นางในบาดาล
เขียนโดย Brownies_PK
วันที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2558 เวลา 08.36 น.
แก้ไขเมื่อ 8 เมษายน พ.ศ. 2558 13.49 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น
3)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความม่านมุกเริ่มรู้สึกตัว หญิงสาวค่อยๆลืมตา แต่สิ่งที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าหญิงสาวหาใช่ห้วงสมุทรไม่ แต่เป็นห้องๆหนึ่งที่ถูกประดับตกแต่งด้วยภาพวาดสีน้ำมัน ผนังห้องสีเขียวอ่อนช่วยให้ผู้ที่ได้พบเห็นสบายตา
กลิ่นของไอทะเลโชยเข้ามาทางหน้าต่างไม้ไผ่สีขาวซึ่งมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซึ่งท่าสังเกตดีๆนั้น ลวดลายที่ถูกสลักลงไม้ไผ่เป็นลายกนกที่หาได้ยากในสมัยนี้ ม่านมุกเริ่มสำรวจสิ่งที่อยู่ภายในห้อง เตียงที่เธอนอนอยู่ในขณะนี้ไม่ใช่เตียง แต่เป็นแคร่ไม้ไผ่ซึ่งมีพื้นที่กว้างพอนอนได้สามคน
"ฟื้นแล้วเหรอแม่หนู"
เสียงชายชราวัยกลางคนเอ่ยถาม พร้อมกับหญิงชราคนหนึ่งที่กำลังถือชามข้าวต้มเข้ามา
"ค่ะ ที่นี่ที่ไหนค่ะ แล้วหนูมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงค่ะ"
ม่านมุกถามก่อนที่ชายชราคนนั้นจะคลี่รอยยิ้มที่ดูใจดี ก่อนจะเอ่ยปากบอกหญิงสาวตรงหน้าที่กำลังงุนงง
"บ้านลุงกับภรรยาของลุงเองแหละ ลุงไปเจอหนูลอยมาติดข้างเรือตอนลงอวนหาปลา ลุงก็เลยช่วยหนูเอาไว้" ชายชราท่าทางใจดีกล่าว ก่อนที่จะมีเสียงของใครคนหนึ่งคั่นบทสนทนาระหว่างม่านมุกกับลุงชราใจดี
"นี่ก็เย็นแล้ว หนูพักอยู่กับป้าที่นี่เถอะนะ ป้าคือจันทน์หอม ส่วนสามีป้าชื่อคำดี เรียกป้าว่าป้าจันทน์ก็ได้จ้ะ"
ป้าจันทน์พูดพร้อมกับตักข้าวต้มให้หญิงสาว แต่ม่านมุกยังไม่หิว เลยบอกปัดปฏิเสธ
"ว่าแต่แม่หนูไปทำอะไรถึงได้ลอยน้ำอยู่กลางทะเลล่ะ ทะเลตรงนั้นมันลึกมากนะ"
ลุงชราที่ชื่อคำดีพูด ด้วยความที่ม่านมุกไม่อยากปิดบังจึงเล่าเรื่องราวทั้งหมดออกไป
"ขวัญเอ๋ย ขวัญมา นี่หนูคงเจอกับพรายน้ำเข้าแล้วล่ะสิ"
ป้าจันทน์หอมพูด ก่อนจะโดนลุงคำดีเขม่นเบาๆ
"พรายเพยที่ไหนล่ะแม่หนู นั้นน่ะ เขาเรียกว่าธิดาบาดาล"
คำที่ลุงคำดีพูด ทำให้ม่านมุกเกิดความสงสัย
"ธิดาบาดาลเป็นใครกันค่ะ"
หญิงสาวเอ่ยถามสองสามีภรรยา ซึ่งคำถามที่เธอถามไปทำให้ลุงคำดียิ้มน้อยๆ ก่อนจะเอ่ยคำตอบที่ทำให้ม่านมุกคาดไม่ถึง
"เมื่อ2000ปีก่อน คุ้งน้ำตรงนี้เคยมีตำนานเล่าว่า เคยมีเมืองแห่งหนึ่งซึ่งอุดมสมบูรณ์ไปด้วยข้าวพรรณธัญญาหาร เมืองแห่งนี้มีชื่อว่า 'สราญนคร' พระราชาที่ครองเมืองสราญนครเป็นบุรุษที่รูปโฉมหล่อเหลาสมชายชาตรี ซึ่งพระองค์มีพระนามว่า 'พีระราเชนทร์' ซึ่งเป็นที่หมายปองแต่สตรีทั่วหล้า แต่พระองค์กลับรักกับแม่หมอสาวชาวบ้านที่ชื่อ 'มาฑิตา'
แต่ด้วยฐานะ กษัตริย์กับสามัญชนไม่อาจรักกันได้ เหล่าขุนนางจึงจัดหาเจ้าหญิงจากทั่วแคว้นมาให้ แต่พระองค์กลับไม่สนพระทัย ยังคงยึดมั่นในรักที่มีต่อมาฑิตา"
ลุงคำดีหยุดเล่าเพราะคอแห้ง ป้าจันทน์หอมจึงตักน้ำเย็นมาให้ ทำให้ชายชราเล่าต่อได้
ม่านมุกตั้งใจฟังเรื่องเล่าที่ลุงคำดีเล่าอย่างใจจดใจจ่อ ถึงแม้มันจะเป็นตำนานที่คล้ายนิทานก็เถอะ
"แต่ดูเหมือนโชคชะตาจะเล่นตลก เมื่อเจ้าชายเกิดหลงรักพระธิดา 'พรรณวษา' จนได้จัดงานอภิเษกสมรสขึ้น โดยมิได้นึกถึงมาฑิตา"
ม่านมุกนั่งฟังชายชราเล่าอย่างตั้งใจ โดยเธอเองก็เข้าใจในความรู้สึกของมาฑิตา ที่ถูกคนรักหักหลังว่ามันเจ็บปวดเพียงใด
"ภายในงานอภิเษกสมรสของเจ้าชาย มาฑิตาได้ปรากฏตัวขึ้น พร้อมกับมองเจ้าชายด้วยความผิดหวัง ก่อนจะร้องไห้ออกไปกลางงาน โดยไม่มีผู้ใดที่เห็นใจนางเลย"
ลุงคำดีเล่าหยุดไว้แค่นี้ ก่อนจะหันไปบอกกับป้าจันทน์หอม
"ยายจันทน์เอ้ย! ไปหยิบสร้อยมณีกานต์มาสิ"
หญิงชรารับคำอย่างว่าง่าย ก่อนจะเดินออกไป โดยที่มีม่านมุกมองตามอย่างสงสัย
"หนูคงอยากจะรู้แล้วสิว่าเรื่องราวต่อไปนี้เป็นอย่างไร"
ชายชราตรงหน้าถาม โดยที่หญิงสาวได้แต่พยักหน้าฟังอย่างเงียบๆ ก่อนที่ลุงคำดีจะเล่าเรื่องราวต่อไป
"มาฑิตาเสียใจหนัก นางตั้งใจจะกระโดดหน้าผา แต่นางสิ้นสติก่อนจะกระโดด ทำให้นางรอดตาย เคราะห์ดีที่มีคนหาของป่าผ่านมาพบเข้า จึงนำตัวนางไปรักษายังหมู่บ้าน"
ลุงคำดีหยุดเล่า เพราะม่านมุกถามขึ้นมาเสียก่อน
"นางเป็นอะไรมากมั้ยค่ะ"
คำถามของม่านมุกทำให้ลุงคำดีหน้าเศร้า ก่อนจะตอบออกมาว่า
"นางตั้งครรภ์กับเจ้าชาย ด้วยเหตุนี้ทำให้มีชาวบ้านบางคนนำไปกราบทูลเจ้าหญิง ที่ตอนนี้นางได้เป็นพระมเหสีแล้ว"
ม่านมุกเริ่มหวั่นในใจ แต่ก็ต้องรับฟังเพราะความอยากรู้
"พระมเหสีไม่พอใจการที่มาฑิตาตั้งครรภ์ นางจึงส่งคนมาฆ่ามาฑิตา"
ม่านมุกเริ่มน้ำตาคลอ จนกระทั่งคล้ายกับมีภาพเหตุการณ์บางอย่างปรากฏอยู่ตรงหน้าราวกับตัวเธอเองอยู่ในเหตุการณ์นั้นเอง!
+..+..+ติดตามตอนต่อไป+..+..+
คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ