Just love... แค่รักก็พอ
-
เขียนโดย HanaHana[ฮานาฮานะ]
วันที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2559 เวลา 11.46 น.
10 ตอน
0 วิจารณ์
12.34K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2559 08.21 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น
5) 5
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ พักกลางวันฉันมักจะขึ้นมานั่งบนดาดฟ้า อากาศก็ดีแถมยังเงียบสงบอีกด้วย...แต่แล้วความสงบของฉันก็จบลงเมื่อมีผู้ชายคนหนึ่งเข้ามา ทุกเที่ยงของทุกวันเขาจะต้องเอาอาหารกลางวันมาให้ฉันที่ดาดฟ้าเพื่อชดใช้ความผิดที่เขาก่อไว้ แต่พักหลังเขามักจะทำอาหารมาเอง ให้ตายสิ อาหารแต่ละอย่างของเขากินไม่ได้เลย ถ้าไม่เค็มก็หวาน หรือไม่ก็คาว หาความอร่อยไม่ได้จริงๆ
“หลานจะออกไปกินข้าวที่ดาดฟ้าอีกหรอ?”
“ค่ะ”
ฉันเดินออกจากห้องพักผู้อำนวยการโรงเรียน ทันทีที่ประตูปิดลง...
โครม~ ปัง!
“คุณตา!”
ฉันเปิดประตูกลับเข้าไปอีกครั้ง ชายสูงอายุนอนแน่นิ่งอยู่กับพื้น ข้างๆมีเศษแก้วแตก ฉันตะโกนเรียกคนที่อยู่แถวนั้นให้เข้ามาช่วยพาคุณตาส่งโรงพยาบาล ฉันรู้ดีว่าจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อฉันก้าวเท้าออกไปจากห้องนี้ แม้จะรู้ดีแค่ไหนก็ตาม... แต่ฉันก็ไม่สามารถที่จะอยู่ในห้องนี้ต่อไปได้ มันบีบหัวใจเหลือเกิน
“หมอแนะนำว่าอย่าให้คนไข้ต้องเครียดนะครับ โชคดีที่คราวนี้พามาโรงพยาบาลทัน ขืนปล่อยให้คนไข้ต้องเครียดอีกอาจส่งผลต่อระบบประสาทและสมองได้นะครับ”
“ขอบคุณครับคุณหมอ”
คุณอาโค้งคำนับให้หมอก่อนที่จะเดินเข้าไปดูอาการคุณตาใกล้ๆ ฉันได้แต่ยืนมองร่างท่วมๆที่นอนแน่นิ่งโดยมีสายน้ำเกลือ และออกซิเจนพันร่างกายเต็มไปหมด
“เบบี้กลับบ้านไปพักผ่อนก่อนเถอะ เดี๋ยวทางนี้อาดูแลเอง”
“ค่ะ อา”
ฉันกลับมายังโรงเรียนอีกครั้ง มันก็ไม่ได้เย็นอะไรมากมาย ยังมีนักเรียนอีกหลายคนที่ยังไม่กลับบ้าน อยู่ทำกิจกรรมชมรมบ้าง เล่นฟุตบอล บาสเก็ตบอล เบสบอล ว่ายน้ำบ้าง แต่ฉันก็ไม่ได้เข้าชมรมอะไรเลย ก็นะ...โรงเรียนไม่ได้ตั้งกฎว่าต้องเข้าชมรมหนิ
ห้องเรียนที่ว่างเปล่ามีเพียงกระเป๋านักเรียนและหนังสือที่ฉันวางทิ้งไว้บนโต๊ะที่ยังคงอยู่เหมือนเดิม เดี๋ยวนะ...ไม่ใช่แค่ของฉันหนิ ฉันมองไปยังโต๊ะที่เจ้าของโต๊ะมักจะมาวุ่นวายชีวิตฉัน ข้าวของของเขาก็ยังคงอยู่รวมถึงข้าวกล่องที่วางทิ้งไว้ใต้โต๊ะด้วย
ฉันรู้ว่าวันนี้เขาจะไม่สามารถมากินข้าว(เที่ยง)เป็นเพื่อนฉันได้ เพราะเขาจะถูกตามตัวไปกินข้าวกลางวันที่อื่น และฉันก็ต้องไปโรงพยาบาลเพื่อเฝ้าไข้คนๆหนึ่ง แต่ที่ฉันไม่รู้ก็คือ...เขายังคงรอฉันอยู่อย่างนั้นหรอ? ให้ตายสิเขาคงไม่นั่งรอฉันที่ดาดฟ้าตั้งแต่พักกลางวันหรอกนะ ตอนนั้นฝนตกด้วย
ปัง!
ไม่มี... นี่ฉันคิดบ้าอะไรอยู่เนี่ย? คิดว่าเขาจะรอฉันอยู่อย่างนั้นหรอ? ใครมันจะมารอผู้หญิงนิสัยแย่ๆแบบฉันกัน ทั้งเย็นชา วางอำนาจ เอาแต่ใจ แบบฉันกัน...
“เสี่ยวซิน” ร่างกายที่เปียกโชกไปด้วยน้ำ(ฝน)ค่อยๆปรากฏออกมาจากด้านหลังกำแพง “มะ...มาสักทีนะ”
เขายิ้มให้ฉันอย่างอ่อนโยน ใบหน้าที่ซีดเผือกของเขาทำเอาฉันกลัว กลัวประวัติศาสตร์จะซ้ำรอยอีกครั้ง รอยแผลที่ไม่สามารถลบมันออกไปและลืมไม่ลง ตราบาปที่ติดอยู่ในใจของฉัน
ฉันเข้าไปสวมกอดเขา ไม่รู้ว่าทำไมตัวเองถึงทำแบบนั้นเหมือนกัน ร่างกายเขาชุ่มไปด้วยน้ำ ปากที่เขียวเพราะเปียกฝนมานาน มือเย็นยิ่งกว่าเอาไปแช่ในถึงน้ำแข็งแช่กุ้งซะอีก
“นายบ้าหรือโง่กันแน่เนี่ย? ทำไมไม่ไปหลบฝนข้างใน อยากปวดบวม ขึ้นอืดตายรึ...”
จุ๊บ
กรี๊ดดดดดดด~ ไอ้หมอนั่นจูบฉัน
ฉันรีบผลักเขาออกด้วยความตกใจ นะ...นี่ฉันกำลังด่านายอยู่นะ นะ...นายทำอะไรเนี่ย!!!?
“ฉันคิดถึ...”
ฟุบ!
“นาย! นาย! อาหมิง! อาหมิง!!”
พรุ่งนี้เช้าจะลงตอนที่ 6 ให้นะจ้าว... ส่วนตอนที่ 7 บ่ายๆจะตามมา
ชดเชยที่ไม่ได้อัพวันละตอน(ความตั้งใจแรก)
“หลานจะออกไปกินข้าวที่ดาดฟ้าอีกหรอ?”
“ค่ะ”
ฉันเดินออกจากห้องพักผู้อำนวยการโรงเรียน ทันทีที่ประตูปิดลง...
โครม~ ปัง!
“คุณตา!”
ฉันเปิดประตูกลับเข้าไปอีกครั้ง ชายสูงอายุนอนแน่นิ่งอยู่กับพื้น ข้างๆมีเศษแก้วแตก ฉันตะโกนเรียกคนที่อยู่แถวนั้นให้เข้ามาช่วยพาคุณตาส่งโรงพยาบาล ฉันรู้ดีว่าจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อฉันก้าวเท้าออกไปจากห้องนี้ แม้จะรู้ดีแค่ไหนก็ตาม... แต่ฉันก็ไม่สามารถที่จะอยู่ในห้องนี้ต่อไปได้ มันบีบหัวใจเหลือเกิน
“หมอแนะนำว่าอย่าให้คนไข้ต้องเครียดนะครับ โชคดีที่คราวนี้พามาโรงพยาบาลทัน ขืนปล่อยให้คนไข้ต้องเครียดอีกอาจส่งผลต่อระบบประสาทและสมองได้นะครับ”
“ขอบคุณครับคุณหมอ”
คุณอาโค้งคำนับให้หมอก่อนที่จะเดินเข้าไปดูอาการคุณตาใกล้ๆ ฉันได้แต่ยืนมองร่างท่วมๆที่นอนแน่นิ่งโดยมีสายน้ำเกลือ และออกซิเจนพันร่างกายเต็มไปหมด
“เบบี้กลับบ้านไปพักผ่อนก่อนเถอะ เดี๋ยวทางนี้อาดูแลเอง”
“ค่ะ อา”
ฉันกลับมายังโรงเรียนอีกครั้ง มันก็ไม่ได้เย็นอะไรมากมาย ยังมีนักเรียนอีกหลายคนที่ยังไม่กลับบ้าน อยู่ทำกิจกรรมชมรมบ้าง เล่นฟุตบอล บาสเก็ตบอล เบสบอล ว่ายน้ำบ้าง แต่ฉันก็ไม่ได้เข้าชมรมอะไรเลย ก็นะ...โรงเรียนไม่ได้ตั้งกฎว่าต้องเข้าชมรมหนิ
ห้องเรียนที่ว่างเปล่ามีเพียงกระเป๋านักเรียนและหนังสือที่ฉันวางทิ้งไว้บนโต๊ะที่ยังคงอยู่เหมือนเดิม เดี๋ยวนะ...ไม่ใช่แค่ของฉันหนิ ฉันมองไปยังโต๊ะที่เจ้าของโต๊ะมักจะมาวุ่นวายชีวิตฉัน ข้าวของของเขาก็ยังคงอยู่รวมถึงข้าวกล่องที่วางทิ้งไว้ใต้โต๊ะด้วย
ฉันรู้ว่าวันนี้เขาจะไม่สามารถมากินข้าว(เที่ยง)เป็นเพื่อนฉันได้ เพราะเขาจะถูกตามตัวไปกินข้าวกลางวันที่อื่น และฉันก็ต้องไปโรงพยาบาลเพื่อเฝ้าไข้คนๆหนึ่ง แต่ที่ฉันไม่รู้ก็คือ...เขายังคงรอฉันอยู่อย่างนั้นหรอ? ให้ตายสิเขาคงไม่นั่งรอฉันที่ดาดฟ้าตั้งแต่พักกลางวันหรอกนะ ตอนนั้นฝนตกด้วย
ปัง!
ไม่มี... นี่ฉันคิดบ้าอะไรอยู่เนี่ย? คิดว่าเขาจะรอฉันอยู่อย่างนั้นหรอ? ใครมันจะมารอผู้หญิงนิสัยแย่ๆแบบฉันกัน ทั้งเย็นชา วางอำนาจ เอาแต่ใจ แบบฉันกัน...
“เสี่ยวซิน” ร่างกายที่เปียกโชกไปด้วยน้ำ(ฝน)ค่อยๆปรากฏออกมาจากด้านหลังกำแพง “มะ...มาสักทีนะ”
เขายิ้มให้ฉันอย่างอ่อนโยน ใบหน้าที่ซีดเผือกของเขาทำเอาฉันกลัว กลัวประวัติศาสตร์จะซ้ำรอยอีกครั้ง รอยแผลที่ไม่สามารถลบมันออกไปและลืมไม่ลง ตราบาปที่ติดอยู่ในใจของฉัน
ฉันเข้าไปสวมกอดเขา ไม่รู้ว่าทำไมตัวเองถึงทำแบบนั้นเหมือนกัน ร่างกายเขาชุ่มไปด้วยน้ำ ปากที่เขียวเพราะเปียกฝนมานาน มือเย็นยิ่งกว่าเอาไปแช่ในถึงน้ำแข็งแช่กุ้งซะอีก
“นายบ้าหรือโง่กันแน่เนี่ย? ทำไมไม่ไปหลบฝนข้างใน อยากปวดบวม ขึ้นอืดตายรึ...”
จุ๊บ
กรี๊ดดดดดดด~ ไอ้หมอนั่นจูบฉัน
ฉันรีบผลักเขาออกด้วยความตกใจ นะ...นี่ฉันกำลังด่านายอยู่นะ นะ...นายทำอะไรเนี่ย!!!?
“ฉันคิดถึ...”
ฟุบ!
“นาย! นาย! อาหมิง! อาหมิง!!”
พรุ่งนี้เช้าจะลงตอนที่ 6 ให้นะจ้าว... ส่วนตอนที่ 7 บ่ายๆจะตามมา
ชดเชยที่ไม่ได้อัพวันละตอน(ความตั้งใจแรก)
คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ