(จบ)มนต์รักลอลลี่ป๊อป...ของนายมาเฟียไร้เดียงสา

-

เขียนโดย Byตั้งโอ๋

วันที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562 เวลา 12.06 น.

  5 ตอน
  1 วิจารณ์
  5,329 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562 12.48 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น

แชร์เรื่องสั้น Share Share Share

 

3) ความไร้เดียงสาครั้งที่ 3 ความห่วงใยจากนายมาเฟีย

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

ความไร้เดียงสาครั้งที่ 3 ความห่วงใยจากนายมาเฟีย

“ดอกคลื่นฉันชอบนาย คบกับฉันเถอะ....”ผมพูดออกไปพร้อมกับหัวใจที่เต้นรัว

“ขอโทษนะนายเป็นผู้ชายแถมยังเป็นมาเฟียอีก”เสียงทุ่มที่ถูกบีบจนแหลมตอบกลับมา

“นายน้อยครับ เล่นพูดกับตุ๊กตามันสนุกเหรอครับ?”เสียงของควอตพูดขึ้นมา มันเป็นอะไรที่ขัดความสุขผมเสียจริงๆ

“ปล่อยฉันไว้คนเดียวเถอะ”ผมตอบกลับไปด้วยเสียงเซื่องซึม มันน่าสมเพชเสียจริงต้องมาเล่นสารภาพรักกับตุ๊กตาเพราะไม่กลับบอกเจ้าตัวเขาจริงๆ

“แบบนั้นไม่ได้หรอกครับ คุณก็รู้ว่าพวกคุณทรงพลมาปั่นป่วนในกิจการของเราอยู่ วันก่อนที่ผับคุณก็จัดการไปแล้วสินะครับ”ควอตพูดขึ้นมาด้วยเสียงเครียด ใช่ว่าจะไม่รู้ว่ามันเสี่ยงนี้ผมก็พยายามให้ลูกน้องค่อยสอดส่องดูแลอยู่ห่างๆเสมอมา

“ผมกลัวว่าพวกนั้นจะลงมือกับคนรักของนายน้อยแทนนะสิครับ นายน้อยก็ทราบดีว่าพวกมันทำได้ทุกอย่าง”ใช่พวกนั้นมันกล้าทำทุกอย่างเรื่องนั้นผมรู้ดีแต่ถ้ากับคนๆนี้ผมคงยอมไม่ได้เป็นอันขาด

“พวกนั้นยังไม่รู้ใช้ไหมครับเรื่องที่คุณไปร้านกาแฟนั้นทุกวันเพราะชอบคุณดอกคลื่น ยังไงก็กรุณาระวังด้วยนะครับ”มันก็จริงอย่างที่ควอตพูดทุกอย่าง ผมอาจจะทำให้เขาเป็นอันตราย ผมได้แต่จมอยู่กับความคิดของตัวเอง พอพูดก็พาลให้นึกถึงใครอีกคนขึ้นมา ปานี้คงจะปิดร้านแล้วสินะสามทุ่มแล้วนี่น่า เฮ้อออ

“แย่แล้วครับนายน้อยพวกไอ้ทรงพลมันส่งคนเป็นทำร้ายคุณดอกคลื่นครับ”

“วะ..ว่าไงนะ”

เสียงจากลูกน้องที่เข้ามาใหม่พูดขึ้นทำเอาหัวใจผมหล่นวูบลงไปเลย ยังคุยไม่ทันจบเรื่องมันก็มาแล้ว เวลานี้ไม่ใช่เวลามานึกคิดอะไรผมรีบวิ่งไปคว้ามอเตอร์ไซคู่ใจรีบบึ่งไปร้านลอลลี่ป๊อปคอฟฟี่ทันทีโดยไม่ได้ฟังเสียงเรียกของควอตเลยผมรู้สึกตัวเองประสาทบอดไปทันทีในเวลานั้น ใจมันนึกห่วงแต่อีกคนที่ต้องมาพลอยเดือดร้อนเพราะผมเอง

ไม่นานผมก็มาถึงจุดหมาย ภายในร้านนั้นดูวุ่นวายไม่น้อยดูเหมือนลูกน้องของผมตจะเข้ามาช่วยไว้ก่อนแต่คนแค่สองคนหรือจะสู้ไอ้พวกนั้นที่มากันเป็นสิบคนผมพยายามมองหาว่าดอกคลื่นอยู่ตรงมุมไหนของร้าน เอะ

!

ตรงเคาเตอร์ เมื่อเห็นจุดหมายก็ไม่รอช้าครับรีบวิ่งเข้าไปทันทีระหว่างทางก็ซัดกับพวกมันไปบ้าง เป็นห่วงจังคงจะตกใจไม่น้อย

เพี้ยะ

!

“แก่สินะเมียไอ้ริวเชย์”

หลังมือใหญ่วาดลงบนแก้มขาวนั้นก่อนจะกระชากร่างเล็กนั้นด้วยมืออีกข้างและเหวียงร่างเล็กๆที่ดูตื่นกลัวไปชนเคาเตอร์ดัง ตึง หมับ ก่อนจะใช้มือใหญ่บีบลงบนแก้มขาวเนียนจะบูดเบี้ยว

“อย่าโทษกันเลยใครใช้ให้แกเป็นเมียไอ้ริวเชย์คู่แข่งเจ้านายของฉันกัน เพราะฉะนั้นแกเป็นตัวการสำคัญที่จะทำให้มันเสียใจตาย”

เสียงเหี้ยมเกรียบพูดขึ้นมาทำเอาคนที่อยู่อุ้งมือนั้นตัวสั่นพล่า โดยมันไม่ได้รับรู้ถึงรังสีอำหิตที่แผ่กระจายออกมาจากคนด้านหลังเลยแม้แต่น้อย

หมับ

อ๊ะ

?

“ใครกันที่จะเสียใจจนตาย”

เสียงเย็นที่แผ่ไปด้วยความกดดันแล้วโกรธเกรี้ยวนั้นไม่ใช่ของใครมันเป็นผมเอง ผมไม่รอช้ามันกล้าทำคนที่ผมรักอย่าได้อยู่ดูโลกอีกเลย ว่าแล้วก็กระชากกลุ่มผมไอ้ตัวที่บังอาจมาทำของรักของผมอย่างไม่ใยดีก่อนจะตามมาด้วยหมัดหนักๆและลูกเตะอีกสองสามที่จนร่างนั้นนอนแน่นิ่งจมกองเลือด มองดูรอบๆก็เหมือนควอตจะพาลูกน้องมาจัดการจนเรียบร้อยนึกหันไปมองอีกคนที่ห่วงด้วยใจหดหู่ดูเขาจะตกใจมากเลยนะนั้น อยากเดินเข้าไปช่วยประครองร่างที่สั่นเทานั้นแต่ติดที่มันไม่กล้าพอ อีกอย่างเขาคงกลัวผมแน่เลยเห็นผมทำอย่างนี้แล้ว จะทำยังไงดี

“อะ...เอ่อ...ชะ..ใช้คุณลูกค้าที่มาประจำสินะครับ”เสียงเล็กเอ่ยขึ้นมาอย่างขัดๆคงยังตกใจ แต่เอะ!เขา จะ...จำผมดะ..ได้ ตึกตัก ตึกตัก

“อะ..เอ่อ..ขอโทษที่ทำให้เดือดร้อน”พูดไปทั้งที่ไม่ได้มองหน้าเขาก็ใครจะไปกล้ากันละ

“ทั้งที่นายไม่เกี่ยวเลยแท้ๆขอโทษด้วยจริงๆ”ความผิดผมทั้งหมดแท้ๆ

“เหมือนจะดูเท่นะครับนายน้อยแต่ไอ้การใส่ชุดนอนแล้วมาทำอะไรแบบมันดูไม่ได้จริงๆ”เสียงควอตที่ดังแว่วเข้ามาทำให้ผมต้องก้มดูตัวเองและ

“เฮ้ยยย”เออนะไอ้ชุดนอนลายขวางนี้มันไม่เท่จริงๆก็คนมันรีบนี้หว่า แล้วมันใช่เวลาที่มาพูดเรื่องชุดนอนไหมตอบผมสิ

เอ่อดูเหมือนเสียงผมจะทำให้คนตัวเล็กตรงหน้านี้ตกใจนะ ดูทำหน้าเข้าสิ

“เอ่อ...เอ่อ”พูดไม่ออกครับ ไปไม่ถูกด้วย

“เอ่อ...ขอโทษนะครับคือผมขอถามอะไรหน่อยได้ไหม”คนตัวเล็กที่เงียบอยู่ตลอดพูดขึ้นทำให้ผมต้องหันไปมอง อ๊ะ! ตรงแก้มขาวๆนั้นแดงเป็นรอยมือเลย..หนอย..ไอ้พวกสารเลวกล้าทำหน้าขาวๆให้มีสีมันน่าฆ่าให้ตายนัก

“เอ่อ...ช่วงนี้ไม่ค่อยดีเท่าไรอย่าอยู่ที่นี้เลยนะ”ผมว่าไปเหมือนเมื่อกี้ดอกคลื่นจะถามอะไรผมนะแต่เอาไว้ก่อนแล้วกัน

“เอ่อ...คือ”

“ควอตเดี๋ยวจัดการเก็บข้าวของที่จำไปของดอกคลื่นไปที่บ้านใหญ่นะ”สั่งเสร็จผมก็หันมาคว้ามือคนตัวเล็กให้เดินไปยังรถคู่ใจ

“เอ่อ...จะพาผมไปไหนครับ”เสียงเล็กๆถามขึ้นมาขณะที่ผมส่งหมวกกันน็อคให้ ไอ้ผมก็ลืมไปเลยอยู่ๆจะพาเขาไปเฉยเลยให้มันได้อย่างนี้สิครับ

“ไปบ้านใหญ่...(ตึกตักๆๆ)..ยะ อยู่ที่นี้ไม่ค่อยปลอดภัยช่วงนี้นะครับ”พอเห็นหน้าเขาก็ทำให้ใจเต้นทุกทีให้ตายเถอะ

“แล้วร้านผมละครับ”

“เดียวให้คนมาจัดการให้ ช่วงนี้ปิดไปก่อนได้ไหม”บอกไปก่อนจะถามเสียงอ่อยครับกลัวเขาจะเกลียดเอา

“อะ อืม ก็ได้ครับ”เขาตอบพร้อมกับรอยยิ้มที่ฆ่าผมได้เลยจริงๆ คนอะไรยิ้มสวยเป็นบ้า

“งั้นไปกัน”ว่าเสร็จก็จัดการสวมหมวกให้อีกคนครับ ว่าจะไม่คิดอะไรแล้วเชียวแต่ไอ้สายตาที่เขามองมานี้มันทำให้ใจผมเต้นไม่หยุดจริงๆ

มาถึงบ้านได้ไอ้พวกลูกน้องติ๊งต๊องของผมก็มารอรับเป็นแถวดูเหมือนคนตัวเล็กที่ผมพามาด้วยจะตกใจนิดหน่อยนะครับ

“ไปนอนกันได้แล้วไปพวกนายนะ”ว่าไล่ไอ้พวกลูกน้องทั้งหลายครับแต่มันก็ยังไม่ไปสักทีชวนดอกคลื่นของผมคุยอยู่ได้

“ป้าพรช่วยจัดห้องข้างๆห้องผมให้ดอกคลื่นหน่อยนะครับเขาจะมาอยู่กับเราสักระยะหนึ่งนะครับ”ผมเลิกสนใจไอ้พวกสาระแนหันมาบอกป้าแม่บ้านที่อยู่ใกล้ๆให้ไปจัดการที่หลับที่นอนให้คนตัวเล็กตอนนี้คงจะเหนื่อยมากแล้วมั้ง

“พวกแกฉันบอกให้ไปนอนไง ส่วนเธอมานี้ไปทำแผลก่อน”ผมไล่ไอ้พวกลูกน้องอีกทีก่อนจะเรียกคนตัวเล็กที่อยู่ในวงล้อมของพวกลูกน้องให้ไปทำแผล ก็ดูหน้าสิหน้าแดงเป็นแถบเลย หน้าที่เคยขาวเนียนตอนนี้มีแต่สีแดงระเรืองเต็มไปหมด

ผมจัดการให้แม่บ้านหายาทำแผลมาให้ก่อนจะลงมือทำแผลให้คนตัวเล็กเองกับมือกว่าจะผ่านไปได้นั้นผมต้องอดทนเป็นอย่างมากต้องสู้กับใจตัวเองที่เต้นราวกับจังหวะร็อก ผมนี้มันอ่อนหัดจริงๆสินะครับ เฮ้ออออออออ

 

 

มาแล้ววววววว......ตอนที่ 3 อีกสองตอนก็จบแล้วววววนะ

 

คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา