Dandelion(แดนดิไลออน) คืนฝันวันล่าจินตนาการ
เขียนโดย มะมาย
วันที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2556 เวลา 15.58 น.
แก้ไขเมื่อ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2556 19.14 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น
15) คำบอกเล่าเรื่องสงครามความขัดแย้ง
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความกลีบดอกไม้ขยับเปิดออกให้เราเข้าไปข้างใน
“บลูม่า!” โซเนียกอดอกเรียกให้บลูม่าที่หลบอยู่ออกมา
“เจ้าจะออกมาดีๆหรือจะให้ข้าเป็นคนจับเจ้าออกมาและนำเจ้าไปคืนสู่ธรรมชาติ!”
บลูม่าเลือกข้อแรก เขาไม่ต้องการกลับไปเป็นแมลงเต่าทองธรรมดาๆอีก
“ข้าสั่งให้เจ้าเฝ้านางไว้ไม่ใช่รึ”
บลูม่าหลุบตาต่ำลงเมื่อโดนโซเนียจ้อง
“แล้วทำไมเจ้าถึงปล่อยให้นางหนีออกไปได้!” โซเนียตวาด
“พอเถอะโซเนีย” ฉันปรามเอาไว้
“มันเป็นความผิดของฉันเอง อย่าโทษบลูม่าเลย” ฉันส่งสัญญาณให้บลูม่ารีบออกไปก่อนที่เรื่องจะบานปลาย
โซเนียพ่นลมหายใจ หย่อนก้นนั่งลงบนเตียงดอกไม้ “ไหนว่ามา เจ้าสงสัยอะไร” โซเนียเอ่ยขึ้น
ว่าแล้วฉันจึงเริ่มถามคำถาม “ทำไมเธอถึงห้ามไม่ให้ฉันข้ามไปอีกฝั่งของแม่น้ำล่ะ”
“มันเป็นกฎต้องห้าม” เธอบอก
“เมื่อก่อนพวกเราชาวเฮริบเบิ้ลสามารถไปมาหาสู่กันได้อย่างมีเสรี แต่ต่อมาเกิดสงครามความขัดแย้งขึ้นในหมู่ชนชั้นปกครอง มีการแบ่งฝักแบ่งฝ่ายจนในที่สุดก็นำมาสู่สงคราม” เธอเล่าด้วยแววตาเศร้า
“ฉันว่ามันเกี่ยวกับดราฟรินแน่ๆ”
“ใช่ ดราฟลินคือกลุ่มคนที่เห็นต่างจากกฎประเพณีเดิม พวกเขาต่อต้านองค์ฟลาว เขาบอกวว่ามันหมดเวลาของเธอแล้ว”
“องค์ฟลาวงั้นหรอ?” ฉันสงสัย
“พวกเราชาวเฮริบเบิ้ลเคารพและบูชาเธอมายาวนาน มันเป็นประเพณีที่สืบทอดกันมาจากบรรพบุรุษ ซึ่งเฮริบเบิ้นส่วนมายังยึดข้อนี้แต่นั่นไม่ใช่กับพวกดราฟริน”
“เธอกำลังหมายถึงคนที่อาศัยอยู่อีกฝั่งของแม่น้ำใช่ไหม” ฉันเข้าใจแบบนั้น
“ใช่เอลิซ่า ในเมื่อเจ้าคือเฮริบเบิ้ลฉะนั้นเจ้าห้ามเฉียดข้ามไปที่นั่นแม้แต่นิดเดียวไม่งั้น…” โซเนียเว้นวรรค
“เจ้าอาจถึงตาย”
“ตายเลยหรอ!” ฉันสะดุ้ง
โซเนียผงกศีรษะลงเล็กน้อย “ทั้งที่เมื่อก่อนเฮริบเบิ้ลรักลัสามัคคีกันมาก แต่นั่นก็เป็นเพียงความทรงจำสวยงามในอดีตเท่านั้น”
“ดราฟรินไม่เชื่อมั่นในองค์ฟลาว แล้วพวกเขาเชื่อถือสิ่งใดล่ะ?” ฉันกล่าวอย่างครุ่นคิด
“พวกหมี” โซเนียตอบแล้วกล่าวต่อ
“ดราฟรินบูชาหมี พวกเขาคิดว่าความน่าเกรงขามของมันจะสร้างให้ดราฟรินยิ่งใหญ่”
“แต่ฉันเกลียดหมี” ฉันโพล่งออกมา
“อย่าพูดคำนี้ให้พวกดราฟรินได้ยินเชียวล่ะ” โซเนียเตือนอย่างขำๆ
ค่ำแล้วและจนป่านนี้บลูม่าก็ยังไม่กลับมา ฉันเลยชักเป็นห่วง
“โซเนียฉันว่าบลูม่าต้องโกรธเราแน่” ฉันว่าอย่างเป็นกังวล
“อย่าสนใจเลย เจ้านั่นงอนข้าได้ไม่นานนักหรอก” ว่าพลางล้มตัวลงนอนบนเตียงดอกไม้ซึ่งมีกลิ่นหอม
“เชื่อข้าเถอะเอลิซ่า เดี๋ยวบลูม่าก็กลับมาเอง เจ้านั่นน่ะขาดเตียงดอกไม่ได้หรอก” โซเนียทำราวกลับทุกอย่างเป็นเรื่องปกติ
พูดไม่ทันขาดคำ กลีบใบไม้ก็เปิดออกและบลูม่าก็บินเข้ามาแต่ไม่แม้แต่จะสบตาเราสองคน มันบินตรงไปยังเตียงนอนที่ประจำในทันที
“เจ้าเองก็นอนพักได้แล้ว” โซเนียลืมตาขึ้นเล็กน้อย
“และไม่ต้องคิดหนีไปไหนล่ะรู้ไหม เพราะดอกไม้นี้จะเปิดอีกทีก็ยามเช้า” เธอบอกด้วยน้ำเสียงงัวเงีย
“กาเลต” สิ้นเสียงกลีบดอกไม้ก็ทิ้งตัวลงห่มบนร่างของโซเนียอย่างนุ่มนวล
ฉันกลับไปนอนที่เตียงดอกไม้ของตัวเองอย่างเงียบๆ ฉันนอนไม่หลับคงเป็นเพราะแปลกที่และขาดเสียงกล่อมจาดเบรนด้า ฉันลุกขึ้นนั่งกอดเข่าด้วยจิตใจที่ไม่เป็นสุขนัก
“นอนไม่หลับหรอสาวน้อย” เสียงหวานใสกล่าวอย่างไม่ดังมากนัก
ทีแรกฉันหันไปหาทางโซเนียนึกว่าเธอเป็นคนเรียกเสียอีกทว่าเธอกลับยังนอนหลับตาพริ้มอยู่ ส่วนบลูม่าเจ้านั่นก็พูดไม่ได้ ฉันมองจนทั่วห้องเพื่อตามหาที่มาของเสียง เมื่อไม่พบใครก็แน่ใจแล้วว่าผู้เป็นเจ้าของเสียงคงเป็น
“นั่นคุณหรอกาเลต คุณคือดอกไม้ดอกนี้” กาเลตหัวเราะเบาๆ
“ใช่ มาเถอะออกมาด้านนอกเร็ว”
เธอบอกพร้อมกับใช้กลีบของเธอดันไหล่ของฉันอีกแรง
“เบาๆล่ะเดี๋ยวโซเนียตื่น” กาเลตกระซิบ
เธอแง้มกลีบดอกไม้ให้เปิดออกอย่างระแวดระวังเพื่อให้เกิดเสียงที่น้อยที่สุด เธอยื่นส่วนที่เป็นใบมารองรับฉัน
“ขึ้นมาเลยสาวน้อย” กาเลตให้ฉันนั่งบนใบที่ม้วนยาวของเธอ
“กาเลตคุณไม่กลัวหนูหนีไปอีกหรอ”
“ไม่หรอกสาวน้อย เธอไม่ได้คิดหนีหรอกจริงไหม ฉันสัมผัสได้” กาเลตกล่าวด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล
“แต่เธอกำลังคิดถึงใครคนหนึ่งอยู่ตั้งหาก” กาเลตหยุดคิดแล้วพูดต่อ
“ผู้หญิงผมยาวที่สวมมงกุฎไว้รอบศีรษะ”
เธอบอกซึ่งมันตรงกับความเป็นจริงซะด้วยเพราะว่าฉันกำลังคิดถึงเบรนดาอยู่
“วิเศษไปเลยกาเลต คุณเป็นดอกไม้ที่อ่านความรู้สึกได้” ฉันยิ้ม
“เธอเธอก็คิดถึงหมีด้วยใช่หรือเปล่า”
ฉันพ่นลมหายใจ “พี่ชายของฉันถูกหมีตัวนั้นจับตัวไป กาเลต มันเป็นความทรงจำอันเลวร้าย” ฉันตอบเสียงค่อย
“เธอช่างน่าสงสาร” กาเลตโอบฉันด้วยใบที่ม้วนยาวของเธอพลางว่า
“อย่าเศร้าไปเลยสาวน้อย องค์ฟลาวจะคุ้มครองพวกเราเฮริบเบิ้ลทุกคน” กาเลตปลอบโยน
“โซเนียเล่าให้หนูฟังเกี่ยวกับองค์ฟลาวว่า เฮริบเบิ้ลทุกคนเคารพเธอ” ฉันเล่าแล้วเอามือปิดปากหาวแล้วกล่าวมถามต่อไป
“เธอดีไหมกาเลต”
ฉันถามเสียงสั่น อากาศข้างนอกเย็นยะเยือก
“เธอคงกำลังหนาวอยู่ มาสิ ขยับเข้ามาในนี้”
กาเลตคลี่ใบที่ม้วนยาวของเธอเพื่อรับฉันเข้าไปข้างในนั้นเสมือนเป็นผ้าห่มผืนหนาแสนอบอุ่น
“ถึงไหนแล้ว” กาเลตคิดอยู่แวบหนึ่งแล้วก็นึกออก
“อ้อ! ดีสิเธออ่อนโยนโยน งดงาม และมีจิตใจที่บริสุทธิ์”
“หนูไปพบเธอได้ไหม บางทีหนูอาจขอให้เธอช่วยพูดกับหมีตัวนั้น” ฉันสะบัดหน้าไล่ความมึนงง
“โอ้ ไม่ได้หรอกสาวน้อย”
“ทำไมล่ะกาเลต ไหนคุณบอกว่าเธอจะคุ้มครองเฮริบเบิ้ลทุกคน”
“องค์ฟลาวต้องอยากช่วยเธอแน่สาวน้อย เพียงแต่…” กาเลตเศร้า
“ไม่มีใครพบเห็นเธออีกนับจากสงครามที่เนิ่นนานมาแล้ว”
“สงครา…ม..”
ฉันบอกด้วยน้ำเสียงงัวเงีย ยังมีคำถามอีกมากมายทว่าฉันดันผล็อยหลับไปภายใต้อ้อมกอดใบไม้อันอบอุ่นของกาเลตซะก่อน
คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ