เจ้าสาวจ้าวยุทธภพ

9.0

เขียนโดย api3api

วันที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2557 เวลา 19.51 น.

  18 บท
  3 วิจารณ์
  23.20K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2557 00.44 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น

แชร์เรื่องสั้น Share Share Share

 

4) ใบเบิกทางคือความตาย

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

                เหล่าพันธมิตรจอมยุทธกว่าสิบสำนักต่างปิดล้อมเขาไม้ดำทุกคนพักเหนื่อยและเริ่มส่งเสียงปลุกใจดังก้องไปทั่ว  ในจวนผู้นำกำลังประชุมห้าสำนักใหญ่เพื่อประเมินสถานะการ นำโดยอ๋องซานจากสำนักกระบี่บู๊ตึ๊ง สำนักดาบสกุลถัง สำนักมีดบินสกุลหัว หลวงจีนจากวัดเส้าหลิน และ พรรคยาจกวังหลุน

 

                "เราเสียคนไปเท่าไหร่"

                "ประมาณสามสิบ สกุลหัวห้า สกุลถังหนึ่ง สกุลจางถอนตัวไปแล้ว สกุลเจาก็ถอนตัวด้วยเช่นกัน และรวมกันประปรายเสียชีวิตประมาณสามสิบเหลือข้างนอกประมาณหกสิบเห็นจะได้"

 

                "เว่ยเส้าเทียนยังไม่ได้ลงมือเลยยังเสียคนไปขนาดนี้ เขาไม่เห็นเราในสายตาเลย รึเราควรล้มเลิกแผนการดี"

                "ไม่ได้นะ คิดถึงสิ่งที่จอมมารกระดูกแดงทำลงไปสิ ถ้าปล่อยเขาไปยุทธภพจะตกอยู่ในอันตราย"

                ทุกคนในที่ชุมนุมเริ่มโต้เถียงกันจอแจ จนอ๋องซานตะโกนด้วยเสียงอันดัง

 

               "เงียบบบบบ!!!"

               "การหาตัวเว่ยเส้าเทียนไม่ใช่เรื่องง่าย เรื่องอะไรเราจะยอมเสียโอกาสนี้ คนเรามีมากมายถ้าต้องแลกด้วยอะไรทั้งหมดข้าก็ยอม ว่าไงถังหนิว เจ้าเสียน้องชายไปไม่คิดแก้แค้นเลยรึยังไง"

               ถังหนิวนั่งกอดอกอย่างสุขุมเขากำลังใช้ความคิด

               "เจ้าเอะอะหนวกหูข้าเหลือเกินอ๋องซาน"

               "เจ้าว่าไงนะ"

              อ๋องซานลุกขึ้นเสียงดังแต่เหยินหลงใต้ซือยกมือปรามเขาจึงนั่งลงอย่างอารมณ์เสีย ถังหนิวเลยอธิบายต่อไป

               "มีหลายครั้งที่เว่ยเส้าเทียนพลาดท่าเกือบเสียทีข้าอยู่หลายหน แต่เขาไม่ชักกระบี่จูหลงที่เขาภูมิใจเลย และเขาไม่ว่องไวเหมือนก่อน ข้าคิดว่าเขาน่าจะมีปัญหาเรื่องสุขภาพอะไรซักอย่าง"

                 "อาจจะเป็นกลลวงก็ได้ ใครจะรู้" อ๋องซานโต้เถียงด้วยอาการอยากเอาชนะ หัวซานป๋อ หัวหน้าสกุลหัวเขานิ่งมานานแล้วเขาจึงเปิดปากพูดบ้าง

                 "นางมารน้อยนั่น ดูยังไงอายุก็ไม่น่าเกินลูกสาวข้า แต่วรยุทธของนางดุดันและรุนแรงยิ่ง ความว่องไวเป็นเลิศ การที่จะมีฝีมือได้อย่างนั้นต้องฝึกไม่น้อยกว่ายี่สิบปี แต่ดูยังไงอายุนางก็ไม่น่าเกินสิบหก นางยังเด็กเกินไป มีใครรู้จักนางบ้าง"

                  "ข้าไม่เคยเห็นหน้าในยุทธภพเลย ข้าได้ยินเว่ยเส้าเทียนเรียกนางว่า ยาโถว"อ๋องซานตอบคำถาม หัวซานป๋อฟังแล้วพยักหน้า

                  "ยาโถวงั้นหรือ นางเป็นใครกัน" 

 

 ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

            ยาโถวสะดุ้งรู้สึกตัวขึ้นมา ก็เห็นเว่ยเส้าเทียนเดินฝ่าพงหญ้ามาแต่ไกล นางรีบลุกขึ้นแต่เจ็บแปรบที่แผล

             "ท่านไม่ควรห่างจากข้า หากพวกนั้นเจอท่านเข้าท่านจะพลาดท่าได้ ข้าหมดสติไปนานเท่าไร"

             "เจ้าไม่ต้องห่วงเรื่องนั้นหรอกยาโถว พวกนั้นกำลังคิดแผนการจัดการกับข้าอยู่ คาดว่ารุ่งสางพวกนั้นถึงจะบุกเข้ามา"

 

             เว่ยเส้าเทียนยกกระบี่ของผาโถวขึ้นมาเขาชักมันออกมาสำรวจ

             "กระบี่เจ้าทื่อแล้ว มันไม่ได้ออกแบบมาเพื่อสังหารคนจำนวนมากเหมือนดาบ เจ้าเอากระบี่ข้าไปก็แล้วกันมันแข็งแกร่งเทียบเท่ากับดาบสิบเล่ม"

 

            นางหยิบเอากระบี่ของเขาขึ้นมาซึ่งนางคิดว่ามันหนักกว่าของนางนิดหน่อยแต่กำลังเหมาะมือและคมมากจริงๆ

             "นั่นคือกระบี่จูหลง กระบี่ที่ข้าค้นพบในถ้ำน้ำตกม่านมังกร มันสมควรอยู่กับบุคคลที่แข็งแกร่ง ข้าเชื่อว่ามันชอบเจ้า"

             เขาพูดเหมือนสั่งเสีย ทำให้ยาโถวไม่ไว้ใจกลัวว่าเขาจะคิดสั้น

 

          ยาโถวกอดกระบี่ไว้แนบอกนางยังไม่ค่อยไว้ใจเขา ซึ่งเขาก็พอรู้ตัว เว่ยเส้าเทียนถอนหายใจยาว

             "เจ้ายังเด็กไม่สมควรตาย ถ้าเจ้ากลับลงไปพร้อมหัวของข้า ทุกคนจะยกย่องเจ้าดั่งวีรสตรี"

              "ไม่เอานะ ท่านมีบุญคุญกับข้า ถ้าท่านไม่พบข้าในวันนั้นข้าก็คงไม่เหลือทั้งชีวิตและศักดิ์ศรี  ข้าตัดสินใจแล้วข้าจะตายกับท่าน จะอยู่กับท่าน ท่านไม่รักข้าเลยรึ"

              "ใช่"

 

            ยาโถวมองเขาตาด้วยอาการเจ็บปวดที่หน้าอก นางร้องให้ เว่ยเส้าเทียนยังอยู่ในอาการสุขุม

 

               ยังไม่มีใครทันได้พูดอะไร เว่ยเส้าเทียนก็กระอั่กเลือด และไอแสบคอ

 

              "อาการท่านกำเริบ ยาของท่าน"

          เขายกมือห้ามให้ยาโถวเข้ามาไกล้ นางยืนมองด้วยความเจ็บปวดใจ

              "ตัวข้าเป็นยังไงข้าเองย่อมรู้ดี ยามันหมดไปนานแล้ว"

              "แค่ก แค่ก เว่ยเส้าเทียนจอมยุทธอันดับหนึ่งงั้นหรือ  จอมมารกระดูกแดงงั้นหรือ มันก็แค่ชื่อที่ใครๆต่างยัดเยียดให้กับข้าทั้งนั้น ข้ามันก็แค่คน  ข้ามันก็แค่คนไกล้ตาย จะความจำเป็นอะไรที่จะอยู่ต่อในเมื่อข้ามีเจ้าสืบทอดวิชา"

 

             เว่ยเส้าเทียนล้มลงทรมาน ยาโถววิ่งเข้าไปพยุงและลากตัวเขาอย่างยากลำบาก นางกอดเขาไว้ด้วยแขนข้างหนึ่งอีกข้างค้นตัวเขาเพื่อหายาระงับอาการ ด้วยความรีบเร่ง

 

             "ไม่นะ ท่านจะตายไม่ได้ คนชั่วเหล่านั้นบีบคั้นท่านเกินไปแล้ว ความยุติธรรมอะไรกัน ที่ข้าเห็นก็แค่พวกสุนัขหิวโซรุมทึ้งกาไก่แค่นั้นแหละ ข้าขอโทษที่ไม่ไว้ใจท่าน สามีขา"

 

              "อมิตพุทธ"

          เสียงแปลกประหลาดทำให้ยาโถวชักดาบชี้ไปยังเสียงนั้นก็พบกับหลวงจีนเหยินหลงใต้ซือยืนอยู่ด้วยสีหน้าเวทนายิ่ง

 

              "เจ้าพระเถื่อน เข้ามาสิข้าจะเป็นคู่มือให้เอง"

 

             นางชี้กระบี่ไปที่หลวงจีน พระรูปนี้ต้องเป็นยอดฝีมือถึงเข้ามาไกล้โดยที่ทั้งสองไม่ได้ตั้งตัวขนาดนี้ นางเหลือบสายตาซ้ายทีขวาทีอย่างไม่ไว้ใจสถานะการ

 

              "สีกาอย่ากังวลใจไป ไม่มีใครตามอาตมาขึ้นมาหรอก เพียงแต่อาตมาต้องการจะช่วยให้เขาพ้นทุกข์ เรื่องร้ายๆจะกลายเป็นดี"

              "หุบปากของท่านซะ ไม่มีใครคิดดีกับเราอย่างจริงใจหรอก ข้าได้พิสูจน์แล้วด้วยตัวของข้าเอง"

              นางแบกจอมยุทธหนุ่มไว้ข้างหลังด้วยน้ำหนักที่มากนางจึงเดินไปด้วยความยากลำบาก ยาโถวมองเห็นแสงอาทิตย์ขึ้นแล้วรู้สึกหมดหนทาง นางได้ยินเสียงเหล่าจอมยุทธพากันเฮโลขึ้นมา เว่ยเส้าเทียนแน่นิ่งไปแล้ว ยาโถวจับไม่เจอชีพจรเลยนางเอามือปาดน้ำตา

 

             "โธ่ ฮือ ฮือ ไม่เอาน่ะ อย่าทิ้งข้าไว้คนเดียว ข้ายังทำให้ท่านรักข้าไม่ได้เลย อือฮือ"

 

           เหยินหลงใต้ซือ เดินลงมาเมื่อพบกับเหล่าจอมยุทธ หลวงจีนแก่ส่ายหน้าเวทนา หัวซานป๋อเข้ามาจับชีพจรเว่ยเส้าเทียนที่ยาโถวแบกไว้ แล้วส่ายหัวให้คนได้รับรู้

 

           นางแบกร่างเว่ยเส้าเทียนไว้กลางหลัง ร้องให้เดินฝ่าเหล่าจอมยุทธเพื่อลงจากหน้าผา พวกเหล่าจอมยุทธคุณธรรม เห็นเข้าก็เวทนาลดดาบลง พวกเขาลังเล ทำอะไรไม่ถูก อ๋องซานขยับฝ่าฝูงชนออกมาข้างหน้า

 

            "พวกเจ้าทำอะไรอยู่ เข้าไปตัดหัวมันมาซิ ทองสิบตำลึงนะไม่อยากได้กันเลยเหรอ ถังหนิว มันฆ่าน้องชายเจ้านะ"

 

           ถังหนิวยืนกัดฟันตัวสั่นด้วยความลังเล ภาพที่หญิงงามตัวเล็กที่แดงฉานไปด้วยเลือดแบกร่างคนและร้องให้ด้วยความเสียใจมันรบกวนจิตใจเขา

          หัวซานป๋อถอนหายใจเขาหันหลังและคนสกุลหัวก็ถอนตัวกลับ

          ยาโถวเดินผ่านกลุ่มคนจำนวนมากไป อ๋องซานเห็นทุกคนนิ่งไม่ได้ดั่งใจจึงชักดาบแล้ววิ่งเข้าใส่   "เว่ยเส้าเทียนข้าจะเอาหัวของเจ้าไปสการะหลุมศพเมียข้า"

 

        พริ้ง  

         ถังหนิวฟันดาบของอ๋องซานจนหลุดมือ เขาเก็บดาบเข้าฝักแล้วเดินหนีไป อ๋องซานนั่งลงร้องให้ อย่างไม่อาย

          "ฮือ เอาเมียข้าคืนมา  เอาชื่อเสียงข้าคืนมา ไม่ยุติธรรม ไม่ยุติธรรม"

                        ::::::::::::::::::::::::::::::::::::::

         ฝนตกลงมาห่าใหญ่ ยาโถวเอาร่างของเว่ยเส้าเทียนขึ้นรถลากแล้วลากเขาฝ่าสายฝนทั้งน้ำตา เป็นที่เวทนาต่อสายตาคนพบเห็นยิ่ง

 

            "อมิตพุทธ เจ้ากำลังจะไปที่ใด แล้วเจ้าจะทำยังไงกับศพเขา"

            "เลิกตามมาได้แล้วหลวงจีนถ่อย ข้าจะพาเขาไปยังจุดหมายของเขา เขาบัวหิมะนั่นไงล่ะ ความตั้งใจของเขามันส่งต่อมายังข้าหมดแล้ว"

 

              ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า (อยากหัวเราะเป็นภาษาตุรกี)เหยินหลงใต้ซือหัวเราะร่าหญิงสาวทำท่าเหรอหรา

 

              "ข้าว่าเขามีขานะ ให้เขาเดินสิ"

               "เจ้าจะลบหลู่อะไรเขาอีก ถ้าพูดอีกทีข้าไม่เอาไว้แน่"

           ยาโถวชี้หน้าด้วยความอารมณ์เสีย แต่นางรู้สึกเหมือนมีมือมาจับมือนางที่จับรถลากไว้ จะใครซะอีกล่ะ

 

             "กรี๊ดดดดดด  ผีหลอก อย่ามาหลอกมาหลอนกันเลย ข้ากลัว"

 

           ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า เสียงหลวงจีนกับคนบนรถลากหัวเราะพร้อมกัน ยาโถวรีบขยี้ตาแล้วเพ่งดีๆ ศพกำลังนั่งอยู่

 

              "เจ้าเซ่อเอ๊ย จ่ายเงินข้ามาเลยนะ ยานั่นแพงมาก"

              "หลวงจีนเถื่อนเอ๊ย ถ้าเจ้าไม่สะกดรอยตามข้า ข้าก็ไม่มีวันรู้ว่าพวกเขารอข้าอยู่ข้างหน้า แล้วก็ยาเสมือนตายเกือบทำข้าตายจริงๆ ข้ากระอักเลือดเลยน่ะ ข้านึกว่าข้าจะไม่ฟื้นซะแล้ว"

               "หากเจ้าตายข้าก็เก็บเงินไม่ได้น่ะสิ เจ้าน่ะเป็นคนธรรมดาไปแล้วหัดเจียมตัวซะบ้าง..."

 

             ยาโถวยืนฟังบทสนทนาไปมาจนหายงงแล้วก็กัดฟันอมยิ้มพยักหน้า

 

               "อ๋อแบบนี้ใช่ใหม เอาอย่างนี้ใช่ใหม"

 

               "พวกบ้าาาาาาาา!!!"

 

 

            พวกเขาสามคนเข้านั่งที่ร้านขนมข้างทางลบฝนไปด้วย ยาโถวสั่งขนมที่แพงที่สุดแล้วนั่งเคี้ยวตุ้ยตุ้ยไม่พูดไม่จา จนหลวงจีนแอบมากระซิบกับเว่ยเส้าเทียน

            "(นี่ เงินเก็บข้าจะหมดแล้วนะ ยัยเด็กนั่นแดรกเก่งเป็นบ้า)"

            เว่ยเส้าเทียนหันมามองยาโถวที่นั่งซัดขนมด้วยอาการงอนตุ๊บป่อง นางมองเขาแล้วสะบัดหน้าหนี จอมยุทธหนุ่มอดยิ้มไม่ได้

             "(แล้วเจ้าจะเอายังไงกับยาโถว เจ้าพูดทำร้ายจิตใจนางซะขนาดนั้น)"

             "ไม่รู้สิ แต่ถ้าข้าไม่ตายคงหมดทางกลับลงมาจากที่นั่นนั่นคือเรื่องจริง ยาโถวเป็นคนจริงจัง หากไม่ทำให้นางเชื่อนางทำเสียแผนแน่ แต่อย่างว่าเด็กก็คือเด็ก"

            "เจ้าอย่าประมาทสิเจ้าเซ่อ ผู้หญิงโตเร็วและจำฝังใจ ความจริงที่เจ้าพูดกับนางตอนนั้นเป็นเรื่องที่นางรับไม่ได้แน่นอน ข้าเห็นกับตา"

 

            เว่ยเส้าเทียนถอนหายใจเขาเหลือบไปมองยาโถว แล้วมองขึ้นท้องฟ้า และยิ้ม

 

              "มันไม่เป็นความจริงทุกอย่างซักหน่อย บางเรื่องข้าแค่หลอกนาง"

 

        ............................จบตอน...................................

           

 

 

         

           

            

            

 

             

 

               

           

 

                                  

 

คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านเรื่องสั้นเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา