กลั่นแกล้ง

9.7

เขียนโดย The_girl_sama

วันที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2557 เวลา 00.32 น.

  3 บท
  0 วิจารณ์
  7,067 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 15 มกราคม พ.ศ. 2557 00.09 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น

แชร์เรื่องสั้น Share Share Share

 

3) "จุดจบ"

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

     เมื่อพะเพลินและมีนาพักเที่ยง ทั้งสองไม่ได้คุยกันมากนัก พะเพลินมัวแต่หลบหน้ามีนา และมีนาเองไม่กล้าไปคุยเรื่องที่ตนสงสัยกับพะเพลิน

 

เย็นแล้วยังไม่ได้คุยเรื่องนั่นกับเพลินเลย.. มีนาได้แต่คิดในใจเพราะปากที่เรียวได้รูปไม่กล้าที่จะเอ่ยออกไป เธอกลัวพะเพลินจะไม่ยอมคุยด้วยและเลิกเป็นเพื่อนกับเธอ ใช่ว่ามีนาจะไม่เข้าใจเรื่องพวกนี้ เพราะเธอก็เคยเจอ..

 

เย็นวันนั้นมีนากำลังเดินออกจากโรงเรียน ด้วยความที่เธอซุ่มซ่ามหรือมองไม่เห็น มีนาสะดุดเข้ากับอะไรสักอย่างแล้วล้มหน้าขมำ ไม่มีใครช่วยเธอ.. ยกเว้น

 

'เป็นอะไรไหมมีนา มานี้ๆ' เพื่อนสาวผมยาวผิวซีดยื่นมือเรียวยาวที่เหมือนจะเห็นกระดูกได้ของเธอมาตรงหน้าของมีนา มีนามองมือนั่นพร้อมกับสลับมองใบหน้าขาวซีดของ 'ฝ้าย' ผู้หญิงที่ถูกขนานนามว่าเป็นผู้หญิงขี้โรค ไม่มีใครอยากอยู่ใกล้เธอ และเธอชอบโดนพวกรุ่นพี่และรุ่นเดียวกันรังแกอยู่บ่อยๆ

 

มีนาไม่อยากจะจับมือนั้น เธอจึงออกตัววิ่งเพื่อขึ้นรถสองแถวกลับบ้าน แต่พอมาถึงบ้าน มีนามานั่งนึกทวนดูใหม่อีกครั้งกับการกระทำของฝ้าย ดูฝ้ายก็ไม่ได้เลวร้ายเหมือนที่ทุกคนพูดนิ แถมยังดูน่าสงสารอีกตั้งหาก แล้วฉันไปหนีทำไมล่ะเนี้ยๆๆ มีนาตั้งหลักใหม่ว่าพรุ่งนี้จะไปทักทายฝ้ายแบบปกติให้ได้

 

เช้ารุ่งขึ้นมีนาเห็นฝ้ายเดินเข้าตัวอาคาร ตามทางเดินมีพวกรุ่นพี่ยืนออกันอยู่ มีนาชะโงกไปดูก่อนจะตกใจในภาพที่เกิดขึ้น

 

"กรี๊ด! ยัยเชื้อโรค น่าเกลียด ขยะแขยง! ถอยออกห่างฉันเดี๋ยวนี้ ยี้ๆ!" รุ่นพี่หลายคนวิ่งหนีออกจากตัวฝ้าย บางคนปาของใส่ และมีบางคนพ่นคำด่าเป็นชุด.. มีนาหยุดยืนมองอยู่หลังกำแพงเป็นนานสองนาน จนฝ้ายเดินลับเข้าตัวอาคารไปเธอถึงจะออกมา อะไรกัน ทำถึงขนาดนี้เลยหรอ.. ฝ้ายโดนแบบนี้ประจำเลยหรอ คิดได้แบบนั้นมีนาจึงหาทางตีสนิทกับฝ้าย และเธอก็ได้รู้ว่าฝ้ายเป็นคนใจดีมาก

 

แต่แล้วเย็นวันหนึ่ง ในขณะที่ฝ้ายและมีนากำลังจะเดินกลับบ้านด้วยกัน พวกรุ่นพี่ที่เอาแต่หนีและรังแกฝ้ายได้มายืนขัดตรงหน้าของทั้งสอง ก่อนที่เด็กสาวรุ่นพี่ในกลุ่มคนนึงจะเอ่ยปากขึ้น

 

"นังฝ้าย ยัยเชื้อโรค ฉันว่าแกไม่ควรจะอยู่โรงเรียนนี้อีกต่อไป" มีนาและฝ้ายมองหน้ากันก่อนจะหันไปสบตารุ่นพี่ที่กำลังจะพูดต่อ

 

"แกมันตัวนำเชื้อโรค เดี๋ยวเพื่อนแกก็เป็นไปด้วยอีกคน ประธานร.ร.บอกกับพวกฉันว่าให้นำตัวแกออกไป" จบประโยคนั่นฝ้ายเข่าอ่อนล้มลงต่อหน้าทุกคน ตาเบิกกว้างค้างของเธอทำให้มีนาตกใจกับสถานการณ์แบบนี้มาก ก่อนจะหันไปมีปากเสียงกับพวกรุ่นพี่

 

สักพักฝ้ายชักอยู่กับพื้นเสมือนโดนน้ำร้อนลวกทั่วร่าง ก่อนจะกระตุกครั้งสุดท้าย และลมหายใจของเธอก็ดับลงในที่สุด..

 

มีนาร้องไห้โฮด้วยความเสียใจ...

 

หมอสรุปเกี่ยวกับคดีนี้ว่า เป็นโรคหัวใจวาย..

 

พวกรุ่นพี่โดนไล่ออก..

 

และมีนาต้องเสียใจกับเหตุการณ์ครั้งนี้.. เมื่อเธอเห็นพะเพลินนั่งอยู่คนเดียวและไม่คุยกับเพื่อน ความทรงจำเรื่องฝ้ายก็ย้อนกลับเข้ามาในหัว ทำให้มีนาเดินเข้าไปทักพะเพลินด้วยความเป็นมิตร

 

มีนาสลัดความคิดไร้สาระออกจากหัวก่อนจะถอนหายใจตั้งหลัก สูดลมหายใจเข้าปอดเพื่อรับความมั่นใจเข้ามา แล้วปล่อยความทุกข์ที่ชอบฟุ่งซ่านออกทางลมหายใจ พรุ่งนี้ต้องไปคุยกับเพลินให้รู้เรื่อง! มีนาตั้งมั่นไว้ และวันรุ่งขึ้นก็มาเร็วเพียงแค่เธอหลับตาเข้าสู่ห้วงนิทรา

 

พะเพลินหมกตัวอยู่ในผ้าห่มลังเลใจว่าจะไปร.ร.ดีหรือไม่ แต่ถ้าเธอไม่ไป มีนาจะอยู่กับใคร? เพราะที่มีนาโดนจ้องจะเอาชีวิตแบบนี้ก็เป็นมาจากตัวของเธอเอง เพราะแบบนั่นพะเพลินคิดจะรับผิดชอบทุกอย่าง

 

เมื่อก้าวเท้าเข้าสู่โรงเรียน พะเพลินก็เห็นมีนาเดินเข้ามาเรื่อยๆ ก่อนจะเหลือบไปเห็นกานต์และเพื่อนๆของเธอมองจิกมาทางพะเพลิน จากที่จะเดินเข้าไปหามีนาแล้วเล่าทุกอย่างให้ฟัง พะเพลินกลับวิ่งหนีออกจากโรงเรียนไป ซึ่งมีนาต้องวิ่งตามมาด้วยแน่ๆ และพวกปีศาจ..

 

"หยุดเดี๋ยวนี้นังแว่น!!" กานต์วิ่งนำเพื่อนๆเพื่อจะตามพะเพลินให้มัน และเธอก็ทำสำเร็จ พะเพลินสะดุดล้ม หัวเข่าของเธอถลอกเข้ากับพื้น เสื้อผ้ามีคราบสีดำบนพื้นเคอะไปหมด กานต์กระชากผมของพะเพลินแล้วโขกเข้ากับพื้นซีเมนต์

 

"ฉันบอกแกแล้วไงว่าอย่าโผล่หน้ามาให้ฉันเห็น!!" พะเพลินใช้มือป้องกันหัวที่โดนกระแทกกับพื้น ทำให้นิ้วของเธอเริ่มเป็นแผลถลอก มีนาที่เพิ่งวิ่งมาไม่คิดที่จะลังเลอะไร เธอกระโดดเข้าไปชนกานต์ที่กำลังคร่อมพะเพลินอยู่ พวกเพื่อนๆของกานต์เข้ามาจับแยกกานต์และมีนาออก ก่อนที่เด็กผู้หญิงอีกคนจะเข้าไปจับล็อคมีนา

 

"นังเอ๋อ! แกกล้าดียังไงมาผลักฉัน!! ห้ะ! มีปากไว้ทำไม ฮื่อ!!" กานต์เดินเข้าไปตบปากของมีนาจนเลือดกบปาก พะเพลินเห็นเพื่อนตัวเองกำลังโดนทำร้าย เธอค่อยๆลุกขึ้นแล้วใช้แรงทั้งหมดที่มีดึงผมกานต์จนเจ้าหล่อนหน้าหงาย

 

"กรี๊ด!! หยุดนะยัยบ้า! กรี๊ดๆๆ!" กานต์กรี๊ดเสียงดังลั่น ทำให้พวกเด็กขี้ยาที่อยู่ในซอยเริ่มเดินออกมาดูสถานการณ์

 

"พวกเธอทำอะไรกันห้ะ หนวกหู" เด็กขี้ยาคนที่หนึ่งท่าทางนักเลงมีหมวกอยู่บนหัว ผมฟูๆ เดินเข้ามาห้ามทัพของสาวๆ

 

"ช่างหัวแกสิ! ฉันกำลังโมโหอยู่อย่ามายุ่งนะเว้ย!" กานต์ตะโกนด่าด้วยอารมณ์เดือด

 

"หนอย นังนี่ ..เป็นเด็กมาจากไหนว่ะ ปากร้ายฉิบ" ขี้ยาคนที่สองที่เหมือนกำลังจะเมายาอยู่เดินโซเซเข้าไปยืนข้างๆคนที่หนึ่ง

 

"แล้วพวกแกมายุ่งอะไรด้วยห้ะ!! ถ้านักเลงกันมากจับยัยพวกนั่นปล้ำแม่งทีดิ!!" กานต์ชี้นิ้วไปที่พะเพลินและมีนา ทั้งสองสะดุ้งตกใจแล้วกอดแขนกัน เนื้อตัวมอมแมมแถมยังมีคราบน้ำตาที่ไหลออกมาเพราะความเจ็บปวดเปื้อนหน้าเต็มไปหมด

 

"ไม่เอา ยัยพวกนั่นสกปรก.. ฉันอยากได้เธอมากกว่านะ คนสวย" นักเลงคนที่สองพูดจบก็เดินเข้าไปลากแขนของกานต์ทันที พวกเพื่อนๆของกานต์พากันตัวสั่นแล้ววิ่งหนีไป โดยไม่ช่วยกานต์ เสียงกรีดร้องของกานต์ดังโหยหวนออกมาจากในซอยมืด และอับชื้น ก่อนจะมีเสียงไซเรนช่วยชีวิตมาจอดข้างหน้าซอย

 

"นี้ตำรวจ! ได้รับแจ้งว่ามีการทำร้ายร่างกายกัน! ยอมให้พวกเราจำซะดีๆ!" ตำรวจทั้งหมดเข้าจับกุมพวกขี้ยาและช่วยเหลือกานต์ออกมาได้ พะเพลินยังคงสงสัยว่าพวกตำรวจมาได้ไงก่อนจะหันไปมองหน้าเพื่อนอย่างรู้ทัน หนอย.. ยัยมีนา เก่งนะเนี้ย

 

ทั้งสองถูกสอบปากคำ..

 

ตำรวจจับขี้ยาได้ทั้งหมด ในนั่นมี 'สกาย' แฟนเก่าของพะเพลินอยู่ด้วย..

 

ทั้งสองไปเยี่ยมกานต์ กานต์ขอบคุณและขอโทษในเวลาเดียวกัน ทั้งสามกลายเป็นเพื่อนสนิท..

 

ทุกคนในโรงเรียนตั้งให้พะเพลินและมีนาเป็นฮีโร่ประจำโรงเรียน..

 

ชีวิตม.ปลายของทั้งสองคนดีขึ้นเพียงชั่วข้ามคืน..

 

HAPPY ENDING.

 

 

แฮปปี้ทั้งคนแต่งและคนอ่านเลยนะค่ะ เพราะตอนนี้เราง่วงนอนมากเลย 555+

 

คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.3 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา