ลมหายใจเดียวกัน
-
เขียนโดย nongfin
วันที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2558 เวลา 21.32 น.
6 ตอน
0 วิจารณ์
9,536 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 25 มีนาคม พ.ศ. 2558 22.25 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น
3)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ “ บอกท่านไปว่าไม่ต้องมาหรอกคะ มันจะมีประโยชน์อะไรคะที่จะมาเอาป่านนี้ ท่านคิดว่าเอมี่คงจะ
ดีใจล่ะสินะที่ท่านมาหา แต่เปล่าเลยมันยิ่งเหมือนกับซ้ำเติม จะมาหาตอนที่เอมี่จะตายอยู่แล้วอย่ามาเสียเวลา เสียการเสียงานของพวกท่านเปล่าๆ” น้ำตาของฉันไหลเอ่อออกมาเรื่อยๆฉันมีความสุขได้แค่ในความฝันอย่างเดียวเลยสินะ
“ พี่ขอโทษพี่คิดว่าเอมี่อยากจะพบกับพ่อแม่ก่อนที่จะ...” พี่โจแอนเข้ามาสวมกอดฉัน ฉันไม่อยากพบกับพ่อและแม่ ก่อนที่ฉันจะตาย ฉันไม่ได้สิ้นหวังหรอกพี่โจแอนไม่ต้องปิดบังหรอกคะ เมื่ออาทิตย์ก่อนฉันได้ยินที่คุณหมอคุยกันว่าในเวลานี้ และอีกสองเดือนคงจะไม่ได้เพราะไม่มีผู้ติดต่อจะบริจาคหัวใจให้กับฉันเลย
“ ไม่เป็นไรหรอกคะ เอมี่ไม่เป็นไรแค่รู้สึกเสียดายนิดหน่อยเพราะได้เจอกับคนที่ดีที่สุด แต่ก็ต้องลา
จากเขาในอีกไม่ช้า เขาทำให้ทุกเช้าที่ตื่นขึ้นมานั้นสดใส”
“ อย่าพูดเรื่องร้ายสิ อีกไม่นานเอมี่จะผ่าตัดนะ ดีใจด้วยนะที่ได้พบคนที่ดี และสุขสันต์วันเกิด”
พี่โจแอนหยิบ สร้อยเงินที่มีจี้รูปผีเสื้อออกจากกระเป๋าเสื้อ
“ ขอบคุณคะ” พี่โจแอนสวมสร้อยให้กับฉัน ทั้งที่เพิ่งจะมาดูแลฉันไม่กี่ปียังอุตส่าห์มอบของขวัญวันเกิดให้
“ พี่ดีใจนะที่มีเอมี่ในวันนี้ อย่าเห็นชีวิตของตนเองเป็นเรื่องเล็กน้อยนักจะได้ไหม” อยากทำให้ได้แต่ไม่รับปากคะ ฉันชอบบ่นให้พี่โจแอนฟังอยู่เสมอว่าถ้าเลือกได้อยากเกิดเป็นผีเสื้อที่โบยบินอย่างอิสระ
พี่โจแอนยังจำมันได้อยู่อีกหรอ
“ พี่โจแอนคะ ถ้าเรามีชีวิตที่โหดร้าย ไม่อยากเกิดมาเลยด้วยซ้ำ แต่แล้ววันหนึ่งเราได้พบกับใคร
คนหนึ่งเค้าเป็นคนหยิบยื่นความหวังที่อยากจะมีชีวิตอยู่ ทำให้คืนวันเป็นวันอันแสนสดใส พี่โจแอนจะทำยังไงคะ”
“ โห! นิทานหรอถ้าพี่เป็นอย่างนั้นคงหมดกำลังใจที่จะมีชีวิตเลยล่ะ แต่ถ้าวันหนึ่งได้พบกับคนๆนั้น
ที่ทำให้เรามีความสุข อยากหายใจมีชีวิตอยู่ต่อไป พี่จะขอหลับใหลอยู่ในฝันต่อไปเพื่อพบกับคนๆนั้น
ไปตลอดกาลเลย เพราะลืมตาขึ้นมาก็เจอแต่เรื่องโหดร้าย แต่พี่คิดว่าคนๆนั้นที่ปรากฏตัวขึ้นเพราะอยากให้เราเข้มแข็ง แม้จะร้องไห้จนน้ำตาเป็นสายเลือดยังไงก็ต้องมีชีวิตอยู่ต่อไป ” เหมือนพี่โจแอนกำลังให้กำลังใจฉันเลย ฟังจากน้ำเสียงเหมือนเธอจะร้องไห้แทนฉันเสียด้วยซ้ำ
“ ออ อย่างนั้นหรอคะ” ฉันไม่กล้าตอบอะไรมากนักเพราะยังสับสนกับความคิดของตนเอง
“ พี่ต้องไปทำงานแล้ว ไปล่ะนะ” พี่โจแอนมองนาฬิกาข้อมือก่อนจะลุกขึ้น ฉันโบกมือ
แทนการบอกลาเฮ้อ...............สับสนจังทั้งที่หมดหวังกับวันข้างหน้าแล้วแท้ๆ
แต่พอได้พบกับนอร์แมนเรารู้สึกเหมือนได้รับการเยียวยารักษา มีความหวังขึ้นมา แต่ในเวลานี้กลับรู้สึกแย่เพราะเมื่อรู้ว่าตนเองจะต้องตายโดยไม่รู้ว่าจะไปวันไหน ใจมันคิดว่ายังอยากมีชีวิตอยู่ฉันแหงนหน้ามองท้องฟ้าในมือกำดอกนอร์แมนี่ แน่น ฉันมองท้องฟ้าอยู่เธอก็คงกำลังนอนมองดาวที่พร่างพราวสวยงามอยู่สินะ เธอรู้ไหมฉันมองอยู่นะ ฉันพยายามนึกภาพ ดวงดาวในยามค่ำคืนและพระจันทร์เต็มดวงที่สุกสกาว เมื่อไหร่จะมืดนะ เมื่อก่อนฉันกลัวกลางคืนเพราะฉันคิดยู่ก่อนนอนเสมอว่า ถ้าหลับไปฉันจะตื่นขึ้นมาในตอนเช้าไหม ถึงที่นี่จะสงบ สวยกว่าที่โลก แต่สิ่งอันตรายก็มีเยอะ ฉันนึกถึงคำพูดของนอร์แมนตอนเรานั่งคุยกัน อันตรายนอร์แมนจะยังปลอดภัยดีไหมนะ ค่ำแล้วสิ ฉันค่อยๆเอนตัวลงนอนกับเตียงฉันคิดว่าฉันคงเห็นเขานั่งเป่าขลุ่ยอยู่บนโขดหินเหมือนทุกๆวันแน่ๆเลย
“ ไง! เอมี่” แต่กลับเป็นภาพที่เขานั่งเหมือนรอฉันอยู่
“ วันนี้ไม่เห็นเป่าขลุ่ยเลย” วันนี้เขาถักเปีย ดูเรียบร้อยขึ้นนะ
“ ก็...เดี๋ยวเธอก็มาแล้วก็เลยนั่งรอ” เขานั่งรอฉันเหมือนที่ฉันนั่งรอเขา
“ เอ๋? สร้อยสวยจังเพิ่งได้มาหรอเพิ่งเห็นเธอใส่”
“ อืม ผู้มีพระคุณให้ฉันวันนี้เป็นของขวัญวันเกิดน่ะ”
“ วันนี้วันเกิดเธอหรอ??? ทำไมถึงไม่บอกไว้ตั้งแต่เมื่อวานล่ะ”
“ ก็ไม่คิดว่ามันเป็นวันที่พิเศษกว่าวันอื่นเลยไม่ได้บอกใคร คนๆนั้นเขารู้เอง”
“ แล้วจะเอาอะไรให้เอมี่ดีล่ะเนี่ย...โอ้ยคิดไม่ออกเลย” ดูท่าทางเขาจะเครียดนะ
“ เอ่อ...ไม่เป็นไร แค่รู้ว่าเธออยากให้ก็พอแล้ว ขอรับไว้แค่ความรู้สึก”
“ มันไม่ดี ในความคิดฉัน จริงสิ!” นอร์แมนเก็บดอกหญ้าเล็กมาสานเป็นอะไรสักอย่างเมื่อเวลาผ่านไปเขาดูท่าจะใจเย็นมากเลย สุดท้ายก็เป็นรูปร่าง มันคือแหวน ที่ถักทอจากดอกหญ้าสีสันสวยงามมากมาย
“ ขอมือเจ้าหญิงหน่อยขอรับ นิ้วกลางใหญ่เกินนิ้วก้อยก็เล็กเกินอีก นิ้วชี้ก็เกือบได้ เอ่อนิ้วนางได้ไหม”
“ นิ้วนางข้างซ้ายเนี่ยน่ะหรอ ทำไมจะไม่ได้”
“ เธอไม่รู้ความหมายของการสวมแหวนนิ้วนางข้างซ้ายหรอกหรอ”
“ มันทำไมหรอ? คนที่โรงพยาบาลไม่เคยมีใครเล่าให้ฟังเลย หรือมันเป็นเรื่องไม่ดี”
“ ช่างมันเถอะ มันไม่เป็นอะไรหรอก ตกลงอนุญาตใช่ไหม” ฉันพยักหน้า นอร์แมนค่อยๆสวมแหวนให้ฉัน
“ สุขสันต์วันเกิดนะ ขอให้เธอได้ทำสิ่งที่อยากทำ”
“ ไม่ได้หรอกเพราะต้องตายอยู่ดี ในอีกไม่ช้า ไม่รู้จะเกิดมาทำไม”
“ เดี๋ยวเถอะ!พูดอย่างนี้ได้ไง อย่าเห็นชีวิตตัวเองเป็นเพียงแมลงตัวเล็กๆสิ ฉันดีใจนะที่เธอเกิดมา ฉันดีใจนะที่ได้พบเจอกับผู้หญิงที่ชื่อว่า เอมี่ ” ฉันควรจะตอบอะไรกลับไปดี
“ เอ่อ...ขอบคุณนะ” ไม่เคยมีใครพูดอะไรแบบนี้เลย ที่พอใกล้เคียงก็มีพี่โจแอน
“ มาช่วยกันจัดงานวันเกิดให้กับเอมี่ กันเถอะ” นอร์แมนพูดขึ้น ทำฉันสะดุ้งเล็กน้อย
“ แล้วงานวันเกิดมันจะต้องมีอะไรบ้าง”
“ สำคัญเลยคือเค้ก แล้วจะมีเพื่อนๆ ครอบครัว มาช่วยกันจัดปาร์ตี้ฉลองมีดอกไม้ประดับ มีลูกโป่ง มีของกินอร่อยๆ มีรอยยิ้มมีเสียงหัวเราะ ถ้าไม่มีเค้กก็ไม่เป็นไรเราก็แค่มีคนสำคัญร่วมกันอวยพร ขอให้คนๆนั้นมีแต่สิ่งดีๆเข้ามาในชีวิต”
“ สุดยอดเลยนะ งานวันเกิดเนี่ย” คนที่ได้จัดวันเกิดคงจะมีความสุขมากเลยสินะนอร์แมนยื่นมือมา
ดีใจล่ะสินะที่ท่านมาหา แต่เปล่าเลยมันยิ่งเหมือนกับซ้ำเติม จะมาหาตอนที่เอมี่จะตายอยู่แล้วอย่ามาเสียเวลา เสียการเสียงานของพวกท่านเปล่าๆ” น้ำตาของฉันไหลเอ่อออกมาเรื่อยๆฉันมีความสุขได้แค่ในความฝันอย่างเดียวเลยสินะ
“ พี่ขอโทษพี่คิดว่าเอมี่อยากจะพบกับพ่อแม่ก่อนที่จะ...” พี่โจแอนเข้ามาสวมกอดฉัน ฉันไม่อยากพบกับพ่อและแม่ ก่อนที่ฉันจะตาย ฉันไม่ได้สิ้นหวังหรอกพี่โจแอนไม่ต้องปิดบังหรอกคะ เมื่ออาทิตย์ก่อนฉันได้ยินที่คุณหมอคุยกันว่าในเวลานี้ และอีกสองเดือนคงจะไม่ได้เพราะไม่มีผู้ติดต่อจะบริจาคหัวใจให้กับฉันเลย
“ ไม่เป็นไรหรอกคะ เอมี่ไม่เป็นไรแค่รู้สึกเสียดายนิดหน่อยเพราะได้เจอกับคนที่ดีที่สุด แต่ก็ต้องลา
จากเขาในอีกไม่ช้า เขาทำให้ทุกเช้าที่ตื่นขึ้นมานั้นสดใส”
“ อย่าพูดเรื่องร้ายสิ อีกไม่นานเอมี่จะผ่าตัดนะ ดีใจด้วยนะที่ได้พบคนที่ดี และสุขสันต์วันเกิด”
พี่โจแอนหยิบ สร้อยเงินที่มีจี้รูปผีเสื้อออกจากกระเป๋าเสื้อ
“ ขอบคุณคะ” พี่โจแอนสวมสร้อยให้กับฉัน ทั้งที่เพิ่งจะมาดูแลฉันไม่กี่ปียังอุตส่าห์มอบของขวัญวันเกิดให้
“ พี่ดีใจนะที่มีเอมี่ในวันนี้ อย่าเห็นชีวิตของตนเองเป็นเรื่องเล็กน้อยนักจะได้ไหม” อยากทำให้ได้แต่ไม่รับปากคะ ฉันชอบบ่นให้พี่โจแอนฟังอยู่เสมอว่าถ้าเลือกได้อยากเกิดเป็นผีเสื้อที่โบยบินอย่างอิสระ
พี่โจแอนยังจำมันได้อยู่อีกหรอ
“ พี่โจแอนคะ ถ้าเรามีชีวิตที่โหดร้าย ไม่อยากเกิดมาเลยด้วยซ้ำ แต่แล้ววันหนึ่งเราได้พบกับใคร
คนหนึ่งเค้าเป็นคนหยิบยื่นความหวังที่อยากจะมีชีวิตอยู่ ทำให้คืนวันเป็นวันอันแสนสดใส พี่โจแอนจะทำยังไงคะ”
“ โห! นิทานหรอถ้าพี่เป็นอย่างนั้นคงหมดกำลังใจที่จะมีชีวิตเลยล่ะ แต่ถ้าวันหนึ่งได้พบกับคนๆนั้น
ที่ทำให้เรามีความสุข อยากหายใจมีชีวิตอยู่ต่อไป พี่จะขอหลับใหลอยู่ในฝันต่อไปเพื่อพบกับคนๆนั้น
ไปตลอดกาลเลย เพราะลืมตาขึ้นมาก็เจอแต่เรื่องโหดร้าย แต่พี่คิดว่าคนๆนั้นที่ปรากฏตัวขึ้นเพราะอยากให้เราเข้มแข็ง แม้จะร้องไห้จนน้ำตาเป็นสายเลือดยังไงก็ต้องมีชีวิตอยู่ต่อไป ” เหมือนพี่โจแอนกำลังให้กำลังใจฉันเลย ฟังจากน้ำเสียงเหมือนเธอจะร้องไห้แทนฉันเสียด้วยซ้ำ
“ ออ อย่างนั้นหรอคะ” ฉันไม่กล้าตอบอะไรมากนักเพราะยังสับสนกับความคิดของตนเอง
“ พี่ต้องไปทำงานแล้ว ไปล่ะนะ” พี่โจแอนมองนาฬิกาข้อมือก่อนจะลุกขึ้น ฉันโบกมือ
แทนการบอกลาเฮ้อ...............สับสนจังทั้งที่หมดหวังกับวันข้างหน้าแล้วแท้ๆ
แต่พอได้พบกับนอร์แมนเรารู้สึกเหมือนได้รับการเยียวยารักษา มีความหวังขึ้นมา แต่ในเวลานี้กลับรู้สึกแย่เพราะเมื่อรู้ว่าตนเองจะต้องตายโดยไม่รู้ว่าจะไปวันไหน ใจมันคิดว่ายังอยากมีชีวิตอยู่ฉันแหงนหน้ามองท้องฟ้าในมือกำดอกนอร์แมนี่ แน่น ฉันมองท้องฟ้าอยู่เธอก็คงกำลังนอนมองดาวที่พร่างพราวสวยงามอยู่สินะ เธอรู้ไหมฉันมองอยู่นะ ฉันพยายามนึกภาพ ดวงดาวในยามค่ำคืนและพระจันทร์เต็มดวงที่สุกสกาว เมื่อไหร่จะมืดนะ เมื่อก่อนฉันกลัวกลางคืนเพราะฉันคิดยู่ก่อนนอนเสมอว่า ถ้าหลับไปฉันจะตื่นขึ้นมาในตอนเช้าไหม ถึงที่นี่จะสงบ สวยกว่าที่โลก แต่สิ่งอันตรายก็มีเยอะ ฉันนึกถึงคำพูดของนอร์แมนตอนเรานั่งคุยกัน อันตรายนอร์แมนจะยังปลอดภัยดีไหมนะ ค่ำแล้วสิ ฉันค่อยๆเอนตัวลงนอนกับเตียงฉันคิดว่าฉันคงเห็นเขานั่งเป่าขลุ่ยอยู่บนโขดหินเหมือนทุกๆวันแน่ๆเลย
“ ไง! เอมี่” แต่กลับเป็นภาพที่เขานั่งเหมือนรอฉันอยู่
“ วันนี้ไม่เห็นเป่าขลุ่ยเลย” วันนี้เขาถักเปีย ดูเรียบร้อยขึ้นนะ
“ ก็...เดี๋ยวเธอก็มาแล้วก็เลยนั่งรอ” เขานั่งรอฉันเหมือนที่ฉันนั่งรอเขา
“ เอ๋? สร้อยสวยจังเพิ่งได้มาหรอเพิ่งเห็นเธอใส่”
“ อืม ผู้มีพระคุณให้ฉันวันนี้เป็นของขวัญวันเกิดน่ะ”
“ วันนี้วันเกิดเธอหรอ??? ทำไมถึงไม่บอกไว้ตั้งแต่เมื่อวานล่ะ”
“ ก็ไม่คิดว่ามันเป็นวันที่พิเศษกว่าวันอื่นเลยไม่ได้บอกใคร คนๆนั้นเขารู้เอง”
“ แล้วจะเอาอะไรให้เอมี่ดีล่ะเนี่ย...โอ้ยคิดไม่ออกเลย” ดูท่าทางเขาจะเครียดนะ
“ เอ่อ...ไม่เป็นไร แค่รู้ว่าเธออยากให้ก็พอแล้ว ขอรับไว้แค่ความรู้สึก”
“ มันไม่ดี ในความคิดฉัน จริงสิ!” นอร์แมนเก็บดอกหญ้าเล็กมาสานเป็นอะไรสักอย่างเมื่อเวลาผ่านไปเขาดูท่าจะใจเย็นมากเลย สุดท้ายก็เป็นรูปร่าง มันคือแหวน ที่ถักทอจากดอกหญ้าสีสันสวยงามมากมาย
“ ขอมือเจ้าหญิงหน่อยขอรับ นิ้วกลางใหญ่เกินนิ้วก้อยก็เล็กเกินอีก นิ้วชี้ก็เกือบได้ เอ่อนิ้วนางได้ไหม”
“ นิ้วนางข้างซ้ายเนี่ยน่ะหรอ ทำไมจะไม่ได้”
“ เธอไม่รู้ความหมายของการสวมแหวนนิ้วนางข้างซ้ายหรอกหรอ”
“ มันทำไมหรอ? คนที่โรงพยาบาลไม่เคยมีใครเล่าให้ฟังเลย หรือมันเป็นเรื่องไม่ดี”
“ ช่างมันเถอะ มันไม่เป็นอะไรหรอก ตกลงอนุญาตใช่ไหม” ฉันพยักหน้า นอร์แมนค่อยๆสวมแหวนให้ฉัน
“ สุขสันต์วันเกิดนะ ขอให้เธอได้ทำสิ่งที่อยากทำ”
“ ไม่ได้หรอกเพราะต้องตายอยู่ดี ในอีกไม่ช้า ไม่รู้จะเกิดมาทำไม”
“ เดี๋ยวเถอะ!พูดอย่างนี้ได้ไง อย่าเห็นชีวิตตัวเองเป็นเพียงแมลงตัวเล็กๆสิ ฉันดีใจนะที่เธอเกิดมา ฉันดีใจนะที่ได้พบเจอกับผู้หญิงที่ชื่อว่า เอมี่ ” ฉันควรจะตอบอะไรกลับไปดี
“ เอ่อ...ขอบคุณนะ” ไม่เคยมีใครพูดอะไรแบบนี้เลย ที่พอใกล้เคียงก็มีพี่โจแอน
“ มาช่วยกันจัดงานวันเกิดให้กับเอมี่ กันเถอะ” นอร์แมนพูดขึ้น ทำฉันสะดุ้งเล็กน้อย
“ แล้วงานวันเกิดมันจะต้องมีอะไรบ้าง”
“ สำคัญเลยคือเค้ก แล้วจะมีเพื่อนๆ ครอบครัว มาช่วยกันจัดปาร์ตี้ฉลองมีดอกไม้ประดับ มีลูกโป่ง มีของกินอร่อยๆ มีรอยยิ้มมีเสียงหัวเราะ ถ้าไม่มีเค้กก็ไม่เป็นไรเราก็แค่มีคนสำคัญร่วมกันอวยพร ขอให้คนๆนั้นมีแต่สิ่งดีๆเข้ามาในชีวิต”
“ สุดยอดเลยนะ งานวันเกิดเนี่ย” คนที่ได้จัดวันเกิดคงจะมีความสุขมากเลยสินะนอร์แมนยื่นมือมา
คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ