เพื่อนร้ายนายน่ารักว่ะ
-
เขียนโดย Mikeyyyyy
วันที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564 เวลา 17.56 น.
4 ตอน
0 วิจารณ์
3,507 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564 18.01 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น
3) ตอนที่ 3
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความตอนที่ 3
การสอบปลายภาคได้เริ่มขึ้น ตั้งแต่ติวให้โซ่ในวันนั้น เขาก็ไม่ได้เจอหน้าโซ่อีกเลย จนกระทั่งวันนี้ นี่เขาพูดแรงเกินไปรึป่าว ชายหนุ่มถึงได้ไม่มาเจอหน้าเขาเลยสักวัน แถมวันนี้พอได้เจอกันก็ไม่ได้ทักทายกันสักนิด
อ๊อด!!! เสียงออดยังเป็นสัญญาณของเวลาการสอบที่หมดลง ไนล์เดินเอาข้อสอบไปส่ง ก่อนจะเดินออกมาจากห้อง
“ทำได้ไหมมึง” พีทเอ่ยถามพร้อมเคี้ยวขนมตุ้ยๆ
“อือ”
“เป็นไรวะ นี่เหลือสอบอีกแค่วิชาเดียวเองนะ เราก็จะได้ปิดเทอมยาวๆ กูจะนอนเหมือนผู้ป่วยติดเตียงไปเลย” พีทเอ่ยอย่างภาคภูมิ
“มึงเว่อร์ละ....แล้วนี่กับแพรไปถึงไหนละ” ไนล์เอ่ยถามบ้าง เพราะเขาไม่ได้ติดตามเรื่องนี้เลย
“จะถึงไหนล่ะ กูได้ข่าวมาว่าแพรกำลังคุยๆ อยู่กับพวกหนุ่มแพทย์อ่ะดิ”
“อือ ดูมีอนาคตกว่ามึงเยอะเลย”
“เฮ้ย ถึงกูจะไม่ฉลาดแต่กูรักจริงนะเว้ย”
“แล้วแพรเขายังรู้สึกอะไรกับแฟนเก่าอยู่ไหมล่ะ”
“มึงถามทำไม”
“ก็...มึงอุตส่าห์ไปห้องกูเพื่อพิสูจน์ไม่ใช่หรอ กูก็แค่อยากรู้ผลลัพธ์” พีทพยักหน้าพร้อมเบะปาก เขาเป็นเพื่อนกับไนล์มาตั้งนาน ทำไมเขาจะไม่รู้
“แพรเขาไม่ได้คิดอะไรกับแฟนเก่าแล้ว เห็นบอกว่าแฟนเก่าก็คืออดีต”
“งั้นหรอวะ”
“ถ้ามึงชอบไอ่โซ่ มึงก็บอกมันไปดิวะ”
“มึงจะบ้าหรอ ใครชอบมัน” ไนล์โบกไม้โบกมือปฏิเสธเป็นพัลวัน
“ถ้ามึงชอบ มึงก็จะได้แค่ชอบ แต่ถ้ามึงบอกเขาว่ามึงชอบ มึงอาจจะได้เป็นแฟนก็ได้”
“มึงบ้าละ ไปไหนก็ไปไป๊” ไนล์โบกมือไล่เพื่อน
“กูหยอกเล่น”
“มึงไปหยอกไกลๆ ตีนกู”
“มึงก็ใจร้อน กูเอาตารางสอบอันใหม่มาให้” พีทว่าก่อนจะยื่นกระดาษแผ่นหนึ่งให้
“เหลือวิชาเดียว ยังจะเปลี่ยนตารางสอบอีกหรอ” ไนล์ว่าก่อนจะรับกระดาษมาไว้ในมือ
“อาจารย์เลื่อนสอบอ่ะ จากวันที่ 13 กุมภา เป็นวันที่ 14 กุมภาวันวาเลนไทน์”
“ไม่ต้องบอกขนาดนั้นก็ได้”
“เหลือเวลาอ่านหนังสือสามวัน มึงก็ตั้งใจอ่านล่ะ” พีทบอกพร้อมตบบ่าเพื่อนๆ เบาๆ
“กูต้องบอกมึง ไม่ใช่มึงบอกกู”
“อ่าวหรอ โทษๆ พอดีกูจะบอกว่าวิชาสุดท้ายกูคงไม่ได้ไปติวกับมึง”
“ทำไมวะ”
“กูนัดน้ำเอาไว้ว่าจะไปติวกับเขา” พีทว่าพร้อมรอยยิ้มชวนฝัน
“น้ำไหนวะ”
“น้ำสาขาเรานี่แหละ”
“มึงมีหลายคนจังวะ”
“กูมีหลายคน แต่กูมีทีละคนนะเว้ย น้องแพรไม่รักกู กูก็หาคนอื่น แค่นั้นแหละ”
“แล้วหนังสือที่มึงยืมกูล่ะ”
“เออว่ะกูลืมไปเลย เดี๋ยวกูเอาไปคืนที่ห้องละกัน กูไปละ” พีทโบกมือลา ก่อนจะวิ่งแจ้นหายไป ไนล์ทำได้แต่มองเพื่อนตาปริบๆ ความรักบทมันจะง่าย มันก็ง่ายซะจนคาดไม่ถึง แต่พอมันจะยาก มันก็ยากจนคาดไม่ถึงเช่นกัน
ไนล์กลับมาถึงหอก็ทิ้งตัวลงนอนทันที อดหลับอดนอนอ่านหนังสือมาตั้งหลายวัน วันนี้เขาจะนอนให้เต็มอิ่มไปเลย ชายหนุ่มนอนแผ่หลาอยู่บนเตียง ดวงตาของมองจ้องไปยังเพดานห้อง จู่ๆ ภาพของโซ่ที่นอนอยู่บนเตียงก็โผล่มาในหัวของเขาอย่างช่วยไม่ได้
“พูดแรงไปรึป่าววะ” เขาพึมพำกับตัวเอง ก่อนจะกลิ้งไปมาบนเตียง
“จะทำข้อสอบได้ไหมนะ”
“จะเจ็บแผลอยู่รึป่าววะ”
“จะ...โอ๊ยยย จะคิดถึงเขาทำไมวะ” ไนล์เอามือทุบหัวตัวเองเบาๆ ก่อนจะสะบัดความคิดที่มีต่อชายหนุ่มทิ้งไป
ก๊อกๆ ๆ เสียงเคาะประตูเรียกสติเขากลับ ไนล์ลุกจากที่นอนไปเปิดประตู เมื่อประตูเปิดออกก็สร้างความประหลาดใจให้เขาไม่น้อย เพราะคนคนนั้นคือคนที่เขากำลังนึกถึงอยู่พอดี
“โซ่”
“พอดีพีทมันฝากเอาหนังสือมาให้อ่ะ”
“แล้วพีทมันไปไหนอ่ะ”
“เห็นว่าจะไปน้ำ ไม่รู้น้ำไหน”
“อ่อ..ขอบใจมาก”
“อือ ไปละ” โซ่ยกมือลา สีหน้าและแววตาของโซ่ดูเศร้าแปลกๆ หรือชายหนุ่มจะยังคงโกรธเขาอยู่นะ
“เข้ามาก่อนดิ” โซ่ชะงักเล็กน้อย แต่ก็เอ่ยปฏิเสธ
“อย่าดีกว่า”
“ไม่อยากเข้ามาหรอ”
“ป่าว”
“งั้นก็เข้ามาดิ” สุดท้ายลูกตื๊อของไนล์ก็ได้ผล โซ่เดินเข้ามาในห้อง ก่อนจะตรงไปนั่งที่โซฟา
“กินข้าวมารึยัง”
“ยังอ่ะ ว่าจะไปหาอะไรกินพอดี”
“เดี๋ยวทำข้าวผัดให้กินละกัน ร้านลุงยังซ่อมไม่เสร็จเลย”
“อ่อ...อืม ขอบใจ” ท่าทีที่มีต่อกันกลับดูแตกต่างไปอย่างสิ้นเชิง ราวกับว่าทั้งสองคนมีอะไรอยู่ภายในใจ โดยที่ไม่สามารถพูดมันออกไปได้
เวลาผ่านไปราวยี่สิบนาที ไนล์ก็เดินออกมาพร้อมข้าวผัดหอมๆ หนึ่งจาน
“อ่ะ”
“ขอบใจมาก” โซ่รับจานข้าวผัดมาไว้ในมือก่อนทานมันอย่างเอร็ดอร่อย เวลาผ่านไปเพียงสิบนาที ข้าวผัดเมื่อครู่ก็เกลี้ยงจาน
“อร่อยมากเลยหรอวะ”
“ป่าวอ่ะ หิวเฉยๆ”
“ทีหลังไม่ทำให้กินละ”
“ล้อเล่นน่า อร่อยดี”
“แล้วนี่ทำข้อสอบได้ไหม”
“อือ คิดว่าทำได้นะ ขอบใจนะที่ติวให้” โซ่ว่าพลางดื่มน้ำจนหมดแก้ว
“ขอโทษนะที่วันนั้นพูดจาไม่ดีใส่” ไนล์เริ่มเปิดประเด็น เพราะนี่เป็นเรื่องที่ค้างคาใจเขามาตลอดสองสามวันที่ผ่านมา
“ขอโทษเหมือนกันที่พูดจาแบบนั้น”
“...”
“ที่จริง ต่อให้เป็นแบบนี้ก็ดีอยู่แล้ว”
“หมายความว่าไง”
“ก็หมายถึงว่า ไม่ต้องเป็นผู้หญิง ก็ดี..ดีแล้ว” โซ่ตะกุกตะกัก ใบหน้าหล่อเริ่มเป็นสีแดงระเรื่อขึ้นมา
“ไม่เข้าใจอยู่ดีอ่ะ”
“หมายถึงว่า จะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย แต่ว่าคนคนนั้นเป็นมึง..ก็ดีหมดแหละ”
“...”
“กูกลับก่อนดีกว่า” โซ่หยิบกระเป๋ามาไว้ในมือทำท่าจะเดินออกไป แต่ไนล์ก็ขวางไว้ซะก่อน
“คืนนี้มึงนอนนี่ก็ได้นะ”
“ฮ๊ะ” ไนล์อยากจะตบปากตัวเองสักที นี่เขากำลังพูดอะไรออกไป
“กูหมายถึงว่า ถ้ามึงไม่มีธุระอะไรที่ไหน หรือไม่รู้จะไปไหน...ก็นอนที่นี่ก็ได้”
“แล้วมึงจะหนีมานอนโซฟาอีกป้ะ”
“ไม่” ไนล์ตอบด้วยเสียงอันแผ่วเบา
“อะไรนะ”
“กูบอกว่าไม่”
“หมายถึงมึงจะนอนบนเตียงกับกู”
“เออ ก็เพื่อนกันก็นอนบนเตียงด้วยกันได้ป้ะ”
“อ่อ..ก็ได้” โซ่วางกระเป๋าลงก่อนจะนั่งยังที่เดิม ตอนนี้ใบหน้าของไนล์แดงแจ๋จนเขาอดยิ้มไม่ได้
ร่างชายหนุ่มทั้งสองนอนอยู่บนเตียงขนาดหกฟุตโดยมีหมอนข้างกั้นตรงกลางเอาไว้ ไนล์นอนตัวแข็งทื่อแทบจะไม่กล้าขยับไปไหน
“เหลือสอบอีกวิชานึง มึงจะให้กูติวให้ไหม” ไนล์ถามขึ้นเพราะในห้องเงียบเหลือเกิน
“เอาดิ กูว่าจะถามมึงพอดี ว่าอยากติวให้กูรึป่าว”
“เพื่อนกันติวให้กันได้อยู่แล้ว” เขาพยายามย้ำคำว่าเพื่อน เพราะกลัวชายหนุ่มจะเข้าใจผิดเอาได้ แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ยังอยากเป็นมากกว่าเพื่อนอยู่ดี แต่โอกาสมันแทบจะเป็นศูนย์ด้วยซ้ำไป ดังนั้นตัดไฟตั้งแต่ต้นลมคงจะดีซะกว่า
“อือ” มือหนาเอื้อมมาจับหมอนข้างก่อนจะโยนมันลงจากเตียง
“มึงจะโยนลงไปทำไม”
“ก็เพื่อนกัน ทำไมต้องเอาหมอนมากั้นด้วยล่ะ”
“ก็กูอยากกั้น”
“กูนอนกับเพื่อนคนอื่น ไม่เห็นมีใครเอามากั้นเลย”
“กูนอนกับเพื่อนกูก็กั้นทั้งนั้นแหละ” โซ่หยัดตัวขึ้นก่อนจะคร่อมร่างเล็กกว่าเอาไว้
“จะทำอะไร”
“เมื่อไหร่มึงจะเลิกพูดคำว่าเพื่อนสักที”
“ก็มึงเป็น...เพื่อน”
“กูได้ยินที่มึงคุยกับไอ่พีทหมดแล้ว”
“คุยอะไร”
“มึงชอบกู”
“กูไม่ได้ชอบ”
“มึงแน่ใจนะว่ามึงไม่ได้ชอบกู” ไนล์อึกอัก คำพูดของพีทดังขึ้นในโสตประสาทของเขา หากเขาชอบเขาก็ได้แค่ชอบ แต่หากเขาบอกว่าเขาชอบ อาจจะได้เป็นแฟน
“เออ”
“เอออะไร”
“เออกูชอบมึง” โซ่นิ่งไปสักพักก่อนจะยิ้มออกมา
“ก็แค่นั้นแหละ”
“มึงรู้แล้ว ก็ลงไปได้แล้ว จะมาคร่อมกูไว้ทำไมกูอึดอัด”
“กูไม่ลง”
“อะไรของมึง”
“มึงไม่คิดจะถามกูหน่อยหรอว่ากูรู้สึกยังไง”
“มึงจะรู้สึกอะไร กุไม่ใช่ผู้หญิงขาว ๆ สวย ๆ หมวย ๆ ตามแบบที่มึงชอบหนิ” สิ้นเสียงริมฝีปากหนาก็ปะกบลงบนฝีปากของร่างเล็กตรงหน้า ก่อนจะบดขยี้มันอย่างหนักหน่วง มือใหญ่รวบมือทั้งสองข้างเอาไว้เหนือศีรษะ ก่อนจะส่งจูบหนัก ๆ เข้าไป
“กุชอบมึง” ริมฝีปากหนาประกบลงบนริมฝีปากบางอีกครั้ง ก่อนจะปล่อยอารมณ์ให้ไปเป็นไปตามที่ควรจะเป็น ตอนนี้ปมในใจทุกอย่างได้คลายออกจนหมดสิ้น ราวกับได้ยกภูเขาออกจากอก บทมันจะง่าย มันก็ง่ายสิ้นดี
คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ