ยินดีที่ไม่รู้จัก
6.3
เขียนโดย zeeto
วันที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2560 เวลา 19.42 น.
8 ตอน
0 วิจารณ์
11.40K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2560 22.48 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น
2) วันแรกของทริปนี้
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ “อาบน้ำเสร็จแล้วก็เก็บของไปได้แล้วนะ” ผมมองหน้าเจ้าของห้องที่นั่งอยู่บนเตียงนอนมองมาที่ผมที่พึ่งจะอาบน้ำเสร็จยังไม่ทันได้เช็ดตัวแต่งตัวให้เรียบร้อยก็ไล่กันเสียแล้ว “นายตื่นนานแล้วหรอ” “เปล่า...แต่ยังไม่ได้นอนต่างหากคนแปลกหน้าไม่รู้จักมาอยู่ในห้องถ้าฉันหลับลงซิแปลก” “พูดจาใจร้ายว่ะ...ฉันก็บอกแล้วไงว่าฉันชื่อฟลุค อ๋อจริงด้วยฉันมาจากเชียงใหม่เห็นไหมง่ายๆแค่นี้เราสองคนก็รู้จักกันแล้ว” “ถามฉันซักคำไหมว่าอยากรู้จักหรือเปล่า” “นายก็แค่บอกชื่อฉันมาว่านายชื่ออะไรแค่นั้นเอง” “เฮ้ย..ที่พูดอยู่เนี้ยคือฉันไม่ได้อยากรู้จักนายรีบๆแต่งตัวแล้วก็ออกไปจากห้องฉันได้แล้ว” เฮ้อ...นี้ผมต้องยอมแพ้เจ้าของห้องคนนี้จริงๆหรอทั้งที่ผมว่าผมกับเขาก็หน้าจะเป็นเพื่อนกันได้แท้ๆ อีกอย่างเขาดูไม่มีพิษภัยอะไรมันก็ดีสำหรับทริปคนเดียวแบบไม่มีอะไรของผมจริงๆนะ “นายจะให้ฉันไปจริงๆหรอ” “เออ...รีบๆเก็บแล้วก็ไปซ่ะ” “เฮ้อ...คนต่างจังหวัดคนเดียวไม่มีเพื่อนไม่มีญาติมาเที่ยวคนเดียวแบบนี้ฉันจะทำยังไงดีละจะไปพักที่ไหนจะไปเจอคนที่ดีแบบนายได้ที่ไหนอีกเฮ้อ....”
เสียงถอนหายใจนับครั้งไม่ถ้วนทำเอาผมที่นั่งเล่นเกมส์มือถือต้องปิดเกมส์ก่อนจะหันไปมองคนที่ค่อยๆจัดกระเป๋าเก็บของท่าทางหน้าเศร้าๆบนหน้าตาที่หวานไม่ต่างจากผู้หญิงแบบนั้น “เก็บของเสร็จแล้วก็รีบไปซิ” “อือ...ฉันไปก็ได้ขอบคุณนะที่ให้นอนด้วยเมื่อคืนแล้วก็ถ้าฉันเป็นอะไรไปนายช่วยตามหาฉันด้วยนะเพราะที่นี้ตอนนี้ฉันก็มีแค่นายที่รู้จักคนเดียว” แล้วคำพูดอะไรของหมอนี่ว่ะพูดเหมือนผมไล่เขาไปลงสนามลบแล้วจะไม่ได้กลับมาอย่างนั้น ไหนจะท่าทางแบบนั้นอีก โถ่โว้ย.... “นายมาเที่ยวกี่วัน” “ห่ะ?...นายถามฉันหรอ” “เออ..ตกลงมาเที่ยวกี่วัน” “อาทิตย์หนึ่ง...” “ก็ได้ฉันให้นายอยู่ที่นี้ก็ได้แต่ฉันไม่พานายเที่ยวหรอกนะถ้าอยากไปไหนก็ไปเองฉันจะให้นายนอนที่คอนโดด้วยเท่านั้น” “จริงหรอ...พูดจริงๆนะ” “เออ...” “ขอบใจมากนะ....” ไม่พูดเปล่าคนดีใจกระโดดมากอดผมแน่น ผมละเบื่อตัวเองจริงๆทำไมต้องมาแพ้ความน่าสงสารของคนคนนี้ด้วยนะ ก็จะไม่ให้อดห่วงได้ไงว่ะหน้าหวานตัวบางๆอย่างนั้นถ้าโดนใครทำร้ายมาผมก็ต้องรู้สึกผิดไปตลอดชีวิตจริงไหมละ แค่คนต่างจังหวัดคนเดียวที่มาขอความช่วยเหลือผมยังช่วยไม่ได้ เฮ้อ....
สถานีรถไฟฟ้าตรงนี้ๆๆ...ตรงนี้ที่ไหนว่ะผมมองหาป้ายทางขึ้นสถานีพร้อมพงษ์หรองั้นถ้าจะไปจัตุจักรไปไงว่ะ จะถามใครดีละ ไม่รู้จักใครซักคนจริงด้วยโทรไปถามดีกว่านายนั้นหน้าจะบอกได้ว่าต้องซื้อบัตรขึ้นยังไง (ว่าไง) “ฉันจะไปจัตุจักรอ่ะแต่ฉันซื้อบัตรขึ้นรถไฟไม่เป็น” (นายก็ดูที่เส้นทางตรงข้างๆว่ามันต้องหยอดเงินเท่าไรจากนั้นนายก็กดเลือกที่จะไปแล้วก็หยอดเหรียญหรือไม่ง่ายๆก็เดินไปต่อคิวซื้อบัตรที่พนักงานเลยบอกเขาว่าจะไปไหนแล้วก็จ่ายตัง) “อ๋อ...โอเคๆขอบใจมาก” มันก็ไม่ได้ยุ่งยากนี่ความจริงมองคนที่เขาซื้อก็ได้แล้วก็ทำตาม ง่ายเหมือนกันหลังจากได้บัตรเรียบร้อยแล้วผมก็เดินเข้ามาด้านใน ว่าแต่ผมต้องขึ้นบันไดไปทางไหนซ้ายหรือขวาละ ไปจัตุจักรก็ต้องไปหมอชิตๆ ไอ้ฟลุคมึงโคตรฉลาดเลยว่ะเมื่อตรวจสอบทางที่ตัวเองจะไปเป็นที่เรียบร้อยผมก็รีบเดินขึ้นบันไดไปขึ้นรถไฟฟ้าทันที นี้แหล่ะทริปแรกของผม วันที่1 กับการไปจัตุจักร ส่วนตอนเย็นหรอผมอยากไปกินบะหมี่ที่เยาวราชจังเลยเห็นในพันทิปบอกว่ามีร้านเก่าแก่อร่อยถ้ามาต้องไปลองเพราะฉะนั้นผมจะไปลองตามที่พันทิปบอกแล้วกัน ก็แค่กรุงเทพมันจะไปยากไรว่ะมาจากเชียงใหม่ตั้งไกลยังมาได้แค่จะเที่ยวในกรุงเทพจิ๊บๆ
ไม่รู้ผู้ชายคนนั้นไปไหนของเขาบ้างแต่ท่าทางตั้งใจมาเที่ยวขนาดนั้นคงทำการบ้านเรื่องการเดินทางมาบ้างแหล่ะ คงไม่เซ่อซ่าหลงหรอกมั่งแค่นั่งรถไปตามที่จะไปมันจะยากอะไร แล้วผมจะมานั่งคิดเรื่องของไอ้ผู้ชายคนนั้นทำไมว่ะไปดูหนังดีกว่าช่วงนี้ได้ข่าวมัมมี่พึ่งเข้าโรงด้วย ไปดูที่ไหนดีว่ะ...ไปสยามดีกว่าเผื่อหาอะไรกินด้วยชวนไอ้ซิงกับไอ้แบงค์ไปด้วยดีกว่า เมื่อคิดได้ดังนั้นผมก็หยิบมือถือขึ้นมาทักไลน์กลุ่มไปหาพวกเพื่อนๆทันที “เฮ้ย...กูจะไปดูมัมมี่ไปด้วยกันป่ะ” (กูพาแฟนไปเที่ยวมึงถามไอ้ซิงดิว่างไหม) (กูว่างๆ...ว่าแต่มึงจะดูที่ไหน) “สยาม” (เออ..เจอกัน) “โอเค...ถึงแล้วโทรหากูด้วยตอนนี้กูกำลังออกจากคอนโด” (มึงเอารถไปหรือว่านั่งรถไฟฟ้าไปว่ะ) “นั่งรถไฟฟ้าดิขี้เกียจรถติด” (เออ...เดี๋ยวเจอกัน) มีไอ้ซิงมาดูเป็นเพื่อนแล้วเอาว่ะไปดูหนังแก้เครียดดีกว่าส่วนผู้ชายคนนั้นเดี๋ยวพอจะกลับมันคงโทรหาเองแหล่ะ TRRRRRRRR อะไรว่ะไอ้ซิงถึงสยามแล้วหรือไงผมหยิบมือถือขึ้นมาดูเพราะคิดว่าไอ้ซิงจะถึงสยามแล้วแต่ที่ไหนได้ “ว่าไง” (ฉันกำลังจะไปเยาวราช) “เออ...แล้วไง” (ตอนนี้ฉันอยู่จัตุจักรอ่ะต้องไปยังไง) “ก็นั่งMRTไปดิลงหัวลำโพงก็ถึงแล้ว” (MRTหรอ?...คืออะไร) “เออ...รถไฟฟ้าใต้ดิน...” (อ๋อ...โอเคๆหัวลำโพงใช่ไหม) “ใช่แค่นี้นะ” จะไปเยาวราชจากจัตุจักรมันไม่ได้ใกล้เลยนะนั้นนี้มันคิดว่าทริปรอบกรุงหรือไง จากอีกทางไปอีกทางจะหลงทางไหมว่ะ ช่างเหอะคงไม่หรอก TRRRRRR “อะไรอีก” (กูถึงสยามแล้ว) “ไอ้ซิง” (เออ...มึงอยู่ไหนแล้ว) “จะถึงแล้วเนี้ยมึงรอตรงไหน” (ทางเข้าพารากอนแล้วกันรีบมาละ ทางเข้าตรงประตูต่อจากรถไฟฟ้านะเว้ย) “เออ...”
“มึงเป็นอะไรของมึงไอ้กันกูเห็นนั่งหน้านิ่วคิ้วขมวด ชวนกูมาดูหนังเองแล้วไหงมานั่งทำหน้าบอกบุญไม่รับ” “เปล่าไม่มีไรแล้วนี้ได้รอบหนังตอนไหนว่ะ” “ทุ่มยี่สิบ...เหลือเวลาอีกเกือบชั่วโมงไปหาไรกินก่อนป่ะกูหิวแล้วเนี้ย” “ไปดิ...” ผมมองหน้าเพื่อนตัวดีที่ชวนผมมาแต่กับไม่มีทีท่าว่าอยากจะดูเอาเสียเลยทั้งที่หนังก็เป็นเรื่องที่รอให้เข้าโรงตั้งนานแล้วแท้ๆ “กินพิซซ่าไหมมึง...ไอ้กัน...ไอ้กัน” “ห่ะ...มึงว่าไรนะ” “กูถามว่าแดกพิซซ่าไหม” “เออได้หมด...เอาอะไรก็ได้มึงสั่งเลย” “สรุปพิซซ่านะ” ไอ้เพื่อนคนนี้มันแปลกๆ หรือว่าไอ้กันมีแฟนหรอ ไม่มั่งถ้ามีผมต้องรู้ดินี้ไม่เห็นเคยพูดถึงจะเป็นไปได้ไง “มึงเป็นไรของมึงเนี้ย” “เปล่า” “มึงมีแฟนหรอ” “บ้า...จะไปมีตอนไหนว่ะตัวติดกับมึงจนเขาคิดว่าเป็นผัวเมียกับมึงแล้ว” “ก็นั้นอะดิกูก็ว่าไม่เคยเห็นมึงจะมีแล้วนี้มึงเหม่ออะไร” “ที่จริงกูก็มีเรื่องแต่กูไม่รู้จะเริ่มเล่าให้มึงฟังยังไง” “ก็เล่าตั้งแต่แรก” “คืองี้นะ @%^#&*(*()#)*@))#)*&#*# ...เรื่องก็เป็นแบบนี้แหล่ะ" “เชี้ย!...แล้วมึงก็ให้เขาอยู่ด้วยเนี้ยนะ” “เออดิ..” “ไอ้กันมึงบ้าป่ะเนี้ยถ้าสมมติแม่งเป็นโจรขึ้นมาทำไงว่ะ” “ไม่หรอกมั่งท่าทางเขาก็ไม่ได้อันตรายขนาดนั้น” “มึงนี่มัน...กูอยากจะจับปลามาปั่นให้ละเอียดแล้วฉีดเข้าเส้นมึงจริงๆอย่างมึงคงกินไม่ทันแล้ว มึงไว้ใจได้ไงรู้จักก็ไม่ใช่ เป็นใครมาจากไหนก็ไม่รู้” “มาจากเชียงใหม่” “เออ...แล้วเอาไงละ” “ก็เขาบอกว่าแค่เจ็ดวันเดี๋ยวก็กลับแล้ว” “กูละปวดหัวกับมึงจริงๆ...ช่างเหอะพิซซ่ามาละกินๆไว้ค่อยว่ากันแล้วกันก็ตอนนี้เขาไม่ได้อยู่ที่คอนโดคงไม่เป็นไรมั่ง” “อือ”
ที่นี้หรอเยาวราชถ่ายรูปๆ มาทั้งทีต้องเก็บภาพ อันนี้หัวลำโพงรถเยอะมากเลยข้ามถนนค่อนข้างยากแต่มาทั้งทีต้องกินให้ครบ บะหมี่ร้านอยู่ตรงนั้นในรูปตามนี้เลยวันนี้จะมากินบะหมี่ร้านที่คนรีวิวในพันทิปดูนะว่าอร่อยอย่างที่เขาบอกจริงๆไหม หลังจากที่ผมสั่งบะหมี่มากินอย่างเอร็ดอร่อยแล้วก็เดินถ่ายรูปเก็บบรรยากาศของเยาวราชในตอนกลางคืน ยอมรับเลยว่าของทุกอย่างค่อนข้าราคาสูงแต่มันก็อร่อยดีไม่ว่าจะเป็นของหวานของคาวมันอร่อยจริงๆ คนก็เยอะยิ่งนักท่องเที่ยวต่างชาติดูสนุกกับการเดินที่นี้จริงๆ ว่าแต่ตอนนี้กี่โมงแล้ว สี่ทุ่มกว่า... เอาแล้วไงว่าแต่ตอนนี้ผมอยู่ส่วนไหนของเยาวราชว่ะมองไปทางไหนก็เหมือนๆกันหมดเลย กลับยังไงว่ะถ้าขึ้นแทกซี่จะโดนหลอกอย่างที่เป็นข่าวไหม เอาไงดีว่ะ TRRRRRRRRR เหมือนกับสวรรค์เข้าข้างผมหยิบมือถือขึ้นมาดูก็เห็นว่าเป็นเบอร์เจ้าของห้องที่ผมอาศัยอยู่ด้วยตอนนี้โทรเข้ามา (นายจะกลับตอนไหน) “คือฉันก็อยากกลับนะ” (พูดอะไรของนายตกลงตอนนี้อยู่ไหน) “เยาวราชแต่ฉันหาทาง...” ตรู๊ดๆ ตรู๊ดๆ แบตหมดโถ่โว้ย...เอาไงว่ะเนี้ยไปไงต่อว่ะ
แบตหมดหรอว่ะผมพยายามติดต่อกลับไปแต่ก็ไม่สามารถติดต่อได้แล้วแต่ที่แน่ๆประโยคสุดท้ายที่ได้ยินหมอนั้นบอกว่าอยู่ที่เยาวราช อย่าบอกนะว่าออกจากที่นั้นไม่เป็น โถ่เว้ย....ผมรีบคว้ากุญแจรถและกระเป๋าสตางค์ก่อนจะปิดห้องแล้วรีบออกตามหาผู้ชายคนนั้นทันที เยาวราชคนก็เยอะจะไปหาที่ไหนได้ว่ะ รถก็ขับยากผมค่อยๆวนรถหาแต่แบบนี้ผมจะเจอได้ไงอย่างน้อยๆต้องหาที่จอดรถก่อนเพราะถ้าขับรถแบบนี้ไม่มีทางหาเจอแน่ๆ เมื่อวนหาที่จอดรถได้แล้วผมก็รีบออกเดินตามหาผู้ชายคนนั้นทันที อย่างน้อยๆเขาคงต้องหาที่เด่นๆที่พอจะตามหาง่ายอยู่ไม่ใช่หรือไงว่าแต่ที่ไหนละ มันไม่ง่ายเลยนะที่จะตามหาใครซักคนในเยาวราชเวลาแบบนี้นักท่องเที่ยวพ่อค้าแม่ค้าแน่นไปหมดแล้วจะเจอไหมเนี้ย ฉันไปทำเวรทำกรรมอะไรต้องมาคอยห่วงคนที่ตัวเองก็ไม่รู้จักด้วยว่ะ ที่เด่นๆใกล้ๆแถวนี้หรอตามร้านอาหารก็ไม่มีแล้วที่ไหนว่ะ ศาลเจ้า?... แต่ศาลเจ้าก็ไม่ได้มีที่เดียวป่ะว่ะ อีกอย่างดึกขนาดนี้ไม่หน้าใช่แล้วมันจะเหลือที่ไหนที่จะนั่งรอหรือถ่ายรูปได้ว่ะ... ถ่ายรูป? ใช่ซุ้มประตูเมื่อคิดได้ดังนั้นผมรีบวิ่งไปที่ซุ้มประตูทันที แม้จะดึกลมจะพัดให้ความเย็นแต่ตอนนี้ผมกับต้องมาร้อนเพราะเดินตามหาใครบางคนที่ไม่คิดว่าจะเจอหรือเปล่าก็ไม่รู้ แต่นี้มันก็ที่สุดท้ายที่คิดออกแล้วนะว่า “ฟลุค” คนที่ยืนถ่ายรูปซุ้มประตูหันกลับมาตามเสียงที่ผมเรียก ใช่จริงๆด้วยเขาอยู่ที่นี้จริงๆด้วย
“นาย” ใบหน้าเต็มไปด้วยเหงื่อแบบนั้นอย่าบอกนะว่าเขาออกมาตามหาผม “นายมาตามหาฉันหรอ” “ก็เออดิ...แล้วนี้ทำไมไม่กลับ” “ก็ฉันไม่รู้ว่าต้องไปขึ้นรถตรงไหนอีกอย่างฉันจำไม่ได้ว่าคอนโดนายอยู่ที่ไหน” “นายนี่มัน...ไปกลับกันเถอะฉันจอดรถไว้ทางนู้น” “ขอบใจนะที่มาตาม” ผมมองหน้าเจ้าของห้องที่เต็มไปด้วยเหงื่อก่อนจะเดินตามหลังเขาไป ไม่คิดเลยว่าคนที่ไล่ผมออกจากห้องจะมาตามหาผมที่หลงทางในเวลาแบบนี้ ซึ่งถ้าเป็นคนส่วนใหญ่ผมว่าเขาคงไม่ใจดีให้ผมอยู่ด้วยจะโยนกระเป๋าผมทิ้งเลยไม่ต้องสนใจก็ได้ แต่ผู้ชายคนนี้เขากลับออกตามหาคนแปลกหน้าอย่างผมเนี้ยนะ “ขอบโทษนะที่ทำนายลำบากเพราะฉัน” “เออช่างเหอะก็แค่อาทิตย์เดียวไม่ใช่หรือไง” “อือ” “ไปเถอะ” ไม่ทันได้พูดอะไรต่อมือของคนที่เดินนำหน้าหันมาจับมือของผมให้เดินตามไปอย่างรวดเร็ว นี้ก็เป็นหนึ่งความประทับใจสำหรับทริปวันแรกของผมซินะ แม้เขาจะยังไม่ยอมบอกชื่อก็ตามแต่ผมว่า...เขาเป็นคนใจดีมากๆเลยละ
เสียงถอนหายใจนับครั้งไม่ถ้วนทำเอาผมที่นั่งเล่นเกมส์มือถือต้องปิดเกมส์ก่อนจะหันไปมองคนที่ค่อยๆจัดกระเป๋าเก็บของท่าทางหน้าเศร้าๆบนหน้าตาที่หวานไม่ต่างจากผู้หญิงแบบนั้น “เก็บของเสร็จแล้วก็รีบไปซิ” “อือ...ฉันไปก็ได้ขอบคุณนะที่ให้นอนด้วยเมื่อคืนแล้วก็ถ้าฉันเป็นอะไรไปนายช่วยตามหาฉันด้วยนะเพราะที่นี้ตอนนี้ฉันก็มีแค่นายที่รู้จักคนเดียว” แล้วคำพูดอะไรของหมอนี่ว่ะพูดเหมือนผมไล่เขาไปลงสนามลบแล้วจะไม่ได้กลับมาอย่างนั้น ไหนจะท่าทางแบบนั้นอีก โถ่โว้ย.... “นายมาเที่ยวกี่วัน” “ห่ะ?...นายถามฉันหรอ” “เออ..ตกลงมาเที่ยวกี่วัน” “อาทิตย์หนึ่ง...” “ก็ได้ฉันให้นายอยู่ที่นี้ก็ได้แต่ฉันไม่พานายเที่ยวหรอกนะถ้าอยากไปไหนก็ไปเองฉันจะให้นายนอนที่คอนโดด้วยเท่านั้น” “จริงหรอ...พูดจริงๆนะ” “เออ...” “ขอบใจมากนะ....” ไม่พูดเปล่าคนดีใจกระโดดมากอดผมแน่น ผมละเบื่อตัวเองจริงๆทำไมต้องมาแพ้ความน่าสงสารของคนคนนี้ด้วยนะ ก็จะไม่ให้อดห่วงได้ไงว่ะหน้าหวานตัวบางๆอย่างนั้นถ้าโดนใครทำร้ายมาผมก็ต้องรู้สึกผิดไปตลอดชีวิตจริงไหมละ แค่คนต่างจังหวัดคนเดียวที่มาขอความช่วยเหลือผมยังช่วยไม่ได้ เฮ้อ....
สถานีรถไฟฟ้าตรงนี้ๆๆ...ตรงนี้ที่ไหนว่ะผมมองหาป้ายทางขึ้นสถานีพร้อมพงษ์หรองั้นถ้าจะไปจัตุจักรไปไงว่ะ จะถามใครดีละ ไม่รู้จักใครซักคนจริงด้วยโทรไปถามดีกว่านายนั้นหน้าจะบอกได้ว่าต้องซื้อบัตรขึ้นยังไง (ว่าไง) “ฉันจะไปจัตุจักรอ่ะแต่ฉันซื้อบัตรขึ้นรถไฟไม่เป็น” (นายก็ดูที่เส้นทางตรงข้างๆว่ามันต้องหยอดเงินเท่าไรจากนั้นนายก็กดเลือกที่จะไปแล้วก็หยอดเหรียญหรือไม่ง่ายๆก็เดินไปต่อคิวซื้อบัตรที่พนักงานเลยบอกเขาว่าจะไปไหนแล้วก็จ่ายตัง) “อ๋อ...โอเคๆขอบใจมาก” มันก็ไม่ได้ยุ่งยากนี่ความจริงมองคนที่เขาซื้อก็ได้แล้วก็ทำตาม ง่ายเหมือนกันหลังจากได้บัตรเรียบร้อยแล้วผมก็เดินเข้ามาด้านใน ว่าแต่ผมต้องขึ้นบันไดไปทางไหนซ้ายหรือขวาละ ไปจัตุจักรก็ต้องไปหมอชิตๆ ไอ้ฟลุคมึงโคตรฉลาดเลยว่ะเมื่อตรวจสอบทางที่ตัวเองจะไปเป็นที่เรียบร้อยผมก็รีบเดินขึ้นบันไดไปขึ้นรถไฟฟ้าทันที นี้แหล่ะทริปแรกของผม วันที่1 กับการไปจัตุจักร ส่วนตอนเย็นหรอผมอยากไปกินบะหมี่ที่เยาวราชจังเลยเห็นในพันทิปบอกว่ามีร้านเก่าแก่อร่อยถ้ามาต้องไปลองเพราะฉะนั้นผมจะไปลองตามที่พันทิปบอกแล้วกัน ก็แค่กรุงเทพมันจะไปยากไรว่ะมาจากเชียงใหม่ตั้งไกลยังมาได้แค่จะเที่ยวในกรุงเทพจิ๊บๆ
ไม่รู้ผู้ชายคนนั้นไปไหนของเขาบ้างแต่ท่าทางตั้งใจมาเที่ยวขนาดนั้นคงทำการบ้านเรื่องการเดินทางมาบ้างแหล่ะ คงไม่เซ่อซ่าหลงหรอกมั่งแค่นั่งรถไปตามที่จะไปมันจะยากอะไร แล้วผมจะมานั่งคิดเรื่องของไอ้ผู้ชายคนนั้นทำไมว่ะไปดูหนังดีกว่าช่วงนี้ได้ข่าวมัมมี่พึ่งเข้าโรงด้วย ไปดูที่ไหนดีว่ะ...ไปสยามดีกว่าเผื่อหาอะไรกินด้วยชวนไอ้ซิงกับไอ้แบงค์ไปด้วยดีกว่า เมื่อคิดได้ดังนั้นผมก็หยิบมือถือขึ้นมาทักไลน์กลุ่มไปหาพวกเพื่อนๆทันที “เฮ้ย...กูจะไปดูมัมมี่ไปด้วยกันป่ะ” (กูพาแฟนไปเที่ยวมึงถามไอ้ซิงดิว่างไหม) (กูว่างๆ...ว่าแต่มึงจะดูที่ไหน) “สยาม” (เออ..เจอกัน) “โอเค...ถึงแล้วโทรหากูด้วยตอนนี้กูกำลังออกจากคอนโด” (มึงเอารถไปหรือว่านั่งรถไฟฟ้าไปว่ะ) “นั่งรถไฟฟ้าดิขี้เกียจรถติด” (เออ...เดี๋ยวเจอกัน) มีไอ้ซิงมาดูเป็นเพื่อนแล้วเอาว่ะไปดูหนังแก้เครียดดีกว่าส่วนผู้ชายคนนั้นเดี๋ยวพอจะกลับมันคงโทรหาเองแหล่ะ TRRRRRRRR อะไรว่ะไอ้ซิงถึงสยามแล้วหรือไงผมหยิบมือถือขึ้นมาดูเพราะคิดว่าไอ้ซิงจะถึงสยามแล้วแต่ที่ไหนได้ “ว่าไง” (ฉันกำลังจะไปเยาวราช) “เออ...แล้วไง” (ตอนนี้ฉันอยู่จัตุจักรอ่ะต้องไปยังไง) “ก็นั่งMRTไปดิลงหัวลำโพงก็ถึงแล้ว” (MRTหรอ?...คืออะไร) “เออ...รถไฟฟ้าใต้ดิน...” (อ๋อ...โอเคๆหัวลำโพงใช่ไหม) “ใช่แค่นี้นะ” จะไปเยาวราชจากจัตุจักรมันไม่ได้ใกล้เลยนะนั้นนี้มันคิดว่าทริปรอบกรุงหรือไง จากอีกทางไปอีกทางจะหลงทางไหมว่ะ ช่างเหอะคงไม่หรอก TRRRRRR “อะไรอีก” (กูถึงสยามแล้ว) “ไอ้ซิง” (เออ...มึงอยู่ไหนแล้ว) “จะถึงแล้วเนี้ยมึงรอตรงไหน” (ทางเข้าพารากอนแล้วกันรีบมาละ ทางเข้าตรงประตูต่อจากรถไฟฟ้านะเว้ย) “เออ...”
“มึงเป็นอะไรของมึงไอ้กันกูเห็นนั่งหน้านิ่วคิ้วขมวด ชวนกูมาดูหนังเองแล้วไหงมานั่งทำหน้าบอกบุญไม่รับ” “เปล่าไม่มีไรแล้วนี้ได้รอบหนังตอนไหนว่ะ” “ทุ่มยี่สิบ...เหลือเวลาอีกเกือบชั่วโมงไปหาไรกินก่อนป่ะกูหิวแล้วเนี้ย” “ไปดิ...” ผมมองหน้าเพื่อนตัวดีที่ชวนผมมาแต่กับไม่มีทีท่าว่าอยากจะดูเอาเสียเลยทั้งที่หนังก็เป็นเรื่องที่รอให้เข้าโรงตั้งนานแล้วแท้ๆ “กินพิซซ่าไหมมึง...ไอ้กัน...ไอ้กัน” “ห่ะ...มึงว่าไรนะ” “กูถามว่าแดกพิซซ่าไหม” “เออได้หมด...เอาอะไรก็ได้มึงสั่งเลย” “สรุปพิซซ่านะ” ไอ้เพื่อนคนนี้มันแปลกๆ หรือว่าไอ้กันมีแฟนหรอ ไม่มั่งถ้ามีผมต้องรู้ดินี้ไม่เห็นเคยพูดถึงจะเป็นไปได้ไง “มึงเป็นไรของมึงเนี้ย” “เปล่า” “มึงมีแฟนหรอ” “บ้า...จะไปมีตอนไหนว่ะตัวติดกับมึงจนเขาคิดว่าเป็นผัวเมียกับมึงแล้ว” “ก็นั้นอะดิกูก็ว่าไม่เคยเห็นมึงจะมีแล้วนี้มึงเหม่ออะไร” “ที่จริงกูก็มีเรื่องแต่กูไม่รู้จะเริ่มเล่าให้มึงฟังยังไง” “ก็เล่าตั้งแต่แรก” “คืองี้นะ @%^#&*(*()#)*@))#)*&#*# ...เรื่องก็เป็นแบบนี้แหล่ะ" “เชี้ย!...แล้วมึงก็ให้เขาอยู่ด้วยเนี้ยนะ” “เออดิ..” “ไอ้กันมึงบ้าป่ะเนี้ยถ้าสมมติแม่งเป็นโจรขึ้นมาทำไงว่ะ” “ไม่หรอกมั่งท่าทางเขาก็ไม่ได้อันตรายขนาดนั้น” “มึงนี่มัน...กูอยากจะจับปลามาปั่นให้ละเอียดแล้วฉีดเข้าเส้นมึงจริงๆอย่างมึงคงกินไม่ทันแล้ว มึงไว้ใจได้ไงรู้จักก็ไม่ใช่ เป็นใครมาจากไหนก็ไม่รู้” “มาจากเชียงใหม่” “เออ...แล้วเอาไงละ” “ก็เขาบอกว่าแค่เจ็ดวันเดี๋ยวก็กลับแล้ว” “กูละปวดหัวกับมึงจริงๆ...ช่างเหอะพิซซ่ามาละกินๆไว้ค่อยว่ากันแล้วกันก็ตอนนี้เขาไม่ได้อยู่ที่คอนโดคงไม่เป็นไรมั่ง” “อือ”
ที่นี้หรอเยาวราชถ่ายรูปๆ มาทั้งทีต้องเก็บภาพ อันนี้หัวลำโพงรถเยอะมากเลยข้ามถนนค่อนข้างยากแต่มาทั้งทีต้องกินให้ครบ บะหมี่ร้านอยู่ตรงนั้นในรูปตามนี้เลยวันนี้จะมากินบะหมี่ร้านที่คนรีวิวในพันทิปดูนะว่าอร่อยอย่างที่เขาบอกจริงๆไหม หลังจากที่ผมสั่งบะหมี่มากินอย่างเอร็ดอร่อยแล้วก็เดินถ่ายรูปเก็บบรรยากาศของเยาวราชในตอนกลางคืน ยอมรับเลยว่าของทุกอย่างค่อนข้าราคาสูงแต่มันก็อร่อยดีไม่ว่าจะเป็นของหวานของคาวมันอร่อยจริงๆ คนก็เยอะยิ่งนักท่องเที่ยวต่างชาติดูสนุกกับการเดินที่นี้จริงๆ ว่าแต่ตอนนี้กี่โมงแล้ว สี่ทุ่มกว่า... เอาแล้วไงว่าแต่ตอนนี้ผมอยู่ส่วนไหนของเยาวราชว่ะมองไปทางไหนก็เหมือนๆกันหมดเลย กลับยังไงว่ะถ้าขึ้นแทกซี่จะโดนหลอกอย่างที่เป็นข่าวไหม เอาไงดีว่ะ TRRRRRRRRR เหมือนกับสวรรค์เข้าข้างผมหยิบมือถือขึ้นมาดูก็เห็นว่าเป็นเบอร์เจ้าของห้องที่ผมอาศัยอยู่ด้วยตอนนี้โทรเข้ามา (นายจะกลับตอนไหน) “คือฉันก็อยากกลับนะ” (พูดอะไรของนายตกลงตอนนี้อยู่ไหน) “เยาวราชแต่ฉันหาทาง...” ตรู๊ดๆ ตรู๊ดๆ แบตหมดโถ่โว้ย...เอาไงว่ะเนี้ยไปไงต่อว่ะ
แบตหมดหรอว่ะผมพยายามติดต่อกลับไปแต่ก็ไม่สามารถติดต่อได้แล้วแต่ที่แน่ๆประโยคสุดท้ายที่ได้ยินหมอนั้นบอกว่าอยู่ที่เยาวราช อย่าบอกนะว่าออกจากที่นั้นไม่เป็น โถ่เว้ย....ผมรีบคว้ากุญแจรถและกระเป๋าสตางค์ก่อนจะปิดห้องแล้วรีบออกตามหาผู้ชายคนนั้นทันที เยาวราชคนก็เยอะจะไปหาที่ไหนได้ว่ะ รถก็ขับยากผมค่อยๆวนรถหาแต่แบบนี้ผมจะเจอได้ไงอย่างน้อยๆต้องหาที่จอดรถก่อนเพราะถ้าขับรถแบบนี้ไม่มีทางหาเจอแน่ๆ เมื่อวนหาที่จอดรถได้แล้วผมก็รีบออกเดินตามหาผู้ชายคนนั้นทันที อย่างน้อยๆเขาคงต้องหาที่เด่นๆที่พอจะตามหาง่ายอยู่ไม่ใช่หรือไงว่าแต่ที่ไหนละ มันไม่ง่ายเลยนะที่จะตามหาใครซักคนในเยาวราชเวลาแบบนี้นักท่องเที่ยวพ่อค้าแม่ค้าแน่นไปหมดแล้วจะเจอไหมเนี้ย ฉันไปทำเวรทำกรรมอะไรต้องมาคอยห่วงคนที่ตัวเองก็ไม่รู้จักด้วยว่ะ ที่เด่นๆใกล้ๆแถวนี้หรอตามร้านอาหารก็ไม่มีแล้วที่ไหนว่ะ ศาลเจ้า?... แต่ศาลเจ้าก็ไม่ได้มีที่เดียวป่ะว่ะ อีกอย่างดึกขนาดนี้ไม่หน้าใช่แล้วมันจะเหลือที่ไหนที่จะนั่งรอหรือถ่ายรูปได้ว่ะ... ถ่ายรูป? ใช่ซุ้มประตูเมื่อคิดได้ดังนั้นผมรีบวิ่งไปที่ซุ้มประตูทันที แม้จะดึกลมจะพัดให้ความเย็นแต่ตอนนี้ผมกับต้องมาร้อนเพราะเดินตามหาใครบางคนที่ไม่คิดว่าจะเจอหรือเปล่าก็ไม่รู้ แต่นี้มันก็ที่สุดท้ายที่คิดออกแล้วนะว่า “ฟลุค” คนที่ยืนถ่ายรูปซุ้มประตูหันกลับมาตามเสียงที่ผมเรียก ใช่จริงๆด้วยเขาอยู่ที่นี้จริงๆด้วย
“นาย” ใบหน้าเต็มไปด้วยเหงื่อแบบนั้นอย่าบอกนะว่าเขาออกมาตามหาผม “นายมาตามหาฉันหรอ” “ก็เออดิ...แล้วนี้ทำไมไม่กลับ” “ก็ฉันไม่รู้ว่าต้องไปขึ้นรถตรงไหนอีกอย่างฉันจำไม่ได้ว่าคอนโดนายอยู่ที่ไหน” “นายนี่มัน...ไปกลับกันเถอะฉันจอดรถไว้ทางนู้น” “ขอบใจนะที่มาตาม” ผมมองหน้าเจ้าของห้องที่เต็มไปด้วยเหงื่อก่อนจะเดินตามหลังเขาไป ไม่คิดเลยว่าคนที่ไล่ผมออกจากห้องจะมาตามหาผมที่หลงทางในเวลาแบบนี้ ซึ่งถ้าเป็นคนส่วนใหญ่ผมว่าเขาคงไม่ใจดีให้ผมอยู่ด้วยจะโยนกระเป๋าผมทิ้งเลยไม่ต้องสนใจก็ได้ แต่ผู้ชายคนนี้เขากลับออกตามหาคนแปลกหน้าอย่างผมเนี้ยนะ “ขอบโทษนะที่ทำนายลำบากเพราะฉัน” “เออช่างเหอะก็แค่อาทิตย์เดียวไม่ใช่หรือไง” “อือ” “ไปเถอะ” ไม่ทันได้พูดอะไรต่อมือของคนที่เดินนำหน้าหันมาจับมือของผมให้เดินตามไปอย่างรวดเร็ว นี้ก็เป็นหนึ่งความประทับใจสำหรับทริปวันแรกของผมซินะ แม้เขาจะยังไม่ยอมบอกชื่อก็ตามแต่ผมว่า...เขาเป็นคนใจดีมากๆเลยละ
คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
6 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
6.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
6.5 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ