การเดินทางของติวเหวอ(เตอร์)
8.7
เขียนโดย nuskung
วันที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2562 เวลา 21.43 น.
8 ตอน
2 วิจารณ์
6,892 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 5 มกราคม พ.ศ. 2567 14.33 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น
7) สอนออนไลน์
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ สวัสดีครับ ห่างหายจากการเขียนไปนานเลยครับ มัวแต่ปรับตัวกับการสอนออนไลน์ ผ่านมา 1 ปีครึ่งแล้วครับที่ผมต้องสอน
เด็กๆผ่านหน้าจอคอมพิวเตอร์ เด็กบางคนที่เพิ่งเริ่มเรียนยังไม่เคยเจอตัวจริงกันเลยครับ ส่วนคนที่รู้จักกันมานานแล้ว
กลับกลายเป็นไม่ได้เจอกันเลยครับ บางคนเรียนจบสอบเข้ามหาวิทยาลัยเรียบร้อย บางคนสอบเรียนต่อเข้าม.ปลายโรงเรียนอันดับต้นๆ ได้
ก็เลิกเรียนกันไป เพราะต้องไปเรียนที่โรงเรียนกวดวิชาดังๆ เพื่อปูทางสู่การสอบเข้าเรียนหมอ
(คิดๆก็น่าน้อยใจนะครับ ติวกันมาตั้งแต่เด็ก พอสอบติดโรงเรียนอันดับหนึ่งของประเทศก็เทผมทิ้งเลยครับ ฮ่าๆๆ)
บางคนก็ติวกันสุดชีวิตครับ เพื่อที่จะสอบให้ติดห้องกิฟท์คณิต เรียนกันยันสามสี่ทุ่ม แต่ผลสอบออกมาคุ้มค่า
บางคนก็มาติวโค้งสุดท้าย สุดท้ายจริงๆครับ อีกแค่ สามสี่วันจะสอบ เพิ่งจะมาอยากสอบ ผลออกมาก็ผิดหวังกันไปครับ
แต่ในร้ายก็มีดีครับ ผมได้ลูกศิษย์ที่น่ารัก 2 คน สอนกันมาสามปีแล้วล่ะครับ แต่ช่วงโควิดซัมเมอร์นี้
พี่ท่านทั้งสอง ขอเรียนทุกวันเลยครับ ทั้งคู่เป็นหนุ่มน้อยพี่น้องกัน คนหนึ่งเรียนชั้น ป.4 อีกคนเรียนชั้น ป.6
ทุก 9 โมงเช้า คนน้องจะเข้ามาเรียนก่อนเลยครับ เปิดคอมมาก็ทักทาย สวัสดีจ้า บางวันก็ทักทายว่า มาแล้วจ้า
แต่ละวันจะมีคำพูดน่ารักปนตลกมาให้ผมได้อมยิ้มทู้กวันครับ มีอยู่วันหนึ่งครับน้องผมสับหมูอยู่ในครัว เสียงดังเข้าไปในซูม
เด็กน้อยก็ถามว่าใครสับหมู ผมก็บอกว่าน้องผม เด็กน้อยบอกว่า ครูลงไปบอกน้องครูให้สับหมูเบาๆหน่อย เสียงดังยังกับช้างเดิน
ผมนี่ฮาแตกเลยครับ ส่วนคนพี่นี่ก็จะเจ้าเล่ห์หน่อย โกงนิดๆ เรียนกันทีไรต้องดุกันเกือบทุกที แต่ก็สร้างความสุขให้ผมได้มากเลยล่ะครับ
สีสันเล็กๆน้อยๆช่วงโควิดน่ะครับ ยังไงช่วงนี้ก็รักษาสุขภาพ ดูแลตัวเองดีๆนะครับ
เด็กๆผ่านหน้าจอคอมพิวเตอร์ เด็กบางคนที่เพิ่งเริ่มเรียนยังไม่เคยเจอตัวจริงกันเลยครับ ส่วนคนที่รู้จักกันมานานแล้ว
กลับกลายเป็นไม่ได้เจอกันเลยครับ บางคนเรียนจบสอบเข้ามหาวิทยาลัยเรียบร้อย บางคนสอบเรียนต่อเข้าม.ปลายโรงเรียนอันดับต้นๆ ได้
ก็เลิกเรียนกันไป เพราะต้องไปเรียนที่โรงเรียนกวดวิชาดังๆ เพื่อปูทางสู่การสอบเข้าเรียนหมอ
(คิดๆก็น่าน้อยใจนะครับ ติวกันมาตั้งแต่เด็ก พอสอบติดโรงเรียนอันดับหนึ่งของประเทศก็เทผมทิ้งเลยครับ ฮ่าๆๆ)
บางคนก็ติวกันสุดชีวิตครับ เพื่อที่จะสอบให้ติดห้องกิฟท์คณิต เรียนกันยันสามสี่ทุ่ม แต่ผลสอบออกมาคุ้มค่า
บางคนก็มาติวโค้งสุดท้าย สุดท้ายจริงๆครับ อีกแค่ สามสี่วันจะสอบ เพิ่งจะมาอยากสอบ ผลออกมาก็ผิดหวังกันไปครับ
แต่ในร้ายก็มีดีครับ ผมได้ลูกศิษย์ที่น่ารัก 2 คน สอนกันมาสามปีแล้วล่ะครับ แต่ช่วงโควิดซัมเมอร์นี้
พี่ท่านทั้งสอง ขอเรียนทุกวันเลยครับ ทั้งคู่เป็นหนุ่มน้อยพี่น้องกัน คนหนึ่งเรียนชั้น ป.4 อีกคนเรียนชั้น ป.6
ทุก 9 โมงเช้า คนน้องจะเข้ามาเรียนก่อนเลยครับ เปิดคอมมาก็ทักทาย สวัสดีจ้า บางวันก็ทักทายว่า มาแล้วจ้า
แต่ละวันจะมีคำพูดน่ารักปนตลกมาให้ผมได้อมยิ้มทู้กวันครับ มีอยู่วันหนึ่งครับน้องผมสับหมูอยู่ในครัว เสียงดังเข้าไปในซูม
เด็กน้อยก็ถามว่าใครสับหมู ผมก็บอกว่าน้องผม เด็กน้อยบอกว่า ครูลงไปบอกน้องครูให้สับหมูเบาๆหน่อย เสียงดังยังกับช้างเดิน
ผมนี่ฮาแตกเลยครับ ส่วนคนพี่นี่ก็จะเจ้าเล่ห์หน่อย โกงนิดๆ เรียนกันทีไรต้องดุกันเกือบทุกที แต่ก็สร้างความสุขให้ผมได้มากเลยล่ะครับ
สีสันเล็กๆน้อยๆช่วงโควิดน่ะครับ ยังไงช่วงนี้ก็รักษาสุขภาพ ดูแลตัวเองดีๆนะครับ
คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ