BTS

6.7

เขียนโดย zeeto

วันที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 เวลา 13.32 น.

  6 ตอน
  3 วิจารณ์
  12.22K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 23 มีนาคม พ.ศ. 2560 02.44 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น

แชร์เรื่องสั้น Share Share Share

 

2) สถานีต่อไป พรหมลิขิต

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

          แปลกจังวันนี้ทำไมเขาถึงแต่งตัวดูดีขนาดนี้แม้ไม่ถึงขั้นใส่สูทผูกไทก็ตาม แต่เพียงแค่ใส่เสื้อเชิ้ตใส่แว่นแบบนี้ก็ดูดีมากแล้วละ ผมที่จับมือถืออยู่ที่นั่งตรงข้ามค่อยๆกดแอบถ่ายคนตรงหน้าก่อนจะเก็บมือถือลง ว่าแต่วันนี้เขาจะไปไหนกันนะผมค่อยๆลุกขึ้นยืนเมื่อใกล้สถานีสุดท้ายเพื่อหลีกให้คนที่ยืนอยู่ได้นั่ง เขาคนนั้นเองก็เช่นกัน รูปร่างของผู้ชายคนนี้เขาใส่ชุดไหนผมก็ว่าดูดีหมดทุกชุดนี้ผมไม่ได้อวยจริงๆนะ TRRRRRR~ ไอ้ปริ้นท์โทรมาทำไมเนี้ย “ว่าไงว่ะ” “ไอ้ฟลุ๊คมึงถึงไหนแล้วเนี้ยวันนี้ห้ามสายมึงลืมหรือไง” “เออๆกำลังจะรีบนั่งวินไปแค่นี้นะ” เพราะเพียงแค่ต้องการจะเห็นหน้าใครบางคนจนลืมไปเลยว่าอาจารย์ภาคให้รีบเข้าวันนี้ แปดโมงครึ่งแล้วเร็วโว้ยไอ้ฟลุ๊ค

               

          อะไรกันทำไมวันนี้เขาดูรีบจังเลยแล้วที่รับสายเมื่อครู่คงไม่ใช่ว่าแฟนของเขาโทรมาใช่ไหม ไม่นะผมเห็นเขามาหลายเดือนแล้วเขาก็นั่งรถไฟฟ้าคนเดียวตลอดเขาไม่หน้าจะมีแฟน หรือว่าเกิดเรื่องอะไรหรอ ครั้นจะวิ่งตามไปก็ไม่ได้วันนี้เป็นวันแรกที่ผมจะต้องเข้าไปช่วยสอนนักศึกษาที่มหาวิทยาลัย และมันคงดูไม่ดีแน่ๆถ้าผมไปช้าหรือขาดและที่สำคัญไม่รู้คุณพี่ออฟจะไปถึงหรือยังนี้แหล่ะ เมื่อคิดได้แบบนั้นผมก็รีบโบกวินไปที่มหาวิทยาลัยทันที  ไม่นานมากนักผมก็มาถึงหน้าคณะที่ต้องมาทำงาน แต่เดี๋ยวนะโทรหาพี่ออฟก่อนหน้าจะดีกว่า “ไงครับไอ้กันต์น้องรัก” “พี่ออฟพี่อยู่ไหนเนี้ย” “กูหรอใกล้ถึงแล้ว” “อะไรเนี้ยพี่ยังไม่ถึงอีกหรอนี้มันแปดโมงกว่าจะเก้าโมงแล้วนะพี่” “เออ...รถมันติดนะมึงก็ไปหาอาจารย์ภาคก่อนเลยบอกเขาด้วยพี่จะถึงแล้ว” “โอเคๆ...มาเร็วๆนะ” “เออ..” ไปห้องอาจารย์ภาคก่อนซินะเอาว่ะขืนช้าโดนผู้จัดการด่าไม่คุ้มแน่ ไอ้พี่ออฟนะไอ้พี่ออฟไว้ใจไม่ได้เลย

               

          “สายไปสี่นาทีกับอีกสิบแปดวินาที...ถึงคุณจะมาเป็นแค่ผู้ช่วยผมแต่อย่าลืมซิผู้จัดการของคุณให้ผมช่วยประเมินการทำงานของคุณด้วยนะคุณจุมพล” อะไรว่ะไอ้เราก็อุตส่าเหยียบเต็มที่ช้าแค่สี่นาทีมันยังนับวินาทีได้อีก ผมได้แต่ยืนก้มหน้ารับฟังคำตำหนิจากผู้ชายตัวเล็กหน้าสวยไม่รู้เป็นเก้งกวางหรือเปล่าเถอะ อะไรมันจะงานละเอียดขนาดนั้นว่ะ “ครั้งนี้ผมจะถือว่าเป็นวันแรกนะแต่ถ้ามีครั้งต่อไปผมจะแจ้งให้ผู้จัดการของคุณทราบเข้าใจไหมครับคุณจุมพล” “ครับ...แล้วนี้คุณจะให้ผมกับรุ่นน้องไปทำงานได้หรือยัง” “หึหึ...มากระตือรือร้นอะไรตอนนี้เก็บแรงไว้ทำงานเถอะเอาเป็นว่าผมจะพาพวกคุณสองคนไปแนะนำให้นักศึกษาในคลาสนี้รู้จักด้วย แล้วก็กรุณาวางตัวให้เหมาะสมด้วยนะครับ” “ทำไมครับคุณคิดว่าผมจะจีบนักศึกษาของคุณหรอ” “พี่ออฟ...” ไอ้กันต์หันมาทำหน้าจุ๊ปากให้ผมหยุดต่อปากต่อคำกับอีกคน “นั้นซินะ...ผมควรระแวงเรื่องนี้ด้วยเพราะจากลักษณะท่าทางของคุณแล้วอันตรายต่อนักศึกษาของผมพอสมควร” “เฮ้ย..นี่มัน...” “พี่ออฟพอเถอะ...เออแล้วเราจะไปกันเลยไหมครับอาจารย์อรรถพันธ์” “อะไรนะนี่คุณชื่ออรรถพันธ์หรอ” “ทำไมครับคุณจุมพลมีปัญหากับชื่อผมหรือไง” “ก็เปล่า...งั้นฝากตัวด้วยนะครับคุณอรรถพันธ์”

               

          กว่าจะแยกทัพได้ก็เล่นเอาผมแอบเหนื่อยไม่น้อยก็จะไม่ให้เหนื่อยได้ไงละ พี่ออฟกับอาจารย์อรรถพันธ์ไม่รู้ว่าเขาไปเป็นศัตรูกันแต่ชาติปางไหนเจอหน้ากันก็เล่นเขม่นกันซ่ะงานแทบล่มแล้วนี้ถ้าต้องทำงานด้วยกันตลอดจนหมดเทอมไม่พังไปกว่านี้หรอ “สวัสดีครับนักศึกษาทุกคนขอโทษที่สายวันนี้ผมได้บอกไปแล้วว่าเราจะมีผู้ช่วยมาสอนพวกคุณก่อนอื่นผมขอแนะนำก่อนเลยนะครับนี้เอาคุณสองคนเชิญด้านหน้าหน่อยครับ”  ผมกับพี่ออฟเดินไปยืนด้านหน้าอยากจะบอกว่าตอนนี้ใจผมก็เต้นแรงไม่ต่างกับทำงานใหม่เลยก็ไม่คิดว่าคลาสนี้คนจะเยอะจริงๆมิหน้าละผมถึงถูกส่งให้มาช่วยสอน “เดี๋ยวคุณสองคนช่วยแนะนำตัวให้นักศึกษารู้จักหน่อยนะครับ” “สวัสดีครับพี่ชื่อจุมพลนะครับเรียกพี่ออฟก็ได้มีอะไรปรึกษาได้ทุกอย่างครับมีเฟซมีไลน์มีอินสตราแกรมสอบถามและติดตามพี่ได้ทุกช่องทางนะครับ” อะไรของพี่ออฟมันผมหันไปมองก่อนจะก้าวไปยืนข้างหน้าแล้วแนะนำตัว “สวัสดีครับผมชื่อชนกันต์ หรือเรียกกันต์ก็ได้ครับไม่เข้าใจตรงไหนก็สอบถามผมได้นะครับ” เอาละครับเดี๋ยวผมจะแบ่งให้ว่าใครจะเรียนกับใครเพราะถ้าเรียนรวมแบบนี้ยากแน่ๆใครที่ผมเรียกชื่อก่อนให้แยกไปนั่งทาง..คุณจุมพลนะส่วนคนที่เหลือก็อยู่กับคุณชนกันต์”

               

          ตอนนี้ผมไม่รู้หรอกว่าอาจารย์ภาคไล่รายชื่อใครไปบ้างแล้วแต่ที่แน่ๆนี้มันความบังเอิญหรือพรหมลิขิตที่ทำให้ผมได้มารู้จักกับเขา ตอนนี้ผมก็รู้จักเขาไปอีกนิดแล้วว่าเขาชื่อกันต์ “มองอะไรว่ะฟลุ๊ค” “ไอ้ปริ้นท์มึงว่าตอนนี้เราฝันอยู่ป่ะว่ะ” “ฝันบ้าอะไรของมึง” “ก็ตอนนี้คนคนนั้นที่กูแอบมองทุกวันเขามาเป็นอาจารย์สอนพวกเราแล้วว่ะ” “ห่ะ...คนไหนคนที่ชื่อจุมพลอะหรอว่ะ” “ไม่ใช่มึง...กันต์ต่างหากละนี้กูได้รู้จักชื่อเขาแล้วว่ะ” “คนนี้หรอที่ทำมึงเพ้อหนักทุกวัน” “เออ...น่ารักใช่ไหมละใจดีด้วย” “ซึนขนาดนั้นแบบนี้หรอ...กูนึกว่าสเปกมึงจะสูงกว่านี้ซ่ะอีก” “มึงพูดเชี้ยไรว่ะแบบนี้แหล่ะที่เราเรียกว่ามีเสน่ห์” “เออ...อาจารย์เรียกชื่อกูแล้วขอให้มึงโชคดีละกันกูอยู่คลาสจุมพลว่ะ” “เออโชคดีมึง”

               

          หลังจากแบ่งนักศึกษาออกเป็นสองคลาสแล้วผมก็หยิบสมุดขึ้นมาเช็คชื่อนักศึกษาที่ผมต้องดูแล แต่จะสอนทั้งเทอมจะให้เรียกแบบชื่อจริงมันก็ดูจะลำบากในการทำงานไปนะ เอาไงดีว่ะกันต์ใจเย็นๆนะอย่าพึ่งตื่นเต้น ใช่ซิจะสอนทั้งทีให้เขาแนะนำตัวกันทีละคนดีกว่าจำได้ไม่ได้ก็อีกเรื่องหนึ่ง “สวัสดีนะครับวันนี้ผมขอทำความจักพวกคุณทุกคนก่อนแล้วกันยังไงช่วยลุกแนะนำตัวชื่อเล่นอะไรกันทีละคนนะครับ” ผมมองสมุดรายชื่อสลับกับมองหน้านักศึกษาที่ยืนแนะนำตัวทีละคน น้ำขิง โบว์ ไบท์ .... ง่ายดีแหะจดชื่อเล่นไว้ในสมุดรายชื่อแบบนี้ “สวัสดีครับผมชื่อธีรภัทร โลหนันท์ ชื่อเล่นฟลุ๊คครับ อยู่ศิลปะการแสดง” นี้ผมตาฝาดหรือเพราะคิดถึงเขามากเกินไปผู้ชายที่ลุกขึ้นยืนพร้อมกับเสยผมคนนี้คือคนที่ผมแอบมองทุกวันที่รถไฟฟ้านี่ “ชื่อฟลุ๊คหรอ” “ครับ.” ฟลุ๊คงั้นหรอผมมองหน้าพร้อมกับยิ้มให้ก่อนจะจดชื่อลงไปในสมุดรายชื่อดีใจจังตอนนี้ผมก็ได้รู้จักเขาแล้ว

               

          “ไอ้กันต์นักศึกษาในคลาสกูมีน้องคนนึงสวยมากกกกก...” “พี่ออฟคุกนะพี่นั้นมันนักศึกษาพี่ไม่ใช่หรอ” “เออกูรู้ไงแต่แบบพอเห็นแล้วมันดีต่อใจ” “เป็นเอามากนะเนี้ย...ระวังเถอะอาจารย์อรรถพันทธ์เขาจะหมายหัวพี่เอา” “โห่...กำลังอารมณ์ดีๆพูดถึงไอ้เตี้ยนั้นทำไมว่ะหมดอารมณ์เลย” “ฮาๆๆ...เออไปหาข้าวกินเถอะพี่ผมหิวแล้ว” “ไปกินที่โรงอาหารกันดีกว่าไหนๆก็ทำงานในมหาลัยแล้วหาความสุขให้กับชีวิตกันดีกว่า” “ครับ...” ผมกับพี่ออฟเดินมาที่โรงอาหารก่อนจะแยกย้ายกันไปหาของกินตามเคยเพราะผมเป็นคนค่อนข้างจะกินยากมื้อนี้ก็คงไม่พ้นของโปรดจานเดิมแน่ๆ “ ข้าวมันไก่/ข้าวมันไก่” ไม่ทันที่ผมจะสั่งเสร็จเสียงอีกคนที่เดินมายืนข้างๆผมก็ทำให้ผมหันกลับไปมอง “สวัสดีครับอาจารย์กันต์” “อ้าวฟลุ๊ค...เรียกว่ากันต์เฉยๆก็ได้เราอายุหน้าจะพอๆกันแหล่ะแต่เราเรียนด้วยทำงานด้วยนะ” “อ๋อครับ...แล้วนี้กินข้าวมันไก่เหมือนกันเลยเนอะ” “น้องๆข้าวมันไก่ได้จานเดียวตกลงใครจะเอา” ผมหันไปมองเจ้าของร้านก่อนจะมองเมนูอื่นๆจะให้กินขาหมูผมก็ไม่ชอบแบบนี้ “ผมให้คุณก็แล้วกัน...พี่ครับของผมเป็นขาหมูก็ได้” “เออ...ขอบใจนะฟลุ๊ค” ผมรับจานข้าวมันไก่มาก่อนจะเดินกลับไปนั่งที่โต๊ะข้างๆพี่ออฟที่กินข้าวไปยิ้มส่งสายตาให้สาวๆไป มื้อนี้ข้าวจานนี้คงอร่อยที่สุดแน่ๆ

               

          หลังจากวันนี้ผมคงไม่ต้องแอบมองเขาแค่บนรถไฟฟ้าแล้วซินะแต่ตอนนี้ผมจะสามารถทักทายเขาเวลาเจอด้านนอกได้ใช่ไหม “หน้าบานเลยนะไอ้ฟลุ๊ค” “ก็วันนี้อารมณ์ดี” “เออ...กินข้าวเถอะยิ้มจนเหงือกแห้งแล้วคราวนี้ก็คุยกับเขาเวลาเจอได้แล้วซินะ” “คงงั้นมั่งมึง..เอาจริงๆกูก็รู้สึกอายๆว่ะ” “มาขนาดนี้แล้วรู้จักแล้วได้เจอแล้วถ้านี้เป็นพรหมลิขิตที่ถูกขีดไว้ให้มึงกับเขาแล้วไม่ต้องกลัวหรอก” “พรหมลิขิตเลยหรอว่ะเอาแค่บังเอิญพอมั่งมึง” “เออ..เอาเถอะยังไงวันนี้ก็ต้องกลับรถไฟฟ้าเหมือนกันทุกวันคราวนี้ก็ค่อยๆทักทายไปนะเพื่อน” “เออขอบใจ” จริงซิวันนี้คงเป็นวันแรกที่ผมจะได้นั่งรถไฟฟ้าแบบที่สามารถพูดคุยกับเขาได้จริงๆซักที คิดไปคิดมาตอนนี้ผมก็อยากให้สถานีที่ผมนั่งกับเขาเริ่มจากสถานีต้นทางและสิ้นสุดที่ปลายทางจริงๆเพราะมันคงจะทำให้ผมและเขาได้มีเวลาอยู่ด้วยกันนานมากขึ้นเช่นกัน

 

คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
6.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
6 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7.5 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา