ห้วงไฟเก่า

-

เขียนโดย หนุ่มวิเวก

วันที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557 เวลา 08.33 น.

  6 ตอน
  2 วิจารณ์
  9,312 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557 08.38 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น

แชร์เรื่องสั้น Share Share Share

 

2) ยังมีเธอ

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
         ในยามว่างช่วงวันหยุดกิจกรรมผ่อนคลายที่สองสามีภรรยาก็คือการพาลูกออกไปทานอาหาร
 
นอกบ้านท่องเที่ยวต่างหวัดบ้าง ทำให้เขาไม่ค่อยมีเวลาไปพบปะเพื่อนเก่าสักเท่าไหร่เพราะทุกคน
 
ล้วนมีภาระครอบครัวให้ดูแล คงมีแต่เพื่อนบ้านในหมู่บ้านเดียวกันกับที่เขาอาศัยอยู่นี้
              
 
             ในเย็นวันหนึ่งหลังจากที่วุฒิไปรับลูกสาวจากโรงเรียนระหว่างทางที่กลับบ้าน
 
ลูกสาวที่นั่งอยู่ตรงเบาะหน้ารถข้างคนขับ บนถนนที่การจราจรวันนี้สะดวกโล่ง
 
มีรถเมถ์ เท๊กซี่และมอเตอร์ไซค์ วิ่งอยู่ประปรายอย่างคล่องตัวทีเดียว
 
เขาพูดคุยถึงอนาคตขอเทอมแพงลูกสาวที่เขาอุตสาห์ส่งเสียให้เรียน
 
ในโรงเรียนที่ค่าเทอมแพงยิบ
 
 
 “วันนี้ที่โรงเรียนเป็นยังไงบ้างลูก เรียนที่โรงเรียนสนุกดีมั้ยลูก”
 
 
“สนุกมากเลยค่ะ วันนี้คุณคที่โรงเรียนสอนให้หนูวาดรูปบ้านในฝันด้วยค่ะคุณพ่อ”
 
ลูกสาวคนสวยเอ่ยตอบ
 
 
“เหรอ เมื่อตอนสมัยที่พ่อเป็นเด็กเหมือนลูก
 
พ่อเคยได้คะแนนเต็มวิชาวาดเขียนจากคุณครูเลยนะ”
 
แม้จะมีท่าทีเรียบเฉยเรูมื่อได้ยินสิ่งที่ลูกสาวเล่าให้ฟังแต่เขาก็คุยฟุ้ง
 
ถึงตอนที่เขายังเป็นเด็กนักเรียนประถมที่บ้านเกิด
 
ซึ่งเขาเป็นเด็กเรียนเก่งที่สอบได้ที่หนึ่งของชั้นเรียนเป็นประจำ
 
และสิ่งที่เขาชอบและถนัดที่จะทำอย่างหนึ่งมาตั้งแต่เมื่อครั้ง
 
ยังเป็นเด็กนักเรียนโรงเรียนบ้านนอกที่ห่างไกลความเจริญ
 
คือการวาดรูปด้วยดินสอชนวนขีดๆเขียนๆลงบนแผ่นหินตามจินตนาการ
 
ที่มีประสาเด็กบ้านนอก เขาได้รับคำชมจากครู
 
และเพื่อนในโรงเรียนทุกครั้งที่มีการวาดรูปส่งครูประจำชั้น
 
และก็เป็นความสามารถที่ติดตัวเขาเรื่อยมา ตั้งแต่เป็นเด็กชั้นประถมศึกษาที่บ้านเกิด
 
จนถึงตอนที่เขาเข้าเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาที่โรงเรียนประจำอำเภอ
 
ทำให้เขาเลือกที่จะสอบเข้าเรียนสถาปัตย์
 
เมื่อครั้งสอบชิงทุนการศึกษาได้เข้าเรียนระดับปริญญา
 
จนสามารถสอบรับใบประกอบวิชาชีพสถาปนิก
 
อาชีพในฝันของเขามาเมื่อครั้งที่ยังเป็นเด็ก แต่เดี๋ยวอาชีพในฝันที่
 
เขาพากเพียรมาตั้งแต่ยังเป็นเด็กบ้านนอกไม่สามารถนำมาซึ่งฐานะและความสุขใจ
 
ถึงโอกาสทางการศึกษาจะเข้าไปไม่ถึงแต่ด้วยความที่วุฒิ
 
เป็นคนที่มีความทะเยอทะยานเป็นทุนเดิม ทำให้เขาเป็นเด็กดีตั้งใจเรียน
 
และด้วยฐานะทางครอบครัวที่ดีกว่าเด็กคนอื่นที่กำเนิดมาจากท้องไร่ท้องนาในหมู่บ้านเดียวกัน
 
ทำให้วุฒิมีโอกาสมากกว่าการเรียนเขียนอ่านตามปกติในโรงเรียน
 
นั่นคือการดูได้ทีวี ตามปกติที่หมู่บ้านชายทุ่งห่างไกลจากตัวอำเภอราวห้าสิบกิโลเมตร
 
ในยุคที่รัฐบาลสมัยนั้นเริ่มต้นเพิ่งโครงการเร่งรัดพัฒนาชนบท
 
เพื่อก้าวเข้าสู่ยุคโลกาภิวัฒน์ให้เท่าเทียมอารยประเทศ
 
เครื่องรับโทรทัศน์เพียงเครื่องเดียวของหมู่บ้านตั้งอยู่กลางบ้านไม้หลังใหญ่เขา
 
ภาพบรรยากาศแห่งความทรงจำสมัยยังเป็นเด็กตัวเล็ก
 
อายุรุ่นราวใบเฟิร์นคือช่วงที่นั่งบนตักพ่อเพื่อชมรายการทีวี
 
ที่ตั้งอยู่ตรงหน้าบนโต๊ะไม้เต็ง ในวันหยุดอย่างจดจ่อ
 
ยังคงอยู่ในความคิดของวุฒิเรื่อยมา       
           
 
 
          ชีวิตที่มีภาระและรับมากมายในเมืองหลวงของวุฒิ
 
เขาจึงไม่ค่อยมีเวลาหยุดพักผ่อนและขาดดการติดต่อกับทางบ้านเกิด
 
เขาเกิดภาวะตรึงเครียดสูงบ้างในบางครั้ง เขายังคงหนักใจเรื่องค่าเทอมของลูกสาว
 
เขาวาดอนาคตของใบเฟิร์นเอาไว้สวยหรู
 
ด้วยมุ่งหมายอยากให้ลูกสาวมีโอกาสจากแมวมองในวงการบันเทิง
 
ที่มักจะหาเด็กเข้าสังกัดจากโรงเรียนนานาชาติตามกรุงเทพมหานคร
 
ให้ได้เป็นดารานักร้องที่มีชื่อเสียง ถึงแม้ว่าเยาว์ผู้เป็นภรรยาดูมีท่าที
 
ไม่สนับสนุนเธอดูจะมีอคติเกี่ยวกับวงการบันเทิง
 
เธอคิดว่าวุฒิยังคงมีใจและยังเสียดายที่วุฒิไม่ได้เป็น
 
คู่ชีวิตของแววเพื่อนดาราสาวคนดัง สิ่งนี้เองเป็นอุปสรรคสำคัญ
 
ที่ทำให้เธอคิดต่างจากที่สามีฝันถึงกับอนาคตของลูกสาว
 
แต่ในที่สุดวุฒิก็สามารถหาเหตุผลโน้มน้าวให้เยาว์ใจอ่อน
 
ยอมส่งเสียลูกสาวเข้าเรียนในโรงเรียนนานาชาติตามที่วุฒิคาดหวัง
 
 “แล้วก็สัปดาห์หน้าที่โรงเรียนจะมีกิจกรรมวันเด็กนะคะคุณพ่อ
 
คุณครูที่โรงเรียนให้หนูร้องเพลงประกวดชิงรางวัลของโรงเรียนด้วย”
 
ใบเฟิร์นเล่าเรื่องที่โรงเรียนให้วุฒิที่กำลังขับรถผ่านเส้นทาง
 
ที่การจรจรดูเหมือนจะไม่สร้างความรื่นรมย์สักเท่าไหร่
 
 
“จริงเหรอลูก” วุฒิตื่นเต้นด้วยความดีใจ
 
 
 “จริงค่ะคุณพ่อ คุณครูให้หนูซ้อมร้องเพลงภาษาอังกฤษนึงเพลง
 
แต่ไม่รู้จะร้องเพลงอะไรดี หนูนึกไม่ออก”
 
“เดี๋ยวพ่อเลือกให้ เอาเพลงมายฮาร์ทวิวโกออนของมารายแครี่ ลูกว่าดีมั้ย พ่อชอบเพลงนี้”
 
“เพลงอะไรเหรอคะคุณพ่อ”
 
เด็กสาวฉงนในสิ่งที่เขาได้ยินจากคำพูดของพ่อ
 
เมื่อวุฒิกล่าวถึงประกอบหนังดัง ตั้งแต่ครั้งสมัยที่ใบเฟิร์นยังไม่เกิด
 
 
“เพลงประกอบหนังฝรั่งเรื่องดังสมัยที่ลูกยังไม่เกิดน่ะ
 
เดี๋ยวกลับบ้านพ่อจะเปิดแผ่นคาราโอเกะให้ฟัง”
 
วุฒิอธิบายถึงเพลงประกอบหนังไททานิค
 
หนังฝรั่งชื่อดังที่เขาประทับใจในช่วงที่เพิ่งรู้จักกับเยาว์
 
 
“เฟิร์นร้องไม่เป็นน่ะคุณพ่อ”
 
เด็กสาวพูดด้วยความไม่มั่นใจ
 
 
“เดี๋ยวฝึกร้องจากแผ่นคาราโอเกะที่บ้าน เดี๋ยวก็ร้องเก่งเองแหล่ะลูก”
 
“ ได้ค่ะคุณพ่อ”
 
ลูกคนเก่งของวุฒิเริ่มคลายกังวล แล้วเอื้อมมือเปิดวิทยุหน้ารถ
 
ฟังรายการเพลงข่าวต้นชั่วโมงห้าโมงเย็น
 
 
“ เป็นข่าวใหญ่ที่สุดในรอบวันเลยทีเดียวสำหรับข่าวของ
 
คุณแวว วัชรา นางเอกสาวชื่อดังที่ประกาศสละโสด
 
และกำลังจะเข้าประตูวิวาห์สายฟ้าแลบกันในสัปดาห์หน้า
 
กับเศรษฐีหนุ่มใหญ่เจ้าของธุรกิจพันล้านวัยสี่สิบโดยมีคฤหาส
 
หรูใจกลางเมืองราคาร้อยล้านเป็นสินสอดสินสอด.....................................................”
 
เสียงวิทยุยังดังต่อไป วุฒิเอะใจและงึงงันกับเสียงข่าวที่ได้ยินจากวิทยุ
 
เขาเอื้อมมือไปหมุนปุ่มเพิ่มความดังบนหน้าปัด
 
ใบเฟิร์นตั้งใจฟังตามพ่ออย่างสนใจ
 
 

 

คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา