ลมหายใจเดียวกัน
-
เขียนโดย nongfin
วันที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2558 เวลา 21.32 น.
6 ตอน
0 วิจารณ์
9,539 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 25 มีนาคม พ.ศ. 2558 22.25 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น
6)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ “ มันไม่มีประโยชน์หรอก...หัวใจของฉันเธอรับมันไปได้ไหม มีชีวิตอยู่ต่อไปเผื่อส่วนของฉันด้วยนะ” เขาเอามือฉันมาวางทาบไว้บนหน้าอกด้านซ้ายของเขา หัวใจเต้นเบามากเลย ปกติเวลาเราอยู่ด้วยกันหัวใจของเราทั้งสองจะเต้นแรงมากเลยแท้ๆ
“ นอร์แมนเธอหยุดพูดเถอะ เดี๋ยวมันจะหนักกว่าเดิมนะ”
“ อะ...เอมี่...ฉะ...ฉัน...รักเธอ” เมื่อนอร์แมนเอ่ยประโยคนั้นจบ มือที่เขากุมฉันก็ล่วงลงสู่พื้น
“ไม่จริงใช่ไหม เธอหลอกฉันใช่ไหม ลืมตามาสิแล้วฉันจะไม่โกรธ” ฉันก้มหน้าลงไปซบอกของเขา
แล้วทันใดนั้นก็มีแสงสว่างออกมาจากตัวของนอร์แมน จู่ๆ นอร์แมนก็หายไป ไม่สิเขาไม่ได้หายไป
เขาอยู่กับฉันแล้วในตอนนี้ แล้วรอบๆก็ขาวโพลนไปหมดจนรู้สึกตัวอีกทีฉันอยู่ในห้องที่โรงพยาบาล
นอร์แมนกับฉันได้ใช้ลมหายใจเดียวกัน ใช้ชีวิตเดียวกัน แต่มันไม่ใช่ ที่ฉันต้องการ ฉันอยากใช้
ชีวิตร่วมกันไม่ใช่ชีวิตเดียวกัน วันนี้คุณหมอเรียกฉันไปตรวจร่างกายคุณหมอบอกกับฉันว่า
ทำไมอยู่หัวใจเหมือนเพิ่งเปลี่ยนใหม่ ไม่ต้องผ่าตัดเพื่อเปลี่ยนหัวใจแล้ว ก็ใช่น่ะสิ ก็มันเป็นหัวใจที่นอร์แมนให้มานี่
“ เอมี่ กินข้าว กินยาหน่อยเถอะ”
“ พี่โจแอน เอมี่ไม่ต้องผ่าตัดแล้วคะ...ก็เพราะคนๆนั้นเขามอบมันให้เอมี่แล้วนี่ เอมี่หมดหนทางที่จะก้าวเดินต่อไปแล้ว เขาซึ่งเป็นแสงสว่างได้จากไปแล้ว ตอนนี้เอมี่ไม่ต่างอะไรกับคนตาบอด ”
ตอนนี้แม้แต่พี่โจแอนก็ไม่สามารถจะทำให้ฉันรู้สึกดีขึ้นได้ ฉันนั่งมองดอกนอร์แมนี่และแหวน เขาบอกว่าเขารักฉัน ฉันก็ต้องรักเขาเพราะเรารู้สึกเหมือนกันแต่...ทำไมเราถึงโง่แบบนี้เพิ่งรู้ว่ารักเขา
ในวันที่เขาไม่อยู่ข้างกายเราแล้ว
“ พี่พอจะเดาได้ ว่าความสัมพันธ์ของเธอทั้งสองคงจะแนบแน่นจนพี่ไม่สามารถเข้าไปแทรกได้
แต่พี่รออยู่นะ...รอให้เอมี่กลับมา คนๆนั้นก็คิดอย่างนั้นเหมือนกันไม่อย่างนั้นเขาคงไม่มอบมัน
ให้เอมี่หรอก” พี่โจแอนนำมือมาวางไว้บนอกข้างซ้ายของฉันเบาๆ ก่อนจะเดินออกไปจากห้อง
ฉันเอาแต่นั่งเหม่อ นั่งคิดถึงเหตุการณ์และภาพความทรงจำที่เคยทำร่วมกันมากับนอร์แมน
ความสุขที่เราได้มีร่วมกันมันเหมือนกับความฝันที่เกิดขึ้นในเวลาเพียงสั้นๆ พอตื่นขึ้นมามันก็หายไป
ฉันพยายามข่มใจไว้ไม่ให้ร้องไห้ เดี๋ยวนอร์แมนจะไม่สบายใจ แต่...แค่ทนฝืนหายใจไปวันๆสำหรับฉัน
มันก็เต็มกลืนแล้วในตอนนี้ พลบค่ำก็มาเยือนฉันค่อยๆหลับตาลง แต่สิ่งที่พบ มันมีเพียงความมืด
ที่ว่างเปล่าไม่พบสิ่งใดเลย พอรุ่งเช้า ฉันรู้สึกเหมือนตัวเองไม่ได้นอน อรุณสวัสดิ์นอร์แมน
ฉันเอามือทาบที่อกเบาๆ
“ เอมี่!”
“ อรุณสวัสดิ์ค่ะพี่โจแอน”
“ เอมี่มีพี่ท่านป่วย พี่จึงต้องกลับบ้านเกิด แต่ไม่เป็นไรมีคุณหมอมาดูแลเอมี่แทนตอนที่พี่ไม่อยู่”
“ คะ ขอให้เดินทางปลอดภัย”
“ ไม่ต้องฝืนพูดออกมาก็ได้ ฝากดูแลเอมี่ด้วยนะคะคุณหมออาเธอร์ ” พี่โจแอนพูดกับบุคคลหนึ่งที่หน้าประตู แล้วบุคคลนั้นก็เดินเข้ามาในห้อง ไม่จริงใช่ไหม! เขาคือนอร์แมนหรอถึงผมจะสั้นแต่...ใบหน้าแบบนั้น ดวงตาแบบนั้น...อย่าบ้าสิเรา นอร์แมนอยู่กับเรา เขาไม่ได้อยู่ที่อื่นสักหน่อย
“ สวัสดี เอมี่” แม้แต่น้ำเสียงยังเหมือนกัน
“ สะ...สวัสดีคะคุณหมออาเธอร์”
“ ดอกไม้อะไร สวยจัง” เขาเอื้อมมือจะมาแตะดอกไม้ดอกนั้น
“ อย่านะ! ขอโทษคะ” ฉันผลักเขาเซไปข้างหลังเล็กน้อย
“ ไม่เป็นไรคงจะเป็นของสำคัญมากสินะ มันมีชื่อว่าอะไร? พอจะบอกฉันได้ไหม”
“ มันเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุด...คนๆนั้น คนที่มอบชีวิตให้กับฉันเขามอบให้มาแต่...เขาไม่อยู่แล้ว”
น้ำตาของฉันค่อยไหล เขาไม่พูดอะไร เหมือนรอฟังสิ่งที่ฉันอยากระบาย
“ ดอกไม้ดอกนี้มันยังไม่มีชื่อเลยด้วยซ้ำ แต่ฉันแอบตั้งชื่อมันไว้ตั้งนานและคิดว่าสักวันฉันจะบอกชื่อของดอกไม้นี้แก่เขา มันมีชื่อว่า นอร์แมนี่” ชายคนนั้นหยิบผ้าเช็ดหน้าซับน้ำตาให้แก่ฉัน
ผ้าเช็ดหน้านั่น? มันเกิดอะไรขึ้น ผ้าเช็ดหน้าของนอร์แมนฉันจำไม่ผิดแน่ก็เพราะว่าฉันทำมันเองกันมือ มันมีชิ้นเดียวในโลก เขาไปเอามาจากไหน แล้วเขาก็สวมกอดฉัน ฉันงงจนไม่รู้ว่าจะทำยังไงดี
“ เอมี่...ฉันคิดถึงเธอจัง” ชายคนนั้นกำลังร้องไห้
“ นะ...นอร์แมน” ฉันกอดเขาตอบ ไม่ผิดแน่ความอบอุ่นนี้คือนอร์แมนจริงๆ
“ ฉันคิดว่า ฉันจะไม่ได้พบกับเธออีกแล้ว...ฉันขอโทษนะที่ปล่อยให้เธออยู่คนเดียวไปหลายวัน”
“ นอร์แมนทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่ ทั้งที่เธอมอบมันให้กับฉันแล้ว หรือว่าเธอมารับฉับไปอยู่ด้วย”
“ จะบ้าหรอ! ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันเหมือนฉันมีวิญญาณสองดวงอาศัยอยู่โลกทางโน้น แต่พอฉันตาย
ก็เลยถูกเรียกกลับมามีชีวิตอยู่บนโลกนี้” ฉันกอดนอร์แมนร้องไห้อยู่หลายชั่วโมง
“ เอมี่! กินข้าวกลางวันได้แล้วจะได้กินยา” นอร์แมนถือถาดข้าวและยาเข้ามาในห้อง
“ อืมนอร์แมนทำไมถึงชื่อว่าอาเธอร์ล่ะ”
“ ออ นามสกุลน่ะ”
“ เป็นคุณหมอก็ไม่บอก”
“ 555 ขอโทษพอดีเพิ่งเรียนจบก็ถูกพาตัวไปโลกทางนั้นน่ะ เอมี่ไปอยู่กับฉันไหมไปเป็นภรรยาของฉัน อยยิ้มต้อนรับตอนฉันกลับมาจากโรงพยาบาล”
“...ก็...ฉันเป็นตั้งแต่เธอมอบแหวนวงนี้ให้ฉันแล้วไมใช่หรอ”
“ เธอรู้ความหมายแล้วหรอ” ฉันพยักหน้า ตอบไป นอร์แมนค่อยๆพรมจูบที่หน้าผากฉันอย่างแผ่วเบา ตอนนี้ใจเราทั้งสองกำลังเต้นแรง
“ กระหม่อมรักเจ้าหญิงนะขอรับ”
“ จ๊ะ ฉันก็เหมือนกัน” ฉันคิดว่าการที่เราพบกันมันไม่ใช่เรื่องบังเอิญแต่เป็นพรมลิขิต
“ นอร์แมนเธอหยุดพูดเถอะ เดี๋ยวมันจะหนักกว่าเดิมนะ”
“ อะ...เอมี่...ฉะ...ฉัน...รักเธอ” เมื่อนอร์แมนเอ่ยประโยคนั้นจบ มือที่เขากุมฉันก็ล่วงลงสู่พื้น
“ไม่จริงใช่ไหม เธอหลอกฉันใช่ไหม ลืมตามาสิแล้วฉันจะไม่โกรธ” ฉันก้มหน้าลงไปซบอกของเขา
แล้วทันใดนั้นก็มีแสงสว่างออกมาจากตัวของนอร์แมน จู่ๆ นอร์แมนก็หายไป ไม่สิเขาไม่ได้หายไป
เขาอยู่กับฉันแล้วในตอนนี้ แล้วรอบๆก็ขาวโพลนไปหมดจนรู้สึกตัวอีกทีฉันอยู่ในห้องที่โรงพยาบาล
นอร์แมนกับฉันได้ใช้ลมหายใจเดียวกัน ใช้ชีวิตเดียวกัน แต่มันไม่ใช่ ที่ฉันต้องการ ฉันอยากใช้
ชีวิตร่วมกันไม่ใช่ชีวิตเดียวกัน วันนี้คุณหมอเรียกฉันไปตรวจร่างกายคุณหมอบอกกับฉันว่า
ทำไมอยู่หัวใจเหมือนเพิ่งเปลี่ยนใหม่ ไม่ต้องผ่าตัดเพื่อเปลี่ยนหัวใจแล้ว ก็ใช่น่ะสิ ก็มันเป็นหัวใจที่นอร์แมนให้มานี่
“ เอมี่ กินข้าว กินยาหน่อยเถอะ”
“ พี่โจแอน เอมี่ไม่ต้องผ่าตัดแล้วคะ...ก็เพราะคนๆนั้นเขามอบมันให้เอมี่แล้วนี่ เอมี่หมดหนทางที่จะก้าวเดินต่อไปแล้ว เขาซึ่งเป็นแสงสว่างได้จากไปแล้ว ตอนนี้เอมี่ไม่ต่างอะไรกับคนตาบอด ”
ตอนนี้แม้แต่พี่โจแอนก็ไม่สามารถจะทำให้ฉันรู้สึกดีขึ้นได้ ฉันนั่งมองดอกนอร์แมนี่และแหวน เขาบอกว่าเขารักฉัน ฉันก็ต้องรักเขาเพราะเรารู้สึกเหมือนกันแต่...ทำไมเราถึงโง่แบบนี้เพิ่งรู้ว่ารักเขา
ในวันที่เขาไม่อยู่ข้างกายเราแล้ว
“ พี่พอจะเดาได้ ว่าความสัมพันธ์ของเธอทั้งสองคงจะแนบแน่นจนพี่ไม่สามารถเข้าไปแทรกได้
แต่พี่รออยู่นะ...รอให้เอมี่กลับมา คนๆนั้นก็คิดอย่างนั้นเหมือนกันไม่อย่างนั้นเขาคงไม่มอบมัน
ให้เอมี่หรอก” พี่โจแอนนำมือมาวางไว้บนอกข้างซ้ายของฉันเบาๆ ก่อนจะเดินออกไปจากห้อง
ฉันเอาแต่นั่งเหม่อ นั่งคิดถึงเหตุการณ์และภาพความทรงจำที่เคยทำร่วมกันมากับนอร์แมน
ความสุขที่เราได้มีร่วมกันมันเหมือนกับความฝันที่เกิดขึ้นในเวลาเพียงสั้นๆ พอตื่นขึ้นมามันก็หายไป
ฉันพยายามข่มใจไว้ไม่ให้ร้องไห้ เดี๋ยวนอร์แมนจะไม่สบายใจ แต่...แค่ทนฝืนหายใจไปวันๆสำหรับฉัน
มันก็เต็มกลืนแล้วในตอนนี้ พลบค่ำก็มาเยือนฉันค่อยๆหลับตาลง แต่สิ่งที่พบ มันมีเพียงความมืด
ที่ว่างเปล่าไม่พบสิ่งใดเลย พอรุ่งเช้า ฉันรู้สึกเหมือนตัวเองไม่ได้นอน อรุณสวัสดิ์นอร์แมน
ฉันเอามือทาบที่อกเบาๆ
“ เอมี่!”
“ อรุณสวัสดิ์ค่ะพี่โจแอน”
“ เอมี่มีพี่ท่านป่วย พี่จึงต้องกลับบ้านเกิด แต่ไม่เป็นไรมีคุณหมอมาดูแลเอมี่แทนตอนที่พี่ไม่อยู่”
“ คะ ขอให้เดินทางปลอดภัย”
“ ไม่ต้องฝืนพูดออกมาก็ได้ ฝากดูแลเอมี่ด้วยนะคะคุณหมออาเธอร์ ” พี่โจแอนพูดกับบุคคลหนึ่งที่หน้าประตู แล้วบุคคลนั้นก็เดินเข้ามาในห้อง ไม่จริงใช่ไหม! เขาคือนอร์แมนหรอถึงผมจะสั้นแต่...ใบหน้าแบบนั้น ดวงตาแบบนั้น...อย่าบ้าสิเรา นอร์แมนอยู่กับเรา เขาไม่ได้อยู่ที่อื่นสักหน่อย
“ สวัสดี เอมี่” แม้แต่น้ำเสียงยังเหมือนกัน
“ สะ...สวัสดีคะคุณหมออาเธอร์”
“ ดอกไม้อะไร สวยจัง” เขาเอื้อมมือจะมาแตะดอกไม้ดอกนั้น
“ อย่านะ! ขอโทษคะ” ฉันผลักเขาเซไปข้างหลังเล็กน้อย
“ ไม่เป็นไรคงจะเป็นของสำคัญมากสินะ มันมีชื่อว่าอะไร? พอจะบอกฉันได้ไหม”
“ มันเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุด...คนๆนั้น คนที่มอบชีวิตให้กับฉันเขามอบให้มาแต่...เขาไม่อยู่แล้ว”
น้ำตาของฉันค่อยไหล เขาไม่พูดอะไร เหมือนรอฟังสิ่งที่ฉันอยากระบาย
“ ดอกไม้ดอกนี้มันยังไม่มีชื่อเลยด้วยซ้ำ แต่ฉันแอบตั้งชื่อมันไว้ตั้งนานและคิดว่าสักวันฉันจะบอกชื่อของดอกไม้นี้แก่เขา มันมีชื่อว่า นอร์แมนี่” ชายคนนั้นหยิบผ้าเช็ดหน้าซับน้ำตาให้แก่ฉัน
ผ้าเช็ดหน้านั่น? มันเกิดอะไรขึ้น ผ้าเช็ดหน้าของนอร์แมนฉันจำไม่ผิดแน่ก็เพราะว่าฉันทำมันเองกันมือ มันมีชิ้นเดียวในโลก เขาไปเอามาจากไหน แล้วเขาก็สวมกอดฉัน ฉันงงจนไม่รู้ว่าจะทำยังไงดี
“ เอมี่...ฉันคิดถึงเธอจัง” ชายคนนั้นกำลังร้องไห้
“ นะ...นอร์แมน” ฉันกอดเขาตอบ ไม่ผิดแน่ความอบอุ่นนี้คือนอร์แมนจริงๆ
“ ฉันคิดว่า ฉันจะไม่ได้พบกับเธออีกแล้ว...ฉันขอโทษนะที่ปล่อยให้เธออยู่คนเดียวไปหลายวัน”
“ นอร์แมนทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่ ทั้งที่เธอมอบมันให้กับฉันแล้ว หรือว่าเธอมารับฉับไปอยู่ด้วย”
“ จะบ้าหรอ! ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันเหมือนฉันมีวิญญาณสองดวงอาศัยอยู่โลกทางโน้น แต่พอฉันตาย
ก็เลยถูกเรียกกลับมามีชีวิตอยู่บนโลกนี้” ฉันกอดนอร์แมนร้องไห้อยู่หลายชั่วโมง
“ เอมี่! กินข้าวกลางวันได้แล้วจะได้กินยา” นอร์แมนถือถาดข้าวและยาเข้ามาในห้อง
“ อืมนอร์แมนทำไมถึงชื่อว่าอาเธอร์ล่ะ”
“ ออ นามสกุลน่ะ”
“ เป็นคุณหมอก็ไม่บอก”
“ 555 ขอโทษพอดีเพิ่งเรียนจบก็ถูกพาตัวไปโลกทางนั้นน่ะ เอมี่ไปอยู่กับฉันไหมไปเป็นภรรยาของฉัน อยยิ้มต้อนรับตอนฉันกลับมาจากโรงพยาบาล”
“...ก็...ฉันเป็นตั้งแต่เธอมอบแหวนวงนี้ให้ฉันแล้วไมใช่หรอ”
“ เธอรู้ความหมายแล้วหรอ” ฉันพยักหน้า ตอบไป นอร์แมนค่อยๆพรมจูบที่หน้าผากฉันอย่างแผ่วเบา ตอนนี้ใจเราทั้งสองกำลังเต้นแรง
“ กระหม่อมรักเจ้าหญิงนะขอรับ”
“ จ๊ะ ฉันก็เหมือนกัน” ฉันคิดว่าการที่เราพบกันมันไม่ใช่เรื่องบังเอิญแต่เป็นพรมลิขิต
คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ