เพื่อนร้ายนายน่ารักว่ะ
-
เขียนโดย Mikeyyyyy
วันที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564 เวลา 17.56 น.
4 ตอน
0 วิจารณ์
3,499 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564 18.01 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น
2) ตอนที่ 2
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความตอนที่ 2
วันสอบปลายภาคใกล้เข้ามาทุกที ห้องสมุดเริ่มอัดแน่นไปด้วยผู้คน ไนล์ยืนมองผู้คนอยู่หน้าห้องสมุด แล้วไม่อยากเข้าไปสักเท่าไหร่ เขาไม่ค่อยชอบที่ที่ผู้คนแออัดมากนัก เพราะจะทำให้เขาไม่มีสมาธิในการอ่านหนังสือ ไนล์หันหลังกลับ หากคนเยอะแบบนี้เขาคงต้องกลับไปอ่านหนังสือที่ห้องเสียแล้ว
“อ้าวไนล์ มึงจะไปไหนเนี่ย” พีทร้องทักขึ้นขณะเดินออกมาจากห้องสมุด
“กูจะกลับหออ่ะ”
“หรอ ไอ้โซ่รอมึงอยู่ข้างในอ่ะ กูบอกมันว่ามึงจะมาห้องสมุด นี่กูกำลังจะโทรหามึงพอดีเลย”
“อ่อ..คนมันเยอะอ่ะ กูอยากอยู่เงียบๆ”
“มึงไปสนิทกับโซ่ตั้งแต่เมื่อไหร่วะ ทำไมมันมารอมึง” พีทถามออกมาตรงๆ เพราะปกติไนล์แทบจะไม่อยากยุ่งด้วยซ้ำ
“ไม่มีไรหรอก มันให้กูติวหนังสือให้เฉยๆ”
“อ่อโอเค ละมึงจะไม่เข้าไปหรอ” ไนล์ชั่งใจครู่หนึ่ง แต่เสียงของโซ่ก็ดังขึ้นเสียก่อน
“อยู่นี่เอง ข้างในคนเยอะมากเลย จะกลับไปอ่านที่ห้องป้ะ” โซ่เดินตรงมาหาไนล์ก่อนจะยิ่งคำถามใส่ทันที นี่เขาทำอย่างกับว่าตัวเองเป็นเจ้าของห้องอย่างงั้นแหละ
“อือ”
“งั้นเดี๋ยวกูไปเก็บของแปปนึง” โซ่ว่าพลางเดินกลับเข้าไปในห้องสมุด พีทหันมามองหน้าไนล์พลางจ้องเอาคำตอบ
“มีอะไรที่กูไม่รู้รึป่าว”
“จะมีอะไรวะ แค่ติวหนังสือจริงๆ”
“อย่าให้กูรู้นะมึง” พีทชี้หน้าก่อนจะถอยกรูดกลับเข้าไปยังห้องสมุด ไนล์เกาหัวตัวเองอย่างไม่เข้าใจ ตอนนี้ดูเหมือนเขากับโซ่จะสนิทกันขึ้นมาเสียดื้อๆ แบบงงๆ หลังสอบปลายภาคจบ โซ่ก็คงเลิกมายุ่งกับเขา ถ้าอย่างนั้นคงต้องรอให้ผ่านช่วงนี้ไปก่อน เดี๋ยวชายหนุ่มก็คงเลิกยุ่งกับเขาเองละมั้ง
ข้าวของมากมายถูกหิ้วขึ้นมาบนห้องพัก ทั้งของสดของหวานเต็มไปหมด ตอนแรกกะจะหาอะไรทานให้เรียบร้อยก่อนจะขึ้นมาบนห้อง แต่ชายหนุ่มกลับขอให้เขาทำอาหารให้กินเสียอย่างนั้น
“กินให้เสร็จๆ ที่ร้านก็จบละ ไม่เสียเวลาด้วย” ไนล์ว่าพร้อมไขกุญแจเดินเข้าห้อง
“ก็ร้านลุงยังซ่อมไม่เสร็จเลย” โซ่ตอบกลับพลางวางข้าวของไว้ในครัว
“ไม่เสร็จก็ไปร้านอื่นไง”
“ร้านอื่นมันไม่อร่อยเหมือนร้านลุงไง”
“แล้วกูทำอร่อยหรอ ซื้อของมาตั้งเยอะแยะเนี่ย”
“มึงก็ทำๆ ไปเถอะน่า กูกินได้” โซ่ว่าก่อนจะนั่งลงยังเก้าอี้ในครัว
“เออๆ รอกูแปปละกัน” ไนล์เริ่มจัดเตรียมข้าวของ ก่อนจะลงมือทำอาหาร โดยมีโซ่คอยนั่งมองอยู่ตลอดเวลา
“มึงจะมองอะไรนักหนา” ไนล์ทนสายตาของคนใกล้ตัวไม่ไหว โซ่เล่นนั่งมองเขาแบบนี้ ใครจะทนไหวกัน
“กูจะมองมึงไม่ได้เลยรึไง”
“มองอย่างกับจะกินกูอย่างงั้นแหละ”
“แล้วกูกินได้ไหมล่ะ”
“...” คำตอบของชายหนุ่มทำเอาเขาไปต่อไม่เป็น หัวใจของเขาเต้นแรงเสียจนแทบจะกระเด็นออกมา
“มึงนี่น่ารักเหมือนกันนะ น่าแกล้งชิบหายเลย” ไนล์ตักอาหารใส่จานก่อนจะวางลงตรงหน้าของชายหนุ่ม
“มึงแกล้งกูมาตลอด ยังไม่พอใจอีกหรอ” ไนล์ว่าปนน้อยใจ
“กูก็เลิกแกล้งแล้วไง”
“ถึงมึงจะเลิกแกล้ง แต่กูก็จำได้อยู่ดี ว่ามึงเคยแกล้งอะไรกูไว้บ้าง” ไนล์เทน้ำใส่แก้วก่อนจะนำมาวางตรงหน้าโซ่อีกครั้ง
“มึงโกรธกูหรอ”
“ตอนนั้นก็โกรธแหละ”
“แล้วตอนนี้อ่ะ” โซ่ถามพลางจ้องเขม็งไปยังคนตรงหน้า
“ช่างมันเถอะ รีบๆ กินจะได้ไปอ่านหนังสือ” ไนล์ว่าก่อนจะตักข้าวเข้าปาก เรื่องมันผ่านมาแล้ว จะเก็บมาคิดให้ปวดหัวก็คงไม่มีประโยชน์ ตอนนี้โซ่ก็ปรับปรุงตัวแล้ว จะฟื้นฝอยหาตะเข็บก็ไม่มีอะไรดีขึ้นมาอยู่ดี
ก๊อกๆ ๆ เสียวเคาะประตูดังขึ้น ก่อนเสียงของพีทจะตามเข้ามา
“ทำไรกันอยู่วะ” พีทเดินเข้ามาพร้อมกับเพื่อนสาวในคณะอีกคน
“กินข้าว” ไนล์ตอบกลับ ก่อนจะส่งยิ้มให้กับแพร เพื่อนสาวในคณะ
“กุกำลังหิวพอดี” พีทเดินตรงไปยังครัว ก่อนจะตักอาหารเข้าปากอย่างเสียมารยาท
“มึงจะมาทำไมไม่บอกก่อนห๊ะ” ไนล์ก่นด่า ก่อนจะเก็บข้าวของในห้องให้เป็นที่
“ขอโทษทีนะไนล์” แพรว่าด้วยสีหน้ารู้สึกผิด
“เราไม่ได้ว่าแพร เราด่าไอ้พีทต่างหาก ตามสบายเลยนะ ไม่ต้องเกรงใจ”
“กูก็อยากมาติวหนังสือด้วยไง คะแนนกูยิ่งต่ำเตี้ยเรี่ยดินอยู่”
“เออๆ รีบกิน จะได้มาอ่านหนังสือ” ไนล์ปลีกตัวมาอาบน้ำอาบท่า ก่อนจะเดินออกมาเจอทุกคนที่นั่งล้อมวงพร้อมสำหรับการติวหนังสือในคืนนี้
“พร้อมแบบนี้ก็ดี จะได้เริ่มเลย” การติวหนังสือเป็นไปอย่างเข้มข้น ทุกคนต่างตั้งใจในการอ่านหนังสือ เพราะหากคะแนนเทอมนี้น้อย มีสิทธิ์ที่จะโดนรีไทล์ออกได้เลย
นาฬิกาบอกเวลาห้าทุ่มครึ่ง ทุกคนต่างเริ่มหาวกันเป็นแถบ พีททิ้งตัวลงนอนพลางเอาชีทปิดหน้าไว้
“เริ่มง่วงแล้วอ่ะ อยากได้ของกินจังเลย” แพรว่าก่อนจะเอนหลังพิงโซฟา
“เรามาหาอะไรเล่นกันหน่อยไหม แบบเล่นแก้ง่วงงี้” พีทเสนอขึ้นมา ก่อนจะลุกขึ้นมานั่งด้วยความกระปี้กระเป่า
“เล่นอะไรวะ” โซ่ถามขึ้นพร้อมวางชีทในมือลง
“ง่วงๆ แบบนี้ต้องมาเล่นเกมจ้องตา”
“เกมจ้องตาอะไรของมึง” ไนล์ถามขึ้น เพราะดูเป็นความคิดที่ปัญญาอ่อนเสียเหลือเกิน
“กูยังพูดไม่จบ เกมจ้องตาของกูก็คือ ใครแพ้ได้ลงไปซื้อของกินไง”
“เดี๋ยวกูอาสาไปเองก็ได้” ไนล์ว่าเพื่อตัดจบปัญหา
“ไม่ได้ เล่นแปปเดียวเอง มึงจะกลัวอะไรวะ” พีทตอบกลับ ก่อนจะเริ่มฉีกกระดาษแล้วเขียนชื่อทั้งสี่คนลงไป
“กูจับได้ชื่อใคร คนนั้นก็มาจ้องตากัน โอเค๊” พีทยิ้มกรุ่มกริ่ม ทำเอาไนล์เริ่มมองออกว่าเพื่อนคนนี้ต้องมีแผนอะไรแน่
“กูจับชื่อละนะ” พีทล้วงมือไปหยิบกระดาษขึ้นมาสองใบ ก่อนจะค่อยๆ เปิดมันออก
“แพร กับ พีท” พีทยิ้มร่าออกมาก่อนจะหันหน้าไปหาแพร
“กูว่าละ” ไนล์พูดออกมา ก่อนจะหัวเราะให้กับแผนตื้นๆ ของเพื่อน
“อ่ะๆ เริ่มๆ จะได้ไปซื้อของสักที” แพรว่า ก่อนจะหันไปจ้องหน้ากับพีท
“เริ่มนะ 1 2 3 ...... 11 12”
“ยอม” แพรโบกมือยอม ก่อนจะหัวเราะออกมา พีทปรบมือชอบใจก่อนจะหันหน้ามาหาเพื่อนสนิท
“ตามึงแล้วไนล์” ไนล์หันไปหาโซ่ เพราะตอนนี้เหลือเขาแค่สองคน
“เริ่มนะ 1 2 3 .....” ดวงตาของไนล์จ้องไปยังดวงตาของคนตรงหน้า โซ่เองก็จดจ้องมาที่เขาเช่นกัน พีทยังคงนับเวลาไปเรื่อยๆ แต่เขากลับไม่ได้ยินเสียงของพีทเลยสักนิด ไนล์รับรู้ได้แค่ว่าตอนนี้หัวใจของเขาเต้นเร็วมากกว่าปกติ ความรู้สึกนี้เหมือนตอนที่เขากำลังตกหลุมรักใครสักคนแบบถอนตัวไม่ขึ้น ใบหน้านวลค่อยๆ เป็นสีแดงระเรื่อ หากจ้องต่อไปแบบนี้ เขาต้องเป็นบ้าตายก่อนแน่ๆ
“กูยอม” ไนล์หลบสายตา ก่อนจะหันไปบอกพีท
“มึงจะหน้าแดงทำไม” ไนล์เอามือวางบนแก้มตัวเอง ก่อนจะเริ่มหาคำแก้ตัว
“กูง่วง กูเลยหน้าแดง”
“ง่วงแล้วหน้าแดงหรอวะ” พีทยังคงถามต่อ
“จะกินอะไร กูกับแพรจะได้ลงไปซื้อ”
“เดี๋ยวกูไปเองดีกว่า” โซ่เสนอตัว ก่อนจะลุกขึ้นยืนพร้อมกับแพร
“อะ...อ่าว” พีททำตาละห้อย ก่อนจะมองมายังไนล์
“เออๆ รีบไปรีบกลับล่ะ เหลืออีกบทหนึ่งที่กูยังไม่ได้ติวให้”
“อือ” โซ่ตอบกลับ พร้อมกับไนล์ที่ก้มมองชีทในมือ ก่อนจะทำท่าทางขีดเขียนอะไรสักอย่าง
“มึงทำอะไรของมึงเนี่ยไอ้ไนล์” เมื่อโซ่และแพรเดินออกจากห้อง พีทก็หันมาต่อว่าเพื่อนทันที
“มึงนั่นแหละทำอะไร เกมจ้องตาอะไรของมึง”
“มึงรู้ไหมว่ากูพาแพรมาที่นี่ทำไม”
“กูจะไปรู้หรอ”
“กูต้องการจะลองใจแพร”
“มึงจะไปลองใจแพรทำไม”
“ก็กุอยากรู้ว่าเขาลืมแฟนเก่าได้รึยัง กูจะได้จีบเขาไง” ไนล์วางดินสอในมือลง ก่อนจะหันไปจ้องหน้าเพื่อน
“แล้วเกี่ยวอะไรกับกู เกี่ยวอะไรกับการที่มึงพาแพรมาที่นี่ แพรมาที่นี่แล้วมันพิสูจน์อะไรได้ ว่าแพรลืมแฟนเก่ารึยัง”
“มึงนี่มันโง่จริงๆ ก็ไอ้โซ่มันเป็นแฟนเก่าแพรไงไอ่ควาย!!”
“หะ”
“กูอยากรู้ว่าแพรลืมมันได้รึยัง กูเลยพาแพรมาที่นี่ แต่มึงก็ยังยอมให้เขาสองคนไปด้วยกัน โถ่ว กุหมดคำจะพูด” ไนล์อึ้งไปเล็กน้อย เขาไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าโซ่กับแพรเคยเป็นแฟนกัน
“ก็แค่เคยเป็นแฟนกัน เขาเลิกกันไปแล้ว มึงก็จีบๆ ไปเถอะ” พีทว่า ก่อนจะก้มมองชีทอีกครั้ง แต่ตอนนี้จิตใจของเขาไม่ได้อยู่ที่ชีทเลยสักนิด
ก๊อกๆ ๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นก่อนที่แพรและโซ่จะเดินเข้ามา ทั้งสองหัวเราะกันอย่างสนุกสนาน ก่อนจะหยุดหัวเราะลงเมื่อเห็นว่าไนล์และพีทกำลังจ้องพวกเขาอยู่
“เมื่อกี้เจอเรื่องตลกนิดหน่อยน่ะ” แพรว่าขึ้น เมื่อเห็นบรรยากาศดูตึงเครียด
“อ่อ รีบมาติวต่อเถอะ จะได้กลับไปพักผ่อน” ไนล์ว่าเพียงเท่านั้น ก่อนการติวบทสุดท้ายจะเริ่มขึ้น ตอนนี้จิตใจของเขาไม่ค่อยอยู่กับเนื้อกับตัวเสียเท่าไหร่ สาเหตุเพราะอะไรเขาก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ตอนนี้เขาหยุดมองไปที่แพรและโซ่ไม่ได้เลยจริงๆ
นาฬิกาบอกเวลาตีหนึ่ง การติวอันเข้มข้นก็สิ้นสุดลง ทุกคนต่างเอนกายลงนอนด้วยความเหนื่อยอ่อน
“กูจะทำข้อสอบได้ไหมเนี่ย” พีทครวญคราง
“กลับไปพักผ่อนกันได้แล้ว แล้วก็อ่านทบทวนที่สอนไปด้วย” พีทลุกขึ้นยืนก่อนจะเริ่มเก็บของใส่กระเป๋า
“แล้วแพรกลับยังไงอ่ะ” โซ่เอ่ยถามขึ้น
“เดี๋ยวกูไปส่งเอง” พีทรีบตอบกลับ ก่อนจะช่วยแพรเก็บของใส่กระเป๋า แล้วรีบเดินออกไปทันที
“แค่ถามเฉยๆ เอง จะรีบอะไรขนาดนั้นวะ” โซ่บ่นพึมพำพลางเก็บของใส่กระเป๋าตัวเองบ้าง
“มึงจะกลับเลยป้ะ” ไนล์หันไปถามพลางยกน้ำขึ้นดื่ม
“กูขอนอนนี่ได้ป้ะ”
“ไม่อ่ะ”
“กูขี้เกียจขับรถ”
“ก็กูไม่ให้มึงนอน”
“มึงห้ามกูไม่ได้หรอก” โซ่ตอบกลับก่อนจะเดินเข้าไปยังห้องนอนของไนล์ พร้อมทิ้งตัวลงบนเตียงขนาดหกฟุต
“มึงนอนนี่แล้วกูจะไปนอนไหน”
“มึงก็นอนกับกูบนเตียงนี่ไง ทำอย่างกะตัวเองเป็นผู้หญิงไปได้” ไนล์มองโซ่ที่นอนแผ่หลาอยู่บนเตียง จู่ๆ เขาก็รู้สึกโกรธผู้ชายตรงหน้า ถ้าเขาเป็นผู้หญิงมันก็คงจะดีกว่านี้สินะ ไนล์เดินกลับไปที่โซฟา ก่อนจะทิ้งตัวลงนอน ในหัวของเขามีแต่ความคิดแปลกๆ เต็มไปหมด เขากับโซ่ไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย แต่พอรู้ว่าโซ่คือแฟนเก่าของแพร เขากลับรู้สึกโกรธขึ้นมาซะอย่างนั้น
“ทำไมไม่ไปนอนในห้อง” เสียงโซ่ดังขึ้นยังปลายเท้า ทำเอาร่างเล็กสะดุ้งโหยง
“เห้ยย”
“มึงเป็นอะไร รังเกียจกูรึไง”
“ป่าว กูไม่ได้เป็นไร”
“งอนอย่างกะเป็นผู้หญิงไปได้ นี่ถ้ามึงเป็นผู้หญิงแล้วงอนกู กูจะไม่แปลกใจเลย”
“ก็กูไม่ใช่ผู้หญิงไง มึงก็ไม่ต้องสนใจกู”
“...” สิ้นเสียงภายในห้องก็เงียบลง มีเพียงเสียงเครื่องปรับอากาศเท่านั้นที่ยังดังอยู่
“กู..”
“มึงโกรธอะไรกูวะ” โซ่ถามด้วยสีหน้าเรียบเฉย ไนล์รู้สึกโกรธตัวเองเหลือเกิน ที่แสดงท่าทีไม่ดีออกไป
“กู...”
“เดี๋ยวกูกลับก่อนดีกว่า มึงจะได้พัก” ชายหนุ่มสวมเสื้อแขนยาว ก่อนจะหยิบกระเป๋ามาสะพายไว้ที่หลัง พร้อมเดินออกจากห้องไปเงียบๆ เมื่อโซ่เดินออกจากห้องไปแล้ว ไนล์ก็ทิ้งตัวลงบนโซฟา นี่เขากำลังทำอะไรอยู่ เมื่อหลายวันก่อนเขายังเกลียดโซ่อยู่เลย แต่ตอนนี้ทำไมมันถึงกลับตาลปัตรได้ขนาดนี้ นี่เขากำลังตกหลุมรักผู้ชายชื่อโซ่อย่างงั้นหรือ
“บ้าน่า” ไนล์เตือนสติตัวเอง เพียงแค่โซ่ช่วยเขาเอาไว้จากพวกอันธพาล เพียงแค่ได้จ้องตากันจากเกมบ้าๆ ทำให้เขารู้สึกได้มากขนาดนี้เลยหรือ จะบอกว่าไม่รู้สึกก็ไม่ได้ เพราะแค่รู้ว่าโซ่กับแพรเคยเป็นแฟนกัน พอได้เห็นว่าทั้งสองอยู่ใกล้กัน เขาก็รู้สึกโกรธขึ้นมาเสียดื้อๆ แบบนี้จะเรียกว่ารักได้รึยังนะ
วันสอบปลายภาคใกล้เข้ามาทุกที ห้องสมุดเริ่มอัดแน่นไปด้วยผู้คน ไนล์ยืนมองผู้คนอยู่หน้าห้องสมุด แล้วไม่อยากเข้าไปสักเท่าไหร่ เขาไม่ค่อยชอบที่ที่ผู้คนแออัดมากนัก เพราะจะทำให้เขาไม่มีสมาธิในการอ่านหนังสือ ไนล์หันหลังกลับ หากคนเยอะแบบนี้เขาคงต้องกลับไปอ่านหนังสือที่ห้องเสียแล้ว
“อ้าวไนล์ มึงจะไปไหนเนี่ย” พีทร้องทักขึ้นขณะเดินออกมาจากห้องสมุด
“กูจะกลับหออ่ะ”
“หรอ ไอ้โซ่รอมึงอยู่ข้างในอ่ะ กูบอกมันว่ามึงจะมาห้องสมุด นี่กูกำลังจะโทรหามึงพอดีเลย”
“อ่อ..คนมันเยอะอ่ะ กูอยากอยู่เงียบๆ”
“มึงไปสนิทกับโซ่ตั้งแต่เมื่อไหร่วะ ทำไมมันมารอมึง” พีทถามออกมาตรงๆ เพราะปกติไนล์แทบจะไม่อยากยุ่งด้วยซ้ำ
“ไม่มีไรหรอก มันให้กูติวหนังสือให้เฉยๆ”
“อ่อโอเค ละมึงจะไม่เข้าไปหรอ” ไนล์ชั่งใจครู่หนึ่ง แต่เสียงของโซ่ก็ดังขึ้นเสียก่อน
“อยู่นี่เอง ข้างในคนเยอะมากเลย จะกลับไปอ่านที่ห้องป้ะ” โซ่เดินตรงมาหาไนล์ก่อนจะยิ่งคำถามใส่ทันที นี่เขาทำอย่างกับว่าตัวเองเป็นเจ้าของห้องอย่างงั้นแหละ
“อือ”
“งั้นเดี๋ยวกูไปเก็บของแปปนึง” โซ่ว่าพลางเดินกลับเข้าไปในห้องสมุด พีทหันมามองหน้าไนล์พลางจ้องเอาคำตอบ
“มีอะไรที่กูไม่รู้รึป่าว”
“จะมีอะไรวะ แค่ติวหนังสือจริงๆ”
“อย่าให้กูรู้นะมึง” พีทชี้หน้าก่อนจะถอยกรูดกลับเข้าไปยังห้องสมุด ไนล์เกาหัวตัวเองอย่างไม่เข้าใจ ตอนนี้ดูเหมือนเขากับโซ่จะสนิทกันขึ้นมาเสียดื้อๆ แบบงงๆ หลังสอบปลายภาคจบ โซ่ก็คงเลิกมายุ่งกับเขา ถ้าอย่างนั้นคงต้องรอให้ผ่านช่วงนี้ไปก่อน เดี๋ยวชายหนุ่มก็คงเลิกยุ่งกับเขาเองละมั้ง
ข้าวของมากมายถูกหิ้วขึ้นมาบนห้องพัก ทั้งของสดของหวานเต็มไปหมด ตอนแรกกะจะหาอะไรทานให้เรียบร้อยก่อนจะขึ้นมาบนห้อง แต่ชายหนุ่มกลับขอให้เขาทำอาหารให้กินเสียอย่างนั้น
“กินให้เสร็จๆ ที่ร้านก็จบละ ไม่เสียเวลาด้วย” ไนล์ว่าพร้อมไขกุญแจเดินเข้าห้อง
“ก็ร้านลุงยังซ่อมไม่เสร็จเลย” โซ่ตอบกลับพลางวางข้าวของไว้ในครัว
“ไม่เสร็จก็ไปร้านอื่นไง”
“ร้านอื่นมันไม่อร่อยเหมือนร้านลุงไง”
“แล้วกูทำอร่อยหรอ ซื้อของมาตั้งเยอะแยะเนี่ย”
“มึงก็ทำๆ ไปเถอะน่า กูกินได้” โซ่ว่าก่อนจะนั่งลงยังเก้าอี้ในครัว
“เออๆ รอกูแปปละกัน” ไนล์เริ่มจัดเตรียมข้าวของ ก่อนจะลงมือทำอาหาร โดยมีโซ่คอยนั่งมองอยู่ตลอดเวลา
“มึงจะมองอะไรนักหนา” ไนล์ทนสายตาของคนใกล้ตัวไม่ไหว โซ่เล่นนั่งมองเขาแบบนี้ ใครจะทนไหวกัน
“กูจะมองมึงไม่ได้เลยรึไง”
“มองอย่างกับจะกินกูอย่างงั้นแหละ”
“แล้วกูกินได้ไหมล่ะ”
“...” คำตอบของชายหนุ่มทำเอาเขาไปต่อไม่เป็น หัวใจของเขาเต้นแรงเสียจนแทบจะกระเด็นออกมา
“มึงนี่น่ารักเหมือนกันนะ น่าแกล้งชิบหายเลย” ไนล์ตักอาหารใส่จานก่อนจะวางลงตรงหน้าของชายหนุ่ม
“มึงแกล้งกูมาตลอด ยังไม่พอใจอีกหรอ” ไนล์ว่าปนน้อยใจ
“กูก็เลิกแกล้งแล้วไง”
“ถึงมึงจะเลิกแกล้ง แต่กูก็จำได้อยู่ดี ว่ามึงเคยแกล้งอะไรกูไว้บ้าง” ไนล์เทน้ำใส่แก้วก่อนจะนำมาวางตรงหน้าโซ่อีกครั้ง
“มึงโกรธกูหรอ”
“ตอนนั้นก็โกรธแหละ”
“แล้วตอนนี้อ่ะ” โซ่ถามพลางจ้องเขม็งไปยังคนตรงหน้า
“ช่างมันเถอะ รีบๆ กินจะได้ไปอ่านหนังสือ” ไนล์ว่าก่อนจะตักข้าวเข้าปาก เรื่องมันผ่านมาแล้ว จะเก็บมาคิดให้ปวดหัวก็คงไม่มีประโยชน์ ตอนนี้โซ่ก็ปรับปรุงตัวแล้ว จะฟื้นฝอยหาตะเข็บก็ไม่มีอะไรดีขึ้นมาอยู่ดี
ก๊อกๆ ๆ เสียวเคาะประตูดังขึ้น ก่อนเสียงของพีทจะตามเข้ามา
“ทำไรกันอยู่วะ” พีทเดินเข้ามาพร้อมกับเพื่อนสาวในคณะอีกคน
“กินข้าว” ไนล์ตอบกลับ ก่อนจะส่งยิ้มให้กับแพร เพื่อนสาวในคณะ
“กุกำลังหิวพอดี” พีทเดินตรงไปยังครัว ก่อนจะตักอาหารเข้าปากอย่างเสียมารยาท
“มึงจะมาทำไมไม่บอกก่อนห๊ะ” ไนล์ก่นด่า ก่อนจะเก็บข้าวของในห้องให้เป็นที่
“ขอโทษทีนะไนล์” แพรว่าด้วยสีหน้ารู้สึกผิด
“เราไม่ได้ว่าแพร เราด่าไอ้พีทต่างหาก ตามสบายเลยนะ ไม่ต้องเกรงใจ”
“กูก็อยากมาติวหนังสือด้วยไง คะแนนกูยิ่งต่ำเตี้ยเรี่ยดินอยู่”
“เออๆ รีบกิน จะได้มาอ่านหนังสือ” ไนล์ปลีกตัวมาอาบน้ำอาบท่า ก่อนจะเดินออกมาเจอทุกคนที่นั่งล้อมวงพร้อมสำหรับการติวหนังสือในคืนนี้
“พร้อมแบบนี้ก็ดี จะได้เริ่มเลย” การติวหนังสือเป็นไปอย่างเข้มข้น ทุกคนต่างตั้งใจในการอ่านหนังสือ เพราะหากคะแนนเทอมนี้น้อย มีสิทธิ์ที่จะโดนรีไทล์ออกได้เลย
นาฬิกาบอกเวลาห้าทุ่มครึ่ง ทุกคนต่างเริ่มหาวกันเป็นแถบ พีททิ้งตัวลงนอนพลางเอาชีทปิดหน้าไว้
“เริ่มง่วงแล้วอ่ะ อยากได้ของกินจังเลย” แพรว่าก่อนจะเอนหลังพิงโซฟา
“เรามาหาอะไรเล่นกันหน่อยไหม แบบเล่นแก้ง่วงงี้” พีทเสนอขึ้นมา ก่อนจะลุกขึ้นมานั่งด้วยความกระปี้กระเป่า
“เล่นอะไรวะ” โซ่ถามขึ้นพร้อมวางชีทในมือลง
“ง่วงๆ แบบนี้ต้องมาเล่นเกมจ้องตา”
“เกมจ้องตาอะไรของมึง” ไนล์ถามขึ้น เพราะดูเป็นความคิดที่ปัญญาอ่อนเสียเหลือเกิน
“กูยังพูดไม่จบ เกมจ้องตาของกูก็คือ ใครแพ้ได้ลงไปซื้อของกินไง”
“เดี๋ยวกูอาสาไปเองก็ได้” ไนล์ว่าเพื่อตัดจบปัญหา
“ไม่ได้ เล่นแปปเดียวเอง มึงจะกลัวอะไรวะ” พีทตอบกลับ ก่อนจะเริ่มฉีกกระดาษแล้วเขียนชื่อทั้งสี่คนลงไป
“กูจับได้ชื่อใคร คนนั้นก็มาจ้องตากัน โอเค๊” พีทยิ้มกรุ่มกริ่ม ทำเอาไนล์เริ่มมองออกว่าเพื่อนคนนี้ต้องมีแผนอะไรแน่
“กูจับชื่อละนะ” พีทล้วงมือไปหยิบกระดาษขึ้นมาสองใบ ก่อนจะค่อยๆ เปิดมันออก
“แพร กับ พีท” พีทยิ้มร่าออกมาก่อนจะหันหน้าไปหาแพร
“กูว่าละ” ไนล์พูดออกมา ก่อนจะหัวเราะให้กับแผนตื้นๆ ของเพื่อน
“อ่ะๆ เริ่มๆ จะได้ไปซื้อของสักที” แพรว่า ก่อนจะหันไปจ้องหน้ากับพีท
“เริ่มนะ 1 2 3 ...... 11 12”
“ยอม” แพรโบกมือยอม ก่อนจะหัวเราะออกมา พีทปรบมือชอบใจก่อนจะหันหน้ามาหาเพื่อนสนิท
“ตามึงแล้วไนล์” ไนล์หันไปหาโซ่ เพราะตอนนี้เหลือเขาแค่สองคน
“เริ่มนะ 1 2 3 .....” ดวงตาของไนล์จ้องไปยังดวงตาของคนตรงหน้า โซ่เองก็จดจ้องมาที่เขาเช่นกัน พีทยังคงนับเวลาไปเรื่อยๆ แต่เขากลับไม่ได้ยินเสียงของพีทเลยสักนิด ไนล์รับรู้ได้แค่ว่าตอนนี้หัวใจของเขาเต้นเร็วมากกว่าปกติ ความรู้สึกนี้เหมือนตอนที่เขากำลังตกหลุมรักใครสักคนแบบถอนตัวไม่ขึ้น ใบหน้านวลค่อยๆ เป็นสีแดงระเรื่อ หากจ้องต่อไปแบบนี้ เขาต้องเป็นบ้าตายก่อนแน่ๆ
“กูยอม” ไนล์หลบสายตา ก่อนจะหันไปบอกพีท
“มึงจะหน้าแดงทำไม” ไนล์เอามือวางบนแก้มตัวเอง ก่อนจะเริ่มหาคำแก้ตัว
“กูง่วง กูเลยหน้าแดง”
“ง่วงแล้วหน้าแดงหรอวะ” พีทยังคงถามต่อ
“จะกินอะไร กูกับแพรจะได้ลงไปซื้อ”
“เดี๋ยวกูไปเองดีกว่า” โซ่เสนอตัว ก่อนจะลุกขึ้นยืนพร้อมกับแพร
“อะ...อ่าว” พีททำตาละห้อย ก่อนจะมองมายังไนล์
“เออๆ รีบไปรีบกลับล่ะ เหลืออีกบทหนึ่งที่กูยังไม่ได้ติวให้”
“อือ” โซ่ตอบกลับ พร้อมกับไนล์ที่ก้มมองชีทในมือ ก่อนจะทำท่าทางขีดเขียนอะไรสักอย่าง
“มึงทำอะไรของมึงเนี่ยไอ้ไนล์” เมื่อโซ่และแพรเดินออกจากห้อง พีทก็หันมาต่อว่าเพื่อนทันที
“มึงนั่นแหละทำอะไร เกมจ้องตาอะไรของมึง”
“มึงรู้ไหมว่ากูพาแพรมาที่นี่ทำไม”
“กูจะไปรู้หรอ”
“กูต้องการจะลองใจแพร”
“มึงจะไปลองใจแพรทำไม”
“ก็กุอยากรู้ว่าเขาลืมแฟนเก่าได้รึยัง กูจะได้จีบเขาไง” ไนล์วางดินสอในมือลง ก่อนจะหันไปจ้องหน้าเพื่อน
“แล้วเกี่ยวอะไรกับกู เกี่ยวอะไรกับการที่มึงพาแพรมาที่นี่ แพรมาที่นี่แล้วมันพิสูจน์อะไรได้ ว่าแพรลืมแฟนเก่ารึยัง”
“มึงนี่มันโง่จริงๆ ก็ไอ้โซ่มันเป็นแฟนเก่าแพรไงไอ่ควาย!!”
“หะ”
“กูอยากรู้ว่าแพรลืมมันได้รึยัง กูเลยพาแพรมาที่นี่ แต่มึงก็ยังยอมให้เขาสองคนไปด้วยกัน โถ่ว กุหมดคำจะพูด” ไนล์อึ้งไปเล็กน้อย เขาไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าโซ่กับแพรเคยเป็นแฟนกัน
“ก็แค่เคยเป็นแฟนกัน เขาเลิกกันไปแล้ว มึงก็จีบๆ ไปเถอะ” พีทว่า ก่อนจะก้มมองชีทอีกครั้ง แต่ตอนนี้จิตใจของเขาไม่ได้อยู่ที่ชีทเลยสักนิด
ก๊อกๆ ๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นก่อนที่แพรและโซ่จะเดินเข้ามา ทั้งสองหัวเราะกันอย่างสนุกสนาน ก่อนจะหยุดหัวเราะลงเมื่อเห็นว่าไนล์และพีทกำลังจ้องพวกเขาอยู่
“เมื่อกี้เจอเรื่องตลกนิดหน่อยน่ะ” แพรว่าขึ้น เมื่อเห็นบรรยากาศดูตึงเครียด
“อ่อ รีบมาติวต่อเถอะ จะได้กลับไปพักผ่อน” ไนล์ว่าเพียงเท่านั้น ก่อนการติวบทสุดท้ายจะเริ่มขึ้น ตอนนี้จิตใจของเขาไม่ค่อยอยู่กับเนื้อกับตัวเสียเท่าไหร่ สาเหตุเพราะอะไรเขาก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ตอนนี้เขาหยุดมองไปที่แพรและโซ่ไม่ได้เลยจริงๆ
นาฬิกาบอกเวลาตีหนึ่ง การติวอันเข้มข้นก็สิ้นสุดลง ทุกคนต่างเอนกายลงนอนด้วยความเหนื่อยอ่อน
“กูจะทำข้อสอบได้ไหมเนี่ย” พีทครวญคราง
“กลับไปพักผ่อนกันได้แล้ว แล้วก็อ่านทบทวนที่สอนไปด้วย” พีทลุกขึ้นยืนก่อนจะเริ่มเก็บของใส่กระเป๋า
“แล้วแพรกลับยังไงอ่ะ” โซ่เอ่ยถามขึ้น
“เดี๋ยวกูไปส่งเอง” พีทรีบตอบกลับ ก่อนจะช่วยแพรเก็บของใส่กระเป๋า แล้วรีบเดินออกไปทันที
“แค่ถามเฉยๆ เอง จะรีบอะไรขนาดนั้นวะ” โซ่บ่นพึมพำพลางเก็บของใส่กระเป๋าตัวเองบ้าง
“มึงจะกลับเลยป้ะ” ไนล์หันไปถามพลางยกน้ำขึ้นดื่ม
“กูขอนอนนี่ได้ป้ะ”
“ไม่อ่ะ”
“กูขี้เกียจขับรถ”
“ก็กูไม่ให้มึงนอน”
“มึงห้ามกูไม่ได้หรอก” โซ่ตอบกลับก่อนจะเดินเข้าไปยังห้องนอนของไนล์ พร้อมทิ้งตัวลงบนเตียงขนาดหกฟุต
“มึงนอนนี่แล้วกูจะไปนอนไหน”
“มึงก็นอนกับกูบนเตียงนี่ไง ทำอย่างกะตัวเองเป็นผู้หญิงไปได้” ไนล์มองโซ่ที่นอนแผ่หลาอยู่บนเตียง จู่ๆ เขาก็รู้สึกโกรธผู้ชายตรงหน้า ถ้าเขาเป็นผู้หญิงมันก็คงจะดีกว่านี้สินะ ไนล์เดินกลับไปที่โซฟา ก่อนจะทิ้งตัวลงนอน ในหัวของเขามีแต่ความคิดแปลกๆ เต็มไปหมด เขากับโซ่ไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย แต่พอรู้ว่าโซ่คือแฟนเก่าของแพร เขากลับรู้สึกโกรธขึ้นมาซะอย่างนั้น
“ทำไมไม่ไปนอนในห้อง” เสียงโซ่ดังขึ้นยังปลายเท้า ทำเอาร่างเล็กสะดุ้งโหยง
“เห้ยย”
“มึงเป็นอะไร รังเกียจกูรึไง”
“ป่าว กูไม่ได้เป็นไร”
“งอนอย่างกะเป็นผู้หญิงไปได้ นี่ถ้ามึงเป็นผู้หญิงแล้วงอนกู กูจะไม่แปลกใจเลย”
“ก็กูไม่ใช่ผู้หญิงไง มึงก็ไม่ต้องสนใจกู”
“...” สิ้นเสียงภายในห้องก็เงียบลง มีเพียงเสียงเครื่องปรับอากาศเท่านั้นที่ยังดังอยู่
“กู..”
“มึงโกรธอะไรกูวะ” โซ่ถามด้วยสีหน้าเรียบเฉย ไนล์รู้สึกโกรธตัวเองเหลือเกิน ที่แสดงท่าทีไม่ดีออกไป
“กู...”
“เดี๋ยวกูกลับก่อนดีกว่า มึงจะได้พัก” ชายหนุ่มสวมเสื้อแขนยาว ก่อนจะหยิบกระเป๋ามาสะพายไว้ที่หลัง พร้อมเดินออกจากห้องไปเงียบๆ เมื่อโซ่เดินออกจากห้องไปแล้ว ไนล์ก็ทิ้งตัวลงบนโซฟา นี่เขากำลังทำอะไรอยู่ เมื่อหลายวันก่อนเขายังเกลียดโซ่อยู่เลย แต่ตอนนี้ทำไมมันถึงกลับตาลปัตรได้ขนาดนี้ นี่เขากำลังตกหลุมรักผู้ชายชื่อโซ่อย่างงั้นหรือ
“บ้าน่า” ไนล์เตือนสติตัวเอง เพียงแค่โซ่ช่วยเขาเอาไว้จากพวกอันธพาล เพียงแค่ได้จ้องตากันจากเกมบ้าๆ ทำให้เขารู้สึกได้มากขนาดนี้เลยหรือ จะบอกว่าไม่รู้สึกก็ไม่ได้ เพราะแค่รู้ว่าโซ่กับแพรเคยเป็นแฟนกัน พอได้เห็นว่าทั้งสองอยู่ใกล้กัน เขาก็รู้สึกโกรธขึ้นมาเสียดื้อๆ แบบนี้จะเรียกว่ารักได้รึยังนะ
คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ