เรื่องสั้นของคุกกี้คามุอิ

6.7

เขียนโดย คุกกี้คามุอิ

วันที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2560 เวลา 23.44 น.

  21 บท
  3 วิจารณ์
  24.27K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2561 08.35 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น

แชร์เรื่องสั้น Share Share Share

 

12) บทความของออทิสติคที่ได้ดีทางเสียงร้อง

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

ผมคล้ายๆเป็นออทิสติค ระดับบอ่อน
ที่ศัพท์อังกฤษว่า แอสอะไรนะ แอสแพคเกอร์?
แต่ผมเคยอัจฉริยะมาก่อนว่า สมองคืออาวุธในการเรียนเลย แต่เข้าข่ายคนไร้สังคม ผมอาจจะบ้าแต่ผมเคย 3.7 3.4 ในห้องคิง มันอยู่ในการปรับตัวเข้าสังคม
คือแบบว่าตอนนั้นเป็นตอนที่ผมเชื่อว่า 3.9 ผมก็สามารถทำได้ และจุฬาก็ยังเข้าได้ง่ายๆ

นันคือมัธยมต้น หนึ่งและสอง พอขึ้นมอสามมีช่วงหนึ่งที่ผมป่วยทางปอด เข้าร.พ.ทรวงอก ไม่รู้ว่าฤทธิ์ยาหรือตัวเองต้องกลายเป็นแค่มนุษย์ธรรมดา

มอสามเป็นชีวิตที่เปลี่ยนไป ผมคือที่โหล่ของห้องคิง

ส่วนอาการออทิสติคที่ผมจะบอกเนี่ย มันเหมือนหรือคล้ายอยู่ว่า ไม่มีการเข้าสังคม ซ่าส์ เหมือนเด็กแย่คนหนึ่งที่สมองธรรมดา มันไม่น่าจะออทิสติคแท้นะ แค่ไม่ใช้ความขยันทางสมองห่วยๆมากกว่า

มอสามที่สมองแย่ก็ไปดูสารคดีรักษาแมว ผมตั้งเป้าหมายชีวิตที่มันพลาดไปแล้วว่าสัตวแพทย์จุฬา ไปสายวิทย์แล้วเรียนไม่ได้

พอผมเข้าปริญญาตรีวิทย์คอมฯจันทรเกษม ก็พบเพื่อนที่สมองกับนิสัยพอๆกัน แต่ไม่มีการเลือกใครเป๋นเพื่อน เพราะผมอาจจะเห็นว่าเพื่อนแค่นิสัยเหมือนผมด้านลบ ผมจึงเป็นคนดีที่ค้นหาคุณค่า แต่ก็ผ่านไปจนตัวเองยังไม่เก่งอะไรนอกจากความบ้าบอที่เป็นเอกลัษณ์ของตัวเอง

และตอนปัจจุบันคนบ้าคนนี้ว่างการศึกษาในรามคำแหง

สังคมนั้นผมอาจจะตามหาคนที่เรียนน้อย จริงๆคนเรียนไม่ดีเพราะไม่ขยันอย่างผมยังเข้ากับเพื่อนห้องคิงตอนมัธยมได้

เมื่อพฤหัสที่ผ่านมานี้ เพื่อนมัธยมห้องคิงคนหนึ่งเข้ามาทักในเฟสบุค
เป็นอะไรที่เพื่อนหัวกะทิไม่ทิ้งผมไป

เขาบอกว่ารู้จักผมในฐานะคนไม่ปกติ จะขอนัดเจอ ผมคุยไปแล้วยินดีผมบอกเขาว่าเฮ้ยเพื่อน  เพื่อนจะทำให้เราได้งานทำมีอนาคต เราจะมีเงิน เอ๊ยขอบใจว่ะ

แต่เราถนัดหรือเปล่าล่ะครับในทางที่เพื่อนคนล่าสุดแนะนำ

ต่องทำยังไงดี เพื่อนมันกลับมาคบกับผมโดยที่เพื่อนจัดอยู่ในกลุ่มเรียนสูง เขาเป็นวิศวะกรไฟฟ้า แต่เราสิครับ เป็นคนว่างๆบ้าๆ

"ถึงคุกกี้จะบ้า แต่ก็เพื่อน อยากให้แกเลิกนิสัยแบบนั้น ข้าว่าแกไม่มีใครแกยังมีข้า แกมันเข้าสังคมไม่ได้ ขอให้แกทำคุณค่าให้สูง ถามนะ แนะนำให้สายอาชีพ แต่ไม่ใช่อาชีวะนะ แกต้องมีการปรับตัว พ่อแม่ไม่ได้อยู่กับแกไปตลอด ทำอาหารไหม เออ ข้าได้งานใหญ่โตจากการจบวิศวะไฟฟ้า จะเป็นนายคนที่ดูแลแกนะไอ้คุกกี้ เขียนโปรแกรมสิ มันเป็นเบื้องหลังสังคมที่เจ๋ง ถ้าเอ็งเลิกติสเลิกบ้ามีความสามารถ ข้าจะเป็นคนทำให้มอหกอย่างแกมีงานเหมือนปริญญาตรี "

แต่การนัดเจอกันวันเดียวที่มีความสุขในฐานะได้เพื่อนใหม่  ผมอาจเป็นฝ่ายคบไม่ได้ ผมอาจจะบอกตัวเองว่า

ความรู้ไม่ใช่ทางของผมแล้วล่ะ ให้เขียนโปรแกรมหรอ  ผมมันหัวทึบนะเพื่อน ทำไมเพื่อนมันคิดว่า การเริ่มต้นชีวิตต้องเป็นโปรแกรมเมอร์

ผมหันหลังให้กับโปรแกรมเมอร์ตามคำแนะนำ
หวังว่าแกคงเป็นเพื่อนต่ำต้อยเอ้ยเพื่อนรักต่อไปนะ กับคนออทิสติค คบไม่ได้เท่าไหร่

คือ อยากบอกแกวิศวกรเพื่อนรัก ขอบใจที่มีคำสอน แต่แกไม่รู้หรอก หัวมันทึบเกินที่จะเป็นโปรแกรมเมอร์ แกไม่รู้ได้ยังไงเนี่ย

ผมจบสายวิทย์เพราะตัดสินใจเส้นทางผิดพลาด ได้ 2.2 จุฬาอะไรนั่นไม่ต้องแล้ว แต่คิดถึงวัยเด็กที่อยู่กับแกในห้องคิงมัธยมต้น(วิศวะกรไฟฟ้าตอนมัธยมหนึ่งอยู่ห้องถัดไปแต่เข้ามอสองก็ได้ห้องคิงและคิงตลอดมา) มันมีสมองดีๆทำ 3.9 ได้อะ จุฬาจึงไม่ยาก

แต่โตไปได้รู้ความจริง ว่าเป็นแค่คนธรรมดานิสัยแย่นิสัยเลวทราม ทำไมแกถึงอยากให้ความเป็นเพื่อน อันนี้แกเป็นการศึกษาสูงกว่าเรา ขอบใจแก


เพื่อนสั่งสอน หาคุณค่าในชีวิตให้ได้ ออทิสติคจะเอาอะไร เมื่อวัยเด็กผมใข้ชึวิตไปกับเพลงมากมาย แต่ไม่เคยแสดงออกเลยในทางเครื่องดนตรีเลย

ออทิสติคที่เกิดจากเสียงเพลง ทำให้ผมเรียนหนังสือไม่รู้เรื่องความเป็นวิทย์ที่ผมตัดสินใจเข้ามาเลย แต่เพลงคือความชอบในวัยเด็กตั้งแต่ปอสี่ก็เอาแต่สะสมซื้อเทปซื้อซีดี

เมื่อเรียนต่ำ ก็ยังใช้สมองใช้หูผ่านมา คือเป็นออทิสติคได้อ่อนๆ(ผมว่านะ)

ผมไม่เป็นโปรแกรมเมอร์หรอก หัวทึบเกิน และผมชอบเล่นท่องเที่ยว internet โดยไม่รู้เรื่องคอมให้มากมาย ชอบอ่านหนังสือ มันเป็นเด็กศึกษาน้อยที่ยังอ่านหนังสือเป็น แต่ไม่ได้สรุปใจความหนังสือเป็นเลย

ไอ้เพื่อนคนใหม่ คนปัจจุบันที่เข้ามาเห็นค่า  ผมอาจจะไม่ได้มีใครเข้ากับผมจริง

ผมเคยคิดว่า ถ้าผมไปศิลป์ ไม่ใช่ วิทย์ อย่างวาดก็พัฒนาอยู่ ไม่ได้วาดรูปมานานมากแล้ว  อย่างนิเทศน์คิดว่าบทบาทต่างๆจะเป็นคนที่เอกลักษณ์โดดเด่น อักษรศาสตร์อะไรนี่ก็ยังลำบากเกินไปเพราะภาษาตัวเองมันห่วย นิเทศน์นี่เพื่อนใหม่ดันให้ผมตัดใจเลิกคิด เหมือนว่าผมไม่ควรเอาใบหน้าที่ได้เปรียบใครๆมาเป็นวงการบันเทิง แต่ผมเหมือนดูจะได้นะ

ไดอารี่ของผม ผมบันทึกแสดงความบ้าบอของตัวเอง อยากเป็นนักเขียนครับ แต่ไร้ความรู้

และวันเสาร์ผมค้นหาคุณค่าจากการรับฟังที่เพื่อนบอก ปรากฏว่า ผมเกือบจะไปอาร์เอสแล้ว แต่มีคนบอกว่าเสาร์อาทิตย์ไม่มีใครในอาร์เอสหรอก นอกจากรปภ

โชคดีที่สถาบันสอนร้องสอนดนตรีอยู่ในหมู่บ้านใกล้เคียง เจเจเดอะสตาร์เป็นครูด้วยเพราะอยู่ใกล้สถาบัน แต่ผมไม่เจอเจเจ เพราะธุรการบอกว่าเจเจติดถ่ายละครจึงไม่อยู่ที่สถาบันแล้ว

ผมเข้ามาสถาบันนี้จากคำแนะนำของร้านตัดผม แต่ผมนึกว่าจะเป็นสถาบันที่เขาทำให้แกรมมี่ อาร์เอสรู้จักผม มันแค่สถาบันให้ความมรู้

ใช่ครับ การฟังเพลงเยอะเกินไปจนประสบปัญญหาสติสตางค์ ผมได้ดีทางเสียงครับ เสียงคุกกี้เหมือนป้าง นครินทร์ มีโอกาสรุ่ง เพราะคำชมของครูสอนร้องเพลงซึ่งเป็นเพื่อนกับเจเจเดอะสตาร์ยอมรับความสามารถทางนี้

เพื่อนใหม่ที่เป็นวิศวะกรไฟฟ้าติดต่อมาวันเดียวแล้วไม่ได้ติดต่อกันอีก ผมไม่กล้าบอกเขาว่า ไม่เป็นโปรแกรมเมอร์หรอก ที่จะให้ผมอยู่เบื้องหลัง ตอนนี้ผมจะเป็นนักร้องออทิสติคซึ่งงานอย่างนี่มันเบื้องหน้าสังคมเลย

เมื่อรายการทีวีมีรายการหน้ากากนักร้อง มันจึงเป็นแรงบันดาลใจที่ผมจะเป็นนักร้อง คุกกี้คามุอิจะแจ้งเกิดทางวงการบันเทิง


ครับ ตอนที่เข้าสถาบันผมรู้แน่ๆว่า แม่ไม่ยอมรับ จึงแอบผ่อนเงินตัวเองเพราะตั้งใจเรียนทางนี่ พอท่านรู้ ท่านก็เหมือนจะส่ายหน้าให้ทางนี้ " ลูกเรียนไปทำไม" แต่ก็จ่ายค่าเรียนให้

อยากให้มีคนยอมรับว่า ผมบ้าไปทางนี้มานานแล้ว

ท่านแม่ไม่เชื่อด้วยว่าครูที่สอนเขาชมผม

เพราะท่านแม่ก็วัยเกษียณ สุขภาพไม่เอื้ออำนวยที่จะเดินทางไปเห็นกับตา แต่เพราะมีท่าน ผมจึงมีเงิน(ส่วนฝ่ายบิดามีการศึกษาที่สูงกวามารดา แข็งแรงกว่า เงินจะมีเยอะ แต่ท่านไม่เลี้ยงผมให้เงินผมเหมือนท่านมารดา)



ผมมัน 29 จะ 30 ปีแล้ว ขอให้เส้นทางที่ผมเลือกไปมันดี

เห็นว่า ใครจะทำงานร้องเพลงต้องส่งเดโมตัวเองเขาจะไปพิจารณาแล้วติดต่อ

เอาล่ะครับ สุดท้าย คนบ้าคนออทิสติคอย่างผมดูไม่มีเพื่อนแท้จริงเป็นของตัวเอง ยังหาคุณค่าตัวเองจากการร้องเพลง ไม่ใช่โปรแกรมเมอร์ที่เพื่อนใหม่ที่ดูแล้วไม่เหมาะเป็นเพื่อนผมเลย มาแนะนำอะไรอื่นๆ

เสียใจ ผมรักษาเพื่อนแท้ไม่ได้เลย วิศวะกรไฟฟ้าเขาคงจะไม่รับฟังผมอีก ผมจึงไม่กล้าโทรหาเขา

ผมอยากทราบความเห็นจัง

 

คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
5.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา