WE
เขียนโดย zeeto
วันที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2560 เวลา 18.28 น.
แก้ไขเมื่อ 25 มกราคม พ.ศ. 2560 19.07 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น
5) และสุดท้ายนี้แหล่ะความหมายของคำว่า "เรา"
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความจะกำหนดส่งรายงานพรุ่งนี้แล้วแท้ๆดันช้าทำไม่เสร็จซักทีก็เพราะผมกับไอ้กันต์เรียนคนละสาขาแล้วนอกจากวันที่เรียนรวมก็ไม่มีตรงกันแท้ๆ วันนี้เลยนัดกันว่าจะไปหาข้อมูลในห้องสมุด “ไอ้กันเดี๋ยวมึงไปหาข้อมูลหัวข้อนี้นะ” “ได้ๆแล้วฟลุ๊คจะไปหาหัวข้อนี้หรอ” “เออ เดี๋ยวมาเจอกันตรงนี้แล้วกัน” “โอเค...เออฟลุ๊คสู้ๆนะ” “เออออ...ยังจะมาหยอดไปเลยถ้าวันนี้รายงานไม่เสร็จนะมึงตายแน่” “ครับบบบ...”ระหว่างที่ผมเลือกหาหนังสือที่จะใช้ทำรายงานอยู่ไอ้คนป่วนก็เดินมากระแซะข้างๆ “มึงหาได้แล้วหรอหนังสือมึงอ่ะ” “หาได้แล้วดูนี้ๆ” ไอ้กันต์พูดพร้อมกับทำทีเปิดหนังสือให้ผมดูแต่เหมือนผมจะพลาดอีกครั้งเมื่อผมก้มไปมองในหนังสือคนที่ถือหนังสือก็กดประจมูกลงที่แก้มของผมทันที “หอมจังเลย” “ไอ้กัน...มึงนี้มัน...โถ่โว้ยใช่เวลาไหมเนี้ย” “ฮาๆๆๆงั้นเราไปรอที่โต๊ะนะ” “เออไปไหนก็ไปเลย” คนบ้าอะไรเผลอไม่ได้
หลังจากที่ผมกับฟลุ๊คหาข้อมูลที่จะทำรายงานเสร็จก็แบ่งหัวข้อกันทำก่อนที่จะไปส่งฟลุ๊คที่หอแล้วกลับบ้าน นี้ผมผ่านมามไม่ถึงอาทิตย์แท้ๆที่ผมได้รู้จักเขาและขอเขาคบแบบแฟน แต่ตลอดปีหนึ่งที่ผ่านมาผมก็คอยแอบมองตามหลังเขามาเสมอมันก็ไม่แปลกใช่ไหมละที่ผมจะรักเขา นี้ซินะที่เขาเรียกกันว่า รักแรกพบ ผมสะดุดตาเขาตั้งแต่วันแรกที่ปฐมนิเทศนักศึกษาใหม่ยิ่งตอนที่เห็นเขาเดินเมินรุ่นพี่ที่ว๊าก คนอะไรมันจะดูโดดเดี่ยวและน่าหลงใหลได้มากขนาดนี้ ไอ้กันต์เอ้ยเป็นเอามากนะมึง TRRRRRR~ ใครกันโทรมาตอนนี้ผมหยิบมือถือขึ้นมาดูตอนที่กำลังขับรถอยู่ซึ่งความเป็นจริงมันไม่สมควรทำแท้ๆ แต่ก็... ฟลุ๊คโทรมามีอะไรหรือเปล่า “ว่าไงฟลุ๊ค” “มึงอยู่ไหนแล้วเนี้ย” “ใกล้จะขึ้นทางด่วนแล้วฟลุ๊คมีอะไรหรือเปล่า” “พอดีว่า...เออคือ...” “เป็นอะไรไหม” “หอกูเขาจะซ่อมไฟกับเครื่องสูบน้ำคืนนี้อ่ะแล้วเขาต้องตัดไฟกูจะไปนอนบ้านมึงได้ไหม” “ได้ดิงั้นฟลุ๊คเก็บของนะเดี๋ยวเราวนกลับไปรับ” “เออๆ...งั้นแค่นี้นะขับรถดีๆละ” “อือ” น่ารักใช่ไหมละแค่คำพูดที่แสดงถึงความเป็นห่วงประโยคสั้นๆแต่ใครได้ฟังแล้วก็ยิ้มได้ทุกคนแหล่ะ
“แม่ง...จะซ่อมไฟอะไรวันนี้ก็ไม่รู้แล้วดันเป็นวันที่กูต้องปั่นรายงานอีก” ผมเดินสะพายกระเป๋าลงมาจากหอหลังจากได้รับสายไอ้กันต์ที่มาถึงหน้าหอแล้วยิ่งคิดก็ยิ่งหงุดหงิดคนก็รีบอยากจะทำงานให้เสร็จๆแต่มาเจอเรื่องแบบนี้ “อย่าเครียดดิไปทำที่บ้านเราก็ดีเหมือนกันเผื่อตรงไหนไม่ใช่จะได้แก้ช่วยกันด้วย” “เออ...มันก็ต้องแบบนั้นแหล่ะว่าแต่หาข้าวกินก่อนได้ไหม” “อืม...ฟลุ๊คอยากกินไรอ่ะ” “อะไรก็ได้...ข้าวมันไก่แบบที่มึงชอบก็ได้ง่ายดี” “โอเคงั้นไปกินร้านประจำเรานะ” “เออเดี๋ยวไงแวะร้านกาแฟให้ด้วยละคืนนี้คงต้องกินกาแฟช่วยแน่ๆ” “ได้ๆ” หลายๆคนที่ผมได้ยินมาบางคนชอบพูดว่าไอ้กันต์เรื่องเยอะแต่สำหรับผมนะผมกับมองว่ามันแค่ไม่ทำในสิ่งที่มันไม่ชอบและไม่อยากทำก็แค่นั้น อย่างเรื่องกินเห็นหลายๆคนบอกว่าไอ้กันต์กินยากเอาจริงๆมันกินไม่ยากนะแค่มันไม่กินในสิ่งที่ไม่ชอบก็แค่นั้นซึ่งมันอาจจะทำให้คนอื่นมองว่าไอ้กันต์เข้าใจยากแต่สำหรับผมแล้ว ไอ้กันต์เข้าใจง่ายออกแค่เราไม่ยึดติดในสิ่งที่เราคิดจะให้มันเป็นก็แค่นั้นเอง มันก็คงเหมือนๆกันคงไม่มีใครชอบในสิ่งที่คนอื่นคิดแล้วอยากให้เราเป็นผมก็เหมือนกัน นี้ละมั่งส่วนหนึ่งที่ผมสัมผัสได้ว่าเราสองคนมีความคล้ายกัน และคงมีแค่ผมกับมันเท่านั้นแหล่ะที่เข้าใจ
เหนื่อยมากกว่าจะสรุปเนื้อหาได้กว่าจะพิมพ์เสร็จก็ปาไปเกือบตีสองแล้ว ผมหันไปมองคนที่ตอนแกนั่งอ่านหนังสือรอเป็นเพื่อนผมอยู่ที่เตียงแต่พอหันไปมองอีกทีนะหรอ “เหมือนกันไม่มีผิดหลับทั้งคนทั้งแมว” ผมกดเซฟงานก่อนจะปิดคอมแล้วเดินไปดึงผ้าห่มคลุมให้กับคนที่นอนหลับ “คงเหนื่อยซินะวันนี้เห็นไปถ่ายงานตอนบ่ายกลางแดดขนาดนั้นแล้วยังต้องมาทำรายงานต่ออีก” ผมกดเปิดโคมไฟที่หัวเตียงก่อนจะเดินไปปิดไฟในห้องแล้วกลับมานอนลงข้างๆ “คนอะไรเนี้ยดูตัวบางๆแท้ๆแต่ฤทธิ์เยอะใช้ได้ ทั้งมัดทั้งมวย ไหนจะเวลาทำงานที่ดูจริงจังกว่าคนอื่นๆ ฟลุ๊คจะรู้ไหมเสน่ห์ที่คนอื่นๆมองข้ามนะมันดึงดูดเราตั้งแต่วันแรกที่เจอเลยนะ” เมื่อพูดจบผมค่อยๆก้มลงไปจูบที่หน้าผากคนที่หลับเบาๆก่อนจะดึงเข้ามากอด “มึงก็พอกันแหล่ะเจอวันแรกก็ดึงดูดคนเข้าหาจนหน้ามั่นไส้” “อ้าวยังไม่หลับหรอ” “ถ้ากูหลับจะรู้ไหมว่ามีคนมาขโมยจูบหน้าผาก” “ร้ายนักนะ” “เออก็ร้ายแบบนี้ไงมึงถึงได้หลงรักเนี้ย” “ก็จริงๆ...นอนเถอะ” “เออไอ้กัน” “ห่ะ?” “มึงรักกูตรงไหนว่ะ...เป็นผู้ชาย พูดจาก็ไม่เพราะ ชอบใช้กำลัง ขี้โวยวาย” “ก็เพราะเป็นแบบนี้แหล่ะถึงชอบ” “มึงบ้าป่ะเนี้ย” “ก็คนพูดหวานๆเดินเข้ามาหาเราอ่ะมีเยอะแล้วแต่แบบฟลุ๊คเนี้ยคนแรกเลย” “มึงนี้ซาดิสใช่ได้นะ” “บ้า...เขาเรียกว่ามองเห็นความโรมแมนติกที่คนอื่นไม่อาจเห็นได้ตั้งหาก” “เออนอนเหอะ” “เดี๋ยวฟลุ๊ค” “อะไร” “ตอนนี้ฟลุ๊ครักเราแล้วป่ะ” “ป่านนี้ยังจะถามอีกนะ” “ก็เราอยากรู้ตกลงฟลุ๊ครักเราป่ะ” คนนอนคดตัวในอกเงยหน้าขึ้นมาก่อนจะจูบที่ริมฝีปากของผมอย่างแผ่วเบาก่อนจะผละริมฝีปากนั้นออก “แบบนี้เป็นคำตอบได้ป่ะละ...จูบแรกของกูมึงก็ขโมยแต่จูบอันนี้กูให้ที่เหลือคิดเองแล้วกันฝันดี” แค่ที่เป็นอยู่ก็รักจะตายแล้วแต่เจอแบบนี้ไปบอกได้คำเดียวว่า รักหมดใจให้คนปากร้ายคนเดียว จริงๆ “ฝันดีครับสุดที่รักของเรา” ขอบคุณคนที่ร้ายกาจที่สอนให้ผมอยากที่จะใช้คำว่าเรา อยากที่จะไขว่คว้าหาคนที่เรารัก และขอบคุณที่ยอมให้ผมรักและเลือกที่จะรักผม และขอบคุณความรักที่ไม่เหมือนใครแบบนี้
V
V
V
V
ขอบคุณที่ติดตามความหวาของ เรา (WE) แล้วจะเข้าใจความหมายของเรามากขึ้น ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่าน ขอบคุณ #ชนภัทร ที่ทำให้เขียนเรื่องนี้ขึ้นมา
คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ