เรื่องที่ห้า : เราล้วนหลับไหลในเปลวเพลิง

8.2

เขียนโดย larceta

วันที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2557 เวลา 09.17 น.

  4 ตอน
  7 วิจารณ์
  7,600 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 22 เมษายน พ.ศ. 2557 21.07 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น

แชร์เรื่องสั้น Share Share Share

 

2) ช่วงกลาง

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
     ข้าลั่นไกขณะที่ไอ้เปรตที่กำลังยืนภูมิใจกับผลงานของมัน  กระสุนหนึ่งจากในสี่นัดพุ่งเข้าเป้าที่กลางหลัง       "เฮอะ"     ข้าสบถ ที่จริงกะจะเล็งหัว  แต่ไอ้ปืนนี่มันเก่า  ศูนย์ก็เลยเบี้ยวคดเป็นงูไปเลยแบบนี้     ข้าเดินไปหามันที่นอนอยู่โดยเล็งปืนไปด้วย มันอาจจะเก่งถ้าสู้ด้วยมือเปล่า  แต่ถ้าเป็นปืนมันก็อีกเรื่องหนึ่ง       เลือดไม่เยอะเท่าไร ดูท่ากระสุนจะฝังใน อย่างไรก็ตามเพื่อความชัวร์  คงต้องยิงซ้ำที่หัว     แต่ก่อนหน้านั้น ขอดูหน้ามันสักหน่อยเถอะ     ข้าใช้เท้าเขี่ยตัวให้พลิกขึ้นมา  ใบหน้าสีขาวที่เต็มไปด้วยลวดลายของมันเผยขึ้น  ทีแรกข้านึกว่าเป็นรอยเพนท์สี  แต่พอเห็นมันขยับได้จึงรู้ว่านี่เป็นสิ่งที่ครอบใบหน้าเอาไว้อีกชั้น     หน้ากากสีขาว     ข้านึกย้อน  จะว่าไปก็เคยได้ยินเหมือนกัน  นักฆ่าหน้ากากขาว มือสังหารรับจ้างอดีตทหารหน่วยจีไอที่เชี่ยวการสังหารคนด้วยมือเปล่า  จากที่มันฆ่าเจ้าสามคนนี้  ดูท่านี่จะเป็นมันตัวจริงแน่ๆ     การที่มีนักฆ่าปรากฎตัวแบบนี้  ชัดเลยว่าพวก "เหยี่ยว" รู้ตัวและคิดจะเอาเรื่องกับพวกข้าแล้ว     "เหยี่ยว" ก็คือกลุ่มผู้อิทธิพลที่อยู่เบื้องหลังเมืองนี้  พวกมันอยู่เบื้องหลังการค้ายา ธุรกิจค้าประเวณี  ของเถื่อน  ปืน  แล้วก็ของผิดกฎหมายแทบทุกอย่าง  เริ่มก่อตั้งขึ้นเมื่อราว 2 ปีก่อนโดยมีพวกนักธุรกิจและนักการเมืองที่ได้รับประโยชน์หนุนหลัง  เป็นเหมือนเชื้อร้ายที่กำลังบ่อนทำลายเมืองนี้อย่างช้าๆโดยที่ไม่มีใครรู้ เหตุที่เป็นแบบนั้นก็เพราะพวกมันไม่เคยทำอะไรแบบโจ่งแจ้งเปิดเผย ฉากเบื้องหน้าของมันหลายอย่างเป็นกองทุนเพื่อการกุศลที่ขาวสะอาด ผู้คนมากมายต่างนิยมชมชอบและบริจาคเงินให้พวกมันโดยไม่รู้เลยว่าเงินนั้นจะ ถูกนำมาใช้บ่อนทำลายเมืองเสียเอง     ซึ่งหนึ่งในการจัดการเบื้องหลังอย่างลับๆของพวกมันก็คือ  การส่งนักฆ่ามาฆ่าพวกข้าที่พยายามจะสืบค้นและเปิดโปง รวมถึงการที่พวกข้าจะพยายามตัดตอนพวกมันด้วยการเก็บพวกระดับบิ๊กๆของมัน  เรื่องที่ควรจะเป็นการต่อสู้แบบตาต่อตา ฟันต่อฟัน แต่กลับใช้วิธีสกปรกแบบนี้  สมเป็นสันดานพวกเหยี่ยวจริงๆ     ข้ารู้เรื่องนี้ ดังนั้น ข้าจึงต้องการจะหยุดยั้งมัน     พวกข้า หนุ่มสาวที่รู้ถึงภยันตรายที่เกิดขึ้นจาก "เหยี่ยว" ซึ่งรวมตัวกันเป็นองค์กรซึ่งตีแผ่ความจริง  , สิ่งที่เหนือกว่าเหยี่ยว , พวกข้าคือพญาอินทรีย์ผู้มองเห็นทุกอย่างทะลุปรุโปร่งต้องการจะตีแผ่ความจริง ให้ทุกคนได้รับรู้และหยุดยั้งความชั่วร้าย  พวกข้าจะช่วยผู้คนและปลดปล่อยเมืองนี้จากเงื้อมือกรงเล็บช่วยร้ายของพวกเหยี่ยว       พวกข้าคือ "อินทรีย์" ผู้ปกป้องโลกจากหายนะ...     ข้าเอาเท้าเขี่ยเปิดหน้ากาก จากที่เห็น เป็นชายอายุราว 30 ปลายๆ   ใบหน้าไม่คุ้น แต่ข้าเองก็ไม่คิดว่าจะเคยรู้จักหน้าตาพวกนักฆ่าอยู่แล้ว  แล้วก็คิดไม่จำเป็นต้องรู้จักด้วย       เพราะยังไง  มันก็ต้องไปลงนรกเดี๋ยวนี้     "ไปหาพ่องในนรกซะ!"     ข้ายกปืนกล็อกขึ้นเล็งไปที่กลางหน้าผากของมันแล้วลั่นไก     แกร๊ก!     ไม่คาดคิด  ไม่มีกระสุนหรืออะไรพุ่งออกมา  มีเพียงเสียงไกปืนดีดกับความว่างเปล่า  กระสุนหมด     "แมร่ง!!"     นอกจากศูนย์จะห่วยแล้ว กระสุนยังไม่เต็มแมกกาซีนอีก  ห่วยสมเป็นสินค้าของพวกเหยี่ยว  ของนำเข้าชั้นเลวเลย     ข้ารีบความหาแม็กกาซีนสำรอง เลวร้ายยิ่งกว่าเดิม  ไม่มีเลยในกระเป๋าสักปลอก       "แมร่งเอ้ย! ให้มันได้แบบนี้สิวะ!!"     ข้าสบถ  มันน่าไหมล่ะ  เวลาที่เราต้องการอะไรสักอย่างมากแต่หามันไม่ได้ ความรู้สึกแบบนี้มันชวนให้หงุดหงิดมากจนอยากจะบ้าตายให้ได้เลย     แต่หลังจากควานไปอีกสักหน่อย  ก็พบว่าในกระเป๋ามีไฟแช็คอยู่อันหนึ่ง ไฟแช็คที่กะจะเอามาใช้เผาที่นี่เพื่อทำลายหลักฐาน  ร่องรอยทุกอย่างของพวกเราที่เคยใช้ที่นี่เป็นที่กบดาน     เออ  จะว่าไปไอ้นี่ก็ใช้ได้นี่นา  น้ำมันก็มีและคงจะมากพอให้เผาศพที่เพิ่มมาอีกสัก 2-3 ศพได้ล่ะ  โดยเฉพาะไอ้เปรตนี่  ต้องย่างมันให้เกรียมจนจำซากไม่ได้เลย     คิดดังนั้น  ข้าจึงคิดจะหันหลังกลับแล้วเดินไปเอาแกลอนน้ำมันที่วางอยู่ตรงกลางห้อง...
 
     ฉึก!
-[lI[k-     ในตอนที่ชายผู้นั้นหันหลังกลับ  ผมซึ่งรอจังหวะนี้อยู่แล้วได้ใช้มีดพกที่แอบหยิบจากเจ้าหนุ่มหัวขวานแทงเข้า ที่กลางหลัง  ออกแรงเต็มที่จนคมมีดฝังเข้าไปทั้งคม     "อะ..."       มันหันมาด้วยสีหน้าตื่นตระหนกและไม่คาดฝัน  ดูท่ามันคงคิดว่าผมคงตายไปแล้วตั้งแต่ที่โดนกระสุนนัดนั้นยิง นี่ล่ะความต่างของประสบการณ์       คิดเหรอว่าผมจะเดินดุ่มๆเข้ามาในทีอันตรายแบบนี้ตัวเปล่าๆน่ะ     ด้วยเสื้อเกราะกันกระสุนพิเศษที่สวม  ไม่เพียงจะสามารถป้องกันหัวกระสุนได้ถึง .44 ได้เท่านั้น แต่ด้วยสารเหลวพิเศษในชุดซึ่งออกแบบมาเพื่อให้ชุดมีแรงหนืดและยืดหยุ่นสูง สีแดงที่คล้ายเลือดของมันยังช่วยหลอกตาศัตรูได้อีกด้วย  ซึ่งผมก็ได้ใช้ประโยชน์จากมันล่อให้เจ้าหมอนี่ซึ่งคิดแต่แรกแล้วต้องมีปืน เข้ามาใกล้  ในระยะประชิด  มีดได้ผลมากกว่าปืนเสมอ     โดยไม่ให้มันมีโอกาสได้เอ่ยปากพ่นคำพูดสวะๆออกมาอีก  ผมจัดการจับหน้าของมันที่ตื่นตระหนกบิดหันไปอีกข้าง  การทำให้มันไม่ต้องทรมานเพราะบาดแผลนี้นับเป็นความกรุณาอย่างหนึ่ง 
     หลักที่ผมยึดมั่นมาตลอด  ทุกอย่างต้องจัดการให้จบในจังหวะเดียว     ตลอดมา เพราะท่านผู้นั้นห้ามปรามไว้ ทำให้ผมต้องอดทนไม่ลงมือกับพวกมัน ท่านผู้นั้นเป็นผู้ที่มีเมตตาและคิดว่ามนุษย์ทุกคนที่หลงผิดนั้นสามารถกลับ ตัวได้  เฉกเช่นท่านเคยทำมาแล้วและได้ไปจุติบนสวรรค์     ท่านเทพอะพอคาลิป     เพราะท่านเทพอะพอคาลิป ผมจึงมีชีวิตอยู่ได้จนถึงทุกวันนี้  ผมที่ควรจะชีวิตไปในสงครามในตะวันออกกลางในครั้งนั้น  ซึ่งเหตุที่ผมได้รับการช่วยเหลือก็เพราะ ผมคือผู้ถูกเลือกให้มากอบกู้โลก     หากผมไม่ทำ  โลกก็จะถึงกาลวินาศ     แต่ถึงท่านกำชับสั่งไม่ให้ลงมือ แต่ในครั้งนี้ เมื่อเรื่องมันเป็นแบบนี้ไปแล้วก็คงช่วยไม่ได้ จากที่เห็นและติดตามเจ้าพวกนี้มาหลายครั้ง พวกมันไม่มีท่าทีจะสำนึกกับอย่างน้อย ยังคงขู่กรรโชก  กักขังหน่วงเหนี่ยว แถมวันนี้ พวกยังซ้อมคนจนตายไปแล้วคนหนึ่ง เท่านี้ก็พอเป็นเหตุผลให้ผมจัดการพวกมันได้แล้ว อีกทั้งตอนนี้ เมื่อผมสามารถจัดการเจ้าตัวหัวโจกของแกงค์ได้ คงทำให้แกงค์ของมันระส่ำระสายไปไม่น้อย อย่างน้อยๆก็คงไม่กล้าเคลื่อนไหวไปพักใหญ่       เมืองนี้ ...ไม่สิ  โลกนี้คงได้ความสงบสุขกลับมาสักพัก....
 
     ปึ้ก!!-[lI[k-

 

คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7.7 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา