เรื่องเล่า ทุกวันที่ 16
10.0
เขียนโดย กุหลาบราตรี
วันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2556 เวลา 16.48 น.
4 part
4 วิจารณ์
9,226 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 2 มกราคม พ.ศ. 2557 17.35 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น
2) จดหมายลูกโซ่
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ มิกกา หญิงสาววัยสิบเก้าปีสอบติดคณะแพทย์ศาสตร์ม.จุฬา ตลอดเวลาที่ผ่ามาเธอเป็นเด็กเรียนดีมาตลอด ทางบ้านมีฐานะดีมากๆ หลายคนต่างก็อิจฉาในความเพียบพร้อมของหญิงสาวคนนี้ มีชายหนุ่มหลายคนที่เข้ามาจีบเธอ แต่เธอก็ไม่สนใจเลยสักนิดเพราะเมื่อก่อนเธอเคยทิ้งจึงทำให้เกลียดความรัก จนกระทั่งในเฟสบุ๊ค....
'ความรักจะสดใส พบเนื้อคู่ภายในเจ็ดวัน หากส่งจดหมายให้กับคนหนึ่งพันคนเมื่อส่งครบจะพบกับความสุขความเจริญแต่ถ้าหากผู้ใดไม่ทำตามจะพบกับหายนะ ความวิบัติ ฉิบหายในชีวิตไม่มีความสุข ตกอับ ถึงแก่ความตายภายในสามวันเจ็ดวัน'
ด้วยความที่มิกกาไม่เคยเชื่อเรื่องพวกนี้เลยทำให้เธอไม่ยอมทำตามเพราะคิดว่าเป็นเพียงจดหมายลูกโซ่ธรรมดาทั่วไป หรือไม่ก็มีคนส่งมาแกล้งเล่นสนุกๆ มากกว่า
"แกไม่ทำตามเหรอ"
"ไม่ทำหรอก งมงายมากกว่า ส่งมาแกล้งกันมากกว่าถ้ารู้ว่าเป็นใครนะจะแจ้งตำรวจจับซะให้เข็ดเลย" มิกกาพูดกับเพื่อนอย่างไม่สบอารมณ์
"ตามใจ ถ้าเกิดอะไรขึ้นจะรู้สึก"
"แกก็อย่างมงายนักเลยไม่มีอะไรเกิดขึ้นหรอก" มิกกาพูดอย่างขอไปที
หลังจากนั้นเจ็ดวัน...
รถที่มิกกาขับมาน้ำมันหมดทำให้ต้องจอดข้างทางในซอยเปลี่ยวแต่ก็ไม่กล้าลงจากรถ ผ่านสองสามชั่วโมงก็มีก้อนหินที่ถูกขว้างมาจากไหนก็ไม่รู้กระเด็นเข้ามารถของเธอ ด้วยความกลัวเธอรีบวิ่งออกจากรถ...
จะวิ่งไปไกลสักเท่าไหร่เธอก็รู้สึกว่าวิ่งวนกลับมาที่เดิมอยู่เสมอ จนกระทั่งหมดแรงจึงหยุดวิ่ง ช่วงนั้นมารถผ่านมาพอดีแต่ก็ไม่ได้จอดรับเธอเลย ทุกคันที่ผ่านมาจะขับผ่านเธอไปเสมอเหมือนกับว่าพวกเขาไม่เห็นเธออยู่ตรงนั้นเลย
"อะไรเนี่ย...ไม่มีน้ำใจเลยหรือไง" เธอพูดอย่างไม่สบอารมณ์
บรู๋ววววว!!!
"จะมาหอนทำไมตอนนี้"
มิกกาคิดในใจว่าไหนๆ ก็กลับมาที่เดิมแล้วก็ตัดสินใจหยิบโทรศัพท์ที่อยู่ในรถมาโทรหาเพื่อน แต่โทรไปก็ไม่มีใครรับ ถึงจะมีคนรับก็ไม่มีใครได้ยินเสียงเธอเลย
"เป็นอะไรกันไปหมดเนี่ย"
มิกกาตัดสินใจกลับเข้ามานั่งในรถและคิดเพียงว่ากำลังมีคนเล่นตลกอยู่แน่ๆ เธอโทรกลับไปที่บ้านแต่ก็ไม่มีใครรับสายเลยสักคน
ตู๊ดดดด~ ตู๊ดดดด~
"ให้มันได้อย่างนี้สิ" เธอพูดอย่างไม่สบอารมณ์และขว้างโทรศัพท์ไปที่เบาะหลัง
ด้วยความที่ไม่มีอะไรทำก็คิดอยากอ่านหนังสือจึงหยิบแว่นตาแต่สายตามองไปเห็นว่าในกระจกมีเด็กนั่งอยู่เบาะหลังพอหันกลับไปดูก็ไม่เห็นมีใคร แต่ที่น่าแปลกมากกว่านั้นคือโทรศัพท์ที่น่าจะอยู่เบาะหลังตอนนี้มาอยู่ที่เบาะข้างคนขับแล้ว
อยู่ๆ ก็มีเสียงแจ้งเตือนในเฟสบุ๊คดังขึ้น เธอกล้าๆ กลัวๆ ที่จะหยิบขึ้นมาดู แต่ในนั้นก็มีแค่จดหมายลูกโซ่ที่เคยส่งมาปรากฏอยู่
'ความรักจะสดใส พบเนื้อคู่ภายในเจ็ดวัน หากส่งจดหมายให้กับคนหนึ่งพันคนเมื่อส่งครบจะพบกับความสุขความเจริญแต่ถ้าหากผู้ใดไม่ทำตามจะพบกับหายนะ ความวิบัติ ฉิบหายในชีวิตไม่มีความสุข ตกอับ ถึงแก่ความตายภายในสามวันเจ็ดวัน
ส่งเดี๋ยวนี้'
น่าแปลกมากเพราะตอนแรกที่ได้อ่านมิกกาไม่เห็นคำว่า 'ส่งเดี๋ยวนี้' ต่อท้ายข้อความเลยหรือว่านี่เป็นทางเลือกสุดท้ายของเธอ
"ส่งก็ส่ง"
ว่าแล้วมิกกาก็กดส่งข้อความลูกโซ่ไปให้คนในเฟสบุ๊คเกือบทุกคน แต่ตอนนี้ก็ยังไม่ถึงพันคนเลย แต่ก็ต้องพยายามต่อไปเพราะเกิดกลัวคำขู่ในจดหมาย
ผ่านไปหลายชั่วโมงแล้วท้องฟ้าเริ่มสว่าง บนถนนที่ดูเปลี่ยวเป็นสภาพเป็นถนนที่รถติดมากๆ มิกกาที่เผลอหลับไปตื่นขึ้นมาด้วยความตกใจเพราะจำได้ว่าถนนที่น้ำมันหมดตอนนั้นไม่ใช่ที่นี่แน่นอน แต่ก็ทำให้ได้รู้สึกถึงคำว่า 'ไม่เชื่ออย่าลบหลู่'
"เป็นไงเรื่องของฉัน" เอมมี่เล่าจบก็พูดขัดจังหวะเพื่อนๆ ที่กำลังอินกับเนื้อเรื่องจนสะดุ้งกันเป็นแถบ
"ก็ดี" นัทเพื่อนที่นั่งข้างๆ บอก
"ว่าแต่ วิสาไม่มาเล่าเรื่องกับพวกเราสองครั้งแล้วนะ" ชนมี่พูดอย่างแปลกใจ
"คงไม่มีเรื่องมาเล่านั่นแหละ เอาล่ะคนต่อไปคือแก หนูแดง"
เรื่องสั้นแต่งขึ้นเพื่อความบันเทิง คนและสถานที่ที่กล่าวมาไม่มีอยู่จริง
'ความรักจะสดใส พบเนื้อคู่ภายในเจ็ดวัน หากส่งจดหมายให้กับคนหนึ่งพันคนเมื่อส่งครบจะพบกับความสุขความเจริญแต่ถ้าหากผู้ใดไม่ทำตามจะพบกับหายนะ ความวิบัติ ฉิบหายในชีวิตไม่มีความสุข ตกอับ ถึงแก่ความตายภายในสามวันเจ็ดวัน'
ด้วยความที่มิกกาไม่เคยเชื่อเรื่องพวกนี้เลยทำให้เธอไม่ยอมทำตามเพราะคิดว่าเป็นเพียงจดหมายลูกโซ่ธรรมดาทั่วไป หรือไม่ก็มีคนส่งมาแกล้งเล่นสนุกๆ มากกว่า
"แกไม่ทำตามเหรอ"
"ไม่ทำหรอก งมงายมากกว่า ส่งมาแกล้งกันมากกว่าถ้ารู้ว่าเป็นใครนะจะแจ้งตำรวจจับซะให้เข็ดเลย" มิกกาพูดกับเพื่อนอย่างไม่สบอารมณ์
"ตามใจ ถ้าเกิดอะไรขึ้นจะรู้สึก"
"แกก็อย่างมงายนักเลยไม่มีอะไรเกิดขึ้นหรอก" มิกกาพูดอย่างขอไปที
หลังจากนั้นเจ็ดวัน...
รถที่มิกกาขับมาน้ำมันหมดทำให้ต้องจอดข้างทางในซอยเปลี่ยวแต่ก็ไม่กล้าลงจากรถ ผ่านสองสามชั่วโมงก็มีก้อนหินที่ถูกขว้างมาจากไหนก็ไม่รู้กระเด็นเข้ามารถของเธอ ด้วยความกลัวเธอรีบวิ่งออกจากรถ...
จะวิ่งไปไกลสักเท่าไหร่เธอก็รู้สึกว่าวิ่งวนกลับมาที่เดิมอยู่เสมอ จนกระทั่งหมดแรงจึงหยุดวิ่ง ช่วงนั้นมารถผ่านมาพอดีแต่ก็ไม่ได้จอดรับเธอเลย ทุกคันที่ผ่านมาจะขับผ่านเธอไปเสมอเหมือนกับว่าพวกเขาไม่เห็นเธออยู่ตรงนั้นเลย
"อะไรเนี่ย...ไม่มีน้ำใจเลยหรือไง" เธอพูดอย่างไม่สบอารมณ์
บรู๋ววววว!!!
"จะมาหอนทำไมตอนนี้"
มิกกาคิดในใจว่าไหนๆ ก็กลับมาที่เดิมแล้วก็ตัดสินใจหยิบโทรศัพท์ที่อยู่ในรถมาโทรหาเพื่อน แต่โทรไปก็ไม่มีใครรับ ถึงจะมีคนรับก็ไม่มีใครได้ยินเสียงเธอเลย
"เป็นอะไรกันไปหมดเนี่ย"
มิกกาตัดสินใจกลับเข้ามานั่งในรถและคิดเพียงว่ากำลังมีคนเล่นตลกอยู่แน่ๆ เธอโทรกลับไปที่บ้านแต่ก็ไม่มีใครรับสายเลยสักคน
ตู๊ดดดด~ ตู๊ดดดด~
"ให้มันได้อย่างนี้สิ" เธอพูดอย่างไม่สบอารมณ์และขว้างโทรศัพท์ไปที่เบาะหลัง
ด้วยความที่ไม่มีอะไรทำก็คิดอยากอ่านหนังสือจึงหยิบแว่นตาแต่สายตามองไปเห็นว่าในกระจกมีเด็กนั่งอยู่เบาะหลังพอหันกลับไปดูก็ไม่เห็นมีใคร แต่ที่น่าแปลกมากกว่านั้นคือโทรศัพท์ที่น่าจะอยู่เบาะหลังตอนนี้มาอยู่ที่เบาะข้างคนขับแล้ว
อยู่ๆ ก็มีเสียงแจ้งเตือนในเฟสบุ๊คดังขึ้น เธอกล้าๆ กลัวๆ ที่จะหยิบขึ้นมาดู แต่ในนั้นก็มีแค่จดหมายลูกโซ่ที่เคยส่งมาปรากฏอยู่
'ความรักจะสดใส พบเนื้อคู่ภายในเจ็ดวัน หากส่งจดหมายให้กับคนหนึ่งพันคนเมื่อส่งครบจะพบกับความสุขความเจริญแต่ถ้าหากผู้ใดไม่ทำตามจะพบกับหายนะ ความวิบัติ ฉิบหายในชีวิตไม่มีความสุข ตกอับ ถึงแก่ความตายภายในสามวันเจ็ดวัน
ส่งเดี๋ยวนี้'
น่าแปลกมากเพราะตอนแรกที่ได้อ่านมิกกาไม่เห็นคำว่า 'ส่งเดี๋ยวนี้' ต่อท้ายข้อความเลยหรือว่านี่เป็นทางเลือกสุดท้ายของเธอ
"ส่งก็ส่ง"
ว่าแล้วมิกกาก็กดส่งข้อความลูกโซ่ไปให้คนในเฟสบุ๊คเกือบทุกคน แต่ตอนนี้ก็ยังไม่ถึงพันคนเลย แต่ก็ต้องพยายามต่อไปเพราะเกิดกลัวคำขู่ในจดหมาย
ผ่านไปหลายชั่วโมงแล้วท้องฟ้าเริ่มสว่าง บนถนนที่ดูเปลี่ยวเป็นสภาพเป็นถนนที่รถติดมากๆ มิกกาที่เผลอหลับไปตื่นขึ้นมาด้วยความตกใจเพราะจำได้ว่าถนนที่น้ำมันหมดตอนนั้นไม่ใช่ที่นี่แน่นอน แต่ก็ทำให้ได้รู้สึกถึงคำว่า 'ไม่เชื่ออย่าลบหลู่'
"เป็นไงเรื่องของฉัน" เอมมี่เล่าจบก็พูดขัดจังหวะเพื่อนๆ ที่กำลังอินกับเนื้อเรื่องจนสะดุ้งกันเป็นแถบ
"ก็ดี" นัทเพื่อนที่นั่งข้างๆ บอก
"ว่าแต่ วิสาไม่มาเล่าเรื่องกับพวกเราสองครั้งแล้วนะ" ชนมี่พูดอย่างแปลกใจ
"คงไม่มีเรื่องมาเล่านั่นแหละ เอาล่ะคนต่อไปคือแก หนูแดง"
เรื่องสั้นแต่งขึ้นเพื่อความบันเทิง คนและสถานที่ที่กล่าวมาไม่มีอยู่จริง
คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ