Hajimete no koi wo owaru toki ยามที่รักแรกสิ้นสุด
8.2
เขียนโดย LadiesAika
วันที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 เวลา 17.33 น.
3 ตอน
2 วิจารณ์
6,009 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2558 12.29 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น
1) บทนำ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความบทนำ
"แล้วเจอกันพรุ่งนี้นะฮานะ"
หญิงสาวปมสีน้ำตาลดัดลอนเอ่ยร่ำลากับหญิงสาสผมดำยาวสลวยที่ยืนกวาดพื้นอยู่ด้านในห้องเรียน
"จ้ะ แล้วเจอกัน"
หญิงสาสผมดำนามว่า 'ฮานะ' เอ่ยร่ำลาเพื่อนเธอตอบ หญิงสาสผมน้ำตาลดัดลอนยิ้มบางๆให้กับเธอแล้วเดินออกจากห้องไปในทันที
พรุ่งนี้... วันสุดท้ายแล้วสินะ
ฮานะคิดในใจเงียบๆ เพราะอีกไม่กี่วันเธอก็ต้องย้ายบ้านไปตามที่ทำงานของคุณพ่อของเธอ และที่ๆพ่อของเธอไปทำงานอยู่มันค่อนข้างที่จะไกลจากเมืองๆนี้ที่เธออยู่มาก พ่อกับแม่ของเธอเองก็เป็นห่วงไม่อยากให้ลูกสาวเพียงคนเดียวต้องใช้ชีวืตอยู่ในเมืองตามลำพัง พวกเขาจึงอยากให้เธอย้ายตามไปด้วยและแน่นอนว่าโรงเรียนแห่งนี้ที่เธออยู่ เธอก็ต้องย้ายออกเช่นกัน เพราะไม่อาจจะที่จะนั่งไฟจากบ้านใหม่ของเธอมาถึงโรงเรียนนี้ได้ ถึงเธอจะรู้สึกเศร้าใจอยู่ไม่น้อยที่ต้องแยกจากเพื่อนๆแต่เพราะมันเป็นเหตุจำเป็นอย่าเลี่ยงไม่ได้ เธอจึงได้แต่ยอมทำใจและใช้เวลาที่เหลืออยู่ให้คุ้มค่าเท่านั้น
พรุ่งนี้คือวันเสาร์ซึ่งมันเป็นวันหยุดและเป็นวันสุดท้ายที่เธอจะได้อยู่ที่เมืองๆนี้ เธิจึงตัดสินใจนัดเพื่อนที่สนิททุกๆคนของเธอออกมาเที่ยวกัน แล้วเธิก็กะว่าถ้าเที่ยวเสร็จก็จะบอกเรื่องทั้งหมดให้พวกเขาได้รู้และร่ำลากันเสียตรงนั้นเลย แต่ว่า...มันก็มีอยู่คนหนึ่งที่เธอก็อยากจะชวนมาเหมือนกัน แต่เธอดันไม่มีความกล้ามากพอเสียนี่! เธอไม่รู้ว่าเธิจะรับหน้าเขายังไงดี จะปั้นหน้ายังไงเมื่อเธอบอกเรื่องที่เธอจะย้ายออกจากเมืองนี้ แล้วถ้าเธอได้บอกคำๆนั้นไป คำที่เธอเก็บมันไว้ในใจมาเนิ่นนานเขาจะรับไหม? แล้วเธอกับเขาจะยังคงได้เป็นเพื่อนกันแบบเดิมเช่นนี้ิยู่รึเปล่า? ...เพราะความกลัวทำให้เธอไม่กล้าแม้แต่จะมองหน้าเขา เพราะขึ้นชื่อว่า 'เพื่อน' แล้วเขากับเธอก็ค่อนข้างจะสนิทกัน จะไปโดยไม่ร่ำไม่ลาก็กะไรอยู่นะ... แต่ปัญหาคือ...เธอจะสู้หน้าเขายังไง!?
"เฮ้อ..."
คิดได้แบบนั้นแล้วเธอก็อดที่จะถอดหายใจออกมาไม่ได้ เธอในตอนนี้ทั้งกังวน ทั้งกลุ้มใจ เพราะเธอไม่รู้จะทำยังไงต่อดีแล้ว ในตอนนี้หัวสมองของเธอแทบจะระเบิดออกมาเพียงเพราะคนคนเดียว! แต่คนๆนั้นกลับมีอิธิพลต่อหัวใจของเธอเอาเสียมากๆ ทำให้เธอไม่อยากที่จะสะบัดเรื่องของเขาออกไปจากหัวได้เลย
"ถอดหายใจอะไรอยู่คนเดียว?"
"ตาเถร!!!"
จู่ๆอยู่มีเสียงเสียงหนึ่งดังขึ้นมาทางข้าวหลังของเธอ และเพราะเธอกำลังคิดอะไรเพลินๆอยู่พอมีคนมาทักแบบไม่ทันให้เธอได้ตั้งตัว เธอก็อุทานออกมาเสียงดังลั่นด้วยความตกใจในทันที ...เธอหันกลับไปมองด้านหลังของเธอก็ได้พบกับเพื่อนสมัยเด็กของเธอเอง และเขาก็คือคนๆเดียวกับคนที่เธอกำลังกังวนใจอยู่ด้วย
"โผล่มาไม่ให้ซุมไม่ให้เสียง เกิดฉันหัวใจวายตายขึ้นมาใครจะรับผิดชอบ เคียวยะ..?"
เธอก้ามเอวมองชายหนุ่มผมดำสนิทด้วยท่าทางไม่พอใจเล็กน้อยที่อยู่ๆเขาก็โผล่มาแบบเงียบๆ แกล้งทำให้เธอตกใจเล่น แล้วแทนที่เจ้าตัวจะสำนึก แต่กลับมายืนกลั้นขำให้เธอเห็นบ่งบอกได้ชัดว่าชายคนนี้หาได้สำนึกผิดอะไรเลย
ตานี่...วอนโดนพระบาทาแล้ว!
"เธอก็เวอร์ไปฮานะ...ว่าแต่เธอมีเรื่องกลุ้มใจอะไรรึเปล่า? มีอะไรปรึกษาฉันได้เลยนะ"
เขาเปลี่ยนประเด็นคุยอย่างรวดเร็วจนเธอยังตามอารมณ์ของเขาไม่ทัน แต่เธอก็ต้องหางคิ้วกระตุกที่เขาเอ่ยเปลี่ยนเรื่องเสียเฉยๆ
เอาเรื่องตัวเองให้รอดก่อนเถอะ! ...แต่อย่ามาเปลี่ยนเรื่องนะเฟ้ย บากะเคียวยะ!!
"ยังแถเก่งไม่เปลี่ยนเลยนะ..."
เธอเอ่ยอย่างหน่ายๆที่อีกฝ่ายเมื่อทำผิดอะไก็จะแฉเปลี่ยนเรื่องตลอด เขายิ้มออกมาอย่างกระร่อนแล้วก็ยักไหล่อย่างไม่สำนึก เล่นเอาเธอต้องถอดหายใจออกมาอีกรอบ
บ้าจริง...อยากรู้จังเลยว่าฉันไปหลงรักไอคนแบบนี้ได้ยังไง?
"ว่าไง...ตกลงมีเรื่องอะไรกลุ้มใจอยู่เหรอ?"
เคียวยะเอ่ยถามอย่างสนอกสนใจเพราะเขาไม่ค่อยจะได้เห็นเพื่อนสมัยอย่างฮานะถอดหายใจออกมาอย่างกลุ้มใจเช่นนั้นบ่อยครั้งนัก
"ทำไมถึงรู้ได้ล่ะ ว่าฉันมีเรื่องใจอยู่?"
ฮานะเอ่ยถามอย่างสงสัยถึงเธอจะถอดหายใจออกมาแต่ก็ไม่ได้แปลว่าเธอต้องมีเรื่องกลุ้มใจอยู่เสมอไป
"คงเพราะ...เป็นเพื่อนกันมานานล่ะมั้ง"
เคียวยะเอ่ยก่อนจะส่งยิ้มแห้งๆไปให้ฮานะเพราะเขารู้ว่าคำตอบของเขามันคงจะไม่ชัดเจนจนหญิงสาวตรงหน้าอาจจะกำลังถึงโมโหเขาขึ้นมาเล็กๆก็เป็นได้ แต่เขาหารู้ไม่ว่า คำว่า 'เพื่อน' ที่เขาเอ่ยออกมามันทำร้ายจิตใจเธอขนาดไหน... มันเหมือนเป็นตราบาปสำหรับเธอที่เผลอไปแอบรักเพื่อยสมัยเด็กมาเนิ่นนาน...มันเหมือนเป็นตอกย้ำว่าเธอไม่สามารถเปลี่ยนเป็นอย่างอื่นได้ เพราะเธอเองก็ไม่กล้าที่จะบอกคำว่า 'รัก' ออกไปให้เขาได้รับรู้ เพราะกลัวว่าจะเสียเขาไป..ตลอดกาล
มันก็เป็นแบบนี้ไม่ใช่รึไง? ...มีแต่คนบอกว่า 'เพื่อนสมัยเด็กมักช้ำรักเสมอ' ...ในอนิเมะก็ยังเป็นเช่นนี
"เรื่องกลุ้มใจ? ...อันที่จริงก็มีนะ"
"เรื่องอะไรล่ะ?"
ฮานะสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆก่อนจะปล่อยมันออกมาราวกับว่าเธอกำลังจะบอกปัญหาระดับชาติให้อีกฝ่ายได้รับรู้
"ถ้าสมมุติ...แค่สมมุตินะ ถ้านายแอบชอบผู้หญิงคนหนึ่ง แล้วนาย------"
"ไม่ต้องสมมุติหรอก ตอนนี้ฉันก็มีคนที่แอบชอบแล้ว"
"เงียบปากแล้วฟังซะ!"
แม้คำพูดของเขามันจะสะเทือนใจของเธอมากสักเพียงไหน แต่เธอก็ต้องจำยอมทำเป็นไม่รู้สึกรู้สาอะไรใดๆทั้งสิ้น เธอเลือกที่จะซ่อนความรู้สึกเจ็บปวดไว้ภายใต้ใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม...ที่พร้อมจะมอบให้เขาเสมอไม่ว่าจะเป็นเวลาไหน
"สมมุติว่านายแอบชอบผู้หญิงคนหนึ แล้ววันหนึ่งนายจะต้องลาจากเธอ เพราะนายต้องย้ายบ้านหรืออะไรก็ตามที่ทำให้ไม่ได้อยู่ใกล้ชิดกับเธอเช่นเคย แล้วนายอยากจะใช้เวลาที่เหลืออยู่ในตอนที่นายจะได้อยู่ใกล้ชิดกับเธออย่างคุ้มค่า แต่นายกลับไม่กล้าสู้หน้าเธอเพราะนายกลัว และเจ็บปวดเพราะไม่อยากจะลาจากเธอ อต่มันเป็นโอกาสสุดท้ายที่นายจะได้บอกความในใจว่านานชอบเธอมาก แล้วเป็นโอกาสสุดท้ายที่นายกับเธอจะได้พบกัน...นายจะกล้าเอ่ยปากชวนเธอออกมาเที่ยวและบอกคำคำนั้นออกไปไหม?"
เธอจ้องมองเขาไม่กระพริบเพราะตอนนี้เธอกำลังลุ้นกับคำตอบที่เธอจะได้รับมา เขาทำท่าทางคิดอย่างจริงจัง จริงๆมันเป็นเรื่องที่ง่ายมากและตอบแบบไม่ต้องคิดอะไรมากว่า บอกความในใจแน่นอน แต่กลับมาเรื่องที่ใจไม่กล้า ไม่มีความกล้ามากพอ เสียนี่
"ถ้าเป็นฉันล่ะก็...ฉันจะบอกความในใจออกไป เพราะว่ามันเป็นโอกาสสุดท้ายแล้วที่จะได้บอกนี่นา"
"แล้วนายฃม่กลัวเสียเธอไปงั้นเหรอ?"
"...?"
"ถ้าเกิดใจไม่ตรงกันขึ้นมาก็เท่ากับว่านายจะเสียเธอไป...ตลอดกาล...แม้แต่เพื่อนก็ไม่สามารถที่จะกลับไปเป็นเช่นนั้นได้อีกเป็นครั้งที่สอง ถึงจะได้ แต่มันก็คงไม่เหมือนเดิม"
เธอพูดออกมาด้วยท่าทางจริงจังแต่เพระคำพูดนั้นของเธอทำเอาเขาถึงกับไปต่อไม่เป็นเลยทีเดียว เพราะสิ่งที่เธอพูดมามันก็มีส่วนเป็นไปได้ทั้งหมด ถ้าเกิดใจไม่ตรงกันขึ้นมาก็เท่ากับว่าจะเสียคนๆนั้นไปตลอดกาล แต่ในทางกลับกันถ้าไม่พูดคำๆนั้นออกไป มันก็จะค้างคาและรู้สึกอึดอัดในใจตลอด....ไม่ว่าจะเลือกทางไหนมันก็เจ็บเหมือนกันทั้งคู่ เว้นเสียแต่...ใจเราทั้งสองคยจะตรงกัน...
"ไม่รู้สิ แต่ฉันก็ขอยืนยันว่าจะยอกความรู้สึกออกไป ไม่ว่ามันจะเป็นเช่นไรต่อไป ยังไงความจริงที่ว่า 'เราชอบเขา' มันก็ไม่มีวันเปลี่ยนแปลง แล้วยังไงสักวันเขาก็ต้องรู้เรื่องนี้อยู่ดี ฉะนั้นให้เขารู้จากปากเราเองน่าจะดีที่สุด"
คำตอบของเคียวยะเล่นเอาเธอถึงกับใจเต้นและอึ้งไปชั่วขณะหนึ่ง เพราะเธอไม่คิดว่าคนที่บ้าบออย่างเคียวยะจะคิดอะไรดีๆแบบนี้ได้ด้วย เธอยิ้มออกมาบางๆเพราะตอนนี้เธอตัดสินใจได้แล้ว
"นั้นสินะ...งั้นพรุ่งนี้ตอน 8 โมงเช้าเจอกันที่สวนสาธารณะโยกะนะ อย่างสายล่ะ"
เธอพูดจบก็วิ่งออกไปจากห้องเรียนในทันที ทิ้งให้เคียวยะยืนโวยวายที่เธอมัดมือชกให้เขาไปเจอกับเธอในวันพรุ่งนี้ แถมยังทิ้งไม้กวาดให้เขาเก็บอีก!
เธอนี่มันจริงๆเลยฮานะ...
แต่ฉันก็ชอบที่เธอเป็นแบบนี้ล่ะนะ
H a j i m e t e n o k o i w o o w a r u t o k i
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
อุฟ! กริ๊ด!!(?) [ทำไมต้องกริ๊ดตลอด?]
เรื่องสั้นที่ 2 ของไอก็ได้ปรากฏแล้วนะคะ
อันนี้ก็เป็นรักใสๆ ดราม่าแตก(?) ของเพื่อนสมัยเด็กค่ะ
ยังๆงก็ฝากติดตาม นิยาย รื่องสั้นที่ไอเขียนต้องนะคะ
รักคนอ่านทุกคนเลยค๊าาาาา ≧▽≦
คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.4 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.2 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ