Just love... แค่รักก็พอ

-

เขียนโดย HanaHana[ฮานาฮานะ]

วันที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2559 เวลา 11.46 น.

  10 ตอน
  0 วิจารณ์
  12.60K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2559 08.21 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น

แชร์เรื่องสั้น Share Share Share

 

7) 7

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

            “เคลวิน... คนที่เปลี่ยนเสื้อผ้าให้นาย เขาอยู่ห้องถัดไป” เธอแนะนำแขกคนนั้นให้ผมรู้จัก

            “นายมาพอดีเลย ช่วยเช็ดตัวให้ฉันแทนเธอหน่อย”

            ผมไม่พูดเปล่ารีบคว้ากะละมังและลากตัวเคลวินเข้าไปในห้องนอนพร้อมกับล็อคประตู ผมถอดเสื้อยืดออกและโยนมันไปที่เตียง เคลวินเดินถือผ้าขนหนูผืนเล็กที่ชุ่มน้ำเช็ดด้านหลังให้ผมก่อน มือข้างหนึ่งของเขาวางไว้บนบ่าของฉัน

            ตอนแรกผมก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร สักพักเคลวินเริ่มถูวนไปมาที่แผ่นหลังของผม ส่วนมือที่วางบนไหล่เริ่มลูบไล้ไปมาที่ต้นแขน ผ้าขนหนูที่ชุ่มน้ำค่อยๆเลื่อนต่ำลง...ต่ำลง... เขาวางมือค้างไว้บนบ่าผมข้างหนึ่งก่อนจะกระซิบด้วยเสียงอันเซ็กซี่ว่า

            “ชอบความเป็นส่วนตัวก็ไม่บอก” มือข้างที่ไร้ผ้าขนหนูลูบวนอยู่ที่หน้าท้องของผม “น้องชายนายก็แซ่บใช่ย่อยนะ ซี๊ด~”

            “อ๊ากกกกกกกก~”

            ผมวิ่งออกมาจากห้องโดยไม่ได้ใส่เสื้อ และกระโดดไปเกาะยัยหลานผอ.ที่กำลังนั่งเคี้ยวขนมอยู่ที่โซฟา เธอมองผมด้วยความตกใจเล็กน้อยก่อนจะเข้าใจสถานการณ์เมื่อเคลวินเดินออกมาด้วยท่าทางจะกลืนกินผมเข้าไปทั้งตัว

            “เคลวิน! นายอย่าแกล้งเขาสิ เขาป่วยอยู่นะ”

            “นี่เธอรู้อยู่แล้วหรอว่าเขา...เขาเป็น...”

            ยัยหลานผอ.ไม่ตอบ แต่พยักหน้ารับ ก่อนจะหันไปให้ความสนใจกับถุงขนมในมือต่อ ผมพยายามไล่เคลวินให้ออกจากห้อง ก็นะ...ต่อให้ใจเป็นหญิงแต่ร่างกายก็ยังเป็นชายอยู่ ผมเสียแรงไปกันเรื่องไม่จำเป็นซะเยอะจนตอนนี้เหงื่อท่วมตัว

            “ฉันว่าเช็ดตัวคงไม่ได้ช่วยอะไร นายไปอาบน้ำเลยดีกว่า”

            ผมรับผ้าเช็ดตัวมาก่อนจะเข้าห้องน้ำอย่างไว ที่เป็นอย่างนั้นก็เพราะผมเขิน... คือ... คนที่มันน่าจะเขินน่าจะเป็นเธอมากกว่า ผู้หญิงอะไรยืนมองผู้ชายเปลือย(ท่อนบน)ได้ไม่สะทกสะท้านอะไร เล่นเอาผม(คนเปลือย)เขินแทน

 

            “อาหมิง! เมื่อคืนแกไปค้างที่ไหนมาวะ? แล้วแกไปมีเพื่อนชื่อเคลวินตั้งแต่เมื่อไหร่? ทำไมฉันไม่เห็นรู้จักเลย?”

            ผมรู้มาว่า ยัยหลานผอ.ให้เคลวินโทรไปหาซินเย่บอกที่บ้านว่าผมมาค้างบ้านซินเย่ เพื่อไม่ให้พวกท่านต้องมาเป็นห่วงเป็นกังวล(ว่าจะไปตีกัน) ผมไม่ได้เล่าให้ซินเย่ฟังว่าแท้จริงแล้วผมไปค้างห้องยัยหลานผอ. ขืนเล่าไป...ซินเย่รู้โลกรู้กันพอดี

            ตลอดเช้ายัยหลานผอ.ก็ทำตัวปกติเหมือนไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น ที่แปลกก็คงเป็น... เธอไปได้เบอร์โทรศัพท์ผมมาได้ยังไง? เธอส่งข้อความมายกเลิกนัดกลางวันของเรา ก่อนที่เสียงออดพักกลางวันจะดังขึ้น เมื่อผมหันกลับไปยังโต๊ะหลังห้องเธอก็เดินออกไปแล้ว

            “อาหมิง... วันนี้นายดูไม่ค่อยดีเลยนะ ไม่สบายรึเปล่า?”

            “นิดหน่อยนะ”

            ผมตอบเข่ออี้ไป เธอมองผมด้วยความเป็นห่วง... วันนี้ผมมาร่วมวงกินข้าวกับซินเย่ เข่ออี้ และหลิงหลิง อาหารที่เข่ออี้ทำมัน... ไม่ใช่ว่ามันไม่อร่อย แต่ผมรู้สึกไม่อยากกินมันเท่าไหร่ อาจเป็นเพราะผมไม่สบายอยู่ก็ได้มั้ง

            กริ๊งงงงง

          “เหว่ย?”

            (ฮัลโหลมายสวีทฮาร์ต)

            “เคลวิน!!!” ผมร้องออกมาเสียงดังเมื่อได้ยินเสียงปลายสาย “นายไปได้เบอร์ฉันมาจากไหน?”

            (อยากรู้ก็ออกมาที่หน้าโรงเรียนสิ)

            ผมวางสายจากเคลวิน และเดินตรงไปยังหน้าโรงเรียน ชายหนุ่มตัวสูงโปร่งในคราบชุดนักเรียนสีฟ้าลายหมากรุก สีมันช่างตัดกับผ้าพันคอซะจริง ผ้าพันคอลายหมากรุกของเขาดันเป็นสีแดง…สด! ขอเน้นๆเลยว่าแดงสดจริงๆ

            “เฮ้! นายมาได้ยังไง?”

            ไม่ใช่เสียงผมที่เรียกเคลวิน แต่เป็นยัยหลายผอ.ที่โผล่มาจากมุมมืด เธอวิ่งตรงไปยังเคลวินที่ยืนอยู่หน้าโรงเรียน พวกเขายืนคุยอะไรบางอย่างกันอย่างสนิทสนมก่อนที่เคลวินจะถอดผ้าพันคอจากคอตัวเองไปพันให้เธอ

            ผ้าถูกพันรอบคอยัยหลานผอ.อยู่ 3 รอบก่อนที่เคลวินจะจัดทรงผ้าพันคอให้สวย เขายื่นหน้าเข้าไปใกล้เธอจนจมูกของทั้งคู่ชนกัน อ๊ายยยยย~ อย่างกับคู่รักกัน ถ้าไม่ติดที่ว่าผมรู้ความลับของเคลวินผมคงคิดว่าพวกเขาเป็นคู่รักกันจริงๆ

            หลังจากยืนดูทั้งคู่พลอดรักกันอยู่สักพัก ยัยหลานผอ.ก็กลับเข้าโรงเรียนไป ผมเดินไปหาเคลวินที่ยังคงยืนรอผมอยู่หน้าโรงเรียน เขามองหน้าผมอย่างงงๆเหมือนเราไม่เคยรู้จักกันมาก่อน

            “อาหมิง!” เสียงของใครบางคนดังมาจากด้านหลังผม ทันทีที่หันกลับไป พวกคุณต้องไม่เชื่อแน่เลยว่ามีเคลวิน 2คนอยู่ตรงหน้าผม

            “ถ้านี่... เคลวิน... แล้วนั่นใคร?” ผมหันหน้าสลับไปมาระหว่างเคลวิน 2คน

            “ฉันเอ็ดดี้ ฝาแฝดของเคลวิน”

            เขาพูดทิ้งท้ายไว้ก่อนจะเดินขึ้นรถตู้ที่จอดอยู่แถวนั้นไป เคลวินยื่นถุงกระดาษมาให้ผม มันเป็นยาที่ผมลืมทิ้งไว้ที่ห้องยัยหลานผอ. ที่จริงให้ยัยหลานผอ.เอามาให้ผมมันจะไม่ง่ายกว่าหรอ? เรื่องช็อคยังไม่จบลงแค่นั้น... เอ็ดดี้ที่ว่าเป็นฝาแฝดของเคลวินดันเป็นชายแท้100% ชอบผู้หญิง และคาดว่าผู้หญิงคนนั้นคงเป็นยัยหลานผอ.แน่ๆ

            เวลาพักกลางวันยังคงเหลือไว้ให้ผมได้เตล็ดเตร่ ผมตรงไปยังดาดฟ้าที่ประจำ และแน่นอนยัยนั่นก็ต้องอยู่ที่ดาดาฟ้าเช่นกัน เธอยืนพิงกำแพงเหมือนรู้ว่าผมกำลังมาหา...

            “มาสักทีนะ นายอยากรู้อะไรล่ะ?”

            “.....”

            “O_O”

            ผมยืนเท้าแขนทั้ง 2 ข้างคล่อมตัวเธอไว้ ดูเธอจะตกใจเล็กน้อย... แต่สายตาผมดันไปสะดุดกับผ้าพันคอสีแดง เธอยกมือมากำผ้าพันคอไว้แน่น หวงมากหรอ? ไม่รู้ว่าอารมณ์ผมมันขึ้นๆลงๆเพราะพิษไข้หรืออะไร? ผมรู้สึกหงุดหงิดที่เห็นเธอจะแคร์ผ้าพันคอผืนนี้มาก

            “หวงมากหรอ?” ผมขึ้นเสียงใส่เธอ

            “นายโกรธคนอื่นก็อย่ามาพาลใส่ฉันสิ!” เธอก็ขึ้นเสียงใส่ผมกลับ

            “ฉันไม่ได้โกรธ”

            “ถ้านายไม่ได้โกรธแล้วจะมาตะคอกใส่ฉันทำไม”

            เธอพยายามดันแขนข้างหนึ่งผมออกเพื่อจะเดินออกไป พยายามอยู่นาน... ก็นะ...ถึงผมจะไม่ใช่คนแข็งแรงอะไรแต่ก็สู้แรงน้อยๆของเธอได้ก็แล้วกัน สุดท้ายผมก็ยอมปล่อยให้เธอเดินออกไป เห็นแก่ความพยายามของเธอหรอกนะ

            แต่ผมก็ยังรู้สึกหงุดหงิดให้ไอ้ผ้าพันคอสีแดงนั้นอยู่ดี ผมเดินตามหลังไปคว้าผ้าพันคอนั้นไว้ ทำให้เธอต้องหยุดเดิน... ไม่ใช่อะไรหรอกนะ! การคว้าของผมดันเป็นการไปดึงคอเธอไว้ เธอคงจะรู้สึกจุกที่คอหอย เธอหันกลับมาด้วยใบหน้าเขียวปี๋ กะ...เธอโกรธแล้ว!!!

            “นายทำบ้าอะไร!!!?”

            “อะ...เอ่อ ฉันเห็นอะไรติดผ้าพันคอเลยจะเอาออกให้” ผมแก้ตัวไปน้ำขุ่นๆ

            “มีอะไรติดอยู่อย่างนั้นหรอ?” เธอทำหน้าแบบ นายแก้ตัวไม่ขึ้นเลย “งั้น... ฉันว่า มันก็มีอะไรติดคอเสื้อนายเหมือนกัน”

            เธอคว้าปกคอเสื้อของผมพร้อมกับเหวี่ยงมันไปมา ยัยนี่แรงเยอะเหมือนกันนะเนี่ย ทั้งๆที่เมื่อกี้ผมสู้แรงเธอไหวแต่ตอนนี้กลับสู้ไม่ได้เลย และผมก็คงยอมให้เธอเหวี่ยงคอผมไม่ได้เช่นกัน ผมคว้าไอ้ผ้าพันคอนั่นเพื่อที่จะแกะมันออก แต่ใครมันจะไปคิดล่ะว่ามันจะกลายเป็นเรื่องอภิมหึมา...ใหญ่โตได้ขนาดนั้น

            จุ๊บ

            “ขะ...ขอโทษ”

            ผมขอโทษหลังจากที่ปากเราประกบกันไปเพราะอุบัติเหตุ... มันเป็นอุบัติเหตุจริงๆนะ ผมไม่ได้ตั้งใจ เธอก็ไม่ได้พูดอะไร แล้วก็เดินเข้าไปในตึก ไม่รู้เป็นเพราะว่าเธอเขินหรือโกรธกันแน่ ใจผมนี่เต้นระรัวไม่เป็นจังหวะยิ่งกว่าตอนเจอเข่ออี้ครั้งแรกซะอีก ความรู้สึกตอนที่จูบเธอมันเหมือนไม่ใช่ครั้งแรก ผมรู้สึกคุ้นเคยกับมันมาก่อนหน้านี้... มันมีด้วยหรอตอนที่ผมเคยจูบเธอ???

 

 

คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา