My sister is Japanese. พี่สาวฉันเป็นคนต่างประเทศ
-
เขียนโดย api3api
วันที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 เวลา 23.28 น.
4 session
0 วิจารณ์
7,170 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 01.36 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น
1) โอเนะจัง?
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ ฉันกับพี่สาวเกิดพร้อมกัน คือ วันที 16 กรกฏาคม ปี 2541 ที่จังหวัดฟุกุโอกะ ประเทศญี่ปุ่น เกิดจากพ่อกับแม่ที่เป็นคนไทยที่ไปทำงานที่ต่างประเทศและเกิดความรักขึ้น
ฉันขอบอกว่านี่เป็นเรื่องที่ฉันรู้จากพ่อไม่รู้ว่าจริงเท็จแค่ใหน ในปี 2545 พ่อกับแม่เกิดทะเลาะกันขึ้นและแยกทางกัน อันนี้ฉันจำได้ วันนั้นเป็นวันจันทร์ตอนบ่าย ฉันกำลังเล่นก่อกองทรายกับพี่สาวฝาแฝดของฉัน พ่อได้มาอุ้มฉันออกมาและพากลับประเทศไทย หลังจากนั้นฉันก็ไม่ได้เจอและติดต่อแม่และพี่สาวอีกเลย
จนวันนี้ฉันอายุ 16 ปี
++++++++++++++++++++++++++++++++++
"แฮปปี้เบิร์ดเดย์ ทูยู แฮปปีเบิ๊ดเดย์ทูยู แฮปปี้เบิร์ดเดย์ ทู เมย์"
แปะ แปะ แปะ เสียงปรบมือนี้เกิดจากเพื่อนร่วมห้องจัดงานวันเกิดให้ฉัน ฉันนั่งก้มหน้า ทั้งเขิน และตื้นตันใจ จนหน้าฉันแดงไปหมด
"นี่เมย์ วันเกิดอยากได้อะไร อธิฐานสิ"
ช่อผกา เพื่อนแว่นแสนฉลาดของฉันพูดด้วยรอยยิ้ม ฉันก็ยิ้มเช่นกัน ยิ้มเจื่อนๆ เขินน่ะค่ะ เกิดมาขึ้น มอปลาย ก็มีคนจัดวันเกิดให้เลย แถมกลางคาบวิชาสังคมอีกต่างหาก
อธิฐานเหรอ อะไรดีล่ะ เพียบพร้อมค่ะ พ่อประเคนให้หมดไม่เคยอยากได้อะไรเลย เอาอย่างนี้ล่ะกัน ขอให้ฉันได้ของขวัญวันเกิดจากพ่อที่แบบว่า เห็นแล้วตะลึงล่ะกัน ขำขำน่อ ฮะฮะ ขอบใจเพื่อนมากมาก วันนี้ฉันกลับบ้านด้วยรอยยิ้มอย่างอารมณ์ดี
"ปีนี้จะได้อะไรเป็นของขวัญน๊า อะไรก็ได้ที่ไม่ใช่ดิกชันนารีแล้วกัน"
ฉันเดินมาถึงหน้าบ้านก็เจอกับเด็กผู้หญิงคนหนึ่งดูจากข้างหลังรู้เลยว่าน่ารัก ผิวนวลเนียนเชียวนะ มาหาใครกัน แนะ ลุกลิกลุกลิกอยู่นั่นแหละ เธอพยามยามชะเง้อมองหาคนภายในบ้านอยู่ข้างรั้วบ้านที่ทำจากกรงเหล็ก
เธอคนนี้สวมหมวกกับแว่นกันแดด มันเข้ากับทรงผมและรูปหน้าอย่างมาก แต่มันก็ทำให้ฉันมองหน้าไม่ถนัด เสื้อทรูโทนแขนยาวที่เนื้อบางระบายอากาศได้ดีกางเกงยีนสั้น รองเท้าหุ้มข้อที่ดูเทห์มากมากกับถุงเท้าสีดำ
อย่างกับเป็นคนต่างชาติเลยค่ะ
"โคน นิ จิ ว๊า, ซุ มิ มะ เซนน"
คนคนนี้ พูดภาษาญี่ปุ่น เธอตะโกนเพื่อร้องเรียกคนในบ้าน แต่เสียใจนะฉันอยู่กับพ่อแค่สองคน และพ่อออกไปทำงานแล้วด้วย ใครกันน่ะ นักท่องเที่ยวหลงทางมาถามทางงั้นเหรอ ตายล่ะ ภาษาอังกฤษเกรดหนึ่งด้วย ห่วยเลย จะช่วยอะไรได้เนี่ย
ฉันทำตัวเป็นเจ้าของประเทศที่ดี เดินเข้าไปหาด้วยรอยยิ้ม
" เอ่อ.... เอ็กคิ้วมี๊ (อย่างนี้เปล่าวะ) แคนไอ่เฮ้วยู๊ (สำเนียงแปลกๆแฮะ)"
เธอคนนั้นหันมาตามเสียง กรี๊ดผิวที่หน้าก็เนียนด้วย อิจฉา เธอทำตาโตฉันมองเห็นลอดแว่นกันแดดสีดำอันโตนั้น
เธอหัวเราะแล้ววิ่งเข้ามากอดฉันในทันที
" .それから彼女. "
เธอไม่พูดพร่ำทำเพลงร่ายภาษาญี่ปุ่นยังกะเพลงแร๊ป
"私はあなたを欠場. これが私です.
私はあなたを伝えることがたくさんある。"
"เฮ้ย เดี๋ยวสิ ฉันไม่รู้เรื่องหรอกนะ"
เธอคนนั้นเหมือนจะรู้ว่าฉันไม่เข้าใจ ใช่สิ สีหน้าฉันฟ้องขนาดนี้ เธอพยายามตั้งใจพูดช้า ช้า
"私の名前は空です
私はあなたの妹だ"
"ห๊ะ ฉันไม่รู้เรื่องเลย พูดภาษาไทยได้ใหมคะ"
"私はあなたの妹だ
วะตาชิ วะ อะนะตะ โนะ โอเนะ ตะ"
เธอพูดซ้ำไปมาอย่างช้าช้า ในขณะที่ฉันมึนตึ๊บ เธอเห็นฉันทำหน้าไม่เข้าใจสักทีเธอจึงทำท่าพยายามคิดคำอย่างเอาเป็นเอาตาย
"ฉาน ชื่อ 空(โซระ=ท้องฟ้า)"
"อะโน....ฉาน เป็น พี่สาว. ..ยิน ดี... มาก. ดีใจ ดีใจ"
ฉันรู้ว่าเธอต้องการจะพูดอะไรกับฉัน แต่ฉันไม่ค่อยเข้าใจในสิ่งที่เธอพูด แต่มันสะกิดหู
"พี่สาว....ญี่ปุ่น....โซระ? ??????"
"พี่สาว!!!"
ฉันพูดเสียงดังพร้อมทั้งยิ้มอย่างดีใจและตื่นเต้น เธอถอดแว่นตากันแดดและหมวกแก๊ปออก แม้เธอจะผมยาวกว่าฉันและผิวพรรณดีกว่า แต่หน้าของเธอเหมือนกับฉันเด๊ะแม้จะมีเครื่องสำอางค์จางๆ
เธอยิ้ม และพยักหน้า พวกเราโผกอดกัน
"พี่จ๋า พี่โซระ ฉันพึ่งฝันถึงพี่เมื่อวาน"
"私はお会いできてうれしいです。
ดีใจ ดีใจ ได้ พบ เธอ เมอิ"
แต่การมาของเธอในคราวนี้กลับแตกต่างโดยสิ้นเชิง เธอพูดภาษาไทยไม่ได้เลย เธอบอกว่าแม่ไม่ได้สอนภาษาไทยให้เลย เพราะว่าแม่เสียชีวิตตั้งแต่เธอยังเล็ก
พ่อเป็นคนเดียวในบ้านที่พอจะพูดภาษาญี่ปุ่นได้ และ พี่สาวฉันพยายามใช้คำที่มันง่ายที่สุด
"母は死んだ(คุณแม่จากไปแล้ว)"
ฉันเห็น โซระ ทำหน้าเศร้า และพ่อเอามือปิดตาสะอื้น ฉันไม่รู้ว่าเธอพูดว่าอะไรในตอนนั้นจนพ่อแปลให้ฟัง
"แม่แกตายเสียแล้วเมย์เอ๊ย"
ฉันเศร้าแต่ไม่รู้ทำใมถึงไม่มากอาจเป็นเพราะไม่ได้ผูกพันมากมายนัก
"私は保育園を通じて無力な、一人暮らし。私はまた、日本国籍を持っていないでしょう。彼はタイで私を返した。(ฉันยังไม่สามารถขอสัญชาติญี่ปุ่นได้,ตลอดมาฉันอาศัยอยู่ในสถานเลี้ยงเด็ก)"
โซระพูดแล้วเธอก็ร้องให้ ฉันซึ่งฟังไม่รู้เรื่องเห็นแต่พ่อลูบหัวปลอบแล้วนึกอิจฉา พ่อไม่เคยทำอย่างนั้นกับฉันมาก่อนเลย
"ボールはここにある .いつも。ลูกอยู่ที่นี่ได้ เสมอ"
พ่อพูดกับ โซระ เธอสะอื้น เธอยิ้มทั้งน้ำตา แล้วโผกอดพ่อ
"どうもありがとうございました。父。(กราบขอบพระคุณค่ะคุณพ่อ)"
สรุปว่า โซระ จะมาอยู่กับพวกฉันที่นี่เป็นการชั่วคราวเพราะเธอกำลังทำเรื่องขอสัญชาติญี่ปุ่น ฉันไม่รู้ขั้นตอนมันหรอกนะ แต่มันคงยากแน่ๆ
แต่ต่อให้เธอกลับมาประเทศไทย เธอคงไม่สามารถอยู่ที่นี่ได้แน่นอนไม่ว่าจะวัฒนธรรม การกินอยู่ ดินฟ้าอากาศ ที่เธอไม่เคยพบเจอมาก่อน
เธอไม่ใช่คนไทยอีกต่อไปแล้วในตอนนี้
>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>
และช่วงที่ฉันรอคอย ของขวัญวันเกิดค่า ฉันแกะห่อของขวัญจากพ่อ มันหนาและหนักมาก แต่ความดีใจและตื่นเต้นฉันต้องวูบลง เพราะมันคือ!!!
"ดิกชันนารี่ แบบ 7ภาษา"
ฉันหงายหลังตึง แต่ข้างๆฉันที่เตียงนอนวันนี้มีฉันอีกคนนึงนอนอยู่ข้างๆเราเหมือนกับเปี๊ยบต่างกันแค่สีผิวกับทรงผม เธอนอนหลับเพราะเพลียจากการเดินทาง
ฉันเปิดดิกชันนารี่ไปหมวดภาษาญี่ปุ่น
"妹さん โอเนะจัง (พี่จ๋า)"
"はいไฮ่ย์(จ๋า)"
ฉันสะดุ้งเฮือกเพราะได้ยินเสียงโซระตอบกลับฉันมองไปเห็นเธอนอนหลับสนิท เธอคงละเมอ ส่วนฉัน รู้สึกตื้นตันในใจบางอย่างจนนั่งมองน้ำตาซึม
โอเนะจัง
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ฉันขอบอกว่านี่เป็นเรื่องที่ฉันรู้จากพ่อไม่รู้ว่าจริงเท็จแค่ใหน ในปี 2545 พ่อกับแม่เกิดทะเลาะกันขึ้นและแยกทางกัน อันนี้ฉันจำได้ วันนั้นเป็นวันจันทร์ตอนบ่าย ฉันกำลังเล่นก่อกองทรายกับพี่สาวฝาแฝดของฉัน พ่อได้มาอุ้มฉันออกมาและพากลับประเทศไทย หลังจากนั้นฉันก็ไม่ได้เจอและติดต่อแม่และพี่สาวอีกเลย
จนวันนี้ฉันอายุ 16 ปี
++++++++++++++++++++++++++++++++++
"แฮปปี้เบิร์ดเดย์ ทูยู แฮปปีเบิ๊ดเดย์ทูยู แฮปปี้เบิร์ดเดย์ ทู เมย์"
แปะ แปะ แปะ เสียงปรบมือนี้เกิดจากเพื่อนร่วมห้องจัดงานวันเกิดให้ฉัน ฉันนั่งก้มหน้า ทั้งเขิน และตื้นตันใจ จนหน้าฉันแดงไปหมด
"นี่เมย์ วันเกิดอยากได้อะไร อธิฐานสิ"
ช่อผกา เพื่อนแว่นแสนฉลาดของฉันพูดด้วยรอยยิ้ม ฉันก็ยิ้มเช่นกัน ยิ้มเจื่อนๆ เขินน่ะค่ะ เกิดมาขึ้น มอปลาย ก็มีคนจัดวันเกิดให้เลย แถมกลางคาบวิชาสังคมอีกต่างหาก
อธิฐานเหรอ อะไรดีล่ะ เพียบพร้อมค่ะ พ่อประเคนให้หมดไม่เคยอยากได้อะไรเลย เอาอย่างนี้ล่ะกัน ขอให้ฉันได้ของขวัญวันเกิดจากพ่อที่แบบว่า เห็นแล้วตะลึงล่ะกัน ขำขำน่อ ฮะฮะ ขอบใจเพื่อนมากมาก วันนี้ฉันกลับบ้านด้วยรอยยิ้มอย่างอารมณ์ดี
"ปีนี้จะได้อะไรเป็นของขวัญน๊า อะไรก็ได้ที่ไม่ใช่ดิกชันนารีแล้วกัน"
ฉันเดินมาถึงหน้าบ้านก็เจอกับเด็กผู้หญิงคนหนึ่งดูจากข้างหลังรู้เลยว่าน่ารัก ผิวนวลเนียนเชียวนะ มาหาใครกัน แนะ ลุกลิกลุกลิกอยู่นั่นแหละ เธอพยามยามชะเง้อมองหาคนภายในบ้านอยู่ข้างรั้วบ้านที่ทำจากกรงเหล็ก
เธอคนนี้สวมหมวกกับแว่นกันแดด มันเข้ากับทรงผมและรูปหน้าอย่างมาก แต่มันก็ทำให้ฉันมองหน้าไม่ถนัด เสื้อทรูโทนแขนยาวที่เนื้อบางระบายอากาศได้ดีกางเกงยีนสั้น รองเท้าหุ้มข้อที่ดูเทห์มากมากกับถุงเท้าสีดำ
อย่างกับเป็นคนต่างชาติเลยค่ะ
"โคน นิ จิ ว๊า, ซุ มิ มะ เซนน"
คนคนนี้ พูดภาษาญี่ปุ่น เธอตะโกนเพื่อร้องเรียกคนในบ้าน แต่เสียใจนะฉันอยู่กับพ่อแค่สองคน และพ่อออกไปทำงานแล้วด้วย ใครกันน่ะ นักท่องเที่ยวหลงทางมาถามทางงั้นเหรอ ตายล่ะ ภาษาอังกฤษเกรดหนึ่งด้วย ห่วยเลย จะช่วยอะไรได้เนี่ย
ฉันทำตัวเป็นเจ้าของประเทศที่ดี เดินเข้าไปหาด้วยรอยยิ้ม
" เอ่อ.... เอ็กคิ้วมี๊ (อย่างนี้เปล่าวะ) แคนไอ่เฮ้วยู๊ (สำเนียงแปลกๆแฮะ)"
เธอคนนั้นหันมาตามเสียง กรี๊ดผิวที่หน้าก็เนียนด้วย อิจฉา เธอทำตาโตฉันมองเห็นลอดแว่นกันแดดสีดำอันโตนั้น
เธอหัวเราะแล้ววิ่งเข้ามากอดฉันในทันที
" .それから彼女. "
เธอไม่พูดพร่ำทำเพลงร่ายภาษาญี่ปุ่นยังกะเพลงแร๊ป
"私はあなたを欠場. これが私です.
私はあなたを伝えることがたくさんある。"
"เฮ้ย เดี๋ยวสิ ฉันไม่รู้เรื่องหรอกนะ"
เธอคนนั้นเหมือนจะรู้ว่าฉันไม่เข้าใจ ใช่สิ สีหน้าฉันฟ้องขนาดนี้ เธอพยายามตั้งใจพูดช้า ช้า
"私の名前は空です
私はあなたの妹だ"
"ห๊ะ ฉันไม่รู้เรื่องเลย พูดภาษาไทยได้ใหมคะ"
"私はあなたの妹だ
วะตาชิ วะ อะนะตะ โนะ โอเนะ ตะ"
เธอพูดซ้ำไปมาอย่างช้าช้า ในขณะที่ฉันมึนตึ๊บ เธอเห็นฉันทำหน้าไม่เข้าใจสักทีเธอจึงทำท่าพยายามคิดคำอย่างเอาเป็นเอาตาย
"ฉาน ชื่อ 空(โซระ=ท้องฟ้า)"
"อะโน....ฉาน เป็น พี่สาว. ..ยิน ดี... มาก. ดีใจ ดีใจ"
ฉันรู้ว่าเธอต้องการจะพูดอะไรกับฉัน แต่ฉันไม่ค่อยเข้าใจในสิ่งที่เธอพูด แต่มันสะกิดหู
"พี่สาว....ญี่ปุ่น....โซระ? ??????"
"พี่สาว!!!"
ฉันพูดเสียงดังพร้อมทั้งยิ้มอย่างดีใจและตื่นเต้น เธอถอดแว่นตากันแดดและหมวกแก๊ปออก แม้เธอจะผมยาวกว่าฉันและผิวพรรณดีกว่า แต่หน้าของเธอเหมือนกับฉันเด๊ะแม้จะมีเครื่องสำอางค์จางๆ
เธอยิ้ม และพยักหน้า พวกเราโผกอดกัน
"พี่จ๋า พี่โซระ ฉันพึ่งฝันถึงพี่เมื่อวาน"
"私はお会いできてうれしいです。
ดีใจ ดีใจ ได้ พบ เธอ เมอิ"
แต่การมาของเธอในคราวนี้กลับแตกต่างโดยสิ้นเชิง เธอพูดภาษาไทยไม่ได้เลย เธอบอกว่าแม่ไม่ได้สอนภาษาไทยให้เลย เพราะว่าแม่เสียชีวิตตั้งแต่เธอยังเล็ก
พ่อเป็นคนเดียวในบ้านที่พอจะพูดภาษาญี่ปุ่นได้ และ พี่สาวฉันพยายามใช้คำที่มันง่ายที่สุด
"母は死んだ(คุณแม่จากไปแล้ว)"
ฉันเห็น โซระ ทำหน้าเศร้า และพ่อเอามือปิดตาสะอื้น ฉันไม่รู้ว่าเธอพูดว่าอะไรในตอนนั้นจนพ่อแปลให้ฟัง
"แม่แกตายเสียแล้วเมย์เอ๊ย"
ฉันเศร้าแต่ไม่รู้ทำใมถึงไม่มากอาจเป็นเพราะไม่ได้ผูกพันมากมายนัก
"私は保育園を通じて無力な、一人暮らし。私はまた、日本国籍を持っていないでしょう。彼はタイで私を返した。(ฉันยังไม่สามารถขอสัญชาติญี่ปุ่นได้,ตลอดมาฉันอาศัยอยู่ในสถานเลี้ยงเด็ก)"
โซระพูดแล้วเธอก็ร้องให้ ฉันซึ่งฟังไม่รู้เรื่องเห็นแต่พ่อลูบหัวปลอบแล้วนึกอิจฉา พ่อไม่เคยทำอย่างนั้นกับฉันมาก่อนเลย
"ボールはここにある .いつも。ลูกอยู่ที่นี่ได้ เสมอ"
พ่อพูดกับ โซระ เธอสะอื้น เธอยิ้มทั้งน้ำตา แล้วโผกอดพ่อ
"どうもありがとうございました。父。(กราบขอบพระคุณค่ะคุณพ่อ)"
สรุปว่า โซระ จะมาอยู่กับพวกฉันที่นี่เป็นการชั่วคราวเพราะเธอกำลังทำเรื่องขอสัญชาติญี่ปุ่น ฉันไม่รู้ขั้นตอนมันหรอกนะ แต่มันคงยากแน่ๆ
แต่ต่อให้เธอกลับมาประเทศไทย เธอคงไม่สามารถอยู่ที่นี่ได้แน่นอนไม่ว่าจะวัฒนธรรม การกินอยู่ ดินฟ้าอากาศ ที่เธอไม่เคยพบเจอมาก่อน
เธอไม่ใช่คนไทยอีกต่อไปแล้วในตอนนี้
>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>
และช่วงที่ฉันรอคอย ของขวัญวันเกิดค่า ฉันแกะห่อของขวัญจากพ่อ มันหนาและหนักมาก แต่ความดีใจและตื่นเต้นฉันต้องวูบลง เพราะมันคือ!!!
"ดิกชันนารี่ แบบ 7ภาษา"
ฉันหงายหลังตึง แต่ข้างๆฉันที่เตียงนอนวันนี้มีฉันอีกคนนึงนอนอยู่ข้างๆเราเหมือนกับเปี๊ยบต่างกันแค่สีผิวกับทรงผม เธอนอนหลับเพราะเพลียจากการเดินทาง
ฉันเปิดดิกชันนารี่ไปหมวดภาษาญี่ปุ่น
"妹さん โอเนะจัง (พี่จ๋า)"
"はいไฮ่ย์(จ๋า)"
ฉันสะดุ้งเฮือกเพราะได้ยินเสียงโซระตอบกลับฉันมองไปเห็นเธอนอนหลับสนิท เธอคงละเมอ ส่วนฉัน รู้สึกตื้นตันในใจบางอย่างจนนั่งมองน้ำตาซึม
โอเนะจัง
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ