ซะขนาดนี้หรือจะลืมลง

9.9

เขียนโดย มังกุมภ์

วันที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557 เวลา 15.05 น.

  48 ตอน
  40 วิจารณ์
  52.59K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 10 เมษายน พ.ศ. 2558 16.39 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น

แชร์เรื่องสั้น Share Share Share

 

2) มีมาแต่โบราณ

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

                                           ช่วงเหตุการณ์ 17 ขวบ

          พี่ บ. เป็นเพื่อนกับพี่ชายผม ซึ่งพวกเราสนิทกันเพราะตอนพี่ชายผมย้ายมาเรียนในกรุงเต้บ บ้านพี่ บ. อยู่ในหมู่บ้านเดียวกับป้าผม ด้วยความเป็นวัยรุ่นในหมู่บ้านเดียวกัน เตะบอลกัน นั่งเล่นกีตาร์ นู่นนั่นนี่ ไปๆมาๆ กลายเป็นว่าพี่ผมมานอนอยู่บ้านพี่ บ. มากกว่าบ้านป้าซะอีก

          เหตุเพราะว่าแม่พี่ บ.ไปทำงานอยู่ต่างประเทศ ทำให้บ้านพี่ บ. เป็นบ้านที่ปราศจากคนแก่ คือสะสมวัยรุ่นล้วนๆ ไม่ว่าพวกเราจะทำอะไรกันก็สบายใจ เพราะไม่มีผู้ใหญ่มาบ่นมาว่าให้เสียจิต พี่ บ. นอกจากจะเรียนแล้ว ก็ยังมีอาชีพเสริมอย่างหนึ่งคือ เป็นนักคนตรี หลังจากเลิกเรียน ก็กลับมาซ้อมดนตรีกับเพื่อนในวงซึ่งก็พักอยู่ที่บ้านพี่ บ.นี่แหละ ซ้อมเสร็จก็ออกไปเล่นตามงานที่เขาจ้างไป ซึ่งพวกผมถ้าว่างๆจะตามไปนั่งเล่นด้วย 

          พี่ บ. มีแฟนแล้วชื่อ เจ้ น. สองคนนี้คบกันได้พักใหญ่ๆแล้ว ซึ่งเวลาว่างๆ เจ้ น. ก็จะชวนพี่ บ. รวมทั้งพวกเราไปเที่ยวบ้าน ซึ่งอยู่ที่นนท์ บ้านเจ้แก ปลูกอยู่ในสวนร่มรื่น ซึ่งพวกเราก็ชอบไปเพราะอากาศเย็นสบาย

          ใกล้ๆกันกับบ้านเจ้ น. ก็คือบ้านยายของเจ้แก พวกเรามากันหลายครั้งแต่ก็ไม่เคยได้ไปกราบยายของเจ้ซักที เราได้แต่เห็นยายของเจ้นั่งตำหมาก พร้อมกับมองพวกเราเป็นระยะๆ จนกระทั่งวันหนึ่ง เจ้ น. มาบอกพวกเราว่าให้ไปไหว้ยายซะหน่อย เพราะว่ายายเห็นพวกเรามากันหลายครั้งแล้วก็อยากจะคุยด้วย พวกเราเลยย้ายวงจากบ้านเจ้ไปบ้านยาย

          พอขึ้นบ้านพวกเราก็คลานกันเขาไปไหว้คุณยายด้วยความเคารพ คุณยายยิ้มแป้นโชว์ฟันสีดำเปื้อนคราบหมากเป็นการตอบรับหลานหน้าใหม่อย่างพวกเรา หลังจากให้ศีลให้พรคุณยายก็เริ่มสอบถามความเป็นมาของพวกเรา เพราะรู้แว่วๆมาว่าในกลุ่มนี้มีคนหนึ่งกำลังคบกับหลานสาวของแกอยู่ พี่ บ. ก็เลยออกตัวว่าตนเองคือเป้าหมายที่ยายค้นหานั่นเอง พอคุยกันได้ซักพัก คุณยายก็ถามพี่ บ.ว่า

"ทำงานแล้วหรือยังล่ะพ่อคุณ"

          พี่ บ.ก็ตอบกลับไปว่ายังเรียนอยู่ แต่ว่าทำงานไปด้วยคือเป็นนักดนตรี ด้านคุณยายพอได้ยินคำว่าเป็นนักดนตรีเท่านั้น ก็ชะงักการตำหมาก ปากที่ยิ้มแป้นอยู่ตลอดกลายเป็นหุบ มีเพียงน้ำหมากที่ไหลออกมุมปากเล็กน้อย หน้าตาจากที่สดชื่นรื่นเริงก็กลายเป็นบึ้งตึงขึ้นมาทันที พร้อมกับส่งเสียงดังว่า

ยาย : อีหนูเอ็งเลิกคบกะไอ้หนุ่มนี่เถอะ

เจ้    : อ้าวทำไมล่ะจ๊ะยาย

ยาย : ไอ้พวกนักดนตรีมันไว้ใจไม่ได้ มันมีแต่พวกเจ้าชู้ ได้ผู้หญิงแล้วก็ทิ้ง

พี่ บ.: คุณยายครับ ผมไม่เจ้าชู้หรอกครับ เล่นเสร็จก็กลับบ้านนอน ตื่นเช้าก็ ไปเรียน

ยาย : นักดนตรีก็เป็นอย่างนี้ทุกคน เชื่อไม่ได้

          พวกเราก็มองหน้ากันไปมา เพราะดูอาการของยายแล้วไม่ได้พูดเล่นซะด้วยเพราะแกดูจริงจังมาก แต่พี่ บ. ก็ยังยืนยันว่าตัวแกไม่เจ้าชู้ ส่วนคุณยายก็เถียงกลับมาว่ายังไงก็เชื่อใจไม่ได้หรอกไอ้พวกนักดนตรีเนี่ย ฟังกันอยู่พักนึง หนึ่งในกลุ่มพวกเราก็ถามยายว่า

      "แล้วยายรู้ได้ไงครับว่านักดนตรีเจ้าชู้ไว้ใจไม่ได้"

          คุณยายหันขวับตัวสั่นตะโกนจนหมากกระจายว่า

     "ทำไมกูจะไม่รู้ ตอนสาวๆกูเคยหนีตามมือระนาดเอกมาก่อนโว้ย"

          พูดจบแกก็ตำหมากอย่างรุนแรงด้วยความแค้น

          "มันได้กูแล้วมันก็ทิ้งกูไปมีคนใหม่"

          พวกเรามองหน้ากันไปมา แล้วก็ทยอยกันกราบลาคุณยาย พอพ้นเรือนคุณยายมาได้ พวกเราก็หัวเราะกันลั่น

          "ยายเจ้เฟี๊ยวเนอะ" หนึ่งในกลุ่มแซวขึ้นมา

          "เออ ชั้นก็เพิ่งรู้นี่แหละว่ายายชั้นตอนสาวๆเฟี๊ยวมาก"

          แล้วพวกเราก็นั่งคุยกันว่า เรื่องหนีตามศิลปินในดวงใจนี่มีมาตั้งแต่โบราณแล้วนี่หว่าไม่ใช่เพิ่งมามี นั่งคุยสักพัก เราก็กลับมาบ้านพี่ บ. เพื่อซ้อมดนตรีกันต่อ.

 

คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา