รอยต่อของชีวิต
7.3
เขียนโดย เล็กน้อย
วันที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2556 เวลา 13.29 น.
4 ตอน
2 วิจารณ์
8,298 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 9 กันยายน พ.ศ. 2556 14.13 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น
3)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความเมื่อธนาณัติส่งมาถึง มือผู้เป็นแม่.....
น้ำตาของแม่ เริ่มไหลรินทีละน้อย เขานึกน้อยใจ ที่ลูกสาวไม่ยอมกลับมาหาเขา น้อยใจที่ไม่ยอมพูดคุย หรือแม้น
แต่ จดหมายมาหาเขาเลย แต่วันนี้.... ผู้เป็นแม่ หยิบธนาณัติขึ้นกอดไว้กับอก เขาดีใจอย่างสุดซึ้ง ไม่ใช่เพราะเงิน
ที่เธอส่งมาให้หรอกนะ แต่...ความสำคัญมันอยู่ตรงที่ เธอติดต่อกลับมาแล้ว และเธอไม่ลำบาก อย่างที่เขาคิดมา
ตลอดเกือบปี ถึงแม้นพี่ชายจะบอกว่า "ปิคมันสบายดี แม่ไม่ต้องเป็นห่วง ถึงเวลาเดี๋ยวมันก็กลับมาเอง มันโตแล้ว
ต้องผู้ัจักรับผิดชอบในสิ่งที่มันกระทำลงไป"
แม่เห็นที่อยู่ ที่ระบุถึงผู้ส่งทำให้เขารู้ว่า ลูกสาวอยู่ที่ระยอง ตรงไหนของระยองนะ เขาคิด
"นี่ แกรู้ไหม ว่าปิคมันอยู่ตรงไหนของระยอง" แม่หันไปถามพี่ชายของปิค
"ไม่รู้สิ มันไม่ได้บอก คุยกันก็ไม่บอกเสียที มันคงสบายดีอยู่หรอกแม่ ไม่งั้นมันจะเก็บเงินส่งมาให้แม่ได้หรือ"
"เออ แม่รู้ แต่แม่อยากเจอมัน"
"แม่อยากคุยกับมันไหมล่ะ" ลูกชายพูดยิ้มๆ กับแม่ เพราะพี่ชายก็อดสงสารแม่ไม่ได้ ถ้าน้องไม่ติดต่อกลับมา แม่ก็
จะไม่ค่อยเท่าไหร่ แต่นี่ในเมื่อน้องติดต่อกลับมา ทำให้ผู้เป็นแม่ คิดถึงลูกสาวของแกอีก
"จริงเหรอ ปิคมันยอมคุยกับแม่ไหมล่ะ"
"ก็คงยอมล่ะ รองมันติดต่อกลับมาแล้ว มันก็เริ่มคิดได้แล้วมั๊ง"
"ลองดูสิ แม่อยากคุยกับน้อง" น้ำเสียงแม่เริ่มสั่นเครือ
พี่ชายหยิบมือถือ กดหาน้องสาว
"ฮัลโหล" เสียงปลายทางรับ
"ปิด" เสียงแม่พูด สั่นเครือ
"แม่....." ฉันอึ้งเล็กน้อย แล้วน้ำตาฉันก็ไหล เสียงสั่น
"แม่จ่า....หนูขอโทษ หนูขอโทษ" เสียงสะอื้นของฉัน เริ่มมากขึ้น จนผู้เป็นแม่ อดร้องไห้ตามลูกสาวไปด้วย
ไม่ได้
"ปิด อย่าร้องไห้ ลูกสบายดีไหม แม่คิดถึงหนูมากนะ" แม่พูดเสียงสั่น
"หนูสบายดีค่ะ แม่.... แม่ได้รับธนาณัติแล้วใช่ไหม แม่เก็บไว้นะ" ฉันบอกผู้เป็นแม่
"แล้ว หนูล่ะ พอใช้อยู่เหรอ เมื่อไหร่จะกลับบ้านเรา กลับบ้านเราเถอะ" แม่พูดกับลูกสาวด้วยน้ำเสียงที่เป็นห่วง
ที่สุด และมันส่งความรู้สึกถึงผู้เป็นลูกได้ดี เพราะฉันรับรู้ได้ถึงความห่วงใยที่แม่มีให้ น้ำตาฉันเริ่มไหลอาบแก้ม
พูดด้วยน้ำเสียสั่นๆ
"แม่...หนูจะกลับค่ะ หนูขอลางานที่ร้านก่อนนะคะ ทุกคนที่นี้รักหนูทุกคน แม่ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ หนูรักแม่ ค่ะ"
"แม่ก็รักหนูนะ แม่จะรอนะ"
แล้วทั้งคู่ก็วางสายลง ต่างคนต่างมีรอยยิ้มในใบหน้าเกิดขึ้น
ผู้เป็นแม่ ดีใจ ที่ลูกสาวจะได้กลับคืนมาในอ้อมอกแล้ว
ส่วนฉัน ดีใจที่แม่ ให้อภัยในสิ่งที่ฉันได้กระทำไปในครั้งอดีต
"หนูปิค ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ มีอะไรเหรอลูก" น้าใจถาม เมื่อเห็นผู้ช่วยอารมณ์ดี
"ค่ะ หนูดีใจที่สุด ตั้งแต่หนูมาอยู่ที่นี่ วันนี้เป็นวันที่หนูมีความสุขที่สุด และเหมือนยกภูเขาออกจากอก ที่มันเก็บไว้
นานค่ะ น้าใจ"
น้าใจ งง กับคำพูดของฉัน แต่น้าใจซึ่งเป็นผู้ใหญ่ ก็พอจะเข้าใจ ว่า การที่เด็กผู้หญิงคนหนึ่งมาใช้ชีวิตอยู่ตาม
ลำพังคนเดียว ต้องมีสาเหตุใดสาเหตุหนึ่งอยู่แล้ว แต่พวกเขาไม่เคยถาม หรือละลาบละล้วงฉัน ได้แต่คอยดู
และตักเตือนเรื่องการใช้ชีวิตคนเดียว และคอยดูแล เปรียบเสมือนลูกหลานตัวเอง ซึ่งฉันเองก็รู้ดี และฉันเองก็
นับถือทุกคนที่นี่ ดุจญาติมิตร ที่เคารพอยู่เสมอ
"น้าใจค่ะ หนูอยากลางาน สักสอง สามวัน คุณไฮร์ จะให้หนูลาหรือเปล่าค่ะ"
"ให้สิ ตั้งแต่หนูมา ยังไม่เคยทำให้ร้านเสียหายนี่ หนูเป็นเด็กดี คุณไฮร์ยังชมหนูให้น้าฟังเลย จะกลับบ้านใช่ไหม"
น้าใจถามเหมือนรู้ ทำให้ฉันยิ้มกว้าง..."ค่ะ น้าใจ"
"งั้น น้าจะบอกคุณไฮร์ให้นะ จะไปวันไหนล่ะลูก"
"อาทิตย์หน้าค่ะ"
"ฮืม เตรียมของฝากที่บ้านได้เลย" น้าใจพูดอย่างอารมณ์ดี เมื่อเห็นรอยยิ้ม และดวงตาที่ประกายอย่างมีความสุข
ของเด็กสาวที่อยู่ตรงหน้า
ฉัน โชคดี ที่เลือกมาที่นี่ ที่ผู้คนรอบข้าง มีน้ำใจ และช่วยเหลือ ฉันโชคดี ที่เลือกจะทำความดี
มากกว่าปล่อยชีวิต ให้เหลวแหลกไปกับอดีต และฉันโชคดี ที่คนที่รักที่สุด รอคอยการกลับมา.......ของฉัน
น้ำตาของแม่ เริ่มไหลรินทีละน้อย เขานึกน้อยใจ ที่ลูกสาวไม่ยอมกลับมาหาเขา น้อยใจที่ไม่ยอมพูดคุย หรือแม้น
แต่ จดหมายมาหาเขาเลย แต่วันนี้.... ผู้เป็นแม่ หยิบธนาณัติขึ้นกอดไว้กับอก เขาดีใจอย่างสุดซึ้ง ไม่ใช่เพราะเงิน
ที่เธอส่งมาให้หรอกนะ แต่...ความสำคัญมันอยู่ตรงที่ เธอติดต่อกลับมาแล้ว และเธอไม่ลำบาก อย่างที่เขาคิดมา
ตลอดเกือบปี ถึงแม้นพี่ชายจะบอกว่า "ปิคมันสบายดี แม่ไม่ต้องเป็นห่วง ถึงเวลาเดี๋ยวมันก็กลับมาเอง มันโตแล้ว
ต้องผู้ัจักรับผิดชอบในสิ่งที่มันกระทำลงไป"
แม่เห็นที่อยู่ ที่ระบุถึงผู้ส่งทำให้เขารู้ว่า ลูกสาวอยู่ที่ระยอง ตรงไหนของระยองนะ เขาคิด
"นี่ แกรู้ไหม ว่าปิคมันอยู่ตรงไหนของระยอง" แม่หันไปถามพี่ชายของปิค
"ไม่รู้สิ มันไม่ได้บอก คุยกันก็ไม่บอกเสียที มันคงสบายดีอยู่หรอกแม่ ไม่งั้นมันจะเก็บเงินส่งมาให้แม่ได้หรือ"
"เออ แม่รู้ แต่แม่อยากเจอมัน"
"แม่อยากคุยกับมันไหมล่ะ" ลูกชายพูดยิ้มๆ กับแม่ เพราะพี่ชายก็อดสงสารแม่ไม่ได้ ถ้าน้องไม่ติดต่อกลับมา แม่ก็
จะไม่ค่อยเท่าไหร่ แต่นี่ในเมื่อน้องติดต่อกลับมา ทำให้ผู้เป็นแม่ คิดถึงลูกสาวของแกอีก
"จริงเหรอ ปิคมันยอมคุยกับแม่ไหมล่ะ"
"ก็คงยอมล่ะ รองมันติดต่อกลับมาแล้ว มันก็เริ่มคิดได้แล้วมั๊ง"
"ลองดูสิ แม่อยากคุยกับน้อง" น้ำเสียงแม่เริ่มสั่นเครือ
พี่ชายหยิบมือถือ กดหาน้องสาว
"ฮัลโหล" เสียงปลายทางรับ
"ปิด" เสียงแม่พูด สั่นเครือ
"แม่....." ฉันอึ้งเล็กน้อย แล้วน้ำตาฉันก็ไหล เสียงสั่น
"แม่จ่า....หนูขอโทษ หนูขอโทษ" เสียงสะอื้นของฉัน เริ่มมากขึ้น จนผู้เป็นแม่ อดร้องไห้ตามลูกสาวไปด้วย
ไม่ได้
"ปิด อย่าร้องไห้ ลูกสบายดีไหม แม่คิดถึงหนูมากนะ" แม่พูดเสียงสั่น
"หนูสบายดีค่ะ แม่.... แม่ได้รับธนาณัติแล้วใช่ไหม แม่เก็บไว้นะ" ฉันบอกผู้เป็นแม่
"แล้ว หนูล่ะ พอใช้อยู่เหรอ เมื่อไหร่จะกลับบ้านเรา กลับบ้านเราเถอะ" แม่พูดกับลูกสาวด้วยน้ำเสียงที่เป็นห่วง
ที่สุด และมันส่งความรู้สึกถึงผู้เป็นลูกได้ดี เพราะฉันรับรู้ได้ถึงความห่วงใยที่แม่มีให้ น้ำตาฉันเริ่มไหลอาบแก้ม
พูดด้วยน้ำเสียสั่นๆ
"แม่...หนูจะกลับค่ะ หนูขอลางานที่ร้านก่อนนะคะ ทุกคนที่นี้รักหนูทุกคน แม่ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ หนูรักแม่ ค่ะ"
"แม่ก็รักหนูนะ แม่จะรอนะ"
แล้วทั้งคู่ก็วางสายลง ต่างคนต่างมีรอยยิ้มในใบหน้าเกิดขึ้น
ผู้เป็นแม่ ดีใจ ที่ลูกสาวจะได้กลับคืนมาในอ้อมอกแล้ว
ส่วนฉัน ดีใจที่แม่ ให้อภัยในสิ่งที่ฉันได้กระทำไปในครั้งอดีต
"หนูปิค ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ มีอะไรเหรอลูก" น้าใจถาม เมื่อเห็นผู้ช่วยอารมณ์ดี
"ค่ะ หนูดีใจที่สุด ตั้งแต่หนูมาอยู่ที่นี่ วันนี้เป็นวันที่หนูมีความสุขที่สุด และเหมือนยกภูเขาออกจากอก ที่มันเก็บไว้
นานค่ะ น้าใจ"
น้าใจ งง กับคำพูดของฉัน แต่น้าใจซึ่งเป็นผู้ใหญ่ ก็พอจะเข้าใจ ว่า การที่เด็กผู้หญิงคนหนึ่งมาใช้ชีวิตอยู่ตาม
ลำพังคนเดียว ต้องมีสาเหตุใดสาเหตุหนึ่งอยู่แล้ว แต่พวกเขาไม่เคยถาม หรือละลาบละล้วงฉัน ได้แต่คอยดู
และตักเตือนเรื่องการใช้ชีวิตคนเดียว และคอยดูแล เปรียบเสมือนลูกหลานตัวเอง ซึ่งฉันเองก็รู้ดี และฉันเองก็
นับถือทุกคนที่นี่ ดุจญาติมิตร ที่เคารพอยู่เสมอ
"น้าใจค่ะ หนูอยากลางาน สักสอง สามวัน คุณไฮร์ จะให้หนูลาหรือเปล่าค่ะ"
"ให้สิ ตั้งแต่หนูมา ยังไม่เคยทำให้ร้านเสียหายนี่ หนูเป็นเด็กดี คุณไฮร์ยังชมหนูให้น้าฟังเลย จะกลับบ้านใช่ไหม"
น้าใจถามเหมือนรู้ ทำให้ฉันยิ้มกว้าง..."ค่ะ น้าใจ"
"งั้น น้าจะบอกคุณไฮร์ให้นะ จะไปวันไหนล่ะลูก"
"อาทิตย์หน้าค่ะ"
"ฮืม เตรียมของฝากที่บ้านได้เลย" น้าใจพูดอย่างอารมณ์ดี เมื่อเห็นรอยยิ้ม และดวงตาที่ประกายอย่างมีความสุข
ของเด็กสาวที่อยู่ตรงหน้า
ฉัน โชคดี ที่เลือกมาที่นี่ ที่ผู้คนรอบข้าง มีน้ำใจ และช่วยเหลือ ฉันโชคดี ที่เลือกจะทำความดี
มากกว่าปล่อยชีวิต ให้เหลวแหลกไปกับอดีต และฉันโชคดี ที่คนที่รักที่สุด รอคอยการกลับมา.......ของฉัน
คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
6 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ