พี่มากพระโขนง (ทูสม)
-
เขียนโดย privmha
วันที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560 เวลา 20.57 น.
1 ตอน
1 วิจารณ์
3,438 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560 21.06 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น
1) พี่มากพระโขนง (ทูสม)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความพี่มากพระโขนง
รู้ว่าใกล้เวลาจากกันแสนไกล หัวใจเริ่มสลายแต่จะทำเช่นไร
ตัวละคร
สมหญิง = มาดแมน
สมชาย = หมาเห่า
________________________________________________
“ผี..” เสียงเด็กชายรูปร่างอ้วนท้วมคนหนึ่ง อายุราวๆเจ็ดแปดขวบกล่าวออกมาเมื่อตนเองวิ่งไปปะทะกับผู้ชายร่างตันคนหนึ่ง ก่อนที่จะหัวเราะออกมา
“พี่เป็นผีแล้วทำไมไม่เห็นหลอกเลยอะ”
“…”
“แลบลิ้นดิ หลอกดิ”
“โถ่ ไม่เห็นสนุกเลย” เด็กชายพูดด้วยน้ำเสียงเบื่อหน่ายก่อนจะแลบลิ้นให้หนึ่งที พร้อมกับวิ่งจากไป
สมหญิงที่ยืนฟังอยู่ข้างๆสมชายเกิดทนไม่ไหว เพราะคำพูดที่เด็กคนนี้ใช้มันหยามเกียรติแห่งความผีของสมชาย ไม่รู้เด็กนี่พูดออกมาได้ไงหน้าตาเฉย ไม่เคยสัมผัสความผีของสมชายแล้วยังจะมาทำเป็นรู้ดี ระวังเถอะ พ่อแม่เป็นใครไม่รู้จักสั่งสอนลูกหลาน
“โห ไอเด็กอ้วนนี่ เดี๋ยวพ่อตบคว่ำเลย” สมหญิงตะโกนไล่หลังเด็กชายคนนั้นไป
“เอาน่าๆ ไม่เป็นไรหรอก น้องก็น่ารักดีออก”
“ไม่ต้องมายิ้มขำเลยนะสมชาย ไอเด็กนั่นมันหยามความผีของเธออยู่นะ”
“ไม่เห็นจะเป็นไรเลย มีแค่เธอรู้ความผีของเราแค่คนเดียวก็ได้นี่นา”
สมชายพูดออกมาด้วยรอยยิ้ม ทำให้สมหญิงใจเย็นลง ทั้งสองจึงชวนกันไปเล่นเกมต่างๆในวัด ทั้งปาเป้าซึ่งหมดไป300ก็ยังจะปาไม่โดนสักลูก ไปยิงปืนอีก200 ก็ยิงไม่โดนทั้งๆที่สมหญิงโม้ไว้นักหนาว่าตัวเองเป็นนักแม่นปืน ไปตักปลา สมชายที่เลี้ยงปลามายาวนานกว่า700 ปีก็บอกว่าจะแสดงฝีมือ พอลองทำเท่านั้นแหละ ถ้าปลาไม่ว่ายน้ำหนีก็กระโดดออกจากบ่อตาย ทูสมจึงสำนึกได้และตกลงกันว่าไปทำอะไรที่มันง่ายๆไม่ต้องแตะต้องอะไรจะดีกว่า
“สมหญิง สมชายว่าเราสองคนไปนั่งชิงช้าสวรรค์กันเถอะนะ น่าจะดีที่สุด”
“นั่นสิ เราก็ว่างั้น”
เมื่อถึงคิวที่ทั้งคู่ได้ขึ้นชิงช้าสวรรค์ ดีเจประจำตำบลก็เปิดเพลงคลอขึ้นมาเหมือนรู้ว่าพวกเรานี้ดเพลงมาประกอบฉากนี้
“สมชาย”
“จ๋า ว่าไง”
“สมชายอยากกินตำปูปลาร้ามั้ย”
“ถามอะไรเนี่ย” สมชายเบือนหน้าหนีด้วยความเขินอาย
“โหย อะไรอะตัวเอง มลั่ยฬัฆเค้าแร้วหลอส์”
“ฬักษ์ศริ”
“ลักส์เฆ้ามั่กมรั้ย”
“ม๊าคสิ”
ในขณะที่กำลังเข้าด้ายเข้าเข็มเข้าผ้ากันอยู่ สมหญิงก็เหลือบไปเห็นบ้านหมาสิงจึงเชิญชวนให้สมชายไปเล่นด้วยกัน
“แต่ตัวเองกลัวหมาไม่ใช่เหรอ”
“ไหน ใครกลัว หมาเหมอที่ไหนไม่เห็นกลัวเลย” จากท่าทางของสมหญิงที่ดูลุกลี้ลุกลนและเกร็งขึ้นมาจนน่าตลกทำให้สมชายหลุดยิ้มออกมาแล้วขำจนดังก้องทั่วงานวัด จากนั้นสมชายจึงเอ่ยปากถามคำถามที่ตนเองคาใจอยู่
“ตัวเอง”
“…”
“ถ้าวันนึงเค้าเป็นหมา เธอจะกินปูปลาร้าได้มั้ย”
“ไม่เอาอะ ถ้าจะมีใครเป็นหมาอะ เค้าขอเป็นหมาก่อนแล้วกัน ถ้าเค้าไม่มีตัวเองอะ เค้ากินปูปลาร้าไม่ได้หรอก ”
“…”
“แต่ถ้าเค้าเป็นหมาก่อนอะ ตัวเองก็หาผัวใหม่ได้สบายอยู่แล้วดิ ตัวตันขนาดนี้เนี่ย”
เมื่อสมหญิงพูดคำต้องห้ามออกมา สมชายจึงอารมณ์ขุ่นมัวขมุกขมัวยิ่งกว่าควันดำในกรุงเทพฯ องค์ยักษ์ลงเข้าสิงทำให้สมชายควบคุมตัวเองไม่ได้ ก่อนตาสีดำขลับจะเปลี่ยนเป็นสีแดงเพลิงแล้วหักเหล็กของกระเช้าชิงช้ามาท่อนนึง พร้อมกล่าวคำพูดออกมาด้วยเสียงที่สั่นเครือ
“พี่อภัยจ๋า.. อย่าทิ้งน้องไป..”
2 บีคอนตินิวคิกคักครุคริ
รู้ว่าใกล้เวลาจากกันแสนไกล หัวใจเริ่มสลายแต่จะทำเช่นไร
ตัวละคร
สมหญิง = มาดแมน
สมชาย = หมาเห่า
________________________________________________
“ผี..” เสียงเด็กชายรูปร่างอ้วนท้วมคนหนึ่ง อายุราวๆเจ็ดแปดขวบกล่าวออกมาเมื่อตนเองวิ่งไปปะทะกับผู้ชายร่างตันคนหนึ่ง ก่อนที่จะหัวเราะออกมา
“พี่เป็นผีแล้วทำไมไม่เห็นหลอกเลยอะ”
“…”
“แลบลิ้นดิ หลอกดิ”
“โถ่ ไม่เห็นสนุกเลย” เด็กชายพูดด้วยน้ำเสียงเบื่อหน่ายก่อนจะแลบลิ้นให้หนึ่งที พร้อมกับวิ่งจากไป
สมหญิงที่ยืนฟังอยู่ข้างๆสมชายเกิดทนไม่ไหว เพราะคำพูดที่เด็กคนนี้ใช้มันหยามเกียรติแห่งความผีของสมชาย ไม่รู้เด็กนี่พูดออกมาได้ไงหน้าตาเฉย ไม่เคยสัมผัสความผีของสมชายแล้วยังจะมาทำเป็นรู้ดี ระวังเถอะ พ่อแม่เป็นใครไม่รู้จักสั่งสอนลูกหลาน
“โห ไอเด็กอ้วนนี่ เดี๋ยวพ่อตบคว่ำเลย” สมหญิงตะโกนไล่หลังเด็กชายคนนั้นไป
“เอาน่าๆ ไม่เป็นไรหรอก น้องก็น่ารักดีออก”
“ไม่ต้องมายิ้มขำเลยนะสมชาย ไอเด็กนั่นมันหยามความผีของเธออยู่นะ”
“ไม่เห็นจะเป็นไรเลย มีแค่เธอรู้ความผีของเราแค่คนเดียวก็ได้นี่นา”
สมชายพูดออกมาด้วยรอยยิ้ม ทำให้สมหญิงใจเย็นลง ทั้งสองจึงชวนกันไปเล่นเกมต่างๆในวัด ทั้งปาเป้าซึ่งหมดไป300ก็ยังจะปาไม่โดนสักลูก ไปยิงปืนอีก200 ก็ยิงไม่โดนทั้งๆที่สมหญิงโม้ไว้นักหนาว่าตัวเองเป็นนักแม่นปืน ไปตักปลา สมชายที่เลี้ยงปลามายาวนานกว่า700 ปีก็บอกว่าจะแสดงฝีมือ พอลองทำเท่านั้นแหละ ถ้าปลาไม่ว่ายน้ำหนีก็กระโดดออกจากบ่อตาย ทูสมจึงสำนึกได้และตกลงกันว่าไปทำอะไรที่มันง่ายๆไม่ต้องแตะต้องอะไรจะดีกว่า
“สมหญิง สมชายว่าเราสองคนไปนั่งชิงช้าสวรรค์กันเถอะนะ น่าจะดีที่สุด”
“นั่นสิ เราก็ว่างั้น”
เมื่อถึงคิวที่ทั้งคู่ได้ขึ้นชิงช้าสวรรค์ ดีเจประจำตำบลก็เปิดเพลงคลอขึ้นมาเหมือนรู้ว่าพวกเรานี้ดเพลงมาประกอบฉากนี้
“สมชาย”
“จ๋า ว่าไง”
“สมชายอยากกินตำปูปลาร้ามั้ย”
“ถามอะไรเนี่ย” สมชายเบือนหน้าหนีด้วยความเขินอาย
“โหย อะไรอะตัวเอง มลั่ยฬัฆเค้าแร้วหลอส์”
“ฬักษ์ศริ”
“ลักส์เฆ้ามั่กมรั้ย”
“ม๊าคสิ”
ในขณะที่กำลังเข้าด้ายเข้าเข็มเข้าผ้ากันอยู่ สมหญิงก็เหลือบไปเห็นบ้านหมาสิงจึงเชิญชวนให้สมชายไปเล่นด้วยกัน
“แต่ตัวเองกลัวหมาไม่ใช่เหรอ”
“ไหน ใครกลัว หมาเหมอที่ไหนไม่เห็นกลัวเลย” จากท่าทางของสมหญิงที่ดูลุกลี้ลุกลนและเกร็งขึ้นมาจนน่าตลกทำให้สมชายหลุดยิ้มออกมาแล้วขำจนดังก้องทั่วงานวัด จากนั้นสมชายจึงเอ่ยปากถามคำถามที่ตนเองคาใจอยู่
“ตัวเอง”
“…”
“ถ้าวันนึงเค้าเป็นหมา เธอจะกินปูปลาร้าได้มั้ย”
“ไม่เอาอะ ถ้าจะมีใครเป็นหมาอะ เค้าขอเป็นหมาก่อนแล้วกัน ถ้าเค้าไม่มีตัวเองอะ เค้ากินปูปลาร้าไม่ได้หรอก ”
“…”
“แต่ถ้าเค้าเป็นหมาก่อนอะ ตัวเองก็หาผัวใหม่ได้สบายอยู่แล้วดิ ตัวตันขนาดนี้เนี่ย”
เมื่อสมหญิงพูดคำต้องห้ามออกมา สมชายจึงอารมณ์ขุ่นมัวขมุกขมัวยิ่งกว่าควันดำในกรุงเทพฯ องค์ยักษ์ลงเข้าสิงทำให้สมชายควบคุมตัวเองไม่ได้ ก่อนตาสีดำขลับจะเปลี่ยนเป็นสีแดงเพลิงแล้วหักเหล็กของกระเช้าชิงช้ามาท่อนนึง พร้อมกล่าวคำพูดออกมาด้วยเสียงที่สั่นเครือ
“พี่อภัยจ๋า.. อย่าทิ้งน้องไป..”
2 บีคอนตินิวคิกคักครุคริ
คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ