เจ้าสาวจ้าวยุทธภพ
9.0
เขียนโดย api3api
วันที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2557 เวลา 19.51 น.
18 บท
3 วิจารณ์
23.24K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2557 00.44 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น
6) ต่อสู้
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ "ข้าพบเจ้าแล้วนางมารน้อย!!!!"
อ๋องซานนำทัพม้ายี่สิบวิ่งวนรอบกลุ่มของยาโถว มันมองเว่ยเส้าเทียนที่นอนอย่างทรมานอยู่แล้วทำหน้าฉุนเฉียว
"เป็นไปตามที่ข้าคิด มันยังไม่ตาย พวกเจ้าไปเอาหัวเว่ยเส้าเทียนมาให้ข้า"
จอมยุทธบนหลังม้าชักดาบแล้วควบเข้ามาอย่างเร็ว ยาโถวชักกระบี่จูหลงแต่นางรู้สึกว่ามันหนักกว่ากระบี่เล่มก่อนเลยใช้ไม่สะดวก ม้าควบมาอย่างเร็วทำให้ยาโถวกระโดดหลบ
"แย่แล้ว เขายังไม่ได้สติ"
เฉินโจวยืนมองจอมยุทธบนหลังม้าที่ควบเข้ามาหาเขามองด้วยความสุขุม หนึ่งในสามที่ควบมาก่อนเงื้อดาบหมายกำจัดผู้ขวางทาง
"คิดจะแตะต้องคนไข้ของข้างั้นรึ"
ม้าที่ถูกควบด้วยความเร็วนั้นถูกบางอย่างที่เล็กจนมองไม่เห็นขวางอยู่ มันคมกริบจนตัดคอม้าและคอคน ทั้งคนและม้ายังวิ่งไปโดยไร้หัวเลือดพุ่งกระฉูดแล้ววิ่งลับตาไปไม่มีวันกลับ
"ลวดคมกริบ ระวังมันสร้างค่ายกล"
อีกสองเห็นว่าการพุ่งเข้าไปอันตรายจึงชะลอความเร็วหาได้ระวังหลัง ยาโถวกระโดดมาด้วยวิชาตัวเบา นางใช้กระบี่จูหลงฟันทั้งคนและม้าขาดในดาบเดียวเลือดและอวัยวะภายในกระเซ็นไปทั่วพื้น
ยาโถวตั้งหลังลงพื้นใช้วิชากระบี่ตั้งรับ อีกหนึ่งนักรบบนหลังม้าควบมาพร้อมดาบอันใหญ่ในมือ ทั้งสองพุ่งเข้าหากัน
"กระบี่จูหลงงั้นรึ ดูซิวะว่าจะต้านทานดาบฆ่ากิเลนข้าได้ใหม"
ชิ้ง!!!!
ดาบฆ่ากิเลนปะทะกระบี่จูหลง ดาบใหญ่หักสะบั้นและไม่ทันที่มันจะตกใจ มันก็ถูกฟันขาดสองท่อนไปพร้อมดาบฆ่ากิเลน
อ๋องซานกับพรรคพวกอีกสิบเจ็ดนั่งมองบนหลังม้าตะลึง พรรคพวกเริ่มขวัญเสีย
"พวกเจ้าอย่าได้กลัว มันมีแค่สอง เรามีมากกว่า พวกเรา!!!ใช้ค่ายกลดาวตก"
พวกที่เหลืออีกสิบเจ็ดควบม้าเข้ามาแต่วนรอบๆด้วยความเร็ว ยาโถวกับเฉินโจวและเว่ยเส้าเทียนที่นอนอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ก็ถูกล้อมกรอบ
เคล็ดของค่ายกลดาวตกนั้นคือ....
การล้อมกรอบคู่ต่อสู้ด้วยจำนวนและความเร็วแล้วเข้าจู่โจมและถอยฉากซ้ำไปซ้ำมาดุจดั่งหมาในล้มสิงห์โตเจ้าป่า กล่าวกันว่าใครรู้ล่วงหน้าว่าจะโดนโดนค่ายกลนี้ควรจองศาลาก่อนการต่อสู้(หมาหมู่นี่หว่า)
"โอ๊ย ตาข้าจะตามความเร็วไม่ทันแล้ว"
ยาโถวเริ่มมึนหัว บวกกับยังไม่คุ้นกับกระบี่จูหลงทำให้นางลำบากกว่าปกติ พริบตาที่นางเผลอ หนึ่งในค่ายกลก็พุ่งเข้าโจมตี
ย่าห์
แต่มันพลาดเป้าเพราะเฉินโจวหมอตาบอดข้างเดียวดึงนางออกมาทัน มันควบมามองดูด้วยความเสียอารมณ์จากนั้นมันก็กลับเข้าไปร่วมขบวนอีกครั้ง
"ขอบคุณท่านหมอ"
"หึ เร็วเกินไปที่จะขอบคุณ กระบี่จูหลงคงเร็วไปสำหรับเด็กน้อยเช่นเจ้า แต่สามารถใช้มันได้ขนาดนี้นับว่าเยี่ยม มันหนักดั่งก้อนหินทีเดียว"
ยาโถวและหมอเฉินโจวหันหลังให้กันใต้ต้นไม้ที่มีคนเจ็บนอนอยู่ ทั้งสองคอยระวังหน้าหลังว่าม้าตัวใหนจะพุ่งเข้ามาก่อน
"ท่านหมอ ทำให้ท่านต้องลำบากแล้วแต่ช่วยข้าทีเถอะ ช่วยดูแลเขาได้ข้าจะได้เลิกกังวลและสู้ได้เต็มที่"
เฉินโจวมองยาโถวอย่างแปลกใจ แสดงว่านางคงผ่านเหตุการณ์ลักษณ์นี้มามากแล้ว แต่นางยังอ่อนประสบการณ์ ต่อให้เก่งแค่ในก็มิอาจต้านกลอุบาย เขาจึงชักดาบทั้งหกออกมา
ยาโถวและพรรคจอมยุทธในค่ายกลต่างตกใจที่เห็นท่าทางของเฉินโจว โดยเฉพาะอ๋องซานเขาขยับมาเข้ามาดูไกล้ๆ มันเหงื่อออกมากกว่าปกติ มันกำลังหวั่นวิตก
"เพลงดาบใบไผ่ รึว่าเจ้าคนนี้คือคนคนนั้น แย่แล้ว"
"พวกเจ้า ยกเลิกค่ายกล รีบถอยออกมา เร็วเข้า"
ช้าไปที่จะร้องเตือน ค่ายกลก็แตกพ่ายเพราะคนเพียงคนเดียว เขาสง่าเหมือนนักแสดง ร่ายรำเพลงดาบอยู่ภายใต้วงล้อมของจอมยุทธบนหลังม้า เพลงดาบที่เหมือนพายุหมุน
ยาโถวยืนมองด้วยความตกตะลึง ดาบอันเรียวสั้นกว่าปกตินั้นเฉินโจวได้ใช้เพียงร่องนิ้วจับเอาทำให้เขาจับดาบได้ข้างละสามด้าม
อ้าก โอ๊ย!!! เหล่าผู้มาเยือนโดนเฉือนจากเพลงดาบใบไผ่ต่างตกลงจากหลังม้ามาขาดใจตายทีละคนสองคน
จนเวลาไม่นาน ก็เหลือแต่ฝูงม้าวิ่งแตกกระเจิงไปคนละทาง
ยาโถวลดกระบี่ลงเพราะนางไม่จำเป็นต้องฆ่าอีกต่อไป
อ๋องซานกระโดลงจากหลังม้า เขาวิ่งสุดกำลังจนสะดุดล้มแต่เขารีบพยุงร่างอันใหญ่โตของเขาขึ้นแล้ววิ่งมาคุกเข่าร้องให้ต่อหน้าเฉินโจว
"ท่านเทพกระบี่เฉินโจว ขอความเป็นธรรมให้ข้าด้วย ขอความเป็นธรรมให้ข้าด้วย"
ยาโถวกำลังจะวิ่งเข้ามาแต่หมอเฉินโจวยกมือห้ามนางจึงหยุดอยู่แค่นั้น
.................................................
อ๋องซานนำทัพม้ายี่สิบวิ่งวนรอบกลุ่มของยาโถว มันมองเว่ยเส้าเทียนที่นอนอย่างทรมานอยู่แล้วทำหน้าฉุนเฉียว
"เป็นไปตามที่ข้าคิด มันยังไม่ตาย พวกเจ้าไปเอาหัวเว่ยเส้าเทียนมาให้ข้า"
จอมยุทธบนหลังม้าชักดาบแล้วควบเข้ามาอย่างเร็ว ยาโถวชักกระบี่จูหลงแต่นางรู้สึกว่ามันหนักกว่ากระบี่เล่มก่อนเลยใช้ไม่สะดวก ม้าควบมาอย่างเร็วทำให้ยาโถวกระโดดหลบ
"แย่แล้ว เขายังไม่ได้สติ"
เฉินโจวยืนมองจอมยุทธบนหลังม้าที่ควบเข้ามาหาเขามองด้วยความสุขุม หนึ่งในสามที่ควบมาก่อนเงื้อดาบหมายกำจัดผู้ขวางทาง
"คิดจะแตะต้องคนไข้ของข้างั้นรึ"
ม้าที่ถูกควบด้วยความเร็วนั้นถูกบางอย่างที่เล็กจนมองไม่เห็นขวางอยู่ มันคมกริบจนตัดคอม้าและคอคน ทั้งคนและม้ายังวิ่งไปโดยไร้หัวเลือดพุ่งกระฉูดแล้ววิ่งลับตาไปไม่มีวันกลับ
"ลวดคมกริบ ระวังมันสร้างค่ายกล"
อีกสองเห็นว่าการพุ่งเข้าไปอันตรายจึงชะลอความเร็วหาได้ระวังหลัง ยาโถวกระโดดมาด้วยวิชาตัวเบา นางใช้กระบี่จูหลงฟันทั้งคนและม้าขาดในดาบเดียวเลือดและอวัยวะภายในกระเซ็นไปทั่วพื้น
ยาโถวตั้งหลังลงพื้นใช้วิชากระบี่ตั้งรับ อีกหนึ่งนักรบบนหลังม้าควบมาพร้อมดาบอันใหญ่ในมือ ทั้งสองพุ่งเข้าหากัน
"กระบี่จูหลงงั้นรึ ดูซิวะว่าจะต้านทานดาบฆ่ากิเลนข้าได้ใหม"
ชิ้ง!!!!
ดาบฆ่ากิเลนปะทะกระบี่จูหลง ดาบใหญ่หักสะบั้นและไม่ทันที่มันจะตกใจ มันก็ถูกฟันขาดสองท่อนไปพร้อมดาบฆ่ากิเลน
อ๋องซานกับพรรคพวกอีกสิบเจ็ดนั่งมองบนหลังม้าตะลึง พรรคพวกเริ่มขวัญเสีย
"พวกเจ้าอย่าได้กลัว มันมีแค่สอง เรามีมากกว่า พวกเรา!!!ใช้ค่ายกลดาวตก"
พวกที่เหลืออีกสิบเจ็ดควบม้าเข้ามาแต่วนรอบๆด้วยความเร็ว ยาโถวกับเฉินโจวและเว่ยเส้าเทียนที่นอนอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ก็ถูกล้อมกรอบ
เคล็ดของค่ายกลดาวตกนั้นคือ....
การล้อมกรอบคู่ต่อสู้ด้วยจำนวนและความเร็วแล้วเข้าจู่โจมและถอยฉากซ้ำไปซ้ำมาดุจดั่งหมาในล้มสิงห์โตเจ้าป่า กล่าวกันว่าใครรู้ล่วงหน้าว่าจะโดนโดนค่ายกลนี้ควรจองศาลาก่อนการต่อสู้(หมาหมู่นี่หว่า)
"โอ๊ย ตาข้าจะตามความเร็วไม่ทันแล้ว"
ยาโถวเริ่มมึนหัว บวกกับยังไม่คุ้นกับกระบี่จูหลงทำให้นางลำบากกว่าปกติ พริบตาที่นางเผลอ หนึ่งในค่ายกลก็พุ่งเข้าโจมตี
ย่าห์
แต่มันพลาดเป้าเพราะเฉินโจวหมอตาบอดข้างเดียวดึงนางออกมาทัน มันควบมามองดูด้วยความเสียอารมณ์จากนั้นมันก็กลับเข้าไปร่วมขบวนอีกครั้ง
"ขอบคุณท่านหมอ"
"หึ เร็วเกินไปที่จะขอบคุณ กระบี่จูหลงคงเร็วไปสำหรับเด็กน้อยเช่นเจ้า แต่สามารถใช้มันได้ขนาดนี้นับว่าเยี่ยม มันหนักดั่งก้อนหินทีเดียว"
ยาโถวและหมอเฉินโจวหันหลังให้กันใต้ต้นไม้ที่มีคนเจ็บนอนอยู่ ทั้งสองคอยระวังหน้าหลังว่าม้าตัวใหนจะพุ่งเข้ามาก่อน
"ท่านหมอ ทำให้ท่านต้องลำบากแล้วแต่ช่วยข้าทีเถอะ ช่วยดูแลเขาได้ข้าจะได้เลิกกังวลและสู้ได้เต็มที่"
เฉินโจวมองยาโถวอย่างแปลกใจ แสดงว่านางคงผ่านเหตุการณ์ลักษณ์นี้มามากแล้ว แต่นางยังอ่อนประสบการณ์ ต่อให้เก่งแค่ในก็มิอาจต้านกลอุบาย เขาจึงชักดาบทั้งหกออกมา
ยาโถวและพรรคจอมยุทธในค่ายกลต่างตกใจที่เห็นท่าทางของเฉินโจว โดยเฉพาะอ๋องซานเขาขยับมาเข้ามาดูไกล้ๆ มันเหงื่อออกมากกว่าปกติ มันกำลังหวั่นวิตก
"เพลงดาบใบไผ่ รึว่าเจ้าคนนี้คือคนคนนั้น แย่แล้ว"
"พวกเจ้า ยกเลิกค่ายกล รีบถอยออกมา เร็วเข้า"
ช้าไปที่จะร้องเตือน ค่ายกลก็แตกพ่ายเพราะคนเพียงคนเดียว เขาสง่าเหมือนนักแสดง ร่ายรำเพลงดาบอยู่ภายใต้วงล้อมของจอมยุทธบนหลังม้า เพลงดาบที่เหมือนพายุหมุน
ยาโถวยืนมองด้วยความตกตะลึง ดาบอันเรียวสั้นกว่าปกตินั้นเฉินโจวได้ใช้เพียงร่องนิ้วจับเอาทำให้เขาจับดาบได้ข้างละสามด้าม
อ้าก โอ๊ย!!! เหล่าผู้มาเยือนโดนเฉือนจากเพลงดาบใบไผ่ต่างตกลงจากหลังม้ามาขาดใจตายทีละคนสองคน
จนเวลาไม่นาน ก็เหลือแต่ฝูงม้าวิ่งแตกกระเจิงไปคนละทาง
ยาโถวลดกระบี่ลงเพราะนางไม่จำเป็นต้องฆ่าอีกต่อไป
อ๋องซานกระโดลงจากหลังม้า เขาวิ่งสุดกำลังจนสะดุดล้มแต่เขารีบพยุงร่างอันใหญ่โตของเขาขึ้นแล้ววิ่งมาคุกเข่าร้องให้ต่อหน้าเฉินโจว
"ท่านเทพกระบี่เฉินโจว ขอความเป็นธรรมให้ข้าด้วย ขอความเป็นธรรมให้ข้าด้วย"
ยาโถวกำลังจะวิ่งเข้ามาแต่หมอเฉินโจวยกมือห้ามนางจึงหยุดอยู่แค่นั้น
.................................................
คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ