หิมะแรก
8.7
3) 3
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความใบสีชมพูที่ผลิจนร่วงของต้นซากุระ หล่นลงไปในแม่น้ำเมะงุโระงะวะ
แสงไฟประดับ พร้อมกับคู่รักที่นั่งหลบมุมกันใต้ต้นซากุระนั้น อากาศที่หนาวเย็นลงอย่างประหลาดของกรุงโตเกียว
ทางการยกเลิกเที่ยวบินเกือบ 300 เที่ยว ชินคันเซ็นเส้นตะวันตก หยุดเพื่อกวาดหิมะทิ้งให้หมดเสียก่อน
แต่ผมอยากให้คุณรู้ ว่าผมเฝ้ารอมาเนิ่นนานเพียงใดก่อนที่ซากุระจะบาน และก่อนที่หิมะจะตก
'ช่วงเวลาที่สวยงามของฉัน ก็เหมือนกับซากุระนั่นแหล่ะ'
'คุณไม่ได้สวยเฉพาะเดือนกุมภาหรอกน่า'
'ตาบ้า ฉันหมายถึง ผลิบานแล้วก็ร่วงโรย'
'และก็ตราตรึงในความทรงจำ' ผมจบประโยคและจ้องมองเธอในชุดกิโมโน
เราเคยเดินทางตามรอยของมัน เพราะกลัวว่ามันจะจางหายไปในชั่วอาทิตย์เดียวไล่ตั้งแต่ โอกินาวา คิวชู ฮอนชู โตเกียว ไปจบที่เดือนพฤษภา ฮอกไกโด
'ความอบอุ่นทำให้มันผลิบาน มันจึงเริ่มที่โอกินาวาก่อนนะ' แก้มเธอออกสีชมพูเปล่งปลั่ง นัยน์ตาเป้นประกายเมื่อเห็นมันผลิบาน
แต่ครานี้ ผมเพียงมาหยุดที่โตเกียว จ้องมองดูแม่น้ำไหลไปรวมกับอ่าวนั่นที่ซึ่งความทรงจำได้ซุกซ่อนอยู่ บัดนี้หิมะได้พาพัดมันกลับขึ้นมาใหม่ และความอบอุ่นที่เธอเคยบอกถึงการผลิบานก็จางไป
'พวกเรานี่ก็แปลกเนอะ ตอนเกิดใหม่ก็ไปทำบุญที่วัดในนิกายชินโตซักที่ พอโตมาแต่งงานดันชอบไปแต่งงานที่โบสถ์ แต่พอตายกลับไปทำบุญที่วัดในศาสนาพุทธ'
'ฉันอยากแต่งแบบชินโต และไม่จำเป็นต้องเป็นเดือนมิถุนา แบบที่เขาเชื่อกันด้วย เราจะแต่งเดือนกุมภานี่แหล่ะ ก่อนที่ซากุระจะร่วงโรย' เธอจ้องสายตามาที่ผม แน่วแน่ ไม่ลังเล ในดวงตาแฝงอาการไต่ถาม
'ผมไม่เชื่อเรื่องการแต่งงาน'
'ฉันรู้' เธอหลบสายตาผมหันไปมองที่ดอกซากุระ และผมว่าผมเห็นน้ำตา
----------------------------------------
ผมเดินออกจากงานแต่งของเธอ
หลังจากที่พิธีการ ฮาราอิ ด้วย น้ำมิโซกิได้จบลง พร้อมกับที่เธอจิบสาเกกับถ้วยสามใบ สามครั้ง วางมันลงพร้อมกันกับเจ้าบ่าว บางทีก็อาจจะบาปที่ผมภาวนาให้เธอและเจ้าบ่าว วางถ้วยลงไม่พร้อมเพรียงกัน
ผมรู้ว่าเธอมองมา ด้วยสายตานิ่ง ไร้ความรู้สึก และเย็นชามันเป็นช่วงเวลาที่งดงามและสวยที่สุด อย่างที่เธอเคยพูดไว้ และสำหรับเธอ มันจะไม่มีวันลบเลือนไปจากความทรงจำของผม
ต้นซากุระที่ริมน้ำเมะงุโระงะวะ บางต้นก็ต้านความยะเยือกของหิมะไม่ได้แต่บางต้นกลับยืนหยัดด้วยความแกร่ง แตกผลิใบ เพื่อยื้อห้วงเวลาที่จะเบ่งบาน งดงามตระการตา
'ไม่หนาวหรือ' เธอเคยถามผมในห้องที่คับแคบ
'ไม่หรอก' ผมโอบกอดเธอเข้ามาในอ้อมแขน จูบอย่างแผ่วเบา สูดดมกลิ่นกายของเธออย่างโหยหา
กลิ่นหอมจางๆบางอย่าง วนเวียนเข้ามาในสมอง เป็นกลิ่นคล้ายกับเจ้าดอกที่ช่วงเวลาเบ่งบานนั้นสั้นเหลือเกิน
ผมเชื่อว่าผมจะผ่านมันไปได้
เพราะสำหรับผม หิมะนั้นตกมาเป็นเวลานานแล้ว
แสงไฟประดับ พร้อมกับคู่รักที่นั่งหลบมุมกันใต้ต้นซากุระนั้น อากาศที่หนาวเย็นลงอย่างประหลาดของกรุงโตเกียว
ทางการยกเลิกเที่ยวบินเกือบ 300 เที่ยว ชินคันเซ็นเส้นตะวันตก หยุดเพื่อกวาดหิมะทิ้งให้หมดเสียก่อน
แต่ผมอยากให้คุณรู้ ว่าผมเฝ้ารอมาเนิ่นนานเพียงใดก่อนที่ซากุระจะบาน และก่อนที่หิมะจะตก
'ช่วงเวลาที่สวยงามของฉัน ก็เหมือนกับซากุระนั่นแหล่ะ'
'คุณไม่ได้สวยเฉพาะเดือนกุมภาหรอกน่า'
'ตาบ้า ฉันหมายถึง ผลิบานแล้วก็ร่วงโรย'
'และก็ตราตรึงในความทรงจำ' ผมจบประโยคและจ้องมองเธอในชุดกิโมโน
เราเคยเดินทางตามรอยของมัน เพราะกลัวว่ามันจะจางหายไปในชั่วอาทิตย์เดียวไล่ตั้งแต่ โอกินาวา คิวชู ฮอนชู โตเกียว ไปจบที่เดือนพฤษภา ฮอกไกโด
'ความอบอุ่นทำให้มันผลิบาน มันจึงเริ่มที่โอกินาวาก่อนนะ' แก้มเธอออกสีชมพูเปล่งปลั่ง นัยน์ตาเป้นประกายเมื่อเห็นมันผลิบาน
แต่ครานี้ ผมเพียงมาหยุดที่โตเกียว จ้องมองดูแม่น้ำไหลไปรวมกับอ่าวนั่นที่ซึ่งความทรงจำได้ซุกซ่อนอยู่ บัดนี้หิมะได้พาพัดมันกลับขึ้นมาใหม่ และความอบอุ่นที่เธอเคยบอกถึงการผลิบานก็จางไป
'พวกเรานี่ก็แปลกเนอะ ตอนเกิดใหม่ก็ไปทำบุญที่วัดในนิกายชินโตซักที่ พอโตมาแต่งงานดันชอบไปแต่งงานที่โบสถ์ แต่พอตายกลับไปทำบุญที่วัดในศาสนาพุทธ'
'ฉันอยากแต่งแบบชินโต และไม่จำเป็นต้องเป็นเดือนมิถุนา แบบที่เขาเชื่อกันด้วย เราจะแต่งเดือนกุมภานี่แหล่ะ ก่อนที่ซากุระจะร่วงโรย' เธอจ้องสายตามาที่ผม แน่วแน่ ไม่ลังเล ในดวงตาแฝงอาการไต่ถาม
'ผมไม่เชื่อเรื่องการแต่งงาน'
'ฉันรู้' เธอหลบสายตาผมหันไปมองที่ดอกซากุระ และผมว่าผมเห็นน้ำตา
----------------------------------------
ผมเดินออกจากงานแต่งของเธอ
หลังจากที่พิธีการ ฮาราอิ ด้วย น้ำมิโซกิได้จบลง พร้อมกับที่เธอจิบสาเกกับถ้วยสามใบ สามครั้ง วางมันลงพร้อมกันกับเจ้าบ่าว บางทีก็อาจจะบาปที่ผมภาวนาให้เธอและเจ้าบ่าว วางถ้วยลงไม่พร้อมเพรียงกัน
ผมรู้ว่าเธอมองมา ด้วยสายตานิ่ง ไร้ความรู้สึก และเย็นชามันเป็นช่วงเวลาที่งดงามและสวยที่สุด อย่างที่เธอเคยพูดไว้ และสำหรับเธอ มันจะไม่มีวันลบเลือนไปจากความทรงจำของผม
ต้นซากุระที่ริมน้ำเมะงุโระงะวะ บางต้นก็ต้านความยะเยือกของหิมะไม่ได้แต่บางต้นกลับยืนหยัดด้วยความแกร่ง แตกผลิใบ เพื่อยื้อห้วงเวลาที่จะเบ่งบาน งดงามตระการตา
'ไม่หนาวหรือ' เธอเคยถามผมในห้องที่คับแคบ
'ไม่หรอก' ผมโอบกอดเธอเข้ามาในอ้อมแขน จูบอย่างแผ่วเบา สูดดมกลิ่นกายของเธออย่างโหยหา
กลิ่นหอมจางๆบางอย่าง วนเวียนเข้ามาในสมอง เป็นกลิ่นคล้ายกับเจ้าดอกที่ช่วงเวลาเบ่งบานนั้นสั้นเหลือเกิน
ผมเชื่อว่าผมจะผ่านมันไปได้
เพราะสำหรับผม หิมะนั้นตกมาเป็นเวลานานแล้ว
คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.3 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.3 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.3 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ