เพื่อนร้ายนายน่ารักว่ะ
เขียนโดย Mikeyyyyy
วันที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564 เวลา 17.56 น.
แก้ไขเมื่อ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564 18.01 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น
1) ตอนที่ 1
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความตอนที่ 1
“พบเพื่อลา
มาเพื่อจาก
รักเพื่อพราก
จากเพื่อจำ”
นั่นเป็นข้อความสุดท้าย ที่ไนล์จำได้ขึ้นใจ ก่อนจะลาจากเพื่อนมัธยมปลาย เพื่อเดินทางเข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัย ไนล์เป็นคนสนุกสนาน และเป็นคนที่เรียนเก่งมากๆ คนหนึ่ง เลยไม่แปลกที่จะมีเพื่อนเยอะ
“ไนล์ เอาการบ้านมาลอกดิ๊” เสียงของพีทดังขึ้น พร้อมกับมือที่ดึงสมุดการบ้านของไนล์ไปในทันที
“กูถ่ายรูปส่งให้ดูตั้งแต่เมื่อคืนแล้วไม่ใช่หรอ”
“กูช่วยแม่ขายของอยู่”
“ช่วยแม่ขายของหรือเล่นเกมอยู่กับพวกไอ้โย” พีทไม่ได้สนใจเสียงก่นว่าของไนล์เท่าไหร่นัก เขาเอาแต่ก้มหน้าก้มตาลอกการบ้าน เพราะนี่ใกล้เวลาที่จะต้องส่งแล้ว
“ถ้าไม่ได้มึง กูไม่รู้จะไปลอกการบ้านใครเลย” ไนล์ส่ายหัวให้พีทเบาๆ ทุกครั้งที่พีทลอกการบ้าน เขาก็มักจะพูดแบบนี้ประจำ
“เดี๋ยวก็สอบแล้ว จะจบปีหนึ่งอยู่แล้ว มึงควรหันมาสนใจเรียนบ้างนะ” ชายหนุ่มว่าไปอีกชุด พีทเป็นเพื่อนสมัยมอปลายที่ติดสอยห้อยมาตามมาเรียนคณะวิศวกรรมศาสตร์ด้วยกัน ทำให้ไนล์สนิทกับพีทมากขึ้น จนเขาด่าอะไรไป พีชไม่เคยโกรธเลยสักครั้ง ละนี่ก็กำลังจะสอบปลายภาค หากเกรดปีหนึ่งไม่ดีเท่าที่ควร ปีสองปีสามปีสี่ อย่าหวังว่าจะพาเกรดตัวเองขึ้นไปสวยๆ ได้เลย
“ครับพ่อ” พีทหันมาต่อปากต่อคำก่อนจะก้มหน้าลอกการบ้านต่อไป
“กูจะกลับหอละ มึงเอาการบ้านไปส่งให้กูด้วยนะ”
“ได้ๆ เดี๋ยวกูจัดการให้” ไนล์เก็บข้าวของใส่กระเป๋า ก่อนจะเดินปลีกตัวออกมา ระยะทางจากมหาลัยไปหอพักไม่ไกลมากนัก เขามักจะเดินกลับเป็นประจำ เว้นเสียแต่วันไหนเหนื่อยๆ ก็ค่อยอาศัยพี่วินมอเตอร์ไซค์อีกแรง
ในการเรียนมหาลัย ไนล์ไม่ได้มีความสุขหรือทุกข์มากนัก อาจเป็นเพราะเขายังอยู่แค่ปีหนึ่ง การเรียนไม่ค่อยเครียด แถมยังมีกิจกรรมสนุกให้ทำอยู่เสมอ แต่นอกจากพีท ไนล์ก็แทบจะไม่สนิทกับใครเลย แม้จะมีเพื่อนเยอะก็ตาม
ปึก!!
ลูกบอลที่ถูกเตะอยู่ในสนามบอล ลอยมาโดนร่างของไนล์อย่างไม่ทันตั้งตัว พร้อมกับคนคนหนึ่งที่กำลังวิ่งมาทางเขา ไนล์หันไปมองเล็กน้อยก่อนจะพบกับคนที่เขาไม่ค่อยอยากจะเจอสักเท่าไหร่
“โทษที” ไนล์พยักหน้าให้พร้อมจะเดินหนี แต่คนคนนั้นกลับเรียกดักเขาเอาไว้ซะก่อน
“จะรีบไปไหนวะ” ไนล์หันไปมองเพื่อนร่วมคณะอีกครั้ง ก่อนจะหยุดเดิน ชายอีกคนหยิบลูกบอลมาไว้ในมือ ก่อนจะโยนให้เพื่อนในสนาม แล้วหันมาหาไนล์ต่อโดยไม่เอ่ยขอโทษสักคำ
“มีอะไร” ไนล์ถามออกไปห้วนๆ เพื่อน...ไม่สิ เขาไม่อยากนับเป็นเพื่อนสักเท่าไหร่ ชายคนนี้ชื่อโซ่ โซ่เป็นคนที่เก่งด้านกีฬาแทบทุกชนิด ทั้งหน้าตาและรูปร่างของโซ่ที่ดูดี คงทำให้ชายหนุ่มทะนงตัวเองว่าอยู่เหนือกว่าคนอื่นๆ โซ่ชอบหาเรื่องแกล้งไนล์เป็นประจำ และชอบบังคับให้ไนล์ทำนู่นทำนี่ด้วยวาจาที่ข่มขู่ ทำให้ไนล์ไม่ชอบยุ่งด้วยสักเท่าไหร่ แต่ผู้หญิงในคณะกลับกรี๊ดกร๊าดโซ่ ราวกับเขาเป็นคนดัง
“อีกไม่กี่วันจะสอบแล้วอ่ะ ติวให้กูหน่อยดิ” โซ่ว่าพลางเอามือเช็ดเหงื่อไปด้วย คำขอของโซ่ดูแล้วจะไม่ได้รับการตอบรับที่ดีนัก แต่จะให้ปฏิเสธเลย เขาก็กลัวว่าโซ่จะหาเรื่องแกล้งเขาอีก
“ไว้ว่างจะติวให้ละกัน”
“อีกไม่กี่วันจะสอบแล้ว ก็ติวเลยดิ เห็นไปอ่านหนังสืออยู่ในห้องสมุดตั้งหลายวันแล้วไม่ใช่หรอ” โซ่ยังคงถามต่อ โดยที่ไม่รู้เลยว่าคนตรงหน้าไม่อยากคุยด้วย
“ก็..”
“มึงอยู่หอคนเดียวใช่ป้ะ ดีเลย” โซ่ว่าต่อ ก่อนจะวิ่งหายไป ในเวลาเพียงชั่วครู่เขาก็กลับมาพร้อมกระเป๋าหนึ่งใบ
“อะไรวะ”
“กูจะไปนอนกับมึงที่หอไง จะได้ติวให้กูได้”
“กูยังไม่ได้บอกสักหน่อยว่าจะให้มึงไปหอกู”
“มึงไม่อยากติวให้กูหรอ” โซ่ถามออกมา เพราะท่าทางของไนล์เริ่มแสดงออกอย่างชัดเจน
“...” ไนล์อึกอัก เขาไม่อยากมีเรื่องผิดใจกับโซ่ให้มากนัก เพราะหากโดนแกล้งขึ้นมาคงไม่มีความสุขแน่ๆ
“ว่าไง”
“เออๆ เดี๋ยวกูติวให้”
“ดีมาก” มือหนาเอื้อมมาคล้องคอเขาไว้ก่อนจะเริ่มออกเดิน ถึงไนล์อยากจะเอามือออกสักเท่าไหร่แต่ก็ต้องข่มใจเอาไว้ ความรู้สึกของเขา โซ่ก็เหมือนอันธพาลที่ชอบข่มขู่คนอื่น โซ่มีเพื่อนเยอะ แถมยังมีนิสัยเหมือนนักเลงอีกต่างหาก เขาไม่ค่อยชอบคนประเภทนี้สักเท่าไหร่ แต่ดูเหมือนว่ายิ่งไม่ชอบ เขาก็ยิ่งเจอ
ตะวันเริ่มลับขอบฟ้า โซ่กำลังขะมักเขม้นกับชีทที่กองพะเนินอยู่ตรงหน้า ไนล์นั่งมองก่อนจะถอนหายใจออกมา ถึงโซ่จะเก่งด้านกีฬา แต่วิชาการเขากลับไม่ได้โดดเด่นมากนัก
“ที่สอนไปเข้าใจป้ะ”
“ก็เข้าใจอยู่ แต่มันยากอ่ะ” โซ่ตอบกลับพร้อมวางปากกาลง ก่อนจะนอนแผ่หลาลงไปกับพื้นห้อง
“ตั้งใจหน่อยดิ”
“นี่ก็ตั้งใจอยู่ รู้งี้ตั้งใจเรียนตั้งแต่แรกก็ดี” ไนล์หัวเราะให้กับคำพูดของชายหนุ่มตรงหน้า เขาไม่คิดเลยสักนิดว่าประโยคนี้จะหลุดออกมาจากปากของผู้ชายชื่อโซ่
“คิดเป็นเหมือนกันหรอวะ”
“หิวแล้วอ่ะ ไปหาไรกินกันเหอะ” ชานหนุ่มไม่รอคำอนุญาต เขาลุกขึ้นก่อนจะหยิบกระเป๋าสตางค์มาไว้ในมือ
“ไปเลย เดี๋ยวรออยู่ที่ห้องนี่แหละ”
“ไม่ได้ดิ ไปด้วยกัน”
“ไม่เอา”
“ไป” โซ่เดินมาหาไนล์ก่อนจะคว้าแขนให้ลุกขึ้น ไนล์ลุกขึ้นตามแรงดึง ก่อนจะยอมออกไปด้วยแต่โดยดี รถบิ๊กไบค์คันใหญ่บึ่งออกจากหออย่างรวดเร็ว ก่อนจะมาจอดอยู่ร้านข้าวที่อยู่ไม่ไกลจากหอ
“รู้จักร้านนี้ด้วยหรอ” ไนล์ถามขึ้น เพราะร้านนี้เป็นร้านประจำของเขา แต่เขากลับไม่เคยเห็นโซ่ที่นี่เลยสักครั้ง
“อือ เคยมาบ่อยๆ” ไนล์พยักหน้าก่อนจะเข้าไปจับจองที่นั่ง ไม่นานนักข้าวสองจานก็วางลงบนโต๊ะ พร้อมอาหารสองสามอย่าง ในร้านมีลูกค้าเพียงสองสามโต๊ะเท่านั้น เพราะเวลานี้ค่อนข้างดึกมากแล้ว
“ปกติมาร้านนี้บ่อยหรอ” โซ่เปิดคำถามพลางตักข้าวเข้าปาก
“อือ ร้านประจำอ่ะ”
“อยู่คนเดียวแบบนั้นไม่เหงารึไง”
“ไม่อ่ะ ชอบอยู่คนเดียว” ไนล์ตอบปัดๆ เพราะไม่ชอบให้ใครมาวุ่นวายกับเรื่องส่วนตัวมากนัก
“ลุง เอาเหมือนเดิม” เสียงตะโกนดังลั่นร้าน ไนล์เงยหน้าขึ้นมอง ก่อนจะพบกับกลุ่มนักศึกษากลุ่มใหญ่ที่กำลังเดินเข้าร้าน สายตาของไนล์ปะทะเข้ากับหนุ่มร่างท้วม ที่ดูท่าทางห่ามๆ เข้าพอดี เขารีบหลบสายตาก่อนจะก้มหน้าก้มตาทานข้าวอย่างรวดเร็ว
“เป็นอะไร”
“ป่าว” ไนล์ตอบกลับก่อนจะเคี้ยวข้าวตุ้ยๆ
“อันเก่ายังไม่จ่าย ยังมีหน้ามาสั่งใหม่อีก” ลุงเจ้าของร้านตอบกลับ ก่อนจะส่ายหัวไปมาอย่างเหลืออด
“เดี๋ยวผมหาเงินมาจ่ายให้ รอแปปนะลุง” สิ้นเสียงชายร่างท้วมที่ดูท่าทางน่าจะเป็นหัวหน้ากลุ่ม เดินตรงเข้าไปหาไนล์ทันที ไนล์เป็นคนรูปร่างเล็กพอๆ กับผู้หญิง ไม่แปลกที่เขาจะเป็นเป้าหมาย
“เมื่อกี้มองหน้ามีอะไรรึป่าว” หนุ่มร่างท้วมถามขึ้น พลางมองไปยังไนล์และโซ่ โซ่เหลือบตาขึ้นมามองครู่หนึ่ง ก่อนจะกินข้าวโดยไม่สนใจอะไร
“พี่ติดค่าข้าวอยู่ห้าร้อยอ่ะ ขอยืมเงินหน่อยดิ” นี่ไม่ใช่คำขอร้อง แต่เป็นการข่มขู่อย่างเห็นได้ชัด
“...”
“ไม่ได้ยินรึไงวะ!!” ชายร่างท้วมตะโกนลั่น ไนล์เริ่มกลัว เขาหยิบแบงก์ห้าร้อยในกระเป๋าออกมาก่อนจะส่งให้อย่างรวดเร็ว
“นี่ครับ”
“พูดง่ายๆ แบบนี้ค่อยน่ารักหน่อย” มือท้วมกำลังจะหยิบแบงก์ห้าร้อยมาไว้ในมือ แต่กลับมีมือของใครบางคนดึงมันไปเสียก่อน
“ง่ายเกินไปรึป่าว” โซ่วางเงินไว้กับโต๊ะ ก่อนจะลุกขึ้นต่อกรกับอันธพาลหัวไม้
“ดูท่าทางคงจะเป็นพวกเด็กปีหนึ่งสิท่า”
“จะเป็นเด็กปีหนึ่งหรือเด็กปีไหน ก็ไม่ควรทำแบบนี้ทั้งนั้นแหละ”
“พอเถอะ กลับกันเถอะ” ไนล์เดินเข้ามาหาโซ่ ก่อนจะดึงตัวชายหนุ่มไว้ไม่ให้ไปมีเรื่อง
“อย่าทำให้เรื่องมันยากนักเลยน้อง พี่ถือว่าพี่พูดดีๆ” หนุ่มร่างท้วมยังคงไม่หยุดพล่าม
“ให้เขาไปเถอะ กูไม่เอาก็ได้ เงินแค่นี้ช่างมันเถอะ” ไนล์เริ่มกลัวขึ้นมาจริงๆ เพราะเขามีกันแค่สองคน จะให้สู้กับคนเจ็ดแปดคนได้ยังไงกัน แถมเขายังไม่เก่งเรื่องชกต่อยเลยสักนิด
“ก็ได้” ไนล์เบาใจลงเมื่อได้ฟังคำตอบ
“พูดง่ายๆ แบบนี้ก็ดีสิ” โซ่เอื้อมมือไปหยิบเงินขึ้นมาอีกครั้ง ก่อนจะเอ่ยออกมาด้วยท่าทียียวน
“ถ้าพี่เอาไปได้ ก็เอาไปเลย” ชายร่างท้วมสวนหมัดเข้าใบหน้าของโซ่ทันที แต่เขากลับหลบมันได้ทัน ก่อนจะสวนหมัดหนักเข้ายังใบหน้าของร่างท้วมเต็มแรง
“หลบไปก่อน” โซ่ดันไนล์ไปด้านหลัง ก่อนจะเริ่มแลกหมัดกับชายที่เหลือ
“ร้านพังหมดแล้ว” เสียงลุงเจ้าของร้านดังลั่น พร้อมกับเสียงร้องโอดโอยดังระงมไปทั่วร้าน โซ่ยังคงปล่อยหมัดของตัวเองรัว แต่ฝั่งตรงข้ามมีเยอะกว่าทำให้เขาเสียเปรียบเล็กน้อย
“จับมันไว้” ร่างของโซ่ถูกจับเอาไว้ตามคำสั่ง ก่อนที่หมัดหนักๆ จะถูกส่งลงมายังใบหน้าของเขา
พลั่ก!! พลั่ก!! ร่างกำยำดิ้นจนหลุด ก่อนจะตอบโต้คืนบ้างอย่างรวดเร็ว เขาเคยฝึกมวยไทยมาบ้าง ไม่แปลกเลยที่เขาจะล้มพวกอันธพาลได้หมด
“แจ้งตำรวจได้เลยลุง” ชายหนุ่มหันไปบอกลุงเจ้าของร้านที่หลบอยู่ข้างเสา ลุงกุลีกุจอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอย่างรีบร้อนพลางกดหาตำรวจ
“เจ็บมากไหม” ไนล์วิ่งเข้ามาหาโซ่ ก่อนจะมองดูแผลบนใบหน้า ต้นเหตุเรื่องนี้มันมาจากเขาแท้ๆ แต่เขากลับต้องมาเดือดร้อนด้วย ไนล์หยิบทิชชู่บนโต๊ะขึ้นมาก่อนจะนำมาซับเลือดที่มุมปากให้ชายหนุ่ม ชายร่างท้วมที่นอนเจ็บอยู่ที่พื้นค่อยๆ หยัดกายลุกขึ้น ก่อนจะหยิบเก้าอี้ที่อยู่ใกล้ตัวมาไว้ในมือหวังจะฟาดมันลงมายังร่างเล็กที่กำลังเช็ดเลือดให้ชายหนุ่มอยู่
“ระวัง!!” มือหนาคว้าร่างตรงหน้าให้หลบ ก่อนจะใช้ร่างกายตัวเองเป็นโล่กำบังแทน เก้าอี้ไม้ถูกฟาดลงกลางหลังของชายหนุ่มอย่างจัง
“โซ่!!” ร่างของชายหนุ่มล้มลง พลันตำรวจก็เขามาควบคุมสถานการณ์ได้ทันท่วงที
“หยุดนี่เจ้าหน้าที่ตำรวจ” ตำรวจสี่ห้านายกรูเข้ามาในร้าน ก่อนจะรวบแก๊งค์อันธพาลภายในเวลาอันสั้น
“อ๊ะ..” โซ่ค่อยๆ หยัดกายลุกขึ้นยืนโดยมีไนล์คอยประคองไม่ห่าง
“จะเข้ามารับแทนทำไม ปล่อยมันตีกูไปดิ”
“มึงจะบ้าหรอ ตัวมึงแค่นี้ มึงได้ตายพอดี” โซ่ยังพูดติดตลก ตัวเองเจ็บอยู่แท้ๆ ยังมีหน้ามาห่วงคนอื่นอยู่ได้
“น้องสองคนโอเคไหมครับ” ตำรวจเดินเข้ามาหา เมื่อจัดการส่งพวกอันธพาลทั้งหลายขึ้นรถไปแล้ว
“โอเคครับ”
“ยังไงก็ไปให้ปากคำที่โรงพักด้วยนะครับ”
“ครับ” ตำรวจปลีกตัวออกไปเมื่อเสร็จภารกิจ ไนล์หันมาสนใจคนข้างกายอีกครั้ง
“ไปโรงพยาบาลหน่อยไหม”
“ไม่ได้เป็นไรสักหน่อย ทายาเดี๋ยวก็หาย”
“แน่ใจนะ”
“เออ ไปกันเหอะ” โซ่เดินนำยังรถ เจ็บขนาดนี้ยังทำทีท่าว่าไม่เป็นอะไร แถมยังต้องมาขับรถให้เขานั่งอีก จะซวยอะไรขนาดนั้นนะ
เมื่อจัดการทุกอย่างเรียบร้อย ทั้งสองก็กลับมายังห้องทันที ตามตัวของโซ่มีรอยฟกช้ำเต็มไปหมด จนไนล์อดห่วงไม่ได้
“แน่ใจนะว่าจะไม่ไปหาหมอ”
“อือ แผลแค่นี้ไม่ตายหรอก” โซ่ว่าก่อนจะถอดเสื้อของตัวเองออก เผยให้เห็นกล้ามหน้าท้องที่ได้รูป พร้อมกับรอยฟกช้ำเป็นจ้ำๆ
“ทำแผลให้หน่อยดิ” โซ่หันมาบอกก่อนจะทิ้งตัวนอนลงยังโซฟา
“บอกให้ไปหาหมอก็ไม่เชื่อ” ไนล์บ่นอุบอิบ แต่ก็เดินไปหยิบอุปกรณ์ทำแผลมาแต่โดยดี ไนล์ค่อยๆ ใช้สำลีชุบแอลกอฮอร์เช็ดไปยังแผลอย่างเบามือ ไม่มีเสียงร้องออกมาจากปากของชายหนุ่มเลยสักนิด โซ่นอนหลับตานิ่ง ปล่อยให้ไนล์ทำแผลไปเรื่อยๆ
“ขอบใจนะ” ไนล์เอ่ยขอบคุณ หากวันนี้ไม่ได้ชายหนุ่มช่วยเขาก็คงจะโดนไถเงินไปแล้ว แล้วจะโดนอะไรอีกบ้างก็ไม่รู้
“ถ้ายอมพวกมันอยู่แบบนี้ ก็ต้องยอมพวกมันตลอดไป” โซ่ว่าขึ้นขณะยังหลับตาอยู่
“สู้ไปก็แพ้ จะให้ทำยังไงได้ล่ะ”
“ไม่ชอบความรุนแรงหรอ” โซ่ถามขึ้นอีกครั้งพร้อมลืมตาขึ้นมา
“ใครชอบบ้างล่ะ”
“เจ็บตรงไหนรึป่าว”
“ห่วงตัวเองก่อนดีกว่าไหม กูจะไปเจ็บอะไรวะ มึงเอาตัวมารับเก้าอี้แทนกูขนาดนั้น” ไนล์ว่าพลางทายาไปยังรอยฟกช้ำ
“เออ ดีแล้ว จะได้มีแรงติวหนังสือให้กูได้อีกหลายๆ วิชา” โซ่ว่าก่อนจะหลับตาลงอีกครั้ง ไนล์แอบยิ้มเล็กๆ ที่มุมปาก จะว่าไปโซ่ก็ก็ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่เขาคิด อย่างน้อยๆ เขาก็มีมุมดีๆ อยู่บ้าง อย่างน้อยไนล์ก็รู้สึกดีกับชายหนุ่มมากขึ้นกว่าเดิม แต่ก่อนเขาไม่อยากจะยุ่งด้วยซ้ำ แต่เหตุการณ์วันนี้ทำให้เขามองชายหนุ่มคนนี้เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง
คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ