บัทเตอร์
9.7
เขียนโดย บัทเตอร์
วันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2557 เวลา 07.42 น.
6 เรื่อง
6 วิจารณ์
9,966 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2557 09.02 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น
4) ห้องสมุดแห่งความลับ (๓)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความห้องสมุดแห่งความลับ (๓)
.
[ข้าอยากกินตับแมว!!]
ป๊อก โฮ่ง ป็อก เหมี้ยว เหมี้ยว ป็อก โฮ่ง เหมี้ยว ป๊อก ป็อก โฮ่ง (เอาล่ะๆ...ผมหยุดก็ได้) -0-“
อย่าพึ่งสงสัยและอย่าพึ่งงงว่ามันคือเสียงอะไร?...ทำไมมันมีทั้งหมาทั้งแมวเต็มไปหมด จะว่าไปแล้วมันจะเป็นเสียงอะไรก็ช่างมันเถอะครับ...ท่านผู้อ่านให้คิดเสียว่ามันคือ เสียงที่ดังขึ้นจากการตอกตะปูทำชั้นว่างหนังสือของพ่อกระผมเองก็แล้วกันนะครับ
ตั้งแต่ไฟฟ้าติดๆ ดับๆ ผมก็วิ่งมาถึงบ้าน...เล่นเอาผมนอนไม่หลับทั้งคืนกันเลยทีเดียว ผมลุกจากที่นอนตั้งแต่ตี ๔ เพื่อหาอะไรทำเลยคิดได้ว่ายังไม่มีชั้นว่างหนังสือเลย...ผมจึงหาไม้มาทำ โดยให้สุภาพบุรุษอย่างคุณพ่อเป็นคนจัดการทำให้ตั้งแต่เช้าตรู่ (แฮะๆ ใช้แรงงานท่านผู้มีอายุ)...จนในที่สุดก็ทำเสร็จจนได้
แต่แม้ว่ามันจะเสร็จแล้วอย่างไรก็ตาม...ในใจผมตอนนี้ยังคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อตอน ๖ โมงเย็นนั้นยังไม่หาย คิดถึงมากกว่าเรื่องสั้นที่จะเขียนหรือเรื่องความรักกับคนรักเสียอีกเนี้ย (ผมอ่ะ เหอะๆ)
“เตอร์...ทำให้เสร็จแล้วนะชั้นว่างหนังสือเนี้ย!”
“งั้นดีเลยพ่อ...ช่วยเอาไปส่งที่ห้องนั้นให้หน่อยดิ...ว้ยเฮ้ย”
“เห็นพ่อเป็นคนใช้แล้วลูกเรา” (พ่อผมบ่นครับ...เอิ้กๆ)
“เอาเหอะน่า...ทำๆ ไปซะเว้ยเฮ้ย” -0-“
ในที่สุด...ห้องง่าวๆ แห่งนี้ก็มีชั้นว่างหนังสือ (แต่ไม่มีหนังสือเลยแม้แต่เล่มเดียว) -0-“
เหอะๆ เปิดเข้ามาในห้องง่าวๆ แห่งนี้...ผมถึงกับต้องประหลาดมโนจิต เหมือนมีใครมาเนรมิต เออคือ...หลอดไฟเพิ่มขึ้นมา ๑ ดวง!! แล้วเดินสายไฟแบบใหม่ต่างไปจากเดิมตอนที่เห็นตอนแรกตอนที่เข้ามาทำความสะอาดตอนนั้นด้วย (แล้วมันเป็นเช่นนั้นได้เยี่ยงไร?)
ผมไม่รู้พูดอะไร...เพราะตอนนี้ผมอยู่กับพ่อ ซึ่งท่านพ่อก็คงไม่รู้เรื่องราวอะไรเลยเกี่ยวกับห้องแห่งนี้? ถึงผมจะพูดไปมันก็คงไร้ความหมายใดๆ เดียวท่านพ่อก็หาว่าผมบ้าอีก...มันจะสมทบไปกันใหญ่ (ก็ไม่รู้สินะ) -0-“
ก่อนที่จะเอาชั้นว่างหนังสือนี้เข้ามาในห้องพิศวง...ผมก็ขอเล่าความมโนในจินตนาการก่อนหลังเมื่อครั้งที่ผ่านมากันนะครับ...คือว่า การเขียนเรื่องสั้นของผมนั้น...ผมไม่อยากจะขีดเขียนให้เหมือนใครเลยจริงๆ เพราะคิดเป็นเช่นนั้นแล้วผมจึงขีดเขียนให้แตกต่างแต่ไม่เขียนให้แตกแยก ก็จะขีดเขียนแบบนี้แหละครับ กล่าวคือ...ให้ผู้เขียนแสดงความคิดส่วนตัวที่แย้งกับตัวละครของตน ผมหวังว่าจะได้มิติการขีดเขียนไปอีกแบบ ถ้าจะให้ตัวละครเล่าเรื่องอยู่หรือดำเนินเรื่องอยู่ฝ่ายเดียวมันก็คงจะไม่สนุกอย่างเต็มที่ เลยคือว่า...ให้ผู้เขียนอย่างตัวกระผมดำเนินเรื่องเองแล้วหากลหักมุมแบบไม่คาดคิดอย่างนี้ ผมคิดว่าก็น่าจะ...(โอเคมากกว่ากันนะครับ) ^_^”
“เตอร์...พ่อไปก่อนนะ” (โบกมืออำลา...ลาน้องจะไปชายแดน//ร้องเพลงแบบมั่วๆ)
“ไปดีมาดีงับพ่อ...เว้ยเฮ้ย”
ในที่สุดก็ได้ชั้นว่างหนังสือในวันที่ ๒ ของการเริ่มแผนการยึดครองโลก ๕๕๕+ ผมคิดว่าห้องที่เงียบเหงาแห่งนี้คงจะเต็มไปด้วยหนังสือมากมายในไม่ช้าแน่นอน (ฝันของผมมันช่างโคตรยิ่งใหญ่...เกินคำจะเสกสรรจริงๆ)
แล้วไอ้วีนัส...ยัยทอมทั้งบ้าทั้งบ๊องนั้นทำอะไรอยู่เนี้ย ไฉนเธอถึงยังไม่มาก็ไม่รู้ รู้ไหมผมคิดถึงๆ ยัยทอมบ้านั้นเล็กน้อยถึงปานกลาง...พอคิดเสร็จสำเร็จพลัน!! (กลิ่นแปลกๆ อันไม่พึ่งประสงค์ก็โชยมาตามสายลม?)
“เห้แมร่ง!!...มันกลิ่นอะไรเนี้ย เหม็นม๊วก” -0-“
เดินหาความเป็นมาของกลิ่น แล้วก็ค้นพบสมบัติอะไรบางอย่างเข้าพอดี อืม...ซากแมวตาย!! แล้วไมมันต้องมาตายหลังห้องนี้ด้วยเนี้ย -0-“
หลังจากนั้นผมต้องวุ่นวายอีกครั้งใหญ่ ไหนจะต้องมารอยัยทอมบ้าวีนัส...ไหนจะนำซากศพแมวตายที่ไหนก็ไม่รู้เอาไปทำเป็นปุ๋ยชีวภาพ (กรรมจริงๆ เลยวันนี้) -_-“
หลังจากเอาดินถมซากแมวเสร็จ...ผมก็เดินกลับมายังห้องพิศวงแห่งนั้น...มโนใจคิดแปลกๆ เกิดปัญหาที่คิดไม่แตกออกจากหัว...? (ทำไมมันถึงเป็นแบบนี้ไปได้)...เสียงแปลกๆ ที่ได้ยิน มันดังมาจากข้างในห้องอันไม่น่าพิสมัยแห่งนั้น...และแล้ว ในขณะที่ผมจะเดินเข้าประตูหน้าห้องนั้นเอง!! (ด้วยอาการเศร้าจิต)
“ไง...บัทเตอร์!!”
“ก๊ากกก!! อย่าเข้ามานะ...เว้ยเฮ้ย”
หมัดตรงที่หยุดไม่อยู่กระแทกเข้าหน้ายัยทอมบ้าวีนัสอย่างจัง เพราะด้วยความกลัวบวกกับความตกใจของผมแท้ๆ เลยต้องทำให้เพื่อนสุดที่รักต้องนอนสลบกลบเลือดจมูกกันเลยขอรับท่าน (เหอะๆ บอกแล้วว่าอย่ามาทำให้กระผมตกใจ) -0-“
“นาย...ชกเค้าไหมเนี้ย?” (ไอ้เจ้าตัวโกรธผมเล็กน้อยถึงปานกลางเลยขอรับ) -0-“
“อ่ะ!! ตูขออภัยโทษยิ่งสูงที่สุดนะ...เว้ยเฮ้ย ตูนึกว่ามีหมีมาหลอกตูอ่ะ...วี” (ผมต้องยืนคำนับเจ้าหล่อนแล้วกล่าวขอโทษขออภัยไปตามระเบียบ)...(เหอะๆ)
“ผีอะไรจะน่ารักขนาดนี้?” (ถรุยยย//นั่งอ้วก) -0-“
“แล้วมุงมาตอนไหนเนี้ย...เว้ยเฮ้ย ทำไมตูไม่เห็นตอนมุงมาเลยว่ะ?”
“ก็มาตอนนายหอบถุงห่ออะไรไม่รู้พร้อมจอบขุดดิน...ตอนนั้นแหละ จะว่าไปแล้วนายเป็นคนเอาหลอดไฟมาติดตั้งอีกหลอดอีกดวงหรือไง? พร้อมชั้นว่างหนังสือนี้ด้วย...” เจ้าหล่อนถามผมขณะที่เลือดกำเดาของหล่อนไหลและไม่มีที่ท่าว่าจะหยุดไหลเลยแม้แต่น้อย!! (ห้ามเลือดก่อนดีไหมเธอ?)
“เออคือ...ไอ้ชั้นว่างหนังสือตูเป็นคนเอามาเอง แต่...หลอดไฟอีกดวงไม่รู้ว่าเป็นฝีมือใคร ไม่รู้ว่าใครเอามาติดตั้ง??” (ยังงงๆ อยู่เลย) -0-“
ในขณะที่ห้องแห่งนี้ยังเต็มไปด้วยปริศนาต่างๆ ที่เพิ่มขึ้นในและไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นมาได้ยังไงโดยไม่รู้ถึงสาเหตุอยู่นั้น พวกเราสองคนต่างก็รู้สึกได้ว่ามันมีอะไรแปลกๆ จริงๆ แล้วก็น่าจะรู้สึกถึงอะไรแปลกๆ ตั้งแต่ตอนแรกที่ก้าวเข้ามาก็เป็นได้ ไอ้ทอมบ้านั้นคงจะมีอาการอะไรมั้งที่เหมือนกับผม แต่เจ้าหล่อนไม่ชอบบอกใครง่ายๆ เธอจะแสดงอาการเหมือนกับเล่นละครใบ้มากกว่าที่จะบอกโดยตรง (ผมคิดแบบนั้น!!)
.
เรื่องนี้ยังไม่จบนะครับ
.
[ข้าอยากกินตับแมว!!]
ป๊อก โฮ่ง ป็อก เหมี้ยว เหมี้ยว ป็อก โฮ่ง เหมี้ยว ป๊อก ป็อก โฮ่ง (เอาล่ะๆ...ผมหยุดก็ได้) -0-“
อย่าพึ่งสงสัยและอย่าพึ่งงงว่ามันคือเสียงอะไร?...ทำไมมันมีทั้งหมาทั้งแมวเต็มไปหมด จะว่าไปแล้วมันจะเป็นเสียงอะไรก็ช่างมันเถอะครับ...ท่านผู้อ่านให้คิดเสียว่ามันคือ เสียงที่ดังขึ้นจากการตอกตะปูทำชั้นว่างหนังสือของพ่อกระผมเองก็แล้วกันนะครับ
ตั้งแต่ไฟฟ้าติดๆ ดับๆ ผมก็วิ่งมาถึงบ้าน...เล่นเอาผมนอนไม่หลับทั้งคืนกันเลยทีเดียว ผมลุกจากที่นอนตั้งแต่ตี ๔ เพื่อหาอะไรทำเลยคิดได้ว่ายังไม่มีชั้นว่างหนังสือเลย...ผมจึงหาไม้มาทำ โดยให้สุภาพบุรุษอย่างคุณพ่อเป็นคนจัดการทำให้ตั้งแต่เช้าตรู่ (แฮะๆ ใช้แรงงานท่านผู้มีอายุ)...จนในที่สุดก็ทำเสร็จจนได้
แต่แม้ว่ามันจะเสร็จแล้วอย่างไรก็ตาม...ในใจผมตอนนี้ยังคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อตอน ๖ โมงเย็นนั้นยังไม่หาย คิดถึงมากกว่าเรื่องสั้นที่จะเขียนหรือเรื่องความรักกับคนรักเสียอีกเนี้ย (ผมอ่ะ เหอะๆ)
“เตอร์...ทำให้เสร็จแล้วนะชั้นว่างหนังสือเนี้ย!”
“งั้นดีเลยพ่อ...ช่วยเอาไปส่งที่ห้องนั้นให้หน่อยดิ...ว้ยเฮ้ย”
“เห็นพ่อเป็นคนใช้แล้วลูกเรา” (พ่อผมบ่นครับ...เอิ้กๆ)
“เอาเหอะน่า...ทำๆ ไปซะเว้ยเฮ้ย” -0-“
ในที่สุด...ห้องง่าวๆ แห่งนี้ก็มีชั้นว่างหนังสือ (แต่ไม่มีหนังสือเลยแม้แต่เล่มเดียว) -0-“
เหอะๆ เปิดเข้ามาในห้องง่าวๆ แห่งนี้...ผมถึงกับต้องประหลาดมโนจิต เหมือนมีใครมาเนรมิต เออคือ...หลอดไฟเพิ่มขึ้นมา ๑ ดวง!! แล้วเดินสายไฟแบบใหม่ต่างไปจากเดิมตอนที่เห็นตอนแรกตอนที่เข้ามาทำความสะอาดตอนนั้นด้วย (แล้วมันเป็นเช่นนั้นได้เยี่ยงไร?)
ผมไม่รู้พูดอะไร...เพราะตอนนี้ผมอยู่กับพ่อ ซึ่งท่านพ่อก็คงไม่รู้เรื่องราวอะไรเลยเกี่ยวกับห้องแห่งนี้? ถึงผมจะพูดไปมันก็คงไร้ความหมายใดๆ เดียวท่านพ่อก็หาว่าผมบ้าอีก...มันจะสมทบไปกันใหญ่ (ก็ไม่รู้สินะ) -0-“
ก่อนที่จะเอาชั้นว่างหนังสือนี้เข้ามาในห้องพิศวง...ผมก็ขอเล่าความมโนในจินตนาการก่อนหลังเมื่อครั้งที่ผ่านมากันนะครับ...คือว่า การเขียนเรื่องสั้นของผมนั้น...ผมไม่อยากจะขีดเขียนให้เหมือนใครเลยจริงๆ เพราะคิดเป็นเช่นนั้นแล้วผมจึงขีดเขียนให้แตกต่างแต่ไม่เขียนให้แตกแยก ก็จะขีดเขียนแบบนี้แหละครับ กล่าวคือ...ให้ผู้เขียนแสดงความคิดส่วนตัวที่แย้งกับตัวละครของตน ผมหวังว่าจะได้มิติการขีดเขียนไปอีกแบบ ถ้าจะให้ตัวละครเล่าเรื่องอยู่หรือดำเนินเรื่องอยู่ฝ่ายเดียวมันก็คงจะไม่สนุกอย่างเต็มที่ เลยคือว่า...ให้ผู้เขียนอย่างตัวกระผมดำเนินเรื่องเองแล้วหากลหักมุมแบบไม่คาดคิดอย่างนี้ ผมคิดว่าก็น่าจะ...(โอเคมากกว่ากันนะครับ) ^_^”
“เตอร์...พ่อไปก่อนนะ” (โบกมืออำลา...ลาน้องจะไปชายแดน//ร้องเพลงแบบมั่วๆ)
“ไปดีมาดีงับพ่อ...เว้ยเฮ้ย”
ในที่สุดก็ได้ชั้นว่างหนังสือในวันที่ ๒ ของการเริ่มแผนการยึดครองโลก ๕๕๕+ ผมคิดว่าห้องที่เงียบเหงาแห่งนี้คงจะเต็มไปด้วยหนังสือมากมายในไม่ช้าแน่นอน (ฝันของผมมันช่างโคตรยิ่งใหญ่...เกินคำจะเสกสรรจริงๆ)
แล้วไอ้วีนัส...ยัยทอมทั้งบ้าทั้งบ๊องนั้นทำอะไรอยู่เนี้ย ไฉนเธอถึงยังไม่มาก็ไม่รู้ รู้ไหมผมคิดถึงๆ ยัยทอมบ้านั้นเล็กน้อยถึงปานกลาง...พอคิดเสร็จสำเร็จพลัน!! (กลิ่นแปลกๆ อันไม่พึ่งประสงค์ก็โชยมาตามสายลม?)
“เห้แมร่ง!!...มันกลิ่นอะไรเนี้ย เหม็นม๊วก” -0-“
เดินหาความเป็นมาของกลิ่น แล้วก็ค้นพบสมบัติอะไรบางอย่างเข้าพอดี อืม...ซากแมวตาย!! แล้วไมมันต้องมาตายหลังห้องนี้ด้วยเนี้ย -0-“
หลังจากนั้นผมต้องวุ่นวายอีกครั้งใหญ่ ไหนจะต้องมารอยัยทอมบ้าวีนัส...ไหนจะนำซากศพแมวตายที่ไหนก็ไม่รู้เอาไปทำเป็นปุ๋ยชีวภาพ (กรรมจริงๆ เลยวันนี้) -_-“
หลังจากเอาดินถมซากแมวเสร็จ...ผมก็เดินกลับมายังห้องพิศวงแห่งนั้น...มโนใจคิดแปลกๆ เกิดปัญหาที่คิดไม่แตกออกจากหัว...? (ทำไมมันถึงเป็นแบบนี้ไปได้)...เสียงแปลกๆ ที่ได้ยิน มันดังมาจากข้างในห้องอันไม่น่าพิสมัยแห่งนั้น...และแล้ว ในขณะที่ผมจะเดินเข้าประตูหน้าห้องนั้นเอง!! (ด้วยอาการเศร้าจิต)
“ไง...บัทเตอร์!!”
“ก๊ากกก!! อย่าเข้ามานะ...เว้ยเฮ้ย”
หมัดตรงที่หยุดไม่อยู่กระแทกเข้าหน้ายัยทอมบ้าวีนัสอย่างจัง เพราะด้วยความกลัวบวกกับความตกใจของผมแท้ๆ เลยต้องทำให้เพื่อนสุดที่รักต้องนอนสลบกลบเลือดจมูกกันเลยขอรับท่าน (เหอะๆ บอกแล้วว่าอย่ามาทำให้กระผมตกใจ) -0-“
“นาย...ชกเค้าไหมเนี้ย?” (ไอ้เจ้าตัวโกรธผมเล็กน้อยถึงปานกลางเลยขอรับ) -0-“
“อ่ะ!! ตูขออภัยโทษยิ่งสูงที่สุดนะ...เว้ยเฮ้ย ตูนึกว่ามีหมีมาหลอกตูอ่ะ...วี” (ผมต้องยืนคำนับเจ้าหล่อนแล้วกล่าวขอโทษขออภัยไปตามระเบียบ)...(เหอะๆ)
“ผีอะไรจะน่ารักขนาดนี้?” (ถรุยยย//นั่งอ้วก) -0-“
“แล้วมุงมาตอนไหนเนี้ย...เว้ยเฮ้ย ทำไมตูไม่เห็นตอนมุงมาเลยว่ะ?”
“ก็มาตอนนายหอบถุงห่ออะไรไม่รู้พร้อมจอบขุดดิน...ตอนนั้นแหละ จะว่าไปแล้วนายเป็นคนเอาหลอดไฟมาติดตั้งอีกหลอดอีกดวงหรือไง? พร้อมชั้นว่างหนังสือนี้ด้วย...” เจ้าหล่อนถามผมขณะที่เลือดกำเดาของหล่อนไหลและไม่มีที่ท่าว่าจะหยุดไหลเลยแม้แต่น้อย!! (ห้ามเลือดก่อนดีไหมเธอ?)
“เออคือ...ไอ้ชั้นว่างหนังสือตูเป็นคนเอามาเอง แต่...หลอดไฟอีกดวงไม่รู้ว่าเป็นฝีมือใคร ไม่รู้ว่าใครเอามาติดตั้ง??” (ยังงงๆ อยู่เลย) -0-“
ในขณะที่ห้องแห่งนี้ยังเต็มไปด้วยปริศนาต่างๆ ที่เพิ่มขึ้นในและไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นมาได้ยังไงโดยไม่รู้ถึงสาเหตุอยู่นั้น พวกเราสองคนต่างก็รู้สึกได้ว่ามันมีอะไรแปลกๆ จริงๆ แล้วก็น่าจะรู้สึกถึงอะไรแปลกๆ ตั้งแต่ตอนแรกที่ก้าวเข้ามาก็เป็นได้ ไอ้ทอมบ้านั้นคงจะมีอาการอะไรมั้งที่เหมือนกับผม แต่เจ้าหล่อนไม่ชอบบอกใครง่ายๆ เธอจะแสดงอาการเหมือนกับเล่นละครใบ้มากกว่าที่จะบอกโดยตรง (ผมคิดแบบนั้น!!)
.
เรื่องนี้ยังไม่จบนะครับ
คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.7 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ