เด็กชายกับปู่โสม(เฝ้าทรัพย์)

8.7

เขียนโดย นิกซ์

วันที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2560 เวลา 21.42 น.

  10 ตอน
  9 วิจารณ์
  14.96K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 31 มกราคม พ.ศ. 2561 14.13 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น

แชร์เรื่องสั้น Share Share Share

 

9) ตอนที่ 8 การตัดสินใจและเหตุผล

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
เมื่อมาถึงหน้าห้องๆหนึ่งที่เขียนว่า‘ห้องซ่อมอาวุธ’ก็พบกับพายุที่ยืนรออยู่ก่อนแล้ว เค้าทักขึ้น”ไง กาแฟ”
เจ้าหมาตัวโตทักตอบ”ไง มาซื้อหรือมาซ่อมล่ะ”
“ทั้งสองอย่างน่ะ แล้วพาวาโยมาทำไม”
“มาขอคาถาวาจาจตุบาทน่ะ”เจ้ากาแฟใช้อุ้งเท้าตะกุยประตูอยู่ครู่
“เข้ามา”
พอเข้าไปในห้อง ก็พบว่า ภายในห้องนั้น มีตู้กระจกที่มีอาวุธมากมายหลายแบบวางอยู่ ทั้ง มีดหมอ ดาบ ธนูและขวาน และสิ่งที่ดึงดูดใจของวาโยมากที่สุดคือ หน้ากากยักษ์ที่มีแค่ครึ่งหน้า โดยมีแค่ครึ่งล่าง “นั่นหน้ากากยักษ์”
เด็กหนุ่มหันไปหา ก็พบกับชายหนุ่มที่ประมาณยี่สิบ ผมยาวรวบต่ำ ผิวขาว ท่าทางสำอาง เพราะชุดที่สวมดูเนี๊ยบมาก
“เอ่อ…คือ”
อีกฝ่ายยิ้มให้ พายุรีบยกมือไหว้ทันที”หวัดดีครับ พี่ราม”
คนที่ชื่อรามยิ้มให้อย่างเป็นมิตร”ชั้นชื่อชัยราม อายุ 20 เรียกว่า พี่ราม ก็ได้นะ พี่เป็นหัวหน้าหน่วยอินทร์เทพรักษา”
“หน่วยอินทร์เทพรักษา?”
พายุยิ้ม ก่อนจะอธิบาย”เป็นหน่วย พยาบาลของมือปราบวิญญาณน่ะ แต่พี่บัวเค้าไม่ได้เป็นหรอกนะ เพราะเค้าเป็นมือปราบ แต่มีความสามารถ ใช้คาถาฟื้นฟูวิญญาณได้”
“งั้นเหรอครับ”
รามยิ้มให้”สนใจหน้ากากยักษ์สินะ นั่นน่ะ คืออาวุธใหม่ที่ผ่านการลองใช้มาแล้ว มีหนูทดลองดี”
พายุถามบ้าง”มันทำอะไรได้บ้างล่ะครับ”
“ก็ถ้าอันสีเขียวก็เพิ่มกำลังกายห้าเท่า มีอันสีม่วงจะช่วยให้ดำน้ำได้อึดมาก นานสุดยี่สิบชั่วโมง”
สองหนุ่มผู้อ่อนเยาว์ทำตาโต
เจ้ากาแฟเอ่ยขัด”แล้ววุธไปไหนซะแล้วล่ะ”
“ไปซื้อข้าวน่ะ นี่จะเที่ยงแล้วนะ อ้อ เรื่องหน้ากากยักษ์น่ะ คนภายนอกที่ไม่มีจะมองแต่ว่ามันเป็นผ้าปิดปากเท่านั้นแหละ สะดวกดีนะ”
พายุยิ้ม”ราคาเท่าไหร่ล่ะครับพี่ แล้วข้อเสียล่ะ”
“ราคาก็…อันละสามหมื่นห้า ข้อเสียน่ะมีแน่ นี่คือหน้ากากยักษ์เรียกพลังนะ นี่เป็นของที่จะช่วยดึงกำลังของมนุษย์มาใช้ พอใช้เสร็จร่างกายของผู้สวมจะหมดแรง ขยับไม่ได้”
พายุถามบ้าง”กี่วันครับ”
“ก็…มันขึ้นอยั่บว่า นายเอาไปใช้นานแค่ไหน อย่างหนึ่งชั่วโมงก็หมดแรงหนึ่งวันนะ”
วาโยตาลุกวาว”สุดยอด อยากได้”
รามเข้าไปจับไหล่ของวาโย”มากับชั้นสิ จะพาไปดูอาวุธอื่นๆอีกนะ น่าสนทั้งนั้น”
วาโยไปดูอาวุธต่างๆพร้อมพายุและกาแฟ เค้ารู้สึกชอบเสียเหลือเกิน เพราะอาวุธเหล่านั้นได้รับการปรับปรุงขึ้นมาใหม่ทำให้ดูสวย ดึงดูดใจมาก และที่เค้าสนใจที่สุดคือ ดาบวัชระปักษา เป็นดาบใหญ่ที่ทำจากเหล็กนวโลหะ
วาโยนึกสงสัย“นวโลหะ คืออะไรครับพี่ราม”
“เคยได้ยินเรื่องเหล็กสัตตะโลหะไหม”
“ในเรื่องไกรทองสินะครับ เรื่องเหล็กนี้ อาจารย์ปู่โสมเคยเล่าให้ฟังครับ เป็นเหล็กที่ดีกว่าเหล็กน้ำพี้มากๆเพราะหลอมจากธาตุศักดิ์สิทธ์ 7 ชนิด”
“อืม ภูมิดีนี่นาความรู้ดีนี่นา ถูกแล้ว แต่นวโลหะจะผสมเหล็กอีกสองชนิดนะ คนอื่นจะเป็นยังไงเราไม่รู้แต่ ขององค์กรเราจะใช้ทองคำขาวกับทองคำดำ”
พายุขัดขึ้น”ทองคำดำ ไม่มีจริงหรอก”
วาโย”หมายความว่ายังไง”
“พี่อยู่จังหวัดตากนะ พี่เองก็เคยตามตาไปพม่าออกบ่อยเพื่อตามหาไอ้แร่ชนิดนี้แหละ เคยเห็นของจริงมาแล้ว ราคาสูงมาก ทองคำดำ หรืออีกชื่อคือหินกินเหล็ก แค่นิดเดียวก็สามารถทำลายเหล็กได้ แต่ของจริงนั้นหาได้ยากมาก ของลวงก็เยอะ มันจะเอาไปรวมกับธาตุศักดิ์สิทธิ์ที่เหลือได้ยังไงครับ”
รามหัวเราะเบาๆ”ก็มันถูกหลอมด้วยพลังวิญญาณและคาถาอาคม และขนของพญาปักษา อาวุธชิ้นนี้ยังไม่มีเจ้าของ”
วาโยถามทันที”ราคาเท่าไหร่ครับ”
เจ้ากาแฟท้วงทันที“นี่ไม่ใช่ของสำหรับขายนะ มันคืออาวุธศักดิ์สิทธิ์นะ”
พายุมองดาบที่อยู่ในตู้กระจก”มิน่า แต่ทำไมมันถึงมาอยู่ในห้องนี้ได้ล่ะครับ”
รามยิ้ม”ก็อีกไม่นาน จะมีพิธีจ้าวศาตรานี่นา ก็ดาบเล่มนี้แหละ เลยต้องนำมาตรวจสภาพ อาวุธชิ้นนี้ แมวอ้วนต้องมาช่วยด้วยนะเนี่ย”
สองหนุ่มทวนคำพร้อมกัน”แมวอ้วน?”
“ผู้สืบทอดตำแหน่งของชั้น หน่วยอินทร์เทพฯน่ะไม่เหมือนกับมือปราบฯเพราะหน่วยเราต้องมาทำงานที่นี่คนละสองเดือน พลัดกัน”
วาโยนึกสงสัย“ต้องทำงานทุกวันเหรอครับ”
“ใช่ เพราะบางครั้งต้องฟื้นฟูพลังวิญญาณให้กับมือปราบฯที่มาทำหน้าที่หรือทำภารกิจน่ะนะ”
วาโยนึกสงสัย“แมวอ้วนมีอะไรที่เป็นพิเศษรึเปล่าครับ”
“มีอยู่แล้ว เค้าคือ Death Massenger เชียวนะ”
พายุหันไปถามวาโยทันที”เค้าหน้าตาเป็นไงเหรอโย”
“ไม่เห็นหน้าครับ เค้าสวมหน้ากากอนามัย แต่รู้ว่าเป็นผู้หญิง ตัวสูงพอดู ถามทำไม”
“คนๆนี้ คือเปรียบเสมือนหัวใจขององค์กรเชียวนะ เค้าน่ะมองเห็นอนาคตได้แม่นราวกับตาเห็น เป็นรองหัวหน้าแล้วเหรอครับ”
“ใช่ เพิ่งได้ตำแหน่งน่ะนะ เค้าก็อายุน้อยกว่าวาโย ปีหนึ่ง”
พายุยิ้มกว้าง”ว้าว เพิ่งเข้าองค์กรแค่เดือนสองเดือนเองนะครับ
วาโยเค้นยิ้ม”นี่แสดงว่า เค้ารู้ว่าผมจะทำภารกิจได้ใช่ไหม”
รามยิ้ม”ใช่ เค้ามองเห็นว่านายจะทำความลับรั่ว เลยต้องเอาสายสิญจน์มารัดคอเอาไว้ มันทำให้นายได้รู้จักองค์กรเรามากขึ้นนะ”
ยังไม่ทันที่สามหนุ่มจะคุยอะไรต่อ “ข้าวเที่ยงมาแล้ว”คฑาวุธเข้ามาในห้องโดยที่สองมือถือของมามากมาย”ไอ้รามช่วยถือดิ”
“เออ ซื้อมาทำไมตั้งเยอะแยะ”
“กูอยากกินชัดไหม”
“ครับ คุณเพื่อน”
หนุ่มเจ้าสำอางรีบนำจานจากในตู้ออกมา พร้อมนำอาหรมาเทใส่ วุธจึงเอ่ยชวนรุ่นน้องทั้งสอง”กินด้วยกันสิ ไม่ต้องกลัว ไม่ได้ใส่ยาอะไรไว้”
วาโยเอ่ยขึ้น”รู้ด้วยนะครับว่าผมน่ะ ระวังตัว”
“เออ แกกับแมวอ้วนมันก็ไม่ต่างกันหรอก ขี้ระแวงพอกัน ไอ้แมวน่ะ มันเป็นผู้หญิงพอเข้าใจแต่แกเป็นผู้ชายนะหัดใจกล้าบ้างสิวะ”
วาโยนั่งลงที่โซฟาตรงข้ามกับชายหนุ่มรุ่นพี่ไม่ได้พูดอะไร
รามนำน้ำที่ใส่แก้วมาวาง ก่อนจะไปนั่งข้างๆเพื่อนซี้ “เฮ้ย กินๆเถอะ เดี๋ยวเย็นหมด เสียของ”
วาโยมองดูแล้วเห็นว่าไม่เป็นไร จึงกินบ้าง
หลังจากกินเสร็จ พายุจึงอาสาล้างจานให้
วาโยจึงเอ่ยธุระของตนทันที”ผมอยากจะขอ…”
คฑาวุธเอ่ยขึ้น”คาถาวาจาจตุบาทสินะ ได้สิ”
ชัยรามทำตาโต”เฮ้ย ได้ไง ถ้าไอ้เด็กนี่มันไม่เป็นมือปราบล่ะ”
“ก็ลบความจำจบ หลังจากนั้นไปตบกบาลแมวอ้วนสักที”
และแล้วก็มีเสียงข้อความเข้า ‘จะตบหัวใคร!!’
“เร็วดีนะแมวอ้วน”ชายหนุ่มส่งข้อความตอบ’ล้อเล่นน่า พี่ไม่กล้าหรอก’
วาโยจึงเอ่ยถาม”ให้ได้ไหมครับ”
“ได้ๆ”
“เอ่อ…แล้วมันจะได้ผลกับแมวไหมครับ”
“หื้อ?ก็ไม่สินะ แต่มันเป็นคาถาเสกให้สัตว์สี่เท้า แมวก็ไม่น่าจะเป็นปัญหา แต่ชั้นไม่เคยลอง จะลองก็ไม่เสียหาย ถ้าเกิดปัญหา ชั้นจะติดต่อไป”
“หมายความว่ายังไงครับ”
“แมวอ้วน เค้าจะช่วยนายเอง”
ชัยรามแขวะ”แหม เรียกซะหมดความน่าเกรงขามเลยนะ”
“น่ารักออก”คฑาวุธส่งสมุดข่อยเล่มเล็กให้”ใช้ให้ดีนะ แล้วนายจะเข้าใจว่าหมามันพูดได้ มันก็…ไม่ได้เลวร้ายอะไรนัก”
กาแฟที่นอนหมอบข้างๆเจ้าของบ่น”กูพูดได้ไม่ได้ ก็มีค่าเท่ากัน ซื้อแต่อาหารเม็ดจืดๆ ไก่ปิ้ง ตับย่าง ไม่เคยซื้อให้เลย!”
คนเป็นเจ้าของยิ้ม”ชั้นรักแกนี่นา ไม่อยากให้ขนร่วงเต็มบ้านนะเว้ย ทำความสะอาดมันเหนื่อยนะ แกขนย๊าวยาว ร่วงที หยั่งกะโรงงานผลิตขน”(จริง เรื่องนี้จริงสุดๆ หมาของนิ๊กว์เมื่อก่อน กินแค่ข้าว พวกมันคือ โรงงานผลิตขนชัดๆ โดยเฉพาะนังฟังทอง หมาหางพวง พลัดขนที โอ้โห ขนเรี่ยราด ถ้าอยากรู้จักกับหมาของนิกซ์ พิมพ์เลย สำหรับชั้นแกคือเพื่อนแท้2 : นิกซ์)
วาโยชั่งใจก่อนจะนำสมุดข่อยอันนั้นใส่กระเป๋ากางเกง
พายุที่ล้างจานเสร็จก็เอ่ยขึ้น”เดี๋ยวพี่ไปส่ง”
“รบกวนด้วยครับ”
เมื่อกลับมาถึงหอพัก สองดำต่างกระโจนใส่เค้า “จ้าๆรู้หรอกว่าคิดถึง”
เด็กหนุ่มเล่นกับสองดำอยู่สักพักก็ไปแกะนมแพะอัดกระป๋องสำหรับสัตว์เลี้ยงเทใส่ชามสัตว์เลี้ยง สองดำรีบไปกินของโปรดทันที เค้ามองสัตว์เลี้ยงกินของโปรดด้วยความรัก ก่อนจะนำสมุดข่อยมาอ่าน …ไม่ลองก็ไม่รู้…ว่าแล้วเด็กหนุ่มก็สำรวมจิต ตั้งนะโมสามจบแล้วว่าคาถา ตามอักขระในสมุดข่อย
ไม่นาน เมื่อว่าคาถาเสร็จ
เด็กหนุ่มมองดูสองดำที่กินนมแพะอัดกระป๋องก็ส่ายหน้า “คงพูดไม่ได้หรอก”
“อร่อยจัง”เสียงหวานๆดังแว่ว
“อย่ามูมมามสิ”เสียงเข้มดังตาม
วาโยทำตาโต ก่อนจะตั้งสติแล้วลองเรียก”ทองดำ…กรุ๊งกริ๊ง”
สองดำหันมา”จ๋า…”
เจ้าแมวโกนจาหันไปหาหมาดำ”เราพูดได้แฮะ”
เจ้าหมาดำบ่น“เออ เช็ดปากเถอะ ทุเรศ”
เจ้าแมวดำใช้อุ้งเท้าเช็ดปากที่เลอะนมอย่างลำบาก
“มาสิกรุ๊งกริ๊ง เดี๋ยวพ่อเช็ดปากให้”
ทองดำพ่นลมหายใจ”เฮอะ ยัยนี่มันได้ใจใหญ่ ว่าแต่ นายทำให้เราพูดได้ยังไงกัน”
วาโยใช้ชายเสื้อเช็ดปากของเจ้าแมวดำอย่างอ่อนโยน “มีคนให้คาถาดีๆมาน่ะ”พอมองที่ปฏิทินก็เห็นว่าเป็นวันหยุด”จะติดต่อกับพี่พายุได้ไงวะเนี่ย แต่Hell city จะไปยังไงเนี่ย”
วันต่อมา…
พายุได้มาจอดรถรอวาโยที่หน้าหอพัก ซึ่ง วาโยเพิ่งกลับจากวิ่งจ๊อกกิ้งในยามเช้าพร้อมๆกับสัตว์เลี้ยง
“ไงๆ ไปด้วยกันไหม”
“ขอไปล้างหน้าก่อนนะครับ”
“ได้ๆ รอได้”
ผ่านไปสิบนาที วาโยก็ล้างหน้าเปลี่ยนชุดจาดชุดวอมเป็นชุดไปรเวรธรรมดา เป็นเสื้อคอปกสีขาวและกางเกงขาสามส่วนตัวเก่ง โดยมีสองดำตามมาด้วย
พายุขับรถไปอย่างอารมณ์ดี”คำตอบล่ะ ไอ้น้อง”
วาโยยิ้มก่อนจะเอาเจ้าแมวดำมากอด
พายุลอบมอง”คาถาไม่ได้ผลเหรอ”
วาโยส่ายหน้าด้วยรอยยิ้ม”ได้ผลดีครับ ใช่มั้ยคนสวย ใช่มั้ยคนเก่ง”
สองดำขานรับพร้อมกัน”ใช่”
เด็กหนุ่มรุ่นพี่ยิ้มด้วยรู้คำตอบของน้องใหม่
วาโยเอ่ยถามทันที”อีกกี่วันจะมีพิธีจ้าวศาตรา ล่ะครับ”
“ก็น่าจะ สองเดือนนะ”
“เหรอครับ”
หลังจากที่พายุพาวาโยไปที่บริษัทHell city แล้ว วาโย ศิริกุล ก็ตอบตกลงเป็นมือปราบวิญญาณทันที โดยเค้าเลือกคู่หูเป็นเจ้าหมาแมว สัตว์เลี้ยงของเค้าเอง เป็นเหตุให้เค้าต้องทำพิธีถ่ายวิญญาณเพื่อให้สองดำสามารถใช้สู้ได้
ระหว่างที่กำลังเตรียม คฑาวุธนึกสงสัย ว่าอะไรคือเหตุผลที่ทำให้ วาโย ยอมตกลง
“ไง”
“สวัสดีครับ พี่วุธ”เด็กหนุ่มยกมือไหว้
ผู้เป็นรุ่นพี่รับไหว้ “ขอถามอะไรหน่อยสิ”
“ครับ?”
“ทำไมแกถึงตกลงวะ”
วาโยยิ้มเย็น”แมวอ้วน…ยัยนั่น พูดถูก ผมหลงใหลในไสยศาสตร์ ผมหลงจนไม่อาจถอนตัวได้ ผมกลัวว่าทุกคนจะตีจาก…ถ้ามีใครรู้ความจริงของผม การเป็นมือปราบวิญญาณคือทางออกครับ”
อีกฝ่ายยิ้ม”เหตุผลน่าสนใจนะ”
“มีเหตุผลอื่นด้วยเหรอครับ”
“ก็อย่างพายุ เค้าทำเพื่อเงิน เพราะตาของเจ้านั่นเป็นมะเร็ง ดีที่มันมีวิชา เลยดึงตัวมา”
“รู้ดีจัง”
“ก็นะ ชั้นนี่แหละเป็นคนชวนมันมาเอง ทำใจให้พร้อม พิธีกำลังจะเสร็จ และนี่องค์กรให้นาย สำหรับงาน อย่าใช้เรื่องส่วนตัวเด็ดขาด ค่าโทร ทางองค์กรจะหักเอากับเงินสำหรับภารกิจ”คฑาวุธส่งกล่องโทรศัพท์สมาทร์โฟนให้
วาโยนำกล่องโทรศัพท์มาเปิดดู ภายในเป็นสมาทร์โฟนรุ่นใหม่ล่าสุด”ขอบคุณครับ”
หลังจากนั้น วาโยได้พาสัตว์เลี้ยงสองตัวไปทำพิธีถ่ายวิญญาณ ถามว่าพวกมันเต็มใจไหม บอกได้เลยว่า ยิ่งกว่าเต็มใจเพราะเจ้านายของมันต้องการเข้าองค์กรนี้ พวกมันก็ยินดีที่จะช่วย
เมื่อพิธีเสร็จสิ้น สัตว์เลี้ยงทั้งสองนึกอยากลองแปรงร่างเป็นมนุษย์ดู จึงนึกในหัว งานนี้ทำเอาทุกคนที่ช่วยทำพิธีให้อย่างพายุ คฑาวุธ ชัยราม หรือแม้แต่วาโยยังตะลึง
กรุ๊งกริ๊ง แมวดำพันธุ์โกญจา กลายร่างเป็นสาวสวย หุ่นสมส่วน ผิวสีน้ำผึ้ง ผมยาวสีดำเหยียดตรง ใบหน้าสวยเฉี่ยว เธอสวมชุดเสื้อกล้ามสีดำ กางเกงขาสามส่วนสีเดียวกัน สวมรองเท้าส้นสูงสีดำ
ทองดำ สุนัขพันธุ์ผสม กลายเป็นชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ ผิวคล้ำ หน้าตาหล่อคมเข้ม ผมยาวละต้นคอ สวมเสื้อยืดสีดำ กางเกงยีนส์ และรองเท้าผ้าใบ
วาโย”แม่เจ้า หล่อกว่ากูอีก ไอ้ดำ”
คฑาวุธกับพายุเริ่มทำเจ้าชู้ใส่นางแมวสาวในร่างมนุษย์”สวย เซ็กซี่”
นางแมวมองดูตัวเอง”เรามนุษย์ได้แล้ว”
เจ้าหมาในร่างคนมองอย่างหมั่นไส้แล้วแขวะ “เธอยังน่ารำคาญไม่เปลี่ยน”
นางแมวกระทืบเท้าใส่”ว่าไงนะ!”
“ไม่ว่าไง”
วาโยจำต้องห้าม”นี่ๆใจเย็นๆ ทำไมกลายเป็นคนหนุ่มสาวได้ล่ะ”
คฑาวุธอธิบาย”ก็อายุเจ้าพวกนี้มันไม่ใช่เด็กๆแล้วนะ แต่พิธีนี้จะทำให้สัตว์อาคม อยู่ในร่างอายุยี่สิบห้าเพื่อความสะดวก ไม่นึกว่าแมวจะกลายเป็นสาวสวยแบบนี้นะ”
ชัยรามนึกบางอย่างได้”จริงด้วย หน้าตาของสัตว์พวกนี้จะเหมือนคน ตอนที่พวกมันเคยเกิดเป็นคนนะ”
สองดำที่ตอนนี้กลายร่างเป็นคนมองตาแป๋ว
วาโยเอ่ยขึ้น”งั้นเพื่อตัดปัญหา อย่ากลายร่างโดยไม่จำเป็น”
แมวสาวโวยใส่”ไม่เอาอ่ะ เค้าอยากไปหา ดารา นาเดช อ่ะ”
วาโยต้องปราบ“กรุ๊งกริ๊ง อย่าดื้อ ดูทองดำสิ”
“ผมเองก็อยากไปเจอดารายาหยี๋บ้าง”
เด็กหนุ่มน่าจะไม่ลืมว่าไอ้สองดำมันเเสนรู้ ชอบดูละครเหมือนคน เค้าจำต้องงัดไม้เเข็งมาใช้“พอกันเลย ถ้าดื้อ อดนม อดขนม!”
งานนี้ สองดำยอมคืนร่างกลายเป็นหมาและแมวตามเดิม
“เออ ให้มันรู้มั้ง ว่าใครใหญ่”
แมวดำหมาดำบ่นพร้อมกัน”ชิ!ดูในทีวีก็ได้”
 
 
มาอัพแล้วค่า ถ้าชอบโปรดเม้นด้วยนะ อิอิ

 

คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.5 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา