ห-ล-อ-น-ล-ว-ง

-

เขียนโดย cozy

วันที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2561 เวลา 08.51 น.

  3 ตอน
  0 วิจารณ์
  4,971 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 17 มีนาคม พ.ศ. 2561 10.22 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น

แชร์เรื่องสั้น Share Share Share

 

2) แทนที่ (จบ)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

ทรายฟังแกพูดก็เริ่มคืนสติ ปล่อยมือจากแขนลุงยาม แล้วพอนึกขึ้นได้ว่าไม่ได้หยิบอะไรมาเลยก็ครวญว่า “แล้วจะทำไงดีล่ะลุง ทรายทิ้งกระเป๋า โทรศัพท์ กุญแจตึก กุญแจรถไว้ข้างบนหมดเลย ทรายไม่กล้าขึ้นไปเอาแล้วล่ะ” ทรายพูดเสียงเครือๆ “ไม่เป็นไรครับ คุณทราย เดี๋ยวผมขึ้นไปเอาให้ คงไม่มีอะไรหรอก คุณทรายยืนรอตรงนี่เดี๋ยวนะครับ” ทรายรีบยกมือไหว้ “ขอบคุณลุงมากๆเลยนะจ๊ะ ทรายกลัวจริงๆ” “เอาๆ ไม่เป็นไร” ลุงลพพยักหน้าและเดินเข้าไปข้างในตึกและเดินขึ้นบันไดทางด้านหลัง

เวลาผ่านไปนานพอสมควรตามความรู้สึกของทราย ถึงแม้เธอจะมายืนด้านนอกตึกแบบนี้ แต่เธอก็ยังไม่มีสภาพจิตที่ดีขึ้นมากนัก ความกลัวยังจับอยู่ทั่วหัวใจ ทรายพยายามมองไปเข้าไปข้างใน พยายามเอียงหูฟัง แต่ก็ไม่ได้ยินอะไร นานกว่าทีสิบนาที ขณะที่เธอยืนนิ่งไม่รู้จะทำอะไรต่อเอาแขนทั้งสองข้างห่อตัวไป ฉับพลัน เธอก็สะดุ้งจนขนลุกเพราะอยู่ดีๆไฟก็ดับลงไปทั้งตึก แต่ก่อนที่จิตใจจะเตลิดเปิดเปิงไปมากกว่านั้น เธอก็เห็นแสงไฟฉายส่องออกมาจากด้านใน แสงนั้นค่อยๆขยับออกมาออกมาจนถึงประตูหน้า ปรากฎว่าเป็นลุงยามพันลพ แกถือกระเป๋าของทรายข้างหนึ่งอีกข้างถือไฟฉาย แล้วก็ยื่นกระเป๋าให้ทรายพร้อมกับพูดว่า “กุญแจอะไรอยู่ครบมั้ยครับ คุณทรายเช็คดู”

ทรายรับกระเป๋าไปเปิดๆดูแล้วก็ยกมือไหว้ บอกว่า “ขอบใจมากจ๊ะลุง มีครบเลย ทรายกลับก่อนละนะ” ลุงลพส่ายหัว “ยังกลับไม่ได้ครับ” ทำเอาทรายสะดุ้งนิดๆ “ทำไมล่ะ ลุงพูดอะไรแบบนั้น ทรายกลัวนะ” ลุงลพยิ้มและบอกว่า “คุณทรายต้องไปล๊อกประตูขึ้นชั้นสองก่อนสิครับ ผมไม่รู้ดอกไหน” ทรายมองเข้าไปในความมืดมิดอย่างหวาดหวั่น “ไม่กล้าน่ะลุง ลุงก็เอาไปล๊อกเองมั้ย ทรายเลือกให้” ลุงลพส่ายหัว “ไม่ดีหรอกครับ เดี๋ยวอะไรหายมันพูดกันยาก คุณทรายเดินไปกับผมไม่เป็นไร จะฉายไฟให้ ไอ้ไฟนี่อยู่ดีๆก็ดับ ถ้าผมจะซ่อมก็กลัวคุณทรายรอนาน” ทรายฟังดูก็มีเหตุผล จึงตัดสินใจ “ได้จ๊ะ ลุงไปส่งนะ” ลุงลพไม่พูดอะไรแต่เดินฉายไฟนำหน้า ทรายเดินตามหลังเข้าไป จริงๆตึกมันก็ไม่ลึกอะไรแต่ทรายก็รู้สึกว่ามันไกลเหลือเกิน จนไปถึงและล๊อกเรียบร้อย หันมาหาลุงลพแต่ไม่เห็นแกชัดเพราะแกยื่นแขนส่องไฟไปทางเดินออกตึกและบอกว่า “คุณทรายเดินตามแสงไฟไปเลยครับ ผมจะดูอะไรในนี้ต่ออีกหน่อย” ทรายพยักหน้าและพูดว่า “ทรายไปก่อนนะลุง ยังไงลุงก็ระวังหน่อย” ลุงลพก็ตอบว่า “คงไม่เป็นไรแล้วครับ คุณทรายไม่ต้องกลัว เมือกี้เขาพอใจไปแล้ว” ทรายขนลุุกเกรียวอย่างไม่มีสาเหตุกับคำพูดนี้ของลุงลพแต่ไม่ใช่เวลาจะมาต่อความอะไรจึงรีบเดินงุดๆออกไปหน้าตึกและขึนรถขับออกไป

ทรายกลับถึงบ้าน ทานอะไรไม่ลงทั้งที่แม่ก็เก็บกับข้าวมื้อเย็นไว้ให้ ไม่กล้าเล่าอะไรให้แม่ฟังด้วย เดี๋ยวแกจะกลัวไปใหญ่ ให้ออกจากงานละยุ่ง ทรายรีบอาบน้ำ สวดมนต์ และเอนตัวลงนอน แต่มันก็ไม่หลับ หันไปมองนาฬิกา บอกเวลาห้าทุ่มสิบห้านาที จึงตัดสินใจโทรหาน้องยู้เพื่อจะได้รับรู้อะไรให้หายคาใจเสียที

“แหม มีอะไรคะพี่ทราย โทรมาหาซะก่อนนอนเลย” สาวยู้ทักทายเสียงใส “ยังไม่นอนใช่มั้ย ขอโทษที พอดีพี่อยากคุยอะไรด้วยหน่อย” ทรายตอบกลับเสียงสั่นๆ “ยังค่า มีอะไรเหรอคะพี่ทราย” “ก็เรื่องที่คุยตอนกลางวันนั่นแหละ พี่อยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นที่ตึกทำงานเราเหรอ” ทรายถามไปตรงๆ แต่เล่นเอาน้องยู้ชะงักไปวูบ “ทำไมอยู่ๆอยากรู้คะพี่ วันนี้ก็ทำงานโอทีนี่ พี่เจออะไรหรือเปล่า” ทรายนิ่งไปซักครู่ก่อนจะเล่าทุกอย่างให้น้องยู้ฟัง “กรี๊ด” สาววัยยี่สิบเจ็ดร้องกลับมาเบาๆ “พี่ทรายยังดีนะมีลุงลพแกอยู่ด้วยคอยช่วย นี่ถ้าไม่มีใครอยู่เลย เป็นหนู หนูวิ่งรวดเดียวมาถนนใหญ่แน่ๆ ตึกปล่อยมันไว้งั้น ใครกล้าดีขึ้นไปขนอะไรเป็นหัวโกร๋นกลับออกไปแน่” “แล้วไหนว่าจะเล่าอะไรให้ฟังไง เล่ามาสิ พี่อยากรู้ จะได้เตรียมตัวรับมือกัน” ทรายย้ำประเด็นที่โทรหา

“ก็หนูน่ะ ได้ยินเรื่องนี้จากป้าที่ทำงานอยู่ตึกใกล้ๆ ตอนที่หนูไปถามหาแม่บ้านที่มาทำความสะอาดกับเสริฟน้ำเสริฟอาหารให้นายนั่นแหละพี่ทราย เขาบอกว่าตึกนี้ที่ราคาถูกกว่าปรกติน่ะ เพราะว่าเคยเกิดเหตุไม่ดีขึ้นที่ชั้นสาม ตรงชั้นทำงานพี่ทรายนั่นแหละ” ยู้เกริ่นนำก่อนจะไปต่อแบบเครื่องติด “คืนไอ้ตึกนี้ เมื่อก่อนเคยเป็นบริษัทประกันอย่างที่บอกตอนกลางวันนั้นแหละ ก็มีคนเข้าออกพลุกพล่านประจำ บางวันก็มีทำงานต่อตอนดึกอะไรบ้าง หรือประชุมสรุปยอด ป้าแกก็บอกว่า มีวันหนึ่งเจ้าหน้าที่สาวคนหนึ่ง สวยมากด้วยต้องอยู่ต่อทำงานล่วงเวลาให้เสร็จ ซักราวๆห้าทุ่มเพื่อนชายของเธอก็โทรมาหาแต่ว่าเธอไม่รับสาย เขาก็โทรหาเพือนที่ทำงานกับเธอก็ลองโทรเข้าที่ทำงานก็ไม่มีใครรับ จึงตัดสินใจชับรถมาดู เห็นประตูไม่ได้ปิด ขึ้นไปชั้นสามที่ทำงานฝ่ายเธอน่ะ ก็เจอเธอนอนตายอยู่ สภาพเหมือนถูกพยายามข่มขืน เสื้อผ้าหลุดจะหมด หน้าเขียวคล้ำตาแดงก่ำเลยพี่ทราย เพราะถูกบีบคอจนตายยังไงล่ะ”

ทรายหลับตานิ่งเพราะนึกถึงภาพที่เธอเห็นในตึกเมื่อซักครู่นั่น ในขณะที่อีกฝ่ายก็เล่าเรื่องต่อไป “เขาสงสัยยามที่เฝ้าซึ่งหายไปในตอนนั้น แต่พี่ทราย ป้าแกบอกว่าไอ้ยามนั่นนะ อีกวันเจอนอกหัวใจวายตายที่ห้องพัก ตั้งแต่นั่นนะ หลังเย็นไม่มีใครกล้าอยู่เลยพี่ ป้าแกบอกเจอกันทุกคน เสียงเก้าอี้เลื่อนมั่ง ประตูเปิดปิดเองมั่ง เสียงเดินไปมามั่ง เห็นเป็นเงาเลยก็ยังมี ไม่นับเสียงร้องให้ตอนกลางคืนอีก ก็เลยต้องปิดประกาศขายลดราคาเลยไงพี่” ทรายค่อยๆกลืนน้ำลายเข้าไปอย่างยากเย็น “แล้วเราจะทำยังไงดีเนี่ย ต้องอยู่กับตึกผีสิงแบบนี้เหรอ” น้องยู้ถอนหายใจ “กลางวันไม่เป็นไรหรอกพี่ หนูว่า ขอเจ้านายว่าไม่ทำโอทีละกัน คงต้องบอกแกตรงๆน่ะพี่ แกคงไม่ใจร้าย ให้ลุงลพช่วยเล่าอีกที ถือโอกาสขอทำบุญเลี้ยงพระเลยทีเดียวไปด้วยเลย” “ก็ดี งั้นดึกแล้ว พรุ่งนี้ว่ากันนะ พี่จะพยายามนอนก่อน” ทรายพูดเสียงอ่อนๆ อีกฝ่ายก็ตอบกลับมาว่า “คะคะ ฝันดีนะพี่ทราย อย่าคิดมาก พรุ่งนี้ก็เช้าละ”

ทรายกดปิดสายและนอนหลับไป ก่อนจะสะดุ้งตื่นจากเสียงโทรศัพท์ ทรายมองนาฬิกาเป็นเวลาหกโมงครึ่ง แต่เมื่อชื่อคนโทรคือเจ้าของบริษัทเธอก็ต้องรีบรับและทำเสียงให้สดชื่นที่สุด “ค่ะ นาย” “ทรายคุณตื่นละยัง โทษทีนะ แต่วันนี้มาที่ทำงานเช้าหน่อยได้มั้ย มีเรืองน่ะ” “ค่ะ ทรายจะรีบไป มีอะไรคะ” “เอาเถอะ รีบมาก็แล้วกัน” เจ้านายทรายตัดบทและวางสาย

ทรายขับรถมายังที่ทำงานในอีกไม่ถึงชั่วโมงต่อมา เธอจอดรถและพบว่ามีคนอยู่เยอะมาก รวมทั้งรถพยาบาลและเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทรายเดินไปหาเจ้านายเธอที่ยืนหน้าเซ็งๆอยู่กับตำรวจและคนขับรถประจำตัว กับชายอีกสองคน เจ้านายเธอหันมาทักทายและบอกกับทุกคนว่านี่เป็นพนักงานชื่อทรายที่อยู่ทำงานเมื่อคืน

“ทราย พอดีลุงลพที่เป็นยามน่ะ แกเสียชีวิตละนะ” เจ้านายทรายบอก “พอดีผมอยากได้เอกสารบางอย่างไปให้คนจีนตอนเช้า เลยแวะเข้ามาเอา พอเห็นแกนอนอยู่ ผมก็รีบแจ้งตำรวจแจ้งโรงพยาบาลละโทรหาทราย” ทรายตกใจจนหน้าซีด “ลุงลพ ทำไมไวอย่างนี้ละคะ เมื่อคืนทรายยัง ยัง ยัง” ทรายพูดค้างไว้เหมือนยังคิดไม่ออกว่าพูดอะไรก่อนจะเอ่ยปากต่อไป “แกเป็นอะไรตายคะ ไปเจอที่ไหน” “นี่แหละที่ผมแปลกใจ” เจ้านายถามทรายต่อ “แกนอนเสียชีวิตอยู่ด้านบนชั้นสามน่ะสิ เลยอยากถามทรายว่าเมื่อคืนเจอแกครั้งสุดท้ายตอนไหน แล้วทรายกลับกีโมงเมื่อคืน ตอนล๊อกประตูชั้นสองเห็นแกมั้ย ” ทรายอ้าปากค้าง พูดอะไรไม่ออก แขนขาสั่นไปหมด ปากก็พูดพึมพำชนิดถ้าฟังไม่ตั้งใจก็ไม่ได้ยิน “ตายชั้นสาม ทรายก็ล๊อกแล้วววนะ ทราย ทราย ก็ลุงลพแกยังลงมาส่องไฟให้” เจ้านายที่ฟังไม่ได้ศัพท์ก็พูดต่อไปแบบงงๆ “นั่นสิ เมื่อกี้หมอเขาก็บอกว่าลุงลพแกเสียชีวิตราวๆสี่ถึงห้าทุ่ม จากอาการหัวใจวายน่ะ เลยอยากรู้ว่าทรายกลับกี่โมง อ่าว ทรายเป็นอะไร หมอ มาดูหน่อยครับ ลูกน้องผมเป็นลมไปแล้ว”

วูบสุดท้ายของทรายก่อนจะหมดสติไป ทรายได้ยินคำพูดสุดท้ายของลุงลพแว่วมาไกลๆ “คงไม่มีอะไรอีกแล้วครับคุณทราย ตอนนี้เขาพอใจแล้ว”.......

 

คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา