(จบ)มนต์รักลอลลี่ป๊อป...ของนายมาเฟียไร้เดียงสา
เขียนโดย Byตั้งโอ๋
วันที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562 เวลา 12.06 น.
แก้ไขเมื่อ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562 12.48 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น
2) ความไร้เดียงสาครั้งที่ 2 มนต์รักลอลลี่ป๊อป
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความความไร้เดียงสาครั้งที่ 2 มนต์รักลอลลี่ป๊อป
ในวันนั้นวันที่ผมกลับจากทำงานตอนสามทุ่มรถของผมดันเกิดเสียเข้ากลางทางพอดี ฟ้าก็มืดไปหมดแถมฝนก็ตกลงมาหนักมากจะขอความช่วยเหลื่อจากใครก็มองไม่เห็นเลยเพราะตรงจุดที่รถเสียค่อนข้างที่จะปลอดคน ผู้คนที่ต่างขับรถแล่นบนถนนก็ไม่ได้มีใครสนใจ แท็กซี่ก็ไม่มีผ่านมาเลย จะโทรหาควอตหรือลูกน้องคนอื่นๆโทรศัพท์ก็ดันแบตหมด หลังจากไม่รู้จะทำยังไงก็ได้แต่นั่งรออยู่ในรถ หวังว่าให้ฝนซ่าลงหน่อยค่อยเดินไปหาคนช่วยถึงมันจะดึกแต่ก็คงจะมีสักคนละนะ ระหว่างทอดสายตามองสายฝนที่ตกลงมาอย่างกับฟ้ารั่วผ่านกระจกรถอยู่ๆก็มีเสียงเคาะเบาๆที่กระจกฝังคนขับที่ผมนั่งอยู่ ผมเลยเปิดแง่มประตูออกดูครั้นจะเลื่อนกระจกก็ไม่ได้เพราะรถมันตาย ผมพบกับผู้ชายตัวไม่สูงมากนักยืนกางร่มอยู่ข้างหน้าผมข้างๆก็มีรถมอเตอร์ไซต์ฟี่โน่จอดอยู่ใกล้ๆ
“คุณครับรถเป็นไรหรือครับ”เสียงเอ่ยแถมออกมาแม้เสียงฝนจะดังแต่ผมก็ได้ยินมัน
“อยู่ๆรถมันดับแล้วก็สตาร์ทไม่ติดนะครับ"ผมตอบกลับไปก่อนจะเบี่ยงตัวหลบละอองน้ำฝน
“ไปอยู่ที่ร้านผมก่อนไหมครับใกล้ๆนี้เองดีกว่านั่งอยู่ในรถแบบนี้ ฝนก็ตกหนักด้วยมันอันตราย”
เสียงหวานเอ่ยออกมา แปลกทั้งที่ไม่รู้จักกันแท้ๆทั้งที่ยังไม่รู้เลยว่าผมจะมาดีหรือมาร้ายเขากลับกล้าชวนคนแปลกหน้าไปด้วยกันช่างเป็นคนดีจริงๆนะ แต่ก็เอาเถอะไปด้วยดีกว่ามานั่งอยู่ในรถแบบนี้จะได้ยืมโทรศัพท์โทรให้ควอตมารับด้วย
ผมค่อยๆก้าวลงจากรถโดยมีร่มคันเล็กจากผู้ชายตัวเล็กคอยถือกันฝนไว้ก่อนเดินมาขึ้นมอเตอร์ไซต์คันน้อยที่อาบน้ำฝนอยู่
“คุณถือร่มหน่อยนะเดี๋ยวผมจะขับรถ”
ว่าแล้วก็ส่งร่มมาให้ผมถือก่อนจะก้าวขึ้นมอเตอร์ไซต์ ผมเองก็ไม่รอช้าขึ้นตามไปซ้อนท้ายคนตัวเล็ก ระหว่างทางมันค่อยข้างที่จะลำบากมากเพราะฝนตกหนักร่มคนน้อยนี้ก็ไม่ได้ช่วยกันเม็ดฝนได้เลยกว่าจะมาถึงก็ใช่เวลาครู่หนึ่งเพราะติดที่ฝนตกหนักจะขับรถเร็วก็ไม่ได้
มอเตอร์ไซต์ฟีโน่มาจอดอยู่หน้าร้าน ลอลลี่ป๊อปคอฟฟี่ ผมก็ไม่รอช้ารีบก้าวลงจากรถทันที่ก่อนจะเดินตามอีกคนเข้าไปในตัวร้านที่ตอนนี้ดูเหมือนจะปิดไปแล้วเพราะข้าวของต่างๆถูกจัดเก็บไว้เป็นระเบียบหมดแล้ว ร้านไม่ได้ใหญ่มากนักการตกแต่งก็ออกแนวหวานๆเน้นสีสัดสดใส ตกแต่งด้วยของที่มีลักษณะหรือสีคล้ายลูกอมลอลลี่ป๊อปเต็มไปหมดเลย มันช่างเหมาะสมกับชื่อร้านจริงๆเลย
“เชิญนั่งตามสบายเลยนะเดียวไปหาผ้ามาให้เช็ดตัวแล้วหาอะไรร้อนให้ดื่มจะได้ไม่รู้สึกหนาว”เสียงเล็กที่แว่วดังมาจากมุมใดสักมุมของร้านเรียกให้ผมละความสนใจจากการตกแต่งของตัวร้าน
“เอ่อ...ผมขอยืมโทรศัพท์หน่อยได้ไหมครับ”
“ตามสบายเลยครับอยู่บนเคาเตอร์นะครับ”นี้เข้าไม่กลัวว่าผมจะขโมยเลยหรือ
หลังจากโทรบอกให้ควอตมารับ ผมก็เดินมานั่งตรงโต๊ะยาวที่ติดกับกระจก มองออกไปสายฝนก็ยังคงตกลงมาไม่หยุดหย่อน ผมเผลอมือไปจับแจกันที่มันควรมีดอกไม้แต่มันกลับเป็นลูกอมลอลลี่ป๊อปวงใหญ่ติดโบว์อย่างสวยงามใช่มันดูสวยมาก ผมเห็นตรงประตูทางเดินที่น่าจะคงเข้าไปในส่วนของครัวละมั้งมีม่านประตูที่ทำเป็นลอลลี่ป๊อปรอยตรงๆกันอย่างสวยงาม ร้านนี้เหมาะกับเด็กๆหรือสาวๆจริงๆเลยคนออกแบบก็คงจะชอบลอลลี่ป๊อปเอามากๆแน่
“ขอโทษที่ให้รอนะครับ นี้ผ้าเอาเช็ดผมนะครับเดี๋ยวไม่สบายแล้วจะแย่เอา"
คนตัวเล็กบอกก่อนจะยิ้มให้ ผมไม่สามารถละสายตาไปได้เลยเพราะก่อนหน้าที่เจอกันมันค่อยข้างมืดเลยเห็นหน้าไม่ชัดแต่ตอนนี้ใบหน้าขาวเนียน ดวงตากลมโต ขนตาที่หนาแน่นงอนงามเป็นพิเศษ ปากเล็กๆที่กำลังยิ้มอยู่ทุกองค์ประกอบบนใบหน้ามันช่างดูดีจนหาที่ติไม่ได้ ถ้าไม่พูดว่าครับกันตั้งแต่แรกผมคงคิดว่าเขาเป็นหญิงสาวแน่แท้ก็ใบหน้านั้นหวานราวกับผู้หญิง
“อะ..เอ่อ คุณเป็นอะไรไหม”ผมหลุดออกจากความคิดเพราะเสียงทักของคนตรงหน้า
“อะ..ขอโทษที่รบกวนนะครับทั้งที่ไม่รู้จักแท้ๆ”
“ไม่หรอกครับคนเราต้องช่วยเหลือกันสิครับ”อะไรกันรอยยิ้มและสีหน้านั้นเหมือนกับลูกแมวตัวน้อยๆเลยน่ารักจังคิดแล้วก็นึกอยากจับแก้มป่องๆนั้นจัง
หมับ บีบ บีบ
“เอ่อ..?”
“อ๊ะ”มือผมเป็นไรไปนี้แค่คิดเท่านั้นเองทำไม ทำไม ไปทำจริงๆซะละ แต่ว่าแก้มนิ่มจังแฮะ
“เอ่อ..ขอโทษที่ครับ”หวา อะไรกันใบหน้าสงสัยนั้นน่ารักจัง ไม่ๆๆๆ ผมเป็นอะไรไปเนี้ยยยยย
“เอ่อ..เดียวผมไปหาอะไรร้อนๆมาให้ดีกว่าจะได้รู้สึกดีขึ้น”ว่าเสร็จเขาก็รีบเดินออกไปทำให้รอบตัวผมตกอยู่ในความเงียบอีกครั้ง อะไรกันทำไมเราทำตัวแปลกๆจังนะ เฮ้ออออ
“โกโก้ร้อนมาแล้วครับ”หลังจากหายไปได้สักครู่หนึ่งเขาคนนั้นก็ออกมาพร้อมกับแก้วโกโก้ร้อนที่ควันยังคลุ้งอยู่ที่ขอบแก้วอยู่เลยมาให้ผมก่อนจะนั่งลงข้างๆกัน
“ขะ...ขอบคุณครับ”ผมกล่าวขอบคุณออกไปก่อนจะยกโกโก้แก้วนั้นขึ้นมาจิบ อืม อร่อยใช่ได้หวานกำลังดีเลย กะว่าจะหันไปชมสักหน่อยก็ต้องตกใจเมื่อคนข้างๆนั่งดูดลอลลี่ป๊อปขนาดใหญ่เท่ากำปั้นอยู่ ดูท่าทางคงจะชอบมากสินะก็ปากเล็กๆนั้นเล่นดูดบางเลียบางอย่างอารมณ์ดีเห็นแล้วก็นึกอยากไปดูดบ้างจัง ยิ่งเห็นปากบางๆนั้นดูดดึงอยู่มันทำให้ผมถึงกับต้องกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาง
กลิ่นลอลลี่ป๊อปนี้ช่างหอมจังนะกลิ่นเหมือนผลไม้รวมเลยความหวานอ่อนๆที่ให้ความรู้ละมุลนี้ดีจังแฮะ
“อะ...เอ่อ”หืม อร่อยดีจัง เอะ อร่อยรึ
“เฮ้ยยยยยย”ตกใจครับตกใจมาก กะ..ก็ อยู่ๆไปดูดลอลลี่ป๊อปอันนั้นตอนไหนกัน ตายๆๆๆๆๆ มาดมาเฟียใหญ่ของผมหายไปไหนหมด คนๆนี้อันตรายต่อผมจริงๆ รสชาติลอลลี่ป๊อปที่อยู่ในมือเขายังติดตรึงอยู่ที่ปลายลิ้นอยู่เลย เขาจะคิดว่าผมเป็นคนยังไงเนี้ยยยยยย
“เอ่อ..คุณชอบไอ้นี้เหมือนกันหรือ”
เสียงเล็กที่เงียบอยู่นานเอ่ยถามผมอย่างสงสัย แล้วผมจะกล้าบอกได้ยังไงว่าไม่ชอบก็เล่นไปแย่งเขากินจากปากขนาดนั้น
“อะ..เอ่อ..ใช่ๆ ชอบครับ”
“จริงหรือผมก็ชอบเหมือนกัน”อะไรกันไอ้รอยยิ้มที่ผลิบานนั้นงดงามมากเลยผมว่าราวกับมีรังสีอุ่นๆรายลอมอยู่รอบตัวเขาเลย
ตึกตัก ตึกตัก ทำไมใจเราถึงได้เต้นแรงขนาดนี้แค่เพราะเห็นรอยยิ้มนั้น
ตึกตัก ตึกตัก
“เอ่อ...งั้นผมไปก่อนนะขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือนะครับ”ว่าเสร็จก็รีบลุกขึ้นออกมาจากร้านนั้นทันที
และตั้งแต่วันนั้นผมก็ไม่ได้ไปที่ร้านนั้นอีกเพราะต้องไปช่วยงานพ่อที่ยุโรป จนเมื่อสามเดือนก่อนที่พึ่งจะได้กลับมาผมแวะเวียนไปร้านนั้นตลอด เขายังคงเป็นคนที่ยิ้มได้สวยงามอย่างเดิมและดูเหมือนว่าเขาจะจำผมไม่ได้ด้วยซ้ำ มีแค่ผมที่คิดกับเขาฝ่ายเดียว แต่ถึงจะพูดอย่างนั้นแค่พูดกับเขา แค่มองหน้าเขาผมก็ทำไม่ได้เลยด้วยซ้ำ แล้วนับประสาอะไรกับคำสารภาพรักกัน
คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ