อารมณ์-มุมมอง-เรื่อยเปื่อย

8.9

เขียนโดย candle

วันที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2557 เวลา 12.58 น.

  3 บท
  15 วิจารณ์
  7,293 อ่าน
แชร์เรื่องสั้น Share Share Share

 

2) แดดยิ้ม

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

“แดดยิ้ม

 

          หลังจากดวงตะวันต้องใช้เรี่ยวแรงทั้งหมดที่มี  พร้อมกับแรงเชียร์อย่างสุดใจของชาวสวน  ยื้อยุดฉุดกระชากกับสายพิรุณกลับมาได้ในวันที่สิบเอ็ดเป็นผลสำเร็จ  แสงตะวันเริ่มงานอย่างขยันขันแข็งแต่เช้าตรู่  ไม่นอนขดบิดขี้เกียจอยู่เช่นใครบางคน (หนึ่งในนั้นคือฉันเอง)

 

          กระรอกกระแตวิ่งไล่กันให้ครื้นเครงตั้งแต่เช้ามืด  บริเวณบ้านของฉันมีกระรอกกระแต่จำนวนไม่น้อยมาชุมนุมกันอยู่  สาเหตุก็เพราะอยู่ที่สวนแห่งนี้แสนสุขสม  ได้รับความคุ้มครองเล็กๆ จากคนบ้านนี้  มีผลหมากรากไม้ให้กิน (บ้าง) ไม่มีใครกล้าเอาปืนมาส่อง  มันยังถึงขนาดเหิมเกริมวิ่งเล่นบนหลังคา  และยังแอบมาขโมยกล้วยถึงในบ้านอีกต่างหาก  นี่แหละหนาพอดีด้วยหน่อยก็ชักเลยเถิด  แต่ช่างเถอะ  อย่างน้อยที่สุดก็แค่หลับตาจินตนาการว่าบ้านของเราอยู่ในนิทานเรื่องใดเรื่องหนึ่งก็พอ (ถนัดนักล่ะ)

 

          บินหลาดงสี่ห้าตัวยึดกอไผ่หน้าบ้านเป็นสถานพำนักดูชื่นมื่นเป็นพิเศษ  แต่งขนดำขลับสวยหล่อกันถ้วนทั่ว  นั่งปรายแดดเช้าที่แสงยังไม่แรงนักพลางส่งเสียงพูดคุยเจื้อยแจ้วกระดี้กระด้าเกี้ยวพากัน  กระโดดขึ้นกระโดดลงหยองแหยงตามพื้นจิกหาแมลง  โผโผนขึ้นเกาะกิ่งไผ่  ทุกชีวิตมีความสุขกับแสงแดดแรกแห่งเดือนกันยายน

 

          ลำแสงส่องผ่านใบไม้เป็นทางมากมายหลายเส้น  ความสว่างเฉพาะจุดขับเน้นให้มองเห็นฝุ่นเล็กๆ โลดเต้นอยู่ในนั้น  นั่นเป็นสิ่งที่เรามองเห็นกันได้ชัดเจน  เออหนอ...แล้วตรงจุดอื่นที่เราไม่อาจมองเห็นได้อีกเล่าจะมากมายขนาดไหน  จับตามผิวหนัง  เส้นผม  เข้าไปในดวงตา  หรือที่สูดดมเข้าไปอีกเล่า  นี่เองที่สร้างความระคายเคืองรำคาญใจเล็กๆ กับอาการแพ้ที่เกิดขึ้นกับบางคน  บางประเภท (ฉันเป็นต้น)

 

          แต่ก็นั่นแหละแค่เราไม่มองไปในลำแสงสว่างเฉพาะจุดนั้น  โดยทั่วไปก็ไม่อาจมองเห็นอะไรได้  ไม่รับรู้ว่าอยู่ท่ามกลางสิ่งสกปรกมากมายแค่ไหนในชีวิต  ความสุขทุกข์ก็เช่นเดียวกันสินะ  เมื่อเราไม่เอาอารมณ์ไปจดจ่อมากนัก  ไม่หลงระเริงกับความสุขมากนัก  ไม่โน้มใจไปเพ่งกับความทุกข์ตรงหน้ามากนัก  ถอนสายตาของมาจากลำแสงเรืองรองซึ่งเรียกร้องความสนใจ  เบือนหน้าหนีจากมันเสีย  ทุกอย่างก็เบาบางลง  หากเป็นไปได้ที่จะปฏิเสธมันผินหลังให้เสีย  แม้ในความเป็นจริงยากที่จะทำได้ก็เถอะ

 

          วันนี้ฉันรับรู้ถึงอารมณ์ของผู้คนที่นี่ได้แม้ยังไม่เจอะเจอใครก็ตาม  รอยยิ้มฉาบทาบนใบหน้าหดหู่ของหลายวันก่อน  จะทำอย่างไรได้เล่าชีวิตชาวสวนชาวไร่ผู้วางชีวิตไว้ในอุ้งมือของดินฟ้าอากาศ (ขึ้นอยู่กับดินฟ้าอากาศ) โดยเฉพาะผู้คนในเมืองนี้  เมืองที่ถูกเรียกว่าฝนแปดแดดสี่  เมืองที่ฝนเคยตกติดต่อกันเป็นระยะเวลาเกือบเดือนก็มีมาแล้ว

 

          เมื่อฝนหยุดตกนั่นหมายความว่า  คืนนี้มีโอกาสเป็นไปได้อย่างมากที่จะได้กรีดยาง  รายจ่ายทั้งหมดอยู่ที่ต้นไม้พวกนั้น  ขอเพียงให้ได้กรีดเท่านั้นเป็นพอ  จะมากจะน้อยก็ยังคงต่อลมหายใจได้อีก  ไหนจะค่าใช้จ่ายสำหรับลูกไปโรงเรียน  ไหนจะเรื่องกินอยู่ในครอบครัวจิปาถะ

 

          เวลานี้ไม่มีใครบ่นเรื่องราคายางตกต่ำอีกแล้ว  แรกบ่นต่อมากลายเป็นความเคยชินและยอมรับในที่สุด  ทุกอย่างก็เป็นเช่นนี้เหมือนกับที่ผ่านมา  เคยชินและยอมรับสภาพ  กับเรื่องทุกเรื่องที่เข้ามาในชีวิต  เพราะไม่เช่นนั้นแล้วเราคงมีชีวิตอยู่ไม่ได้

 

          ต้นยางเองก็ดูน่าสงสารไม่น้อยไปกว่าผู้คน  ยืนต้นเรียงรายท้าแดดลม  ไหวโยกไปกับวันเวลาและสภาวะอากาศที่แปรปรวน  ไม่อาจหลีกหนีไปไหน  เว้นแต่วันดีคืนร้ายอยู่ในทางเดินของสายลมผู้เกรี้ยวกราดและเร่งรีบ  ไม่อาจทัดทานจึงล้มเสียคราหนึ่ง  วันแล้ววันเล่าถูกเชือดเนื้อเถือหนังรีดเค้นน้ำตาออกมา  ยังนับว่าเป็นอีกหนึ่งชีวิตแห่งพืชพรรณที่มีบุญคุณอย่างที่สุด  มีประโยชน์มากกว่าคนผู้มีชีวิตอีกจำนวนไม่น้อยซึ่งไร้คุณค่าใดๆ ทั้งสิ้นแม้แต่กับตัวเอง.

 

คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.4 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.4 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา