วันที่10เดือนกันยายน

7.3

เขียนโดย พี่หญิง

วันที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2556 เวลา 13.45 น.

  2 ตอน
  7 วิจารณ์
  7,364 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2556 19.10 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น

แชร์เรื่องสั้น Share Share Share

 

2) วันที่10เดือนกันยายน รักพ่อนะคะ

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
   -วันที่10เดือนกันยายน2013-
 
   กระเป๋าใบสีฟ้า่ขนาดใหญ่ถูกบรรทุกใส่หลังรถฮอนด้าซิตี้คันสีขาวป้ายแดง กระเป๋าขนาดเล็กที่ใส่ของใช้ส่วนตัว ถูกจัดไว้เป็นกระจุกรวมกันอยู่ข้างหน้าเบาะรถ
 
   ฉันรีบเปิดประตูฝั่งคนขับและออกสตาร์ทเครื่องยนต์ทันที ฉันบังคับให้รถออกทางซ้ายมือของหมู่บ้านจัดสรรแห่งนี้ซึ่งเป็นที่อยู่ของฉัน พอขับออกมาถึงทางแยกไฟจราจร ฉันก็นึกขึ้นได้ว่าลืมของสำคัญอย่างหนึ่งมาด้วย ฉันรีบหมุนตัวรถกลับทันที เมื่อมาถึงตัวบ้านจัดสรรของฉัน ฉันจอดรถไว้ข้างหน้ารั้วแคบๆของบ้าน ฉันดับเครื่องยนต์และก้าวออกมาข้างนอกรถ เดินไปเปิดประตูรั้ว และเดินเข้าไปภายในบริเวณบ้าน ฉันเสือกกุญแจใส่แม่กุญแประตูบ้านด้วยความรีบร้อนจนทำลูกกุญแจตก แต่ประตูถูกปลดล็อคออกมาแล้ว ฉันไม่สนใจที่จะก้มลงเก็บแต่รีบกุรีกุจอเข้าไปในตัวบ้าน ระหว่างที่ขึ้นบันไดเพื่อขึ้นไปชั้นบน ขาของฉันชนเข้ากับประตูห้องใต้บันได น้ำตาใหลพรากT.T แต่ด้วยความรีบ ฉันจึงไม่สนใจที่จะก้มมองดูหัวนิ้วแม่เท้าที่ตอนนี้กำลังปวดตุ๊บๆด้วยความเจ็บปวดอยู่ พอขึ้นมาถึงชั้นบน ฉันเลี้ยวซ้ายเปิดประตูทางซ้ายมือ เมื่อเข้ามาในห้องนอนของฉัน ฉันมองเห็นกล่องกระดาษที่ถูกห่อหุ้มด้วยกระดาษสาวางไว้บนเตียงนอน ฉันยิ้มก่อนที่จะเดินไปหยิบกล่องกระดาษสาขึ้นมาไว้ในอ้อมแขน และลงมาชั้นล่าง ฉันก้มเก็บลูกกุญแจที่ตอนเข้าไปในบ้านทำตกไว้ขึ้นมาล็อค และเดินออกไปนอกประตูรั้วบ้าน จัดการล็อคประตูรั้วบ้านด้วยโซ่กุญแจขนาดใหญ่ และเดินไปเปิดประตูหลังรถฮอนด้าซิตี้ ฉันจัดการวางกล่องกระดาษสาไว้เบาะหลังอย่างถนุถนอม จากนั้นฉันก็เดินไปทางฝั่งประตูของคนขับรถ และก้าวเข้าไปข้างในตัวรถ ฉันรีบออกสตาร์ทเครื่องยนต์ พอขับมาถึงสัญญาณไฟจราจร ปรากฏว่าไฟจราจรเป็นสีเขียว ฉันรีบบึ่งรถไปตามเส้นทางที่ฉันไม่ได้ขับผ่านนานเป็นเวลาเก้าปีแล้ว
 
   -1 ชั่วโมงต่อมา-
 
   ตอนนี้ฉันถึงที่หมายแล้วซึ่งฉันใช้เวลาในการเดินทางจากกรุงเทพฯมายังนครปฐมหนึ่งชั่วโมง ฉันขับตรงไปทางถนนสายแคบๆของหมู่บ้านจัดสรรแห่งนี้ ฉันเลี้ยวขวาตรงหัวมุมถังขยะสีฟ้า สีเหลือง สีเขียว ที่ทางเทศบาลได้นำมาจัดตั้งไว้ ฉันเลี้ยวขวาอีกหน จากนั้นก็ขับตรงไป เมื่อถึงทางเลี้ยวฉันหักพวงมาลัยรถให้เลี้ยวทางซ้าย จากนั้นก็ขับตรงมาเรื่อยๆ จนมาถึงหน้าบ้านจัดสรรหลังหนึ่ง
 
   มันคือบ้านจัดสรรที่ถูกทาสีขาวทั้งหลัง หลังคาเป็นสีแดง บริเวณบ้านจัดสรรหลังนี้พื้นที่แคบกว่าบ้านจัดสรรของฉันเล็กน้อย ประตูรั้วสีขาวหรือที่ถูกมันเคยเป็นสีขาวแต่ตอนนี้สีที่ทาได้หลุดลอกออกจากประตูรั้ว หน้าบ้านมีหญ้าที่ถูกดูแลอย่างสม่ำเสมอขึ้นตรงข้างๆรั้วข้างบ้าน และมีกระถ่างดอกไม้ มีทั้งดอกโป๊ยเซียน ดอกบานไม่รู้โรย ต้นลีลาวดี มีไม้กระดานวางไว้ข้างๆกระถ่างดอกไม้เหล่านี้
 
   ฉันดับเครื่องยนต์รถ เปิดประตูรถก้าวออกมาจากตัวรถ ในที่สุดฉันก็มาถึง "บ้าน" บ้านที่ทำให้ฉันอยู่แล้วมีความสุขที่สุด ถึงฉันจะไม่ได้มาเหยียบที่นี่นานแล้ว เนื่องจากว่าฉันดันสอบติดมหาวิทยาลัยฯที่กรุงเทพ พอจบการศึกษาฉันต้องหางานทำที่นั่น ถึงแม้ว่ากรุงเทพฯกับนครปฐมจะอยู่ใกล้กันแต่ฉันก็ไม่มีเวลาที่จะมาที่นี่บ่อยๆเพราะฉันต้องทำงาน เพื่อให้หน้าที่การงานของฉันมั่นคง และฉันเคยสัญญากับตัวเองว่าเมื่อไหร่ที่ฉันเก็บเงินซื้อรถยนต์ป้ายแดงได้แล้ว ฉันก็จะมาที่นี่ทันที
 
   ฉันยิ้มให้กับตัวบ้าน และเดินอ้อมหลังรถมากดกริ่งประตูรั้วบ้าน ประมาณไม่ถึงสิบวินาที ก็มีผู้ชายคนหนึ่งอายุห้าสิบกว่าๆเดินออกมา เขาสวมเสื้อยืดสีขาว กางเกงขายาวสีดำ ศีรษะเริ่มมีผมหงอกสีขาวประปรายอยู่รวมกับผมสีดำของเขา ใบหน้าเขาดูท่าทางเหนื่อยกับวัย แต่ก็ดูมีความสุขดี
 
   เขาเดินออกมาเปิดประตูรั้วบ้านให้
 
   เขายิ้มให้ฉัน ยิ้มที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงไป ไม่ว่าเวลาจะผ่านล่วงเลยนานแสนนาน รอยยิ้มนี้ก็ยังเหมือนเดิม ยิ้มที่ทำให้ฉันอบอุ่น ปลอดภัย เหมือนว่าไม่มีอันตรายใดๆมาทำร้ายฉันได้เมื่อได้มาอยู่กับชายผู้นี้
 
   ฉันโผเข้ากอดเขา ด้วยใจที่พร่ำร้องอยากเจอหน้ามาตั้งเก้าปี ใจที่คอยห่วงหาอาวรณ์ ในที่สุดวันนี้ก็มาถึง ฉันกลับมาที่นี่อีกครั้ง กลับมาที่ที่ปลอดภัยที่สุด และมีผู้ชายคนเดียวคนนี้ที่รักฉันอย่างใจจริง
 
   ชายคนนี้กอดตอบฉัน เขาตบหลังฉันเบาๆ ฉันรู้สึกได้ว่าชายคนนี้ถ่ายอนูของความรักที่เขามีต่อฉันมาให้ฉันได้รู้สึก กอดนี้เองที่ฉันคอยอยากจะได้รับมันอีกครั้ง ในที่สุดฉันก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป ฉันปล่อยโฮออกมา น้ำตาแห่งความรักความคิดถึงไหลออกมาเป็นสายทำให้บ่าของชายผู้นี้เปียกไปด้วยน้ำตาหยดใสๆ
 
   "พ่อ!!!" ฉันพูดกลั้วน้ำตา "น้องผิงคิดถึงเหลือเกิน น้องผิงอยากกลับมาหาคุณพ่อ อยากให้คุณพ่อเล่านิทานให้น้องผิงฟังเหมือนเดิม คิดถึงฝีมือทำอาหารของคุณพ่อ คิดถึงรอยยิ้มที่คุณพ่อมักจะยิ้มให้น้องผิงเสมอ คิดถึงอ้อมกอดที่คุณพ่อคอยปลอบน้องผิง น้องผิงคิดถึงคุณพ่อมาก"่้ ทุกสิ่งทุกอย่างในเวลาเก้าปีที่ีไม่ได้พบหน้าพ่อนั้นมันหลั่งไหลออกมาอย่างช้าๆ ไม่ใช่คำพูดแต่เป็นน้ำตา น้ำตาที่คอยกลั้นไว้เวลาที่คิดถึงพ่อขึ้นมา
 
   เหมือนว่าพ่อจะเข้าใจฉันดี พ่อลูบหลังฉันเบาๆ และกล่าวว่า
 
   "ไม่ร้องสิลูก" ท่านว่า "โตแล้ว ไม่ร้องไห้แล้วเดี๋ยวคนอื่นเห็นเข้าเดี๋ยวเขาจะหาว่าลูกขี้แยนะ ไม่เอาๆ ขี้แยจริงๆลูกคนนี้นี่ โตแล้วมาอ้อนพ่อคอยให้พ่อโอ๋เหมือนเดิมไม่ได้แล้วนะ"
 
   "ก็น้องผิงคิดถึงคุณพ่อนี่คะ" ฉันคลายอ้อมกอดจากพ่อ และปาดน้ำตาออกจากแก้มตัวเอง "น้องผิงคิดถึงคุณพ่อที่สุด น้องผิงเฝ้าคอยวันที่น้องผิงจะได้เจอคุณพ่ออีกครั้ง"
    พ่อยิ้ม^^
    พ่อไม่เคยร้องไห้เลย พ่อไม่ต้องการให้ฉันรู้ว่าท่านอ่อนแอ เวลาท่านจะร้องไห้ ท่านจะยิ้มออกมา เพื่อให้รอยยิ้มมันกลบความอ่อนแอเสมอ ตั้งแต่ที่แม่เสีย ฉันก็มีเพียงชายคนนี้ที่คอยดูแลฉันมาตลอด ทำหน้าที่แม่ได้อย่างสมบูรณ์ไม่มีที่ติ และฉันเชื่อว่าชายคนนี้จะเป็นผู้ชายคนสุดท้ายบนโลกนี้ที่ยอมเสียสละตัวเองเพื่อลูกสาวอย่างฉัน ไม่ว่าสิ่งนั้นจะทำให้เขาไม่มีความสุข แต่ถ้าฉันมีความสุข เขาหรือผู้ชายคนนี้ที่ฉันเรียกว่า "พ่อ" สามารถทำให้ฉันได้ทุกอย่าง
 
   วันที่10เดือนกันยายน มันคือวันเกิดของฉัน พ่อไม่เคยลืม พ่อจะทำให้วันนั้นเป็นวันที่ฉันมีความสุขที่สุด พ่อจะมีของขวัญมาให้ฉันเสมอ ถึงแม้ว่าฉันจะโตแค่ไหนแต่สายตาของพ่อ ฉันยังเป็นเด็ก เป็นนางฟ้าตัวน้อยๆสำหรับพ่อเสมอ
 
   วันที่10เดือนกันยายนปีนี้ ฉันจะเป็นฝ่ายทำให้พ่อบ้าง ถึงแม้ว่ามันจะเป็นวันเกิดของฉันก็ตาม แต่ครั้งนี้ฉันจะทำให้พ่อมีความสุขเหมือนที่พ่อเคยทำให้ฉัน แม้ว่าวันที่10เดือนกันยายนมันจะไม่ใช่วันที่5เดือนธันวาคมซึ่งเป็นวันพ่อ แต่ว่าฉันรักพ่อทุกวัน รักตั้งแต่วันที่1มกราคมจนถึง วันที่31ธันวาคม ฉันขอรักพ่อทุกวันและมากขึ้นทุกวัน แบบนี้ตลอดไป
 
   และฉันขอตั้งนิยามให้กับพ่อของฉัน ถึงแม้ว่าบุคคลอื่นจะตั้งนิยามของคำว่าพ่อแบบไหน แต่สำหรับฉัน คำนิยามของพ่อ คือ "ผู้เสียสละอย่างแท้จริง"
Don't The End.จบไม่บริบูรณ์
   ฉันลืมบอกไปว่าสิ่งที่อยู่ข้างในกล่องกระดาษสาที่ฉันเอาติดมาด้วยมันคืออะไร หวังว่าทุกคนคงจำ "อันอัน" ตุ๊กตาไหมพรมซึ่งเป็นของขวัญชิ้นแรกที่คุณพ่อซื้อให้ฉันได้นะ^^
 
I't Really The End.นี่สิ จบบริบูรณือย่างแท้จริง^^
 
   
 
   
   

 

คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
6.9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7.4 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7.6 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา