เรื่องที่เจ็ด : นาวาบนผืนทราย

8.8

เขียนโดย larceta

วันที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2557 เวลา 09.29 น.

  8 ตอน
  2 วิจารณ์
  11.92K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2557 19.53 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น

แชร์เรื่องสั้น Share Share Share

 

4) 4

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
     ไตรมาสสุดท้ายปลายปีคือช่วงเวลาที่มีทั้งเรื่องดีๆและเรื่องที่น่าหนักใจในการเป็นพนักงานบริษัท  กล่าวคือ  ในขณะที่ทุกคนกำลังเฝ้ารอเงินก้อนใหญ่ที่จะได้ตอนสิ้นปี  ก่อนหน้านั้น สิ่งที่ผจญก็คือการเร่งทำผลงานและไล่ปิดงานที่คั่งค้างไปให้หมด เหมือนช่างประปาที่ต้องต่อท่อไปให้ถึงปลายทางให้ได้และเช็คทุกจุดว่าไม่มีรอยรั่ว  ...อย่างน้อยก็ภายในปีนี้        สำหรับเด็กรุ่นใหม่ซึ่งยังไม่มีงานมากพอที่จะให้มีเรื่องผิดพลาด หรือเหล่าผู้อาวุโสเจนงานที่เพียงกระดิกนิ้วก็สามารถสร้างรายงานสวยหรูออกมาได้ก็ดูจะไม่ใช่ปัญหาที่น่ากังวลอะไร แต่สำหรับคนรุ่นเลข 10 ช่วงเวลานี้คือช่วงชี้เป็นชี้ตายในการทำงาน  เหมือนเรืองที่กำลังล่องอยู่ในทะเลที่มีแต่หินโสโครก หากพลาดแม้แต่นิดเดียว ชาตะกรรมที่พบก็ไม่พ้นต้องอับปางลงไปนอนก้นที่พื้นทะเล     แต่ในขณะที่ทุกคนกำลังหัวปั่น ปีนี้คือปีแห่งโชคของผม แม้จะเริ่มอย่างกระท่อนกระแท่นในช่วงแรก แต่ก็ผ่านดงโสโครกส่วนใหญ่ไปได้แล้ว ขอแค่บังคับหางเสือหางให้ดี  ก็จะผ่านพ้นปีนี้ ไปถึงฝั่งได้อย่างปลอดภัย     แต่ทะเลก็คือทะเล  บางครั้ง  หินโสโครกก็โผล่ขึ้นมาได้ในที่ที่เราคาดไม่ถึง     ปลายเดือนพฤศจิกายน ในห้างสรรพสินค้าใหญ่แห่งหนึ่งไม่ไกลจากที่ทำงาน เข็มนาฬิกาชี้เวลาไปที่เลขสองของช่วงบ่าย แต่ทางเดินกลับยังเต็มไปด้วยผู้คน แม้ไม่ใช่วันหยุดแต่เพราะวันนี้เป็นวันเงินเดือนออก กอปรกับความที่ใกล้สิ้นปี  ดังนั้นจึงมีผู้คนที่ละทิ้งงานออกมาจับจ่ายซื้อของมากกว่าปกติ     แต่ไม่ใช่สำหรับผมที่กำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะส่วนลึกสุดของร้านกาแฟยี่ห้อดังตอนนี้ ผมไม่ได้มาเพื่อซื้อของหรืออยากมากินกาแฟของร้านนี้ที่แต่ละแก้วนั้นแพงกว่าข้าวสามมื้อจนทนไม่ไหว  แต่ผมถูกเรียกตัวมาและที่นี่คือที่ที่ปลอดคนที่สุด     "คุณจำห้องเบอร์ 504 ที่คอนโด A ได้หรือเปล่า..."     เสียงปลายเสียงพูดผ่านโทรศัพท์ของออฟฟิศที่ถูกโอนมายังโต๊ะของผม  ไม่มีคำทักทาย  ประโยคดังกล่าวนี้ถูกส่งผ่านสายมาทันทีที่ผมพูดคำว่า "สวัสดีครับ" จบ  ในช่วงวินาทีแรกที่ยิน  ผมเขม่นคิ้วด้วยความงุนงง  แต่จากนั้น  ลิ้นชักความทรงจำของผมก็แตกออกเหมือนถูกค้อนปอนด์ทุบลงเต็มแรง     สามเดือนก่อน ห้องนั้นเป็นห้องที่ผมตื่นขึ้นมาพร้อมกับหญิงสาวผู้หนึ่งในสภาพเปลือยเปล่า     และตอนนี้  ผู้หญิงคนนั้นนั่งก้มหน้าอยู่ตรงข้ามผม เธอสวมชุดเสว็ตเตอร์สีขาวเรียบๆที่เข้าชุดกับกระโปรง ผมตรงยาวดำขลับของเธอพาดลงบนไหล่เสื้อ ใบหน้าในมุมก้มนี้ดูราวกับหน้ากาก   ระหว่างเรามีเพียงแก้วกาแฟที่กำลังจะเย็นชืดเพราะไม่มีใครคิดจะหยิบขึ้นมาดื่มคั่นระหว่างกลาง  และแน่นอนว่ามันไม่อาจกั้นข่าวร้ายที่ออกมาได้     "นี่คุณ.....ว่ายังไงนะครับ.."     ผมเอ่ยด้วยน้ำเสียงของคนคอแห้ง  อันที่จริงคอผมตอนนี้แห้งผาก  ทว่ามือตอนนี้ไม่มีแรงจะยกแก้วกาแฟขึ้นมาดื่ม        มันแข็งเกร็งไปหมดแล้ว     เธอเม้มริมฝีปากครั้งหนึ่ง กระพริบตาช้าๆก่อนจะตอบมาอย่างแผ่วเบาว่า     "ฉันท้อง.... และเด็กคนนี้ก็เป็นลูกของคุณ"     คล้ายกับได้ยินเสียงฟ้าผ่าใส่ต้นไม้ใหญ่ดังแว่วขึ้นมาในหู  สายฟ้าขนาดใหญ่ที่ฟาดใส่ต้นไม้อายุหลายร้อยปีกลายเป็นเถ้าถ่านได้ในครั้งเดียว     เธอบอกว่าเธอท้อง  และเด็กในท้องของเธอก็เป็นลูกของผม     "....ไม่จริง"     มือที่แข็งเกร็งของผมเริ่มสั่น  กล้ามเนื้อแขนขาผมเริ่มดิ้นพล่าน  เหงื่อเม็ดโตผุดออกมาที่หลังคอพร้อมกับหัวใจผมที่เต้นแรงประหนึ่งมีใครจับเขย่าอย่างสนุกมือ     โกหก     ความคิดป่าวร้อง  ผมพยายามจะอ้าปากและเปล่งเสียง  แต่เสียงกลับไม่ออกมา  มีบางสิ่งดูดเสียงผมไว้ มารยาท ความอับอาย หรือความโกรธแค้น  ผมไม่รู้  แต่ที่รู้ก็คือ  ไม่ว่าจะพยายามขนาดไหนเสียงก็ไม่ออกมา     เธอยกหน้าขึ้น เผยเรือนหน้าคมคายสระสรวยแต่เศร้าสร้อยพร้อมกับมองมาที่ผม  ดวงตาที่แทบที่จะไม่หลงเหลือสิ่งที่เป็นแววตาอยู่แล้ว     "เด็กคนนี้คือลูกของคุณ เพราะอย่างนั้น คุณต้องรับผิดชอบ...."       คำขาดถูกโยนมาที่ผมซึ่งตอนนั้นพูดอะไรไม่ออกแล้ว   แม้เสียงนั้นจะสั่นเครือและแผ่วเบาแต่ก็แฝงไว้ด้วยความมั่นใจ     ในรอบปีที่ผ่านมา ผมเป็นผู้ชายคนเดียวที่มีสัมพันธ์กับเธอ      เธอโกหก ผมคิดขึ้นมาในวินาทีนั้น เรื่องนี้เป็นไปไม่ได้ คนอย่างผมนี่น่ะเหรอจะทำเธอท้อง ผมคิดแล้วมองหน้าเธอ เธออาจเป็นผู้หญิงสำส่อนที่เที่ยวเกาะผู้ชายไปทั่ว  ขายตัวแลกกับเงินไม่ก็จับเหยื่อที่มีฐานะดีๆเพื่อหาเรื่องรีดเงิน หรืออะไรแบบนั้น แม้หน้าตาท่าทางของเธอดูแล้วไม่ส่อเค้า แต่สมัยนี้หน้าตาบอกอะไรไม่ได้ คนเลวในโลกนี้มีทั้งหน้าดีและหน้าเลว  ไม่มีตำราใดในโลกที่บอกนิสัยใจคอของมนุษย์จากหน้าตาได้     แต่ความคิดนี้ก็ไม่อาจไปถึงจุดสิ้นสุดที่จะทำให้ผมพูดออกไปได้     ที่เป็นแบบนั้นก็เพราะหลังจากได้รับฟังเรื่องเล่ากระท่อนกระแท่นของเธ  อีกส่วนหนึ่งของผมกลับเชื่อว่านี่เป็นเรื่องจริง การเล่าเรื่องที่เต็มไปด้วยรอยเหว้าแหว่งของเธอไม่คล้ายเลยกับการเล่าเรื่องที่แต่งขึ้น หลายครั้งที่เธอมักจะหยุดพูดไปกลางประโยคของเรื่องเล่าหนึ่ง  ชะงักไปพักหนึ่งก่อนจะเปิดเรื่องเล่าใหม่ที่ไม่ได้เชื่อมต่ออะไรเลยกับเรื่องเมื่อกี้  เป็นการลักษณะการพูดที่ไม่ได้เรียงแผนผังเอาไว้ก่อน  หากเธอต้องการจะใช้เรื่องแต่งมาหลอกผม  แม้เสียงหรือจังหวะการเล่านั้นจะสามารถแต่งให้ฟังดูเหมือนกำลังสับสนได้   แต่กับผมที่ทำงานซึ่งเต็มไปด้วยการอภิปราย  แม้จะไม่ได้เป็นนักพูดมือฉมัง  แต่ก็พอจะแยกออกได้ว่ารายงานชนิดไหนเป็นรายจริงและอันไหนเป็นส่วนที่แต่ง ขึ้น  เรื่องแต่งมักจะไม่สะท้อนปัญหาเพื่อให้การพูดลื่นไหลที่สุดเพื่อปกปิดจุดผิด พลาดและเลี่ยงการสอบถาม  แต่การเล่าของเธอคนนี้ไม่ใกล้เคียงเลยกับสิ่งนั้น  เป็นการพูดที่ไม่ได้เตรียมตัวมาให้ผู้ฟังเข้าใจเลยแม้แต่น้อย เธอเพียงมีเรื่องและหยิบประโยคที่นึกออกตอนนั้นมาเล่าเท่านั้น       สอง ความคิดในตัวผมค้านแย้งกัน  เหมือนปีศาจกับเทวดาในหนังการ์ตูนที่ถกเถียงกันแล้วชี้ว่าตัวผมต้องเป็นผู้ ตัดสินว่าจะเอาอย่างไร  ซึ่งอันที่จริง มันก็มีอยู่หลายทาง  ผมจะปฏิเสธเธอไปตอนนี้หรือรอจนถึงกระทั่งเด็กคลอดออกมาแล้วพิสูจน์ DNA กันเลยก็ได้  ซึ่งไม่ว่าทางไหน  ดูจากนิสัยและบุคลิกท่าทางของเธอแล้ว ผมก็เชื่อว่าตัวเองถือไพ่แต้มที่เหนือกว่าอย่างแน่นอน       ทว่าในขณะที่คิดอยู่นั้น  ก็เป็นเธอเองที่ให้คำตอบกับผมว่าไม่จำเป็นต้องรอถึง 9 เดือนในการพิสูจน์เรื่องนี้     "ฉันจะเอาเด็กออกจากตัวฉัน...ฉันไม่ต้องการเด็กคนนี้"     เธอบอกกับผม  และ "ความรับผิดชอบ" ที่เธอต้องการก็คือ ค่าใช้จ่ายทั้งหมดในการทำแท้ง      เธอจะเอาเด็กที่เธอมั่นใจว่าเป็นลูกของผม  ออกไปจากร่างกาย

 

คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา