องค์ชายจอมปีศาจกับสาวเมทจอมพลัง
9.1
เขียนโดย Soman
วันที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2558 เวลา 00.50 น.
5 chapter
4 วิจารณ์
8,026 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 21 เมษายน พ.ศ. 2558 11.06 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น
3) โลกที่ไม่เคยรู้จัก
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ ยามค่ำคืนที่หนาวเน็บผู้คนต่างขวักไข่วไปมาอย่างไม่มีจุดหมายปลายทางแสงของพระจันทร์ส่องลงมายังโลกเพื่อทดแทนแสงของดวงอาทิตย์ที่ขาดหายไปในยามค่ำคืนมันทำให้เรานั้นหลงไหลไปกับแสงสีขาวนวลของมันเหมือนถูกตรึงอยู่กับที่ไม่สามารถไปไหนได้
องค์ชายมาซึระได้หลับไปนานหลายวันเขาได้สติรู้สึกตัวขึ้นมาก็ค่อยๆลืมตาอย่างช้าๆและมองไปรอบๆตัว เขาได้เห็นสิ่งก่อสร้างที่แปลกประหลาดเหมือนเขานั้นอยู่กันละที่กับที่ตนเองนั้นได้อยู่และผู้คนแตกต่างออกไปจากที่เคยเห็น มาซึระได้มองเช่นนั้นก็ค่อยๆขยับร่างกายของตนเองที่หมดเรี่ยวแรงเพราะไม่ได้กินอะไรมาหลายวัน เพื่อลุกขึ้นออกจากที่ตรงนั้นให้เร็วที่สุดด้วยอาการของเขาที่ตกใจในสิ่งที่เห็น
องค์ชายมาซึระลุกขึ้นได้เขาค่อยๆก้าวขาออกไปเรื่อยๆเพื่อเดินดูรอบๆว่าที่นี่มันที่ไหนกันเหมือนเขานั้นอยู่คนละโลก มันไม่เหมือนโลกที่เขาเคยอยู่เพราะมันมีทั้งต้นไม้แสงที่ส่องลงมาจากฟ้านั่นคือพระจันทร์ และสิ่งประหลาดที่วิ่งไปมาอย่างรวดเร็วพร้อมแสงสีมากมายหลากหลายจากวัตถุต่างๆที่ส่องสว่างเต็มไปหมดทั้งที่มันเป็นเวลากลางคืนแต่เหมือนราวกับว่ามันเป็นเวลากลางวันไปเลย องค์ชายมาซึระตกใจกับสถาณการ์ณเหล่านี้ เขาตั่งสติได้จึงรีบวิ่งไปเรื่อยๆ โดยที่ไม่มีจุดหมายว่าตนเองนั้นจะหยุดอยู่ที่ไหนกัน
"นี่มันที่ไหนกันเราไม่รู้เลยทำไมเหมือนทุกคนจะแตกต่างออกไปนี่มันอะไรกัน"
คำถามเหล่านี้ผุดขึ้นมาในหัวของมาซึระเอง เขาสับสนกับสิ่งแปลกตาที่กำลังเผชิญอยู่ทั้งตกใจและทำอะไรไม่ถูกมาซึระนั้นได้ก้มหน้าวิ่งไปเรื่อยๆจนกระทั่ง
( ตุบ ) มาซึระชนกับหญิงสาวคนหนึ่ง
“ขะ ข้าขอโทษเจ้าเป็นอะไรหรือเปล่า"
มาซึระรีบลุกขึ้น และมองไปที่หญิงสาวคนนั้นเมื่อได้เห็นใบหน้าของหญิงสาวมาซึระยืนอึ้งเมื่อได้มองหญิงสาวคนนั้น เธอดูบอบบางไร้เดียงสาและน่ารัก มันทำให้มาซึระรู้สึกเขินหน้าของเขาแดงเหมือนกับเปลือกของมะเขือเทศที่แดงสด
“มะ ไม่เป็นไรแต่นายจะวิ่งหรือเดินก็ดูตาม้าตาเรือหน่อยเห็นไหมของมันตกหมดแล้ว”
หญิงสาวปริศนาได้ลุกขึ้นพร้อมกับสีหน้าที่ดูจะเหมือนจะโกรธมาซึระอยู่ และเธอก็ได้เงยหน้าขึ้นไปมองผู้ชายที่ได้มาชนเธอ แต่เธอหน้าไม่คุ้นเลยเหมือนกับชายคนนั้นจะไม่ได้อยู่ในเมืองนี้
“นายน่ะ ไม่ใช่คนเมืองนี้หรอ แล้วทำไมแต่งชุดประหลาดแบบนั้นล่ะ?”
หญิงสาวจ้องมองที่เสื้อผ้าของมาซึระที่ใส่อยู่ และเหมือนเขาจะสงสัยอะไรสักอย่างว่าชายหนุ่มคนนั้น ไปโดนอะไรหรือใครทำร้ายมาทำไมเสื้อผ้าถึงได้เปื้อนขนาดนั้น แต่เธอก็ไม่กล้าพูดออกมาตรงๆ
“ไม่รู้สิแล้วเมืองที่เจ้าว่ามันคืออะไรกันข้าฟังแล้วไม่เข้าใจชะมัด …?”
มาซึระสงสัยว่าไอที่หญิงสาวบอกว่าเมืองมันคืออะไรมันจะคล้ายๆกับดินแดนที่เขาอยู่หรือเปล่า หรือไม่มันก็เป็นอะไรที่อธิบายยากทีเดียวเขาได้ยืนอึ้งตึงก่อนจะตอบอะไรออกมา
“เมืองก็คือเขตพื้นที่ที่มีคนอาศัยอยู่และผู้คนในเขตพื้นที่นั้นๆมักจะมีประเพณีการแต่งตัวหรือมีการดำเนินชีวิตคล้ายๆกันยังไงล่ะ”
หญิงสาว ได้อธิบายอย่างระเอียดเพื่อหวังจะให้มาซึระนั้นเข้าใจแต่เหมือนการอธิบายนั้นจะไร้ผลเพราะมาซึระเองนั้นก็ยังไม่หายสงสัย และไม่รู้อะไรอยู่ดีมันทำให้หญิงสาวเริ่มมีอาการโมโหมากขึ้นจนแทบคลั่ง
“นายน่ะนะเป็นคนที่เข้าใจอะไรยากจริงๆ ไม่คุยด้วยแล้วไปดีกว่า”
หญิงสาวรีบเก็บของที่ตกอยู่ทั้งหมดจนเสร็จและกำลังจะเดินหนีออกจากมาซึระไป หญิงสาวนั้นนึกในใจถ้าขืนอยู่ต่อคงได้ตายกันไปข้างหนึ่งแน่นอน ในระหว่างที่หญิงสาวกำลังเดินไปนั้น มาซึระได้เผลอเอามือของตนเองไปจับที่แขนของหญิงสาวโดยไม่ได้ตั้งใจแค่หวังจะให้หยุดอยู่ช่วยอธิบายเกี่ยวกับโลกนี้เพียงแค่นั้น
“นี่ป็นนายจะทำอะไรกัน ไอ้โรคจิต” ( ตุบ )
หญิงสาวได้กำหมัดและหันหน้าเข้ามาหามาซึระอย่างรวดเร็ว มาซึระนั้นยังไม่ทันได้ขยับแม้สักนิดเดียวหมัดของหญิงสาวนั้นก็ได้ลอยไปที่แก้มของมาซึระอย่างแรงจนทำให้มาซึระนั้นคอเอียงจนสลบล้มลงไปกับพื้น
“ฉะ ฉันไม่ได้ตั้งใจนะนายๆ นายๆตื่นซิใครก็ได้เรียกรถโรงพยาบาลให้ที”
หญิงสาวทำอะไรไม่ถูกเขาไม่รู้จะเริ่มทำที่อะไรก่อนเธอจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อเรียกรถพยาบาลให้มารับไปดูอาการ หญิงสาวได้ยืนรออยู่อย่างนั้นจนรถพยาบาลมารับชายหนุ่มไป และเธอก็ได้ขึ้นรถตามไปดูมาซึระที่โรงบาล เพราะเธอเองนั้นก็เป็นห่วง.........
โปรดติดตามตอนต่อไปนะครับ
องค์ชายมาซึระได้หลับไปนานหลายวันเขาได้สติรู้สึกตัวขึ้นมาก็ค่อยๆลืมตาอย่างช้าๆและมองไปรอบๆตัว เขาได้เห็นสิ่งก่อสร้างที่แปลกประหลาดเหมือนเขานั้นอยู่กันละที่กับที่ตนเองนั้นได้อยู่และผู้คนแตกต่างออกไปจากที่เคยเห็น มาซึระได้มองเช่นนั้นก็ค่อยๆขยับร่างกายของตนเองที่หมดเรี่ยวแรงเพราะไม่ได้กินอะไรมาหลายวัน เพื่อลุกขึ้นออกจากที่ตรงนั้นให้เร็วที่สุดด้วยอาการของเขาที่ตกใจในสิ่งที่เห็น
องค์ชายมาซึระลุกขึ้นได้เขาค่อยๆก้าวขาออกไปเรื่อยๆเพื่อเดินดูรอบๆว่าที่นี่มันที่ไหนกันเหมือนเขานั้นอยู่คนละโลก มันไม่เหมือนโลกที่เขาเคยอยู่เพราะมันมีทั้งต้นไม้แสงที่ส่องลงมาจากฟ้านั่นคือพระจันทร์ และสิ่งประหลาดที่วิ่งไปมาอย่างรวดเร็วพร้อมแสงสีมากมายหลากหลายจากวัตถุต่างๆที่ส่องสว่างเต็มไปหมดทั้งที่มันเป็นเวลากลางคืนแต่เหมือนราวกับว่ามันเป็นเวลากลางวันไปเลย องค์ชายมาซึระตกใจกับสถาณการ์ณเหล่านี้ เขาตั่งสติได้จึงรีบวิ่งไปเรื่อยๆ โดยที่ไม่มีจุดหมายว่าตนเองนั้นจะหยุดอยู่ที่ไหนกัน
"นี่มันที่ไหนกันเราไม่รู้เลยทำไมเหมือนทุกคนจะแตกต่างออกไปนี่มันอะไรกัน"
คำถามเหล่านี้ผุดขึ้นมาในหัวของมาซึระเอง เขาสับสนกับสิ่งแปลกตาที่กำลังเผชิญอยู่ทั้งตกใจและทำอะไรไม่ถูกมาซึระนั้นได้ก้มหน้าวิ่งไปเรื่อยๆจนกระทั่ง
( ตุบ ) มาซึระชนกับหญิงสาวคนหนึ่ง
“ขะ ข้าขอโทษเจ้าเป็นอะไรหรือเปล่า"
มาซึระรีบลุกขึ้น และมองไปที่หญิงสาวคนนั้นเมื่อได้เห็นใบหน้าของหญิงสาวมาซึระยืนอึ้งเมื่อได้มองหญิงสาวคนนั้น เธอดูบอบบางไร้เดียงสาและน่ารัก มันทำให้มาซึระรู้สึกเขินหน้าของเขาแดงเหมือนกับเปลือกของมะเขือเทศที่แดงสด
“มะ ไม่เป็นไรแต่นายจะวิ่งหรือเดินก็ดูตาม้าตาเรือหน่อยเห็นไหมของมันตกหมดแล้ว”
หญิงสาวปริศนาได้ลุกขึ้นพร้อมกับสีหน้าที่ดูจะเหมือนจะโกรธมาซึระอยู่ และเธอก็ได้เงยหน้าขึ้นไปมองผู้ชายที่ได้มาชนเธอ แต่เธอหน้าไม่คุ้นเลยเหมือนกับชายคนนั้นจะไม่ได้อยู่ในเมืองนี้
“นายน่ะ ไม่ใช่คนเมืองนี้หรอ แล้วทำไมแต่งชุดประหลาดแบบนั้นล่ะ?”
หญิงสาวจ้องมองที่เสื้อผ้าของมาซึระที่ใส่อยู่ และเหมือนเขาจะสงสัยอะไรสักอย่างว่าชายหนุ่มคนนั้น ไปโดนอะไรหรือใครทำร้ายมาทำไมเสื้อผ้าถึงได้เปื้อนขนาดนั้น แต่เธอก็ไม่กล้าพูดออกมาตรงๆ
“ไม่รู้สิแล้วเมืองที่เจ้าว่ามันคืออะไรกันข้าฟังแล้วไม่เข้าใจชะมัด …?”
มาซึระสงสัยว่าไอที่หญิงสาวบอกว่าเมืองมันคืออะไรมันจะคล้ายๆกับดินแดนที่เขาอยู่หรือเปล่า หรือไม่มันก็เป็นอะไรที่อธิบายยากทีเดียวเขาได้ยืนอึ้งตึงก่อนจะตอบอะไรออกมา
“เมืองก็คือเขตพื้นที่ที่มีคนอาศัยอยู่และผู้คนในเขตพื้นที่นั้นๆมักจะมีประเพณีการแต่งตัวหรือมีการดำเนินชีวิตคล้ายๆกันยังไงล่ะ”
หญิงสาว ได้อธิบายอย่างระเอียดเพื่อหวังจะให้มาซึระนั้นเข้าใจแต่เหมือนการอธิบายนั้นจะไร้ผลเพราะมาซึระเองนั้นก็ยังไม่หายสงสัย และไม่รู้อะไรอยู่ดีมันทำให้หญิงสาวเริ่มมีอาการโมโหมากขึ้นจนแทบคลั่ง
“นายน่ะนะเป็นคนที่เข้าใจอะไรยากจริงๆ ไม่คุยด้วยแล้วไปดีกว่า”
หญิงสาวรีบเก็บของที่ตกอยู่ทั้งหมดจนเสร็จและกำลังจะเดินหนีออกจากมาซึระไป หญิงสาวนั้นนึกในใจถ้าขืนอยู่ต่อคงได้ตายกันไปข้างหนึ่งแน่นอน ในระหว่างที่หญิงสาวกำลังเดินไปนั้น มาซึระได้เผลอเอามือของตนเองไปจับที่แขนของหญิงสาวโดยไม่ได้ตั้งใจแค่หวังจะให้หยุดอยู่ช่วยอธิบายเกี่ยวกับโลกนี้เพียงแค่นั้น
“นี่ป็นนายจะทำอะไรกัน ไอ้โรคจิต” ( ตุบ )
หญิงสาวได้กำหมัดและหันหน้าเข้ามาหามาซึระอย่างรวดเร็ว มาซึระนั้นยังไม่ทันได้ขยับแม้สักนิดเดียวหมัดของหญิงสาวนั้นก็ได้ลอยไปที่แก้มของมาซึระอย่างแรงจนทำให้มาซึระนั้นคอเอียงจนสลบล้มลงไปกับพื้น
“ฉะ ฉันไม่ได้ตั้งใจนะนายๆ นายๆตื่นซิใครก็ได้เรียกรถโรงพยาบาลให้ที”
หญิงสาวทำอะไรไม่ถูกเขาไม่รู้จะเริ่มทำที่อะไรก่อนเธอจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อเรียกรถพยาบาลให้มารับไปดูอาการ หญิงสาวได้ยืนรออยู่อย่างนั้นจนรถพยาบาลมารับชายหนุ่มไป และเธอก็ได้ขึ้นรถตามไปดูมาซึระที่โรงบาล เพราะเธอเองนั้นก็เป็นห่วง.........
โปรดติดตามตอนต่อไปนะครับ
คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.3 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ