อารมณ์-มุมมอง-เรื่อยเปื่อย

8.9

เขียนโดย candle

วันที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2557 เวลา 12.58 น.

  3 บท
  15 วิจารณ์
  7,416 อ่าน
แชร์เรื่องสั้น Share Share Share

 

3) น้ำ-ค้าง

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

อารมณ์-มุมมอง-เรื่อยเปื่อย

 

“น้ำ-ค้าง”

 

          เม็ดฝนจากลาไปอย่างละล้าละลัง  บางคราจากไปเพียงแค่วันหนึ่ง  ก็กลับมาเยี่ยมเยือนกันพอให้หายคิดถึงอีกสักวันหนึ่ง  หรือเพียงชั่วครู่ยาม  ทิ้งน้ำตกค้างไว้เป็นแอ่งตามคูคลอง  น้ำที่ไม่อาจหวนคืนกลับได้โดยเร็วพลันเช่นขามา  รอวันระเหยหายทีละเล็กน้อย  ค้างเติ่งอยู่ตามแอ่งเล็กๆ

 

          น้ำซึ่งเมื่อแรกมาเยือนเคยใสบัดนี้เป็นสีเหลืองขุ่น  ด้วยแปดเปื้อนคลุกเคล้ากับดิน  บางแอ่งเกิดเป็นสีสนิมแวววาวบนผิวน้ำดูน่าประหลาดใจ  เมื่อเอาบางสิ่งบางอย่างแหย่ลงไปจะมองเห็นน้ำที่ใสกว่า  ด้านล่างติดกับผืนดินเป็นตะไคร่ลื่นเมือกสีเหลืองหยุ่นๆ เหมือนวุ้น  ไม่รู้ถึงต้นกำเนิด

 

          จิงโจ้น้ำขายาวทำน้ำเป็นวงตามแรงสั่นสะเทือนของการเดิน  ผืนน้ำคล้ายเป็นแผ่นพลาสติกบางใสสำหรับสัตว์ชนิดนี้  ปลาตัวน้อยผู้ด้อยประสบการณ์แห่งชีวิต  ระรี้ระริกตื่นเต้นกับแอ่งน้ำใหม่ที่ทอดต่อไปจากหนองน้ำใหญ่ไม่สนใจคำทัดทานของปลาผู้ใหญ่  ว่ายรี่หัวเราะร่าสนุกสนานกับสถานที่ใหม่ล้วนน่าสนใจน่าค้นหา  เช่นเดียวกับหนุ่มสาววัยแสวงหา  แสวงหาโลกใหม่  แสวงหาสังคมใหม่  แสวงหาที่ยืนใหม่  ลอยละลิ่วดั่งว่าวสายขาด  ปลิวไปกับแรงลมพัดพา

 

          วันนี้กลับตกค้างอยู่ในแอ่งใหม่เมื่อผืนน้ำขาดการเชื่อมต่อ  เพียงแต่ว่ายวนไปมาอยู่ในแอ่งเล็กๆ นั่นที่นับวันจะเหือดแห้งลงทุกขณะ  ภายในใจคงวิตกกังวล  จะหาหนทางกลับไปยังหนองน้ำอย่างไรได้  กำลังไม่พอให้กระโดด  สายน้ำถูกตัดขาดไปแล้ว  กระเสือกกระสนไปรังแต่จะหมดกำลังและตายไประหว่างทางเท่านั้นเอง

 

          ฉันมองเห็นมันว่ายกลับไปกลับมา  จิงโจ้น้ำไม่อาจช่วยอะไรได้  บางครั้งก็ควรปล่อยให้มันเรียนรู้ความผิดพลาดด้วยตัวเองบ้างกระมัง  ฉันอดไม่ได้ที่จะนึกไปถึงประโยคที่คล้ายๆ อย่างนี้  เราไม่อาจทำเรื่องผิดพลาดด้วยตัวเองได้ทั้งหมด  เพราะฉะนั้นจงเรียนรู้จากความผิดพลาดของคนอื่นบ้าง  ฉันจำประโยคนี้ได้ไม่ทั้งหมด  แต่โดยรวมๆ ความหมายมันก็คืออย่างนี้  และนี่คือหนึ่งหนทางแห่งความผิดพลาดที่ฉันได้เรียนรู้จากปลาอ่อนวัยด้วยสินะ

 

          ใบไม้พลัดตกจากลำต้นด้วยแรงลมโหมกระหน่ำเมื่อคราวฝนตกหนัก  ส่วนหนึ่งร่วงค้างบนพื้นดิน  หากแต่จำนวนไม่น้อยพลัดตกลงไปในแอ่งน้ำอย่างช่วยเหลือตัวเองไม่ได้  ระหว่างใบที่ร่วงบนพื้นดินกับใบที่ร่วงลงในน้ำ  อย่างไหนจะย่อยสลายเร็วกว่ากันหนอ  ฉันเคยคิดเสมอว่าใบที่อยู่ในน้ำน่าจะเน่าเปื่อยก่อน  แต่เปล่าเลย

 

          กลับกลายเป็นว่าพวกที่อยู่บนพื้นดินจากไปก่อน  เหลือไว้เพียงเส้นใยโคร่งร่างของใบที่คงรูปเป็นเรือนร่างอ่อนช้อยสวยงามตามแบบฉบับของตัวเอง  เผยโฉมอวดผลงานชิ้นโบว์แดงของจิตกรเช่นจุลลินทรีย์ผู้ขยันขันแข็งและอดทนต่อการทำงานไม่น้อยไปกว่าใครหน้าไหน

 

          ส่วนที่ร่วงลงน้ำถูกดินเคลือบใบ  และกลายเป็นหนึ่งในจำนวนผู้พลัดหลงอย่างไม่ตั้งใจ  เช่นเดียวกับปลาอ่อนวัยผู้น่าสงสาร  ต่างกันเพียงแต่ใบไม้คงรูปแห่งชีวิตยาวนานกว่าในสถานการณ์เดียวกันแม้น้ำแห้งขอดไปแล้ว  ขณะปลาผู้ไม่อาจหวนคืนแหล่งน้ำเก่ายังคงต้องเผชิญกับความหวาดหวั่นในอีกรูปแบบหนึ่งจากนกกินปลาผู้หิวโหยแหล่งน้ำแห้งขอดกลายเป็นภัตตาคารชั้นเลิศที่ควรค่าแก่การแวะเวียน

 

          เจ้าปลาเยาว์วัยเอยเจ้าควรฟังคำทัดทานของผู้มากประสบการณ์บ้าง  ความไม่ประสีประสาของเจ้าจะนำพาความวิบัติมาสู่  อย่างที่เจ้าคาดไม่ถึงเลยทีเดียว

 

          ฉันใช้อุ้งมือค่อยๆ ช้อนเจ้าปลาน้อยกลับคืนสู่แหล่งน้ำเก่าแกมหมั่นไส้นิดหน่อย  พลางพึมพำคำสอนไปเบาๆ ด้วยเกรงว่าหากใครได้ยินจะหาว่าฉันเพี้ยนนั่นเอง.

 

***ไม่มีอะไรเหมือนเดิม

 

คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.4 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.4 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา