรือที่ยัยวิลล่าจะยอมโดนแทะโลมง่ายๆ ยัยวิลล่าทำท่าทางทะเล้นๆ ตามประสา รอยยิ้มแบบนี้คงมีคำตอบที่ต้องทำให้พิธีกรชายคนนั้นเหวอแน่ๆ จะเหวอขนาดไหนฉันว่าเดินเข้าไปดูหน่อยดีกว่า ^^

                “ไปไหนน่ะฝัน อย่าบอกนะว่าจะไปมุดอยู่กับแฟนคลับตรงนั้นน่ะ”  กรีนทีร้องทักเมื่อเห็นฉันกำลังจะก้าวเท้าเข้าไปในกลุ่มแฟนคลับที่นั่งอยู่หลังกล้องตัวใหญ่

                “นิดหน่อยเองน่า” 

                “อึกอัดจะตาย”  กรีนทีพึมพำ ฉันเลยเดินออกมาโดยไม่พูดอะไรต่อ

                “น้องวิลล่ารู้สึกยังไงคะ ที่ได้รับผลโหวตว่าเป็นผู้หญิงที่เซ็กซี่ที่สุดในวง”  พิธีกรหญิงเอ่ยถามวิลล่า วิลล่ายิ้มรับอย่างสุภาพก่อนจะพูด

                “ก็ต้องรู้สึกขอบคุณนะคะสำหรับผลโหวต แต่วิลว่า วิลออกจะตลกๆ โก๊ะๆ ซะมากกว่านะ ฮ่าๆๆ”  วิลล่าพูดพร้อมกับหัวเราะออกมาดังๆ อย่างเป็นธรรมชาติ ธรรมชาติไปแล้วจ้ะคุณน้อง -_-;

                “แหม ตลกจริงๆ นะคะ”  พิธีกรหญิงพูดไปขำไปกับท่าทางการหัวเราะของวิลล่า

                “ถ้าเกิดให้เลือกว่าอวัยวะส่วนไหนในร่างกายของเราที่ดูเซ็กซี่ที่สุดเนี่ย น้องวิลล่าคิดว่าส่วนไหนครับ”  พิธีกรชายเริ่มตั้งคำถามบ้าง

                “อืม...คิดไม่ออกอ่ะค่ะ อาจจะเป็นสายตาเวลาที่ทำการแสดงบนเวทีมั้งคะ”  วิลล่าตอบอย่างหนักใจ แต่ฉันรู้นะว่ายัยนี่เซ็กซี่ตรงไหน...ก็ตรงหน้าอกคัพ F ของยัยนี่น่ะสิ คนอะไร๊ตัวเล็กๆ แต่หน้าอกใหญ่บะฮึ้มขนาดนั้น เห็นแล้วเซ็ง =_=!

                “แต่พี่ว่ามีอยู่ที่หนึ่งนะครับ เห็นชัดมากเลย อิอิ ^///^”  พิธิกรชายพูดแบบทีเล่นทีจริง แต่ความจริงแล้วสายตานี่มองอกบิ๊กบะฮึ้มซะจงใจ -*-!

                “แหมๆ เอาอีกแล้วนะคะคุณเจเจ น้องเขายังเด็กนะ”  พิธีกรหญิงพูดไปขำไปเพื่อสร้างบรรยากาศและดึงความสนใจออกจากความหื่นไม่เลือกที่ของพิธีกร เท่าที่ฉันรู้จักพิธีกรคนนี้ เขาเป็นดีเจที่ได้ชื่อว่าเจ้าชู้แบบตลกๆ และหื่นเข้าขั้นเลยล่ะ ตายแน่น้องฉันเจอของจริงเข้าแล้ว U.U

                “ตรงไหนหรอคะลุง ^O^”  วิลล่าถามพร้อมรอยยิ้มสดใสโดยเน้นคำว่า ‘ลุง’ อย่างชัดเจน จนคนทั้งร้าน เพื่อนร่วมวงและพิธีกรหญิงที่มาคู่กันถึงกับขำออกมา พิธีกรเจเจคนนั้นหน้าเสียนิดหน่อยและพูดออกมาอย่างตลกกลบเกลื่อนว่า

                “แหมๆ ก็ตรงที่คับอกคับใจอยู่นั่นไง...ฮ่าๆๆ เอาล่ะครับ มาสัมภาษณ์คนต่อไปกันดีกว่า คนต่อไปน้องเภตรานะครับ...”  แล้วรายการก็ดำเนินต่อไปเรื่อยๆ อย่างราบรื่น แต่ยังดูการอัดรายการไม่ทันจบกรีนทีก็มาตามฉันกับพี่ฟินกลับ ฉันเลยต้องกลับแท็กซี่เพราะพี่ฟินยืนยันว่าจะดูจนจบรายการ

                ~ La La La Hu La…La La La Hu La…~

                อยู่ๆ ก็มีเสียงเพลงประหลาดๆ ดังขึ้นมาในรถแท็กซี่ โห...ลุกคนขับแท็กซี่นี่ทันสมัยดีจัง เพลงใหม่ของเพื่อนฉันเลยนะนั่น ยังไม่ทันได้ปล่อยซิงเกิ้ลเลย ดังแล้วหรอ ^O^???

                เอ๊ะ!!! ยังไม่ทันจะเดบิวต์ แล้วเพลงมันหลุดมาถึงได้งายยย -[]-!!

                “ฝัน ทำไมไม่รับโทรศัพท์”  กรีนทีกอดอกมองฉันอย่างเซ็งๆ ส่วนลุงคนขับก็มองมาที่ฉันผ่านกระจกมองหลังอย่างจงใจประหนึ่งว่า ‘ทำไมไม่รับโทรศัพท์ล่ะหนู’

                “ของฉันหรอ???”  ฉันชี้นิ้วเข้าหาตัวเองอีกครั้งในรอบวัน ทำไมวันนี้มันมีแต่เรื่องที่ทำให้ฉันงงอยู่เรื่อยเลยนะ -_-??

                “อ้าว ก็มันดังจากถุงที่แกถือมาด้วยน่ะ”  กรีนทีพยักพเยิดไปที่ถุงจากห้างดังที่ฉันเอามาจากพี่มะนาว ฉันเลยรีบก้มลงไปดูในนั้น ก็เจอโทรศัพท์สีดำรุ่นล่ายี่ห้อซุงซังที่กำลังโชว์เบอร์ยาวเหยียดของประเทศเกาหลีและเมมชื่อไว้ว่า ‘โบรา’

                เอาแล้วไง ทีมงานที่เกาหลีโทรหาพี่มะนาวแน่เลย =_=;; นี่ฉันต้องรับสายแล้วพูดเป็นภาษาเกาหลีหรอเนี่ย...หรือว่าจะกดเสียงเงียบไว้ดี...

                “ทำไมไม่รับล่ะ”  กรีนทีมองมือถือในมือของฉันที่เพิ่งจะเงียบเสียงเพราะปลายสายตัดไปแล้ว

                “ก็ไม่ใช่มือถือฉันน่ะสิ สงสัยฉัน...จับมาผิดน่ะ”  ฉันพูดแก้ต่างไป เพราะถ้าฉันบอกว่าเป็นมือถือของพี่ทีมงาน ยัยกรีนก็คงสงสัยว่าฉันรู้จักทีมงานจากเกาหลีได้ยังไง  V.V;;

                “งั้นก็ต้องรีบรับ ถ้าเกิดเขายืมโทรศัพท์คนอื่นโทรหา แกจะได้เอาไปคืนเขาถูกไง...เฮ้ย! อย่าบอกนะว่าแกจะขโมยของเขาน่ะ!! บ้าไปแล้วหรอ...บ้านแกจนซะที่ไหน!!!”  ยัยกรีนทีโวยลั่นแท็กซี่ ลุกคนขับถึงกับมองมาที่ฉันอย่างระแวงหน่อยๆ เอาเข้าไป =_=;;

                ~ La La La Hu La…La La La Hu La…~

                “นั่นไง!! รับเลยแก...ห้ามตุกติกนะ”  ยัยกรีนทีชี้นิ้วมาที่ฉันเหมือนกำลังพยายามให้ฉันสารภาพว่าเพิ่งจะขโมยยกทรงของยัยนี่ไปยังไงยังงั้น -_-;;

                “เอ่อ...”  ฉันกดรับสาย และส่งเสียงออกไปนิดหน่อย เพราะยังตั้งหลักไม่ได้ว่าต้องปรับโหมดภาษาไหน Y.Y?

                [คุณมะนาวคะ เกิดเรื่องแล้วค่ะ]  ปลายสายตะโกนมาด้วยภาษาเกาหลี ดูท่าทางรีบร้อนจนพูดแทบจะไม่เป็นภาษา เอาล่ะสิ...ฉันควรจะทำไงดี คุยกับเขาต่อ หรือตอบกลับไปว่าตอนนี้พี่มะนาวไม่ว่างดี แต่เขาท่าทางรีบร้อนมากเลยนะ T^T

                “ภาษาอะไรอ่ะ เกาหลีหรอ O_o!!”  ยัยกรีนทำท่าทางตกใจมากเมื่อได้ยินเสียงของปลายสายตะโกนลอดออกมา

                “เฮ้อ...”  ฉันถอดหายใจออกมาเฮือกใหญ่ แล้วตัดสินใจพูดกับปลายสายด้วยภาษาเกาหลีเพราะเรื่องที่เขาจะบอกอาจจะเกี่ยวกับเพื่อนฉันก็ได้!!

                “คือ ตอนนี้พี่มะนาวไม่ว่างนะคะ ติดถ่ายรายการอยู่ มีอะไรฝากไว้ได้เลยคะ ฉันจะรีบบอกให้”  ฉันทำเหมือนเป็นทีมงานช่วยรับสายแทนให้

                [อ๋อ ค่ะ คือว่าตอนนี้จะมีนักข่าวมารอทำข่าวที่สนามบินเรื่อง Troy กับข่าวที่ว่าบีสท์เกิร์ลโดนวางยานะคะ ตอนนี้คุณนาบียังไม่ให้ให้ข้อมูลใดๆ ทั้งสิ้น เพราะฉะนั้นพอลงจากเครื่องให้รีบไปขึ้นรถที่จอดคอยไว้ทันที ห้ามให้ข่าวนะคะ]  ผู้หญิงคนนั้นพูดเร็วและรัวมากอย่างรีบร้อน

                “ค่ะ”  ฉันรับคำเมื่อเขาพูดจบประโยค

                [ตอนนี้ถ่ายรายการไปได้กี่เปอร์เซ็นแล้วคะเนี่ย]  ปลายสายถามต่อ เอ่อ...ไม่ชวนคุยต่อฉันก็ไม่ว่าอะไรนะคุณโบรา =_=;;

                “อ๋อ เกือบจะเสร็จแล้วล่ะค่ะ”

                [เฮ้อ...ดีแล้วล่ะค่ะ งั้นไม่รบกวนแล้ว ฝากบอกคุณมะนาวด้วยนะคะ]

                “ได้ค่ะ”  ฉันยิ้มรับกับโทรศัพท์ก่อนปลายสายจะกดตัดสายไป พอฉันเอามือถือออกจากหูฉันก็เพิ่งจะรู้สึกว่ารถทั้งคันเงียบกริบอย่างน่าประหลาด =_=;;

                “แก...พูดเกาหลีคล่องจัง O_o?”  กรีนทีมองฉันอย่างทึ่งๆ

                “ก็...ที่คังยูเขาเปิดสอนภาษาเกาหลีด้วยอ่ะ ช่วงปิดเทอมฉันเลยลงเรียนด้วย”  ฉันตอบกลับแบบขอไปที ห้ามถามต่อนะแก =_=!

                “หรอ แกเก่งจัง ^O^”  ยัยกรีนเกาะแขนฉันอย่างชื่นชม ขอบใจนะเพื่อนที่ไม่ถามต่อ U_U;;

                “ลุงคะ เดี๋ยวจอดข้างหน้าให้หนูหน่อยนะคะ”  ฉันบอกลุงคนขับก่อนที่ยัยกรีนทีจะคิดคำถามต่อไปออก

                “แกจะไปไหนน่ะ”  กรีนทีโผล่หน้าออกมาจากประตูแท็กซี่

                “ฉันจะเอาไปคืนเขาที่กองถ่ายน่ะ เมื่อกี้เขาโทรมาตาม แกกลับไปก่อนแล้วกันนะ”  ฉันตอบ ก่อนจะโบกรถแท็กซี่คันใหม่ แล้วมุ่งหน้ากลับไปที่ร้านนั้นทันที

               

                เมื่อฉันมาถึงกองถ่ายก็เริ่มเก็บของกันแล้ว ฉันรีบเดินจ้ำๆ ไปหาน้องทีมงานแฟนคลับโยซอบคนนั้นทันที

                “น้องคะ”  ฉันเดินเข้าไปใกล้พอที่จะเรียกชื่อน้องคนนั้นได้

                “คะ?...อ้าวพี่เฝ้าฝัน ^^”  น้องคนนั้นยิ้มกว้างให้ฉันอย่างตื่นเต้น ไม่ต้องตื่นเต้นขนาดนั้นก็ได้ค่ะน้อง พี่ไม่ใช่ดารา =_=;

                “น้องรู้จักทีมงานคนไทยที่มากับบีสท์เกิร์ลแบนไหม?”

                “อ๋อ พี่มะนาวน่ะหรอคะ”  น้องคนนั้นพูดอย่างคิดได้  “เห็นว่ากำลังหาของในห้องแต่งตัวน่ะค่ะ”  น้องคนนั้นชี้ไปที่ห้องแต่งตัวห้องเดิมที่เดินชนกันเมื่อครู่ ฉันกล่าวคำขอบคุณแล้วรีบเดินเข้าไปที่ห้องแต่งตัวทันที

                ผ่าง!!

                ฉันไม่พูดพร่ำทำเพลง เปิดประตูพรวดเข้าไปในห้องทันที ทำเอาบีสท์และพี่มะนาวหันมามองฉันเป็นตาเดียว O_O!

                “อุ้ย!!”  ฉันเผลออุทานออกมา เพราะคิดว่าในห้องน่าจะเป็นเพื่อนบีสท์เกิร์ล แต่กลับกลายเป็นบีสท์บอยซะงั้น -_-?

                “มาได้ไงน่ะ -_-?”  จุนฮยองตั้งตัวได้เป็นคนแรก

                “พี่มะนาว หานี่อยู่ใช่ไหม”  ฉันเดินเข้าไปหาพี่มะนาวทันทีโดยไม่ตอบอะไร ฉันก็อยากตอบอยู่นะจุนฮยอง แต่ตอนนี้ฉันรีบจริงๆ U.U

                “ใช่ๆๆ พี่หานี่แหละ ฝันเจอที่ไหนเนี่ย”  พี่มะนาวรีบเอามือถือเข้าไปกอดอย่างโล่งอก

                “มันติดมากับนี่”  ฉันยกถุงกางเกงขึ้นไปให้พี่มะนาวดู

                “ขอบใจนะฝัน ^_^”  พี่มะนาวจับไหล่ฉันพร้อมรอยยิ้มตื้นตัน

                “มีคนโทรมาด้วยนะคะ พอดีเขาโทรมาหลายรอบฝันคิดว่าเป็นเรื่องด่วนเลยรับให้”

                “ใครโทรมาจ้ะ” 

                “คนที่ชื่อโบราโทรมาค่ะ” 

                “เลขาของนาบีนี่ เขาว่าไงบ้าง”  พี่มะนาวถามต่อ

                “เขาบอกว่า...ตอนนี้มีนักข่าวมารอทำข่าวที่สนามบินเรื่อง Troy กับข่าวที่ว่าบีสท์เกิร์ลโดนวางยา ตอนนี้ พี่นาบียังไม่ให้ให้ข่าวหรือข้อมูลอะไร เพราะฉะนั้นพอลงจากเครื่องให้รีบไปขึ้นรถที่จอดคอยไว้ทันที...เขาบอกประมาณนี้ค่ะ”  ฉันพูดทวนในส่วนที่จำได้ พี่มะนาวถึงกับตาเบิกโพลงเลยทีเดียว

                “จริงสิ นักข่าว!!...ที่ไทยก็มีนักข่าวรอที่สนามบินนี่ ตายแล้วๆ เด็กๆ ของพี่โดนนักข่าวยำกินแทนมื้อเย็นรึยังเนี่ย >_<”  พี่มะนาวพูดแล้วทำท่าร้อนรน

                “พวกเภตรา...ไปที่สนามบินแล้วหรอคะ”  ฉันถาม เพราะที่นี่เห็นแค่บีสท์เท่านั้นที่ยังเก็บของกันอยู่

                “ใช่จ้ะ พอดีกลับคนละไฟรท์กับบีสท์น่ะ บีสท์กลับช้ากว่า”

                “อ๋อ...ค่ะ”  ฉันพยักหน้ารับรู้

                “งั้นพี่รีบไปก่อนนะ เดี๋ยวตกเครื่อง ^^”  พี่มะนาวยิ้มให้ฉันก่อนจะเดินออกไปจากห้องแต่งตัวทันที

                แต่อยู่ๆ...เสียงของพี่มะนาวก็ดังเข้ามาในห้องแต่งตัวทั้งที่เมื่อกี๊เพิ่งจะเดินออกไป...ลืมอะไรไว้อีกล่ะคะพี่มะนาว =_=?

                “เฝ้าฝัน...” 

                “คะ?”  ฉันขานรับพร้อมกับหันไปที่ประตู แต่พี่มะนาวก็วิ่งเข้ามากอดฉันไว้แน่นโดยที่ฉันยังไม่ทันตั้งตัว

                “พี่มะนาว...”  ฉันส่งเสียงออกไปเบาๆ ระหว่างที่พี่มะนาวสะอื้นเบาๆ

                “ฝัน...พี่จะคิดถึงเธอนะ ว่างๆ ก็โทรไปหาพี่ได้นะ T^T”  พี่มะนาวผละออกจากฉันแล้วเขย่ามือฉันแรงๆ ความอบอุ่นเริ่มอบอวลอยู่รอบตัวฉัน ความทรงจำดีๆ เริ่มหวนกลับมาอีกครั้ง...ถ้าเปรียบพี่นาบีเป็นแม่ที่ให้กำเนิด Beast Girl Band พี่มะนาวก็คงเปรียบได้กับพี่สาวที่คอยโอบอุ้มพวกเราให้เติบโตขึ้นมาด้วยความรักและความอบอุ่น...

                “ฝันจะโทรหาบ่อยๆ นะคะ รีบไปเถอะค่ะ เดี๋ยวเพื่อนหนูโดนยำนะ ^^”  ฉันยิ้มออกมาทั้งที่น้ำตาเริ่มเอ่ออยู่ที่ตาแล้ว พี่มะนาวยิ้มมาให้ฉันก่อนจะเดินลับหายออกไปนอกห้องแต่งตัว

                “ประทับใจจัง ^O^”  ดงอุนร้องออกมาเป็นคนแรกด้วยความสดใส

                “ถ้าฉันเป็นเธอ คงใจอ่อนตามคุณมะนาวไปแล้วล่ะ”  กีกวังพูดเสริมขึ้นมาเป็นคนที่สอง

                เอาเข้าไปพวกนาย! ตอกย้ำฉันจัง T^T!

                “ไม่กลับไปจริงหรอ เปลี่ยนใจยังทันนะ กลับไฟรท์เดียวกับพวกเราก็ได้ ^^”  โยซอบพูด อย่าชี้โพลงให้กระรอกแบบนั้นสิยะโยซอบ >.<

                “ฉัน...คิดดีแล้ว งั้น...ฉันกลับล่ะ ฉันขอส่งตรงนี้เลยนะ...เดินทางปลอดภัย”  ฉันยิ้มบางๆ ให้พวกเขา 6 คน ก่อนจะตัดสินใจเดินออกมาจากห้องแต่งตัว แต่ก่อนจะออกมาพ้นห้อง ดูจุนก็เรียกฉันไว้

                “เดี๋ยวเฝ้าฝัน! มีคนอยากคุยด้วย...”  ดูจุนยื่นมือถือส่งมาให้ฉัน มีชื่อของเภตราโชว์อยู่ที่จอ ทำให้ฉันมั่นใจมากว่าปลายสายคือเภตรา...

                ฉันเอื้อมมือไปรับมือถือมาถือไว้ หัวใจเริ่มเต้นรัวและหายใจเริ่มไม่ทั่วท้อง ทำไมฉันถึงหนักใจที่จะต้องคุยกับเภตราขนาดนี้นะ

                “เอ่อ...”  ฉันส่งเสียงออกไปก่อนจะกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบากอึกหนึ่ง เสียงของฉันมันเริ่มหายไปอีกแล้ว V_V;

                “ฮะ...ฮะโหล”  ฉันส่งเสียงออกไป

                [เฝ้าฝัน...แกทำไมไม่มาส่งพวกฉันล่ะ!]  เสียงของเภตราลอดผ่านสายเข้ามา ทำเอาหัวใจของฉันหล่นตุบไปกองที่ตาตุ่ม มันเป็นเหมือนคำคลาสสิกที่ใช้ถามกัน แต่ทำไมฉันถึง...รู้สึกใจหาย นี่ฉันใจดำเกินไปรึเปล่าที่ไม่ยอมไปส่งเพื่อน

                “ฉัน...ขอโทษจริงๆ พอดี...ฉันต้องไปโรงพยาบาลต่อ หยุดมานานแล้ว”  ฉันโกหกออกไปคำโต และรู้สึกว่าการโกหกครั้งนี้จะไม่ค่อยจะเนียนเท่าที่ควรเพราะเสียงของฉันสั่นจนผิดสังเกต ฉันพยายามควบคุมมันอย่างถึงที่สุดแล้วนะ แต่มันก็ยัง...

                [...อยู่ที่ร้านก็ไม่เข้ามาทักทายกันเลย]  เสียงของเภตราแผ่วลง แต่ก็ไม่ได้ซักไซ้ต่อเรื่องที่ฉันไปส่งไม่ได้

                “ก็พวกเธอทำงานอยู่ จะให้ฉันไปยุ่งก็คงไม่เหมาะหรอก...”  ฉันพูด

                […]  อยู่ๆ เภตราก็เงียบไป ก่อนจะพูด

                [ฉันรอแกนะเว้ย...ถึงจะไม่มีหวัง แต่ฉันก็ยังรอ...ไว้เจอกันใหม่นะ เมื่อชาติต้องการ ฮ่าๆๆ]  เสียงเภตราหัวเราะแห้งๆ กลับมา ยิ่งตอกย้ำให้ฉันรู้สึกผิดยิ่งกว่าเดิม

                “...เดินทางปลอดภัยนะ”  ฉันพูดแค่นั้น ก่อนที่เราจะเงียบกันไปทั้งสองฝ่าย ฉันเหลือบไปเห็นดูจุนที่ยืนรออยู่ เลยยื่นมือถือคืนไปให้ ก่อนจะค่อยๆ เดินออกมาเงียบๆ

                ถ้าฉันพูดอะไรไปมากกว่านี้...ฉันกลัวว่าฉันจะหวั่นไหวไปมากกว่าเดิม...ถึงแม้ความฝันที่ฉันเคยฝันเอาไว้มันจะมาเกยอยู่ตรงหน้าฉันอีกครั้งก็ตาม แต่ครั้งนี้...ฉันจำเป็นต้องเลือกความจริง!

                มันไม่มีทางเป็นไปได้แล้วล่ะเภตรา...ชีวิตของฉันควรจะอยู่ที่นี่มากกว่า ฉันควรจะใช้ชีวิตแบบนี้ต่อไป อีกอย่าง...ถึงแม้จะไม่มีฉัน Beast Girl Band ก็ต้องไปได้สวยแน่ๆ...ขอโทษจริงๆ นะเพื่อน ฉันกลับไปไม่ได้แล้ว ถึงแม้ความทรงจำระหว่างเราจะเป็นช่วงชีวิตที่ฉันรู้สึกมีความสุขที่สุดตั้งแต่เกิดมาก็ตาม แต่ฉัน...ทิ้งความหวังของพ่อกับแม่ไว้ที่นี่ไม่ได้จริงๆ

                “ไม่เหนื่อยหรอ...ร้องออกมาเถอะ”  อยู่ๆ เสียงใสๆ ของโยซอบก็ดังขึ้น ฉันเลยรีบหันไปมองเขา ตอนนี้เขานั่งอยู่ข้างๆ ฉันที่ฟุตบาทริมถนน เขาค่อยๆ ถอดแว่นกันแดดออกแล้วยิ้มบางๆ มาให้ฉัน ในช่วงเวลาแบนี้...ช่วงเวลาที่ฉันต้องการใครสักคนมาอยู่เคียงข้าง ทำไมฉันรู้สึกอุ่นใจจังที่หันไปมองแล้วมีเขาอยู่ด้วย

                ไม่รู้ว่าเพราะอะไร...เพียงแค่คำพูดประโยคนี้ของเขา กลับทำให้สิ่งที่ฉันรู้สึกเก็บกดเอาไว้ตลอดทั้งวันและความรู้สึกมากมายที่ฉันพยายามแอบซ่อนไว้มันล้นทะลักออกมา...ในทุกครั้งที่ฉันต้องเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับความทรงจำในอดีต...ทั้งเพื่อนๆ Beast Girl Band ทั้งพี่มะนาว พี่นาบี ทีมงานคนอื่นๆ ที่รู้จักหรือแม้กระทั่งบีสท์ทั้ง 6 คน เหมือนกับว่าฉันต้องสร้างกำแพงขึ้นปิดกั้นตัวเองออกจากพวกเขา...มันทำให้ฉันรู้สึกเหนื่อยและล้าเหลือเกิน

                น้ำตาที่เอ่ออยู่ในตาทั้งสองข้าง ค่อยๆ เอ่อล้นออกมาอาบแก้ม ความรู้สึกมากมายเริ่มเข้ามาปะทะที่ตัวฉันจนฉันไม่สามารถอดกลั้นเสียงสะอื้นเอาไว้ได้ หูทั้งสองข้างอื้อไปหมดจนฉันไม่สามารถรับรู้เสียงของการจราจรที่คับคั่งบนท้องถนนตรงหน้าได้อีกต่อไป ฉัน...เหนื่อยเหลือเกิน

                โยซอบใช้มือโอบที่ไหล่ฉันเบาๆ ก่อนจะค่อยๆ เอนตัวฉันให้ลงไปซบบนไหล่ของเขาอย่างโอนโยนโดยที่เขาไม่ได้พูดปลอบใจอะไรฉัน แต่การกระทำของเขามันยิ่งทำให้ฉันสะอื้นออกมาหนักมากกว่าเดิม...

                “ร้องไห้หนักขนาดนี้ หมดสวยแล้วคุณหมอ...”  เสียงทุ้มที่ฟังดูอ่อนโยนของโยซอบทำให้หัวใจที่เหน็บหนาวของฉันรู้สึกอบอุ่นขึ้นมาก แต่ก็ไม่ได้ทำให้น้ำตาที่ฉันมีอยู่มันหยุดไหลได้เลยฉันกลับยิ่งสะอื้นขึ้นมามากกว่าเดิม โยซอบไม่พูดอะไรต่อเขาเพียงแค่ถอดหมวกแก๊ปที่ตัวเองใส่อยู่มาใส่ให้ฉัน ส่วนตัวเองก็สวมแค่แว่นกันแดดไว้ก่อนจะนั่งเงียบๆ อยู่ที่เดิม...

 

 

 

 

***************************************

อัพอีกตอนค่ะ

ฝากติดตามด้วยนะคะทุกคน ^O^

ติชมได้นะ ^^

***************************************

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.2 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายฟิคชั่นเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา