โอกาสที่เสียไป
5.5
เขียนโดย Kanaki
วันที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2558 เวลา 13.59 น.
2 chapter
7 วิจารณ์
10.94K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 29 กันยายน พ.ศ. 2558 14.02 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น
2) Love&Time เวลาความรัก
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ หวัดดีครับทุกคน ทุกคนคงได้ฟังเรื่องราวที่ผมเกริ่นไว้ในตอนแรกแล้ว วันนี้ผมจะมาพูดถึงเรื่อง 'เวลา' และ 'ความรัก' กัน
คนเรามีเวลาเท่ากันคือ 24 ชั่งโมง คุณคิดว่าคุณได้ใช้เวลาทั้งวันคุ้มค่าแค่ไหนกัน ทั้งตัวคุณและคนที่คุณรัก สำหรับตัวผม ผมคิดว่าผมใช้เวลาในทุกๆ วันคุ้มค่ามาก เพราะผมมีชีวิตอยู่เพื่องาน ถึงจะแต่งงานมา 3 ปีแล้วก็ตาม คุณรู้ไหม ผมคิดว่าถ้ามีงาน ผมก็จะมีเงิน ลูกและภรรยาผมก็จะมีชีวิตสุขสบาย แต่ไม่ใช่เลย พวกเขาไม่ได้ต้องการสิ่งเหล่านั้น พวกเขาต้องการผม ต้องการให้ผมมีเวลาอยู่กับพวกเขา ไม่ใช่ใช้เวลาหมดไปกับงาน ผมไม่เคยรู้ตัวและยังคงดำเนินชีวิตต่อไปในรูปแบบนี้ จนกระทั่งวันหนึ่ง...
ผมกลับมาบ้านเลยเที่ยงคืนเกือบทุกวันจนเป็นเรื่องปกติ แต่วันนี้ผมกลับมาเร็วกว่าปกติเพราะรู้สึกเป็นห่วงภรรยาของผมแปลกๆ และลางสังหรณ์ผมก็มันก็เป็นจริง ร่างไร้สติของแฟนสาวนอนกองอยู่บนพื้นพรมนั่นทำเอาผมแทบสิ้นสติ สองเท้าก้าวเข้าไปใกล้ร่างนั้นอย่างรวดเร็วก่อนจะช้อนร่างนั้นไว้ในอ้อมแขน หน้าที่ซีดเซียวนั่นน่ากลัวจนใจหาย ผมจะทำยังไงดี...
นานเกือบ 2 ชั่วโมงแล้วที่ผมนั่งรออยู่หน้าห้อง ICU หมอและพยาบาลวิ่งเข้าออกกันให้วุ่นวาย ไม่นานนักหมอก็เดินเข้ามาหาผมด้วยสีหน้าตึงเครียด ไม่ใช่สิ่งที่ผมคิดใช่ไหม
"หมอเสียใจด้วยนะครับ คนไข้เสียชีวิตแล้ว"
สิ่งที่ผมได้ยินทำเอาผมแทบล้มทั้งยืน ได้ยังไง เธอไม่เคยบอกอะไรผมเลยด้วยซ้ำเธอสุขภาพแข็งแรงและร่าเริงแจ่มใส ไม่มีทาง ผมไม่เชื่อ!!
‘หมอดูแลคนไข้คนนี้มามากกว่า 6 เดือนได้แล้วครับ ผมบอกให้เธอไปปรึกษาครอบครัวเกี่ยวกับการผ่าตัดในการรักษา โรคนี้ร้ายแรงถึงแก่ชีวิตได้ ถ้าไม่รีบรักษาโดยด่วน ไม่ทราบว่าเธอได้ปรึกษากับคุณบ้างหรือเปล่าครับ?’
‘ไม่นะครับ ผมไม่เคยรู้เรื่องเลย และเธอก็เก็บมันไว้ตลอด’
‘เธออาจจะกังวลเกี่ยวกับค่ารักษาก็ได้ครับ เพราะการผ่าตัดค่อนข้างมีค่าใช้จ่ายสูง โรคหัวใจไม่ใช่จะรักษาได้ง่ายๆ ต้องมีการปลูกถ่ายหัวใจใหม่ ซึ่งหัวใจวายเฉียบพลันเกิดขึ้นได้เสมอตอนนี้หมอต้องขอตัวก่อนนะครับ’
ทำไมเรื่องนี้ต้องเกิดขึ้นกับเธอ ทำไมเธอไม่บอกผม เก็บเรื่องนี้มาทำไมตั้งเกือบครึ่งปี ตลอดเวลาที่เกิดขึ้นผมเอาแต่โทษเธอ โทษเรื่องอื่นๆ แต่ไม่เคยหันกลับมาโทษตัวเองเลย ว่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นน่ะ เพราะผมไม่เคยมีเวลาให้เธอเลย ไม่เคยแม้แต่จะนั่งกินข้าวด้วยกันสักครั้ง
ผมกลับมาบ้านหลังจากเคลียร์เรื่องของ ‘เจน’ แฟนสาวของผมสำเร็จ ผมสำรวจบ้านที่ผมอยู่มานานกว่า 3 ปีเหมือนคนที่เพิ่งจะย้ายเข้ามาใหม่ ผมไม่เคยได้เดินสำรวจมานานแล้ว ผมใช้เวลาอยู่กับที่ทำงานมากกว่าอยู่บ้านอีก พื้นบ้านค่อนข้างสะอาดเพราะภรรยาผมดูแลมันอย่างดี ของใช้สำหรับเด็กที่เราซื้อมาเก็บไว้เพื่อลูกน้อยของเรามันก็คงไม่ได้ใช้อีกแล้ว ภายในวันเดียวผมเสียคนที่รักไปสองคนพร้อมๆ กัน นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน! ทุกคนทิ้งผมไปหมดแล้ว ทั้งเจนทั้งลูกในท้องต่างก็ทิ้งผมไปกันหมด ใจร้าย ใจร้ายจริงๆ...
ผมไม่รู้ว่าตัวเองนั่งร้องไห้อยู่บนโซฟาเก่าๆ ตัวนี้มานานแค่ไหนแล้ว ทีวีที่เปิดค้างไว้ยังฉายหนังเก่าๆ ซ้ำไปซ้ำมา ขวดเหล้าหลายขวดที่ระเกะระกะอยู่กลางโต๊ะไม่ได้ช่วยให้อารมณ์ขุ่นมัวของผมคลายไปมากนัก แต่ก็ยังพอเยียวยาให้ผมรู้ว่าตัวเองเป็นคน ยังมีความรู้สึกหลงเหลืออยู่ ยังไม่ตาย... ผมยังไม่ตาย นั่นสิ ทำไมผมถึงยังไม่ตาย ผมจะอยู่ไปอีกทำไม ผมไม่อยากอยู่อีกแล้ว ผมจะมีชีวิตอยู่ไปเพื่ออะไร คนที่ผมรักตอนนี้พวกเขาอยู่ที่ไหนสักแห่ง ผมควรจะตามพวกเขาไปสิ
สองเท้าก้าวไปยังลิ้นชักไม้ขนาดใหญ่ที่มีสิ่งที่ผมต้องการอยู่ในนั้น สิ่งที่จะทำให้ผมไปหาลูกไปหาเจน ผมยิ้มเหมือนคนบ้า ผมรู้สึกต้องบ้าแน่ๆ บ้าไปแล้ว แต่จะทำยังไงได้ ตอนนี้ผมเหมือนคนไร้สติไม่มีวิญญาณ มือทั้งสองข้างควานหาบางอย่างในนั้น แต่กลับพบเพียงความว่างเปล่า ไม่มี...ปืน สายตาเหลือบไปเห็นซองจดหมายสีน้ำตาลที่วางอยู่ข้างในแทน จ่าหน้าซองว่า ‘พีท’ ผมค่อยๆ บรรจงแกะจดหมายอย่างนิ่มนวล ลายมือสวยงามที่เขียนอย่างเป็นระเบียบเป็นลายมือของเจนอย่างแน่นอน สายตาของผมเริ่มไล่อ่านไปทีละบรรทัดอย่างใจเย็น
ถึง พีทที่รัก
ถ้าพีทได้เปิดอ่านจดหมายฉบับนี้แล้วล่ะก็ แสดงว่าเจนไม่ได้อยู่เคียงข้างพีทอีกต่อไปแล้วนะ เจนน่ะไม่เคยโกรธพีทเลยที่พีทไม่ค่อยได้ให้เวลากับเราสองคนเท่าไหร่ เพราะพีทอยากให้เราสุขสบายเลยทำงานหนักขนาดนั้น เจนเข้าใจนะ และพร้อมจะให้อภัยพีทเสมอ เจนขอโทษที่ไม่ได้บอกเรื่องโรคหัวใจที่เจนเป็นอยู่ เจนไม่อยากให้พีทไม่สบายใจและยังเรื่องค่ารักษาอีก พีทไม่ต้องเป็นห่วงนะ ถึงเจนจะไม่อยู่แล้วแต่พีทก็ต้องเข็มแข็ง พีทต้องอยู่ให้ได้ เจนขอโทษสำหรับทุกอย่างและขอบคุณช่วงเวลาดีๆ ที่พีทให้เจนมาตลอด ถึงแม้จะสั้นๆ แต่เจนก็มีความสุขมาก ส่วนเรื่องปืน เจนเอาไปซ่อนไว้หลังบ้านใต้กระถางต้นไม้นะ เพราะรู้ว่าสักวันพีทจะต้องมาหามัน เจนอยากให้พีทมีชีวิตอยู่ต่อไปนะ อย่าทำให้เจนต้องเป็นห่วงเลย ถือว่าทำเพื่อเจนเป็นครั้งสุดท้ายนะ
ด้วยรัก เจน
ผมอ่านจดหมายด้วยความรู้สึกเจ็บปวด น้ำตาค่อยๆ รินไหลออกมาอีกครั้ง เจนคงจะยิ้มให้ผมอยู่ที่ไหนสักแห่ง เธอเป็นคนน่ารักและผมรักเธอ รักสุดหัวใจ รักจนลืมไปว่าสิ่งสำคัญที่สุดไม่ใช่เงินทอง สิ่งนั้นไม่ได้สร้างความสุขให้กับเธอเลย ผมมันโง่และงี่เง่ามากที่สุด ผมทำอะไรไม่ได้เลย ผมอยากย้อนเวลากลับไปแก้ไขทุกอย่างถ้าผมทำได้ ผมจะไม่ปล่อยให้เธอต้องอยู่คนเดียวอีกแล้ว ไม่มีวัน! จดหมายฉบับนี้ทำให้สติผมเริ่มกลับมาอีกครั้ง ความอยากตายที่ครอบงำผมเริ่มจางหายไปและรู้สึกตัวว่าผมควรทำอะไรผมต้องมีชีวิตอยู่ต่อไป ผมต้องผ่านเรื่องนี้ไปให้ได้ ถึงแม้มันจะเจ็บปวดก็ตาม ผมจะทำตามสัญญานะเจน เส้นทางที่ผมเคยเดินผิดมาตลอด ผมจะแก้ไขมันให้ถูกต้องและดำรงชีวิตอยู่ต่อไปด้วยตัวเอง ขอบคุณนะเจน ขอบคุณที่เข้ามาในชีวิตผม ขอบคุณทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำให้เราสองคนได้มาพบกัน ผมรักเจนนะ
คนเรามีเวลาเท่ากันคือ 24 ชั่งโมง คุณคิดว่าคุณได้ใช้เวลาทั้งวันคุ้มค่าแค่ไหนกัน ทั้งตัวคุณและคนที่คุณรัก สำหรับตัวผม ผมคิดว่าผมใช้เวลาในทุกๆ วันคุ้มค่ามาก เพราะผมมีชีวิตอยู่เพื่องาน ถึงจะแต่งงานมา 3 ปีแล้วก็ตาม คุณรู้ไหม ผมคิดว่าถ้ามีงาน ผมก็จะมีเงิน ลูกและภรรยาผมก็จะมีชีวิตสุขสบาย แต่ไม่ใช่เลย พวกเขาไม่ได้ต้องการสิ่งเหล่านั้น พวกเขาต้องการผม ต้องการให้ผมมีเวลาอยู่กับพวกเขา ไม่ใช่ใช้เวลาหมดไปกับงาน ผมไม่เคยรู้ตัวและยังคงดำเนินชีวิตต่อไปในรูปแบบนี้ จนกระทั่งวันหนึ่ง...
ผมกลับมาบ้านเลยเที่ยงคืนเกือบทุกวันจนเป็นเรื่องปกติ แต่วันนี้ผมกลับมาเร็วกว่าปกติเพราะรู้สึกเป็นห่วงภรรยาของผมแปลกๆ และลางสังหรณ์ผมก็มันก็เป็นจริง ร่างไร้สติของแฟนสาวนอนกองอยู่บนพื้นพรมนั่นทำเอาผมแทบสิ้นสติ สองเท้าก้าวเข้าไปใกล้ร่างนั้นอย่างรวดเร็วก่อนจะช้อนร่างนั้นไว้ในอ้อมแขน หน้าที่ซีดเซียวนั่นน่ากลัวจนใจหาย ผมจะทำยังไงดี...
นานเกือบ 2 ชั่วโมงแล้วที่ผมนั่งรออยู่หน้าห้อง ICU หมอและพยาบาลวิ่งเข้าออกกันให้วุ่นวาย ไม่นานนักหมอก็เดินเข้ามาหาผมด้วยสีหน้าตึงเครียด ไม่ใช่สิ่งที่ผมคิดใช่ไหม
"หมอเสียใจด้วยนะครับ คนไข้เสียชีวิตแล้ว"
สิ่งที่ผมได้ยินทำเอาผมแทบล้มทั้งยืน ได้ยังไง เธอไม่เคยบอกอะไรผมเลยด้วยซ้ำเธอสุขภาพแข็งแรงและร่าเริงแจ่มใส ไม่มีทาง ผมไม่เชื่อ!!
‘หมอดูแลคนไข้คนนี้มามากกว่า 6 เดือนได้แล้วครับ ผมบอกให้เธอไปปรึกษาครอบครัวเกี่ยวกับการผ่าตัดในการรักษา โรคนี้ร้ายแรงถึงแก่ชีวิตได้ ถ้าไม่รีบรักษาโดยด่วน ไม่ทราบว่าเธอได้ปรึกษากับคุณบ้างหรือเปล่าครับ?’
‘ไม่นะครับ ผมไม่เคยรู้เรื่องเลย และเธอก็เก็บมันไว้ตลอด’
‘เธออาจจะกังวลเกี่ยวกับค่ารักษาก็ได้ครับ เพราะการผ่าตัดค่อนข้างมีค่าใช้จ่ายสูง โรคหัวใจไม่ใช่จะรักษาได้ง่ายๆ ต้องมีการปลูกถ่ายหัวใจใหม่ ซึ่งหัวใจวายเฉียบพลันเกิดขึ้นได้เสมอตอนนี้หมอต้องขอตัวก่อนนะครับ’
ทำไมเรื่องนี้ต้องเกิดขึ้นกับเธอ ทำไมเธอไม่บอกผม เก็บเรื่องนี้มาทำไมตั้งเกือบครึ่งปี ตลอดเวลาที่เกิดขึ้นผมเอาแต่โทษเธอ โทษเรื่องอื่นๆ แต่ไม่เคยหันกลับมาโทษตัวเองเลย ว่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นน่ะ เพราะผมไม่เคยมีเวลาให้เธอเลย ไม่เคยแม้แต่จะนั่งกินข้าวด้วยกันสักครั้ง
ผมกลับมาบ้านหลังจากเคลียร์เรื่องของ ‘เจน’ แฟนสาวของผมสำเร็จ ผมสำรวจบ้านที่ผมอยู่มานานกว่า 3 ปีเหมือนคนที่เพิ่งจะย้ายเข้ามาใหม่ ผมไม่เคยได้เดินสำรวจมานานแล้ว ผมใช้เวลาอยู่กับที่ทำงานมากกว่าอยู่บ้านอีก พื้นบ้านค่อนข้างสะอาดเพราะภรรยาผมดูแลมันอย่างดี ของใช้สำหรับเด็กที่เราซื้อมาเก็บไว้เพื่อลูกน้อยของเรามันก็คงไม่ได้ใช้อีกแล้ว ภายในวันเดียวผมเสียคนที่รักไปสองคนพร้อมๆ กัน นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน! ทุกคนทิ้งผมไปหมดแล้ว ทั้งเจนทั้งลูกในท้องต่างก็ทิ้งผมไปกันหมด ใจร้าย ใจร้ายจริงๆ...
ผมไม่รู้ว่าตัวเองนั่งร้องไห้อยู่บนโซฟาเก่าๆ ตัวนี้มานานแค่ไหนแล้ว ทีวีที่เปิดค้างไว้ยังฉายหนังเก่าๆ ซ้ำไปซ้ำมา ขวดเหล้าหลายขวดที่ระเกะระกะอยู่กลางโต๊ะไม่ได้ช่วยให้อารมณ์ขุ่นมัวของผมคลายไปมากนัก แต่ก็ยังพอเยียวยาให้ผมรู้ว่าตัวเองเป็นคน ยังมีความรู้สึกหลงเหลืออยู่ ยังไม่ตาย... ผมยังไม่ตาย นั่นสิ ทำไมผมถึงยังไม่ตาย ผมจะอยู่ไปอีกทำไม ผมไม่อยากอยู่อีกแล้ว ผมจะมีชีวิตอยู่ไปเพื่ออะไร คนที่ผมรักตอนนี้พวกเขาอยู่ที่ไหนสักแห่ง ผมควรจะตามพวกเขาไปสิ
สองเท้าก้าวไปยังลิ้นชักไม้ขนาดใหญ่ที่มีสิ่งที่ผมต้องการอยู่ในนั้น สิ่งที่จะทำให้ผมไปหาลูกไปหาเจน ผมยิ้มเหมือนคนบ้า ผมรู้สึกต้องบ้าแน่ๆ บ้าไปแล้ว แต่จะทำยังไงได้ ตอนนี้ผมเหมือนคนไร้สติไม่มีวิญญาณ มือทั้งสองข้างควานหาบางอย่างในนั้น แต่กลับพบเพียงความว่างเปล่า ไม่มี...ปืน สายตาเหลือบไปเห็นซองจดหมายสีน้ำตาลที่วางอยู่ข้างในแทน จ่าหน้าซองว่า ‘พีท’ ผมค่อยๆ บรรจงแกะจดหมายอย่างนิ่มนวล ลายมือสวยงามที่เขียนอย่างเป็นระเบียบเป็นลายมือของเจนอย่างแน่นอน สายตาของผมเริ่มไล่อ่านไปทีละบรรทัดอย่างใจเย็น
ถึง พีทที่รัก
ถ้าพีทได้เปิดอ่านจดหมายฉบับนี้แล้วล่ะก็ แสดงว่าเจนไม่ได้อยู่เคียงข้างพีทอีกต่อไปแล้วนะ เจนน่ะไม่เคยโกรธพีทเลยที่พีทไม่ค่อยได้ให้เวลากับเราสองคนเท่าไหร่ เพราะพีทอยากให้เราสุขสบายเลยทำงานหนักขนาดนั้น เจนเข้าใจนะ และพร้อมจะให้อภัยพีทเสมอ เจนขอโทษที่ไม่ได้บอกเรื่องโรคหัวใจที่เจนเป็นอยู่ เจนไม่อยากให้พีทไม่สบายใจและยังเรื่องค่ารักษาอีก พีทไม่ต้องเป็นห่วงนะ ถึงเจนจะไม่อยู่แล้วแต่พีทก็ต้องเข็มแข็ง พีทต้องอยู่ให้ได้ เจนขอโทษสำหรับทุกอย่างและขอบคุณช่วงเวลาดีๆ ที่พีทให้เจนมาตลอด ถึงแม้จะสั้นๆ แต่เจนก็มีความสุขมาก ส่วนเรื่องปืน เจนเอาไปซ่อนไว้หลังบ้านใต้กระถางต้นไม้นะ เพราะรู้ว่าสักวันพีทจะต้องมาหามัน เจนอยากให้พีทมีชีวิตอยู่ต่อไปนะ อย่าทำให้เจนต้องเป็นห่วงเลย ถือว่าทำเพื่อเจนเป็นครั้งสุดท้ายนะ
ด้วยรัก เจน
ผมอ่านจดหมายด้วยความรู้สึกเจ็บปวด น้ำตาค่อยๆ รินไหลออกมาอีกครั้ง เจนคงจะยิ้มให้ผมอยู่ที่ไหนสักแห่ง เธอเป็นคนน่ารักและผมรักเธอ รักสุดหัวใจ รักจนลืมไปว่าสิ่งสำคัญที่สุดไม่ใช่เงินทอง สิ่งนั้นไม่ได้สร้างความสุขให้กับเธอเลย ผมมันโง่และงี่เง่ามากที่สุด ผมทำอะไรไม่ได้เลย ผมอยากย้อนเวลากลับไปแก้ไขทุกอย่างถ้าผมทำได้ ผมจะไม่ปล่อยให้เธอต้องอยู่คนเดียวอีกแล้ว ไม่มีวัน! จดหมายฉบับนี้ทำให้สติผมเริ่มกลับมาอีกครั้ง ความอยากตายที่ครอบงำผมเริ่มจางหายไปและรู้สึกตัวว่าผมควรทำอะไรผมต้องมีชีวิตอยู่ต่อไป ผมต้องผ่านเรื่องนี้ไปให้ได้ ถึงแม้มันจะเจ็บปวดก็ตาม ผมจะทำตามสัญญานะเจน เส้นทางที่ผมเคยเดินผิดมาตลอด ผมจะแก้ไขมันให้ถูกต้องและดำรงชีวิตอยู่ต่อไปด้วยตัวเอง ขอบคุณนะเจน ขอบคุณที่เข้ามาในชีวิตผม ขอบคุณทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำให้เราสองคนได้มาพบกัน ผมรักเจนนะ
คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
5.4 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
5.6 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
5.4 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ