Everyday, I love you รักนี้ไม่เว้นวันหยุด
7.0
เขียนโดย โนเอล
วันที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2558 เวลา 19.42 น.
5 ตอน
0 วิจารณ์
8,217 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2558 19.44 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น
3)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความนิโนะมิยะ ฮิคารุ กับ ฮาเสะกะวะ ยูกิ เป็นคู่หูหยินหยางที่เรียนด้วยกันมาตั้งแต่ชั้นประถม
ทั้งสองคนอยู่ห้องเดียวกันมาตลอดจนกระทั่งถึงมัธยมต้น มีตอน มัธยมปลายเท่านั้นที่ต่างแยกกันไปเรียนในสายที่ต้องการ
ฮิคารุนั้นเลือกเรียนสายวิทย์ต่อเนื่องจากต้องการสืบทอดกิจการคลินิกรักษาสัตว์ต่อจากครอบครัว
ส่วนยูกินั้นเลือกเรียนสายศิลป์ ด้วยความใฝ่ฝันว่าสักวันจะเป็นนักเขียนให้ได้
ฮิคารุนั้นลักษณะที่ตรงกับข้ามกับชื่อตัวเองโดยสิ้นเชิง เขาไม่ใช้คนสดใสร่าเริงอะไรนัก เรียกได้ว่าเป็นเด็กชายเย็นชาเสียงด้วยซ้ำ และถึงแม้จะมีใบหน้าหล่อเหลาที่เป็นเอกลักษณ์อันดึงดูดให้คนรอบข้างเข้ามาใกล้ แต่เจ้าตัวก็เฉยชาต่อโลกใบนี้เกินจนในที่สุดใครๆ ต่างก็พากันตีตัวออกห่างไปเอง แต่ดูท่าเขาก็ไม่ได้เดือดร้อนเรื่องนี้สักเท่าไหร่นัก
ผิดกับยูกิ รายนี้ก็อบอุ่นดั่งดวงอาทิตย์ไม่เย็นชาแบบชื่อของตนเองแม้แต่น้อย เด็กชายผู้ร่าเริงสดใส เข้ากับคนทุกเพศทุกวัยได้ง่าย เป็นที่รักของบรรดา ลุงๆป้าๆ ทั้งหลาย ด้วยความที่เป็นเด็กมีน้ำใจ ถึงแม้หน้าตาจะธรรมดาๆ แต่ด้วยนิสัยส่วนตัวเป็นแบบนั้น เลยทำให้มีเสน่ห์เรียกผู้คนมากมายให้เข้าใกล้ไม่แพ้กับเพื่อนสนิทอย่างฮิคารุเลย
และด้วยความที่เป็นคนนิสัยแบบนี้ จึงคบหากับ นินะมิยะ ฮิคารุมาได้อย่างไม่มีปัญหาใดๆ สิบปีที่อยู่ด้วยกันมา สนิทสนมกันจนแทบจะเป็นพี่น้องก็ว่าได้
แต่ถึงอย่างนั้น หมู่นี้กลับดูห่างเหินกันไป
ตลอดระยะทางเดินไปสถานีนั้น มิโนะมิยะ ฮิคารุเอาแต่เงียบมาตลอด จนยูกิเองไม่อาจคาดเดาได้อีกฝ่ายว่าคิดอะไรอยู่ อีกทั้งเวลาที่ฮิคารุทำหน้าเฉยชาหรืออยู่ในห้วงอารมณ์คิดมากด้วยแล้ว ใบหน้าหล่อๆนั้นจะดูดุดันและไม่น่าเข้าใกล้เป็นที่สุด แต่ก็มีหลายคนที่ไม่รักตัวกลัวตายคิดว่า ใบหน้าแบบนั้นแหละ มีเสน่ห์
“นี่ คิดมากเรื่องอะไรหรอ”
ในที่สุดยูกิก็ทนความอึดอัดของสถานการณ์ตรงหน้าไม่ไหว เขาเอ่ยถามด้วยประโยคที่ชาตินี้ไม่คิดจะถามฮิคารุแบบนี้ เพราะคลอดเวลาที่อยู่ด้วยกันมานั้น สีหน้าของฮิคารุเป็นแบบไหน เขาสามารถจำแนกและอ่านได้หมด
เวลาที่ฮิคารุไม่สบายใจ เหนื่อย มีความสุข เวลาที่ไม่อยากให้คนเข้าใกล้ เวลาดีใจ เสียใจ โกรธ ผิดหวัง ทะเลาะกับที่บ้าน เบื่ออาจารย์ หงุดหงิดเรื่องคนรอบข้าง ไม่ว่าสีหน้าแบบไหน คนพูดน้อยอย่างฮิคารุกลับถูกเขาอ่านออกหมดอย่างทะลุปรุโปร่ง
แต่ตอนนี้มันไม่ใช้อีกแล้ว
“นี้นายถามฉันหรอ?”
คำตอบกลายเป็นคำถามที่ถามกลับ ฮาเสะกะวะ ยูกิงงงันที่อีกฝ่ายเอ่ยตอบกลับมาเช่นนี้
“ก็ใช้นะสิ ฉันถามนาย เดินด้วยกันสองคน ไม่ถามนายจะให้ถามใครล่ะ”
“เดี๋ยวนี้กล้ายอกย้อนฉันเรอะ เจ้าเปี๊ยก!”
ทั้งสองคนอยู่ห้องเดียวกันมาตลอดจนกระทั่งถึงมัธยมต้น มีตอน มัธยมปลายเท่านั้นที่ต่างแยกกันไปเรียนในสายที่ต้องการ
ฮิคารุนั้นเลือกเรียนสายวิทย์ต่อเนื่องจากต้องการสืบทอดกิจการคลินิกรักษาสัตว์ต่อจากครอบครัว
ส่วนยูกินั้นเลือกเรียนสายศิลป์ ด้วยความใฝ่ฝันว่าสักวันจะเป็นนักเขียนให้ได้
ฮิคารุนั้นลักษณะที่ตรงกับข้ามกับชื่อตัวเองโดยสิ้นเชิง เขาไม่ใช้คนสดใสร่าเริงอะไรนัก เรียกได้ว่าเป็นเด็กชายเย็นชาเสียงด้วยซ้ำ และถึงแม้จะมีใบหน้าหล่อเหลาที่เป็นเอกลักษณ์อันดึงดูดให้คนรอบข้างเข้ามาใกล้ แต่เจ้าตัวก็เฉยชาต่อโลกใบนี้เกินจนในที่สุดใครๆ ต่างก็พากันตีตัวออกห่างไปเอง แต่ดูท่าเขาก็ไม่ได้เดือดร้อนเรื่องนี้สักเท่าไหร่นัก
ผิดกับยูกิ รายนี้ก็อบอุ่นดั่งดวงอาทิตย์ไม่เย็นชาแบบชื่อของตนเองแม้แต่น้อย เด็กชายผู้ร่าเริงสดใส เข้ากับคนทุกเพศทุกวัยได้ง่าย เป็นที่รักของบรรดา ลุงๆป้าๆ ทั้งหลาย ด้วยความที่เป็นเด็กมีน้ำใจ ถึงแม้หน้าตาจะธรรมดาๆ แต่ด้วยนิสัยส่วนตัวเป็นแบบนั้น เลยทำให้มีเสน่ห์เรียกผู้คนมากมายให้เข้าใกล้ไม่แพ้กับเพื่อนสนิทอย่างฮิคารุเลย
และด้วยความที่เป็นคนนิสัยแบบนี้ จึงคบหากับ นินะมิยะ ฮิคารุมาได้อย่างไม่มีปัญหาใดๆ สิบปีที่อยู่ด้วยกันมา สนิทสนมกันจนแทบจะเป็นพี่น้องก็ว่าได้
แต่ถึงอย่างนั้น หมู่นี้กลับดูห่างเหินกันไป
ตลอดระยะทางเดินไปสถานีนั้น มิโนะมิยะ ฮิคารุเอาแต่เงียบมาตลอด จนยูกิเองไม่อาจคาดเดาได้อีกฝ่ายว่าคิดอะไรอยู่ อีกทั้งเวลาที่ฮิคารุทำหน้าเฉยชาหรืออยู่ในห้วงอารมณ์คิดมากด้วยแล้ว ใบหน้าหล่อๆนั้นจะดูดุดันและไม่น่าเข้าใกล้เป็นที่สุด แต่ก็มีหลายคนที่ไม่รักตัวกลัวตายคิดว่า ใบหน้าแบบนั้นแหละ มีเสน่ห์
“นี่ คิดมากเรื่องอะไรหรอ”
ในที่สุดยูกิก็ทนความอึดอัดของสถานการณ์ตรงหน้าไม่ไหว เขาเอ่ยถามด้วยประโยคที่ชาตินี้ไม่คิดจะถามฮิคารุแบบนี้ เพราะคลอดเวลาที่อยู่ด้วยกันมานั้น สีหน้าของฮิคารุเป็นแบบไหน เขาสามารถจำแนกและอ่านได้หมด
เวลาที่ฮิคารุไม่สบายใจ เหนื่อย มีความสุข เวลาที่ไม่อยากให้คนเข้าใกล้ เวลาดีใจ เสียใจ โกรธ ผิดหวัง ทะเลาะกับที่บ้าน เบื่ออาจารย์ หงุดหงิดเรื่องคนรอบข้าง ไม่ว่าสีหน้าแบบไหน คนพูดน้อยอย่างฮิคารุกลับถูกเขาอ่านออกหมดอย่างทะลุปรุโปร่ง
แต่ตอนนี้มันไม่ใช้อีกแล้ว
“นี้นายถามฉันหรอ?”
คำตอบกลายเป็นคำถามที่ถามกลับ ฮาเสะกะวะ ยูกิงงงันที่อีกฝ่ายเอ่ยตอบกลับมาเช่นนี้
“ก็ใช้นะสิ ฉันถามนาย เดินด้วยกันสองคน ไม่ถามนายจะให้ถามใครล่ะ”
“เดี๋ยวนี้กล้ายอกย้อนฉันเรอะ เจ้าเปี๊ยก!”
คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ